แสงสีฟ้าหน้าจอทำร้ายร่างกายและสมอง
สมาร์ทโฟนกับสุขภาพ และสัญญาณอันตรายจากการใช้สมาร์ทโฟนที่ควรใส่ใจ ถ้าไม่อยากให้สมาร์ทโฟนทำร้ายร่างกายและสมอง !
แม้จะรู้ว่าการจ้องหน้าจอมือถือนาน ๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อสุขภาพ แต่สังคมทุกวันนี้ก็ยังเป็นสังคมก้มหน้า การติดจอมือถือแบบนี้ไม่ได้กระทบไปที่สุขภาพดวงตาของเราเท่านั้น แต่เจ้าแสงสีฟ้ายังอาจส่งผลกระทบไปถึงการทำงานของร่างกายและสมองด้วย โดยเฉพาะหากจ้องหน้าจอมือถือก่อนเข้านอน
โดยปกติแล้วแสงสีฟ้าบนหน้าจอมือถือและสมาร์ทโฟนจะถูกปล่อยออกมาจากอุปกรณ์ไฮเทคเหล่านี้ตลอดทั้งวัน เพียงแต่ว่าในช่วงกลางวันที่เราจ้องหน้าจอ แสงสีฟ้าบนจอสมาร์ทโฟนจะกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมและแสงสว่าง ณ ที่ที่เราอยู่ ดังนั้นผลกระทบกับร่างกายจึงไม่มาก
แต่เมื่อใดที่เล่นสมาร์ทโฟนในตอนกลางคืน ร่างกายและสมองจะปรับตัวกับแสงสีฟ้าจากสมาร์ทโฟนไม่ทัน ก่อให้เกิดความสับสนว่าตอนนี้ควรจะนอนหรือควรจะตื่น แล้วแสงที่สายตาได้รับและส่งผ่านไปยังสมองนั่น คือแสงจากดวงอาทิตย์ในตอนกลางวันหรือแสงอะไรกันแน่ ซึ่งสถานการณ์นี้ย่อมไม่ดีต่อสุขภาพของเราอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหากสมองเกิดสับสนระหว่างช่วงเวลากลางวันและกลางคืน การทำงานของเมลาโทนิน ฮอร์โมนสำคัญของนาฬิกาชีวิตก็จะเริ่มรวน ช่วงเวลาที่ร่างกายควรจะนอนหลับพักผ่อนก็จะถูกยืดออกไป ส่งผลกระทบไปถึงสุขภาพในอีกหลาย ๆ ด้าน โดยอาการของคนที่นอนไม่พออาจเป็นดังนี้
ขี้หลงขี้ลืม เพราะนอนไม่พอสมองก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ประสิทธิภาพการทำงานและการจดจำของสมองก็จะเสื่อมลง เห็นได้ชัดในวันรุ่งขึ้น
เรียนรู้ช้าลง เมื่อสมองไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แล้วจะเอาแรงที่ไหนมาบันทึกข้อมูลที่คุณเรียนรู้และควรต้องจดจำ
จากนอนไม่พอ อาจกลายเป็นโรคนอนไม่หลับ การฝึกให้ตัวเองนอนไม่พอบ่อยครั้งเข้า ก็เหมือนฝึกให้ร่างกายสะสมสารพิษต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้กลายเป็นคนนอนหลับยากขึ้นทุกที
เครียด หากปล่อยให้แสงสีฟ้ามายับยั้งการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินจนเสียระบบไปหมด อาจทำให้เกิดภาวะเครียดได้ เนื่องจากพอนอนไม่พอก็จะรู้สึกหงุดหงิด พอหงุดหงิดบ่อย ๆ เข้าโลกก็หม่นหมอง ไม่มีความสุข
อ้วนขึ้น ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะทำให้เรามีความอยากอาหารมากขึ้น โดยที่สมองจะสั่งให้เราอยากกินแต่อาหารที่มีแคลอรีสูงเพื่อนำมาใช้เผาผลาญเป็นพลังงานแก่ร่างกาย เราจึงมีแนวโน้มน้ำหนักตัวขึ้นง่ายจากอาหารที่มีแคลอรีสูงเหล่านี้นั่นเอง
เสี่ยงมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก นักวิจัยส่วนใหญ่เผยว่า โรคมะเร็งบางชนิดก็สามารถกำเริบได้ หากมีพฤติกรรมนอนน้อย เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้
เสี่ยงโรคต้อกระจก หากจ้องอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานานกว่าสิบชั่วโมงในแต่ละวัน อาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพตา ไม่ว่าจะปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า สายตาสั้น และอาจทำให้เกิดต้อกระจกขึ้นได้เร็วขึ้น
สายตาพร่ามัว การนอนไม่พอมีผลทำให้สายตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด และหากนอนไม่พอติดต่อกันเป็นเวลาหลายคืนอาจมีอาการกล้ามเนื้อตากระตุก หนังตาเขม่น มองเห็นเป็นภาพซ้อน และอาจเกิดอาการเห็นภาพหลอนด้วย
ทำอย่างไรให้ห่างไกลแสงสีฟ้า
รู้ถึงอันตรายแล้วเราควรปรับเปลี่ยนการใช้งานสมาร์ทโฟนให้ถูกวิธี
1. อย่าลืมดูแลรักษาดวงตาด้วยการพักสายตาทุก 30-45 นาที
2. การติดฟิล์มกันรอยที่มีคุณภาพดีเพื่อช่วยกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอได้
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และช่วยบำรุงสายตา เราจะได้มีดวงตาที่สดใสแข็งแรงอยู่เสมอ รู้ถึงอันตรายของแสงสีฟ้าแล้วอย่าลืมดูแลตัวเองให้ปลอดภัยและห่างไกลจากแสงสีฟ้ากันนะคะ เพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง
หวังให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงค่ะ
Create Date : 25 มีนาคม 2559 |
Last Update : 25 มีนาคม 2559 14:14:29 น. |
|
54 comments
|
Counter : 1968 Pageviews. |
|
|
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Hobby Blog ดู Blog
aitai Literature Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
แวะมาโหวตสุขภาพให้นะคะ