Bloggang.com : ชีริว : พนมทวน ดินแดนยุทธหัตถีและพระแท่นดงรัง

พนมทวน ดินแดนยุทธหัตถีและพระแท่นดงรัง

กลับมาปัดฝุ่นบล็อกประวัติศาสตร์กันสักหน่อย หนนี้มาเที่ยวพนมทวน ที่ จ.กาญจนบุรีครับ เป็นเมืองเก่าสมัยอยุธยา และเป็นหนึ่งในสถานที่ๆ เชื่อว่าเกิดศึกยุทธหัตถีของพระนเรศขึ้น

อยุธยาเสียท่าหงสาในยุคของบุเรงนอง กอปรกับหัวเมืองพิษณุโลกอย่างพระมหาธรรมราชาก็ไปเข้าข้างพม่า พอพม่ายึดอยุธยาได้แล้วก็ตบรางวัลให้พระมหาธรรมราชาจากราชวงศ์สุโขทัยขึ้นครองราชย์ปกครองอยุธยาแทนราชวงศ์สุพรรณที่จบสิ้นไป แต่พอบุเรงนองสวรรคต หงสาก็อ่อนแอลงมาก พระนเรศวรบุตรของพระมหาธรรมราชาได้ประกาศไม่ขอเป็นเมืองขึ้นของหงสาในปี พ.ศ.2126 และรบกับหงสามาหลายศึก จนกระทั่งขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ.2133 ท่านได้ทำศึกใหญ่กับพระมหาอุปราช (มังสามเกียด) บุตรของพระเจ้านันทบุเรง ในปี พ.ศ.2135 และเอาชนะฟันพระมหาอุปราชขาดคอช้างสิ้นพระชนม์ ในศึกเดียวกันพระเอกาทศรถก็ฆ่าเจ้ามังจาปะโรได้ ประกอบกับราชวงศ์ตองอูที่แตกแยกระส่ำระสายจนอาณาจักรต่างๆที่เคยยึดมาได้ต่างพากันแข็งเมืองกระจัดกระจายกันไป และมอญขึ้นมาเป็นใหญ่แทนพม่า กว่าพม่าจะกลับมายึดแผ่นดินได้ก็สมัยพระเจ้าอลองพญา ก่อนอยุธยาเสียกรุงครั้งที่สองแค่หน่อยเดียว

หลังจบศึกยุทธหัตถีครั้งนั้น อยุธยาก็ปลอดศึกจากอาณาจักรทั้งหลายในแผ่นดินพม่ามาเป็นเวลายาวนาน หลายเวทีใช้ศึกนี้เป็นไฮไลต์ของประวัติศาสตร์ชาติไทย และภาพยุทธหัตถีปรากฏทุกหนแห่งที่ต้องการแสดงความภาคภูมิใจของชาติ และแอ๊ดคาราบาวเอาไปร้องเป็นเพลงว่า เสือคืนถ้ำคิดชำระแค้น ปลดปล่อยแดนให้พ้นการจองจำ มังสามเกียดหรือจะสู้องค์ดำ ในสงครามยุทธหัตถี~♪

ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ถึงปัจจุบันว่าสถานที่เกิดศึกยุทธหัตถีคือที่ไหนกันแน่ รู้แต่เพียงว่าพระนเรศได้สร้างเจดีย์ไว้เป็นที่ระลึก ณ จุดเกิดสงครามนั้นก่อนไปสร้างเจดีย์ใหญ่ที่วัดใหญ่ชัยมงคล ได้มีการค้นพบเจดีย์เก่าที่หนองสาหร่าย จ.สุพรรณบุรีในสมัย ร.6 และประกาศไปแล้วว่าตรงนี้คือสถานที่ยุทธหัตถี ต่อมาในสมัยจอมพล ป. ได้มีการสร้างอนุสรณ์ดอนเจดีย์ใหญ่โต กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด แต่ดูแล้วซากเจดีย์ที่พบเป็นเจดีย์ทรงทวารวดีเสียมากกว่า เพียงแต่มันประกาศไปแล้วก็เปลี่ยนความเชื่อของผู้คนได้ยาก

วันนี้จะพามาชมอีกแห่งหนึ่งที่มีความน่าจะเป็นในการเป็นสถานที่เกิดศึกยุทธหัตถี อย่าง เจดีย์ยุทธหัตถี ที่บ้านดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นเจดีย์ศิลปะสมัยอยุธยา มีการค้นพบกระดูกทั้งช้าง ม้า และคน รวมถึงอาวุธโบราณมากมายในพื้นที่นี้ จึงเชื่อว่าเคยเป็นที่ทำสงครามใหญ่มาก่อน อีกทั้งจุดนี้ผ่านเส้นทางเดินทัพของพม่าจากด่านเจดีย์สามองค์มุ่งตรงไปทางอยุธยา

มีการสร้างอนุสาวรีย์พระนเรศประทับบนเจ้าพระยาปราบหงสาวดีในบริเวณนี้ ในปี พ.ศ.2542 อีกทั้งชาวบ้านบริจาคที่ดินบริเวณรอบเจดีย์จนกลายเป็นพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ที่กว้างขวาง

ซากกระดูกที่พบในบริเวณนี้ถูกนำมาจัดแสดง เป็นร่างที่ถูกทิ้งไว้กลางสมรภูมิ และถูกชั้นดินทับถมไป 400 กว่าปี พวกชาวบ้านที่ถูกเกณฑ์มารบนี่แหละครับผู้ที่ควรได้รับการเชิดชูอย่างแท้จริง อยู่กองหน้าไปรับคมหอกคมดาบโอกาสไม่ได้กลับบ้านสูงมาก ตายไปก็ถูกทิ้งไว้ไร้คนเผาผี ไม่มีแม้แต่ชื่อแซ่ในทุกพงศาวดาร ตรงทางเข้าอุทยานมีอาคารหลุมขุดค้นให้เข้าไปชมด้วย แต่อันนี้เป็นหลุมสมัยก่อนประวัติศาสตร์นะครับ ไม่เกี่ยวกับยุทธหัตถี

จากพงศาวดารฉบับวันวลิตกล่าวว่าศึกยุทธหัตถีเกิดขึ้นใกล้วัดร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งห่างจากเจดีย์ยุทธหัตถีเพียง 1.5 กม. ก็มีวัดบ้านน้อยอยู่ ศิลปะต่างๆในวัดมีอายุสมัยอยุธยาตอนกลาง เชื่อกันว่าเป็นวัดที่พระนเรศให้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คนที่เสียชีวิตในสงคราม แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ถูกทิ้งร้าง

ปัจจุบันสถานที่เกิดศึกยุทธหัตถีก็ยังไม่ได้ข้อยุติว่าเกิดขึ้นที่ไหนกันแน่ หลักฐานฝั่งพม่าบอกว่าไม่ได้มียุทธหัตถีด้วยซ้ำเพราะพระมหาอุปราชโดนปืนยิงตาย แต่เอาเป็นว่าอย่างน้อยมันก็ต้องมีสถานที่เกิดสงครามตัดสินระหว่างอยุธยากับหงสาในยุคนั้นล่ะน่า และพนมทวนแห่งนี้ก็ดูจะเข้าเค้าที่สุดครับ

นอกจากเจดีย์ยุทธหัตถีแล้ว โบราณสถานสำคัญอีกแห่งหนึ่งในพนมทวนคือ วัดพระแท่นดงรัง ครับ บริเวณนี้มีแท่งหินบนเนินเขา ซึ่งเชื่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณว่าเป็นเตียงนอนของพระพุทธเจ้า อยู่กลางป่าไม้รัง จึงเรียกว่าพระแท่นดงรัง ตามพุทธประวัติตอนปัจฉิมกาล ท่านได้อาพาธและเสด็จสู่นิพพานบนพระแท่น บริเวณนี้จึงมีการสร้างสถานที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธประวัติมากมาย เช่น บ่อบ้วนพระโอษฐ์ วิหารพระอานนท์ วิหารหินบดยา ฯลฯ แต่สถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานจริงอยู่ที่สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา นะครับ ลักษณะการก่อสร้างโบราณสถานสันนิษฐานได้ว่ามีมาแต่สมัยทวารวดี และถูกบูรณะครั้งใหญ่สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ปลายยุคกรุงศรีอยุธยา

ข้างพระแท่นมีก้อนหินสีดำสมมุติเป็นก้อนพระโลหิตพระพุทธเจ้า มีมาแต่เดิม แต่แตกบ้าง สูญหายบ้าง ในปี พ.ศ.2545 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) พระสังฆราช ได้มอบก้อนนิลธรรมชาติให้วัดพระแท่นดงรังเพื่อชดเชยก้อนพระโลหิตส่วนที่สูญหายไป

พระแท่นดงรังเป็นที่นับถือของผู้คนจำนวนมาก มีกษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์เสด็จมานมัสการพระแท่นดงรัง ตั้งแต่สมัย ร.4 โดยเฉพาะในหลวง ร.9 เคยเสด็จมาที่นี่สองครั้งในปี พ.ศ.2512 และ 2515 และ ร.10 สามครั้งในปี พ.ศ.2518, 2522 และ 2529

รอบวิหารเป็นนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาและสถานที่สำคัญต่างๆในวัดพระแท่นดงรัง	พระอุโบสถใหม่ เป็นอุโบสถจตุรมุข สร้างในปี พ.ศ.2515 ประดิษฐานพระพุทธสาลวิสัยมงคล
วิหารพระพุทธมงคล ประดิษฐานหลวงพ่อโตวัดพระแท่นดงรัง เป็นพระสังกัจจายน์สูง 12 เมตร ภายในวิหารเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ และรูปปั้นหมาแมว	วิหารหินบดยา มีพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกกรกิริยา เบื้องหน้ามีรูปปั้นหมอชีวก หินและแท่นบดยา ซึ่งพระสังฆราชเกี่ยวได้มอบให้วัดพระแท่นดงรังทดแทนของเดิมซึ่งชำรุดเสียหาย

พระบฏโบราณ มีสองผืนที่เก่าแก่ถึงยุคพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ยังคงแขวนอยู่ในวิหารห้องเดียวกับพระแท่น

พระพุทธบาทไม้ประดับมุกมีลวดลายมงคล 108 ประการ อยู่ที่วัดมาหลายร้อยปี ได้ตรวจสอบอายุพบว่าสร้างสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ

วิหารพระอานนท์มีมาแต่สมัยสร้างวัด และถูกบูรณะสมัยอยุธยาตอนปลาย

ทางทิศตะวันตกของพระแท่นมีเขาถวายพระเพลิงประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองในมณฑปสร้างสมัยอยุธยาบนฐานหินเรียงยุคก่อน สมมุติเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า

เอ็นทรี่นี้ไปแค่สองที่ แต่มีความสำคัญมากมายจริงๆครับ สำหรับเจดีย์ยุทธหัตถีและพระแท่นดงรัง จึงขอเชิญชวนท่านที่จะไปเที่ยวกาญจนบุรี ออกจากเส้นทางหลักหน่อยเดียวแวะเที่ยวพนมทวนกันสักหน่อยน้า~

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2564

Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2564 15:51:09 น.

29 comments

Counter : 2079 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสองแผ่นดิน, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณSleepless Sea, คุณKavanich96, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณThe Kop Civil, คุณmcayenne94, คุณtoor36, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณSweet_pills, คุณmultiple, คุณ**mp5**, คุณเริงฤดีนะ, คุณkatoy, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณTui Laksi, คุณnonnoiGiwGiw, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณRinsa Yoyolive, คุณnewyorknurse

มาเจิมครับ อ่านที่คุณชีริวรีวิว ครั้งต่อไปต้องแวะสักหน่อยละครับ
ผมเดินทางจากปากเกร็ด ไปเมืองกาญฯ ผ่านเส้นทางนี้ ผมว่าใกล้กว่าเส้นทางหลักมากเลยครับ
จินตนาการถึงคนสมัยโน้น ต้องไปออกศึก เสียสละเพื่อชาติจริง ๆ ครับ

โดย: The Kop Civil

วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:16:38:53 น.

เอาละซี... ที่ไหนแน่ที่ถูกต้อง

อย่าให้เหมือนเขียนประวัติศาสตร์ ว่าไทยอพยพมาจากเทือก
เขาอัลไต

...
อ.พนมทวนเคยไปหลายครั้งเหมือนกันไปกินนอนในไร่
ใหญ่ แต่ไม่ได้ไปนานแล้ว

วันนี้มาเย็น หมดเป๋าพอดี

โดย: ไวน์กับสายน้ำ

วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:18:39:23 น.

พระแท่นดงรังเป็นสถานที่ในความทรงจำจริงๆครับ เคยไปครั้งแรกตอนเด็กมากๆ เพิ่งได้ไปอีกครั้งเมื่อไม่กี่ปีมานี่เองครับ

โดย: ทนายอ้วน

วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:19:37:57 น.

พระแท่นดงรักเพิ่งจะเคยเห็นนี่แหละจ้าชีริว

โดย: หอมกร

วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:20:56 น.

ตามมาเที่ยวด้วยครับ
ไปมาแล้วทั้งสองที่ครับ พนมทวน พระแท่น
เรื่อง ยุทธหัตถี คงไม่แก้ประวัติศาสตร์แล้วครับ

โดย: สองแผ่นดิน

วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:22:52:21 น.

หลายๆประวัติศาสตร์ของเรา
ยังมีความคลุมเครือ
ทั้งสถานที่เกิดเหตุ และ เรื่องราวที่เกิดขึ้นนะครับ
อย่างเรือ่งการยุทธหัตถี
ถ้าเอาพงศวดารไทยกับพม่ามาวางชนกัน
แล้วเปรียบเทียบ
กลายเป็นหนังคนละเรื่องไปเลย

ตอนที่พี่ก๋าไปเที่ยวพม่า
ไกด์คนพม่าเขาเล่าประวัติศาสตร์
ก็ไม่เหมือนกับทีเ่ราเรียนมานะครับ
ไม่รู้ใครถูกใครผิด
แต่ถ้าอ่านเอาวิเคราะห์เป็นเหตุเป็นผล
พี่ก๋าว่ามันก็สนุกดีครับ

พม่าเขาคงดูไทยแล้วนะครับ
ว่าถ้ายอม ปล่อยไปเรื่อยๆ
บ้านเมืองเสียหายหนักมากๆ

รมต.ศึกษาคนก่อนว่าแย่แล้ว
ว่าที่คนใหม่ที่กำลังจะเข้ามา
พี่ก๋าบอกตรงๆว่าหมดศรัทธา
สงสารลูกนะครับ
ที่ต้องเรียนภายใต้การบริหารงานของคนพวกนี้

ปีนี้พูดประโยคนี้บ่อยมาก

"เมื่อไหร่จะไปซะที"

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:23:15:20 น.

ขอบคุณที่แบ่งปัน

โดย: Kavanich96

วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:4:49:01 น.

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:6:28:09 น.

สวัสดีครับ

ชอบอ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทยครับ
ยุทธหัตถี นี่ยิ่งใหญ่มากๆในความรู้สึกของตัวเอง
ตั้งแต่เรียนแล้ว ขอบคุณที่แวะไปอ่านนะครับ

โดย: Sleepless Sea

วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:35:13 น.

มีศัพท์ที่ไม่ทราบด้วย พระบฏ ผ้าเขียนภาพพระพุทธเจ้า
อ่านเรื่องพระนเรศแล้ว ฮึกเหิมขึ้นมาทันที
ถ้าพระองค์ไม่สวรรคตเร็ว นันทบุเรงเสร็จแน่

อ่านวัดพระแท่นดงรังแล้ว นึกขำมีการจินตนาการ
จากประวัติพระพุทธองค์ ถึงขนาดมีหินดำเป็นโลหิตที่อาเจียนมาด้วยนี่นับว่า จินตนาการมากๆ เดาว่าพระองค์ที่ริเริ่มสร้างนั้น
คงต้องเคยไปอินเดียและประทับใจในกิริยาปรินิพพานของพระพุทธองค์เอาอย่างมาก จึงได้มาดำริสร้างขึ้นนะคะ

กล้องน้องชีริวทำไมป่วยง่าย แค่ 2 ปีน่าจะใช้ถ่ายภาพมาก
กล้องของพี่ส่วนใหญ่อายุยืนยาวมากๆ ถึงไม่ได้นอนตู้กันชื้นหรือขัดเช็ดถู แต่ก็ใช้มือเดียว ด้วยการหยิบจับวางอย่างเบามือ ถ้าเดินทางไม่ใส่กระเป๋ากล้อง วางบนรถก็ห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนูลดการกระแทก ถอดแบตทุกครั้งหลังใช้

โดย: mcayenne94

วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:32:12 น.

เรื่องศึกยุทธหัตถีเป้นที่ถกเถียงกันมาก เพราะไม่มีการเปิดโอกาสให้ถกเถียงกันในเชิงวิชาการแบบจริงจัง มันก็เลยเป็นแบบที่เห็น อยากจะเชื่อในทางไหนก็เชื่อกันทางนั้น หลักฐานใหม่อะไรไม่สนใจทั้งนั้น

คุณชีริวเก็บรายละเอียดจริงๆ ผมเที่ยวไม่ค่อยเก็ยรายละเอียดเท่าไหร่ รู้แค่พื้นๆ เท่านั้น ที่ๆ พาไปก็ถือว่าน่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวนอกกระแส ถ้าตามกระแสในกาญจนบุรี ต้องเป็นพวกสุสาน สะพานข้ามแม่น้ำแคว

จากบล็อก
พวกตัวละครใหม่ถ้าเปิดตัวผมมักจะเขียนบอกไว้ครับ ต้องหาสมาชิกมาเข้าแก๊งตัวร้ายเพิ่มเยอะๆ หน่อยไม่งั้นมันไม่ค่อยสมดุลกันเท่าไหร่

บล็อกผมหมวกการ์ตูนนี่แหละดีแล้ว ถ้าเลือกหมวดตะพาบ เดี๋ยวผมได้อีก ให้พวกที่อยากได้เล่นสายนี้ไปเถอะ จริงๆ ผมว่าผมน่าจะประกาศวางมือไปเลยก็น่าจะดี

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:18:11:05 น.

คุณเรืองรองแปลภาษาจีนได้เก่งมากๆครับ
มีผลงานหลายเล่มเลย
เก่งจนเขียนได้ทั้งภาษาไทยและภาษาจีน
หายากครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:22:58:57 น.

สวัสดีคะ...

ตามมาเที่ยวด้วยคนคะ...

ดีจัง ได้เที่ยวหลายที่ มีความรู้ด้วย

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ

) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:23:54:40 น.

อยากตามเที่ยวด้วยค่ะ พี่ต๋าส่งกำลังใจและขอบคุณน้องชีริวก่อนนะคะ
แล้วพี่ต๋าแวะมาใหม่ค่ะ

โดย: Sweet_pills

วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:1:00:23 น.

แหมพี่หม่อง ก็ช่างกระไร พอตัวเองแพ้ บอกไม่เคยมีเรื่องนี้ในประวัติศาสตร์ซะงั้นนะครับ ทำไปได้555

แล้วก็ถ้า ศึกยุทธหัตถี เกิดที่ พนมทวนจริง อ.เต๊ะ เชื่อว่า
สถานที่ ที่มีคนตายจำนวนมากๆแบบนี้ มันต้องทิ้งร่องรอยอะไรไว้บ้างแหละน่า อย่างน้อยน่าจะมีเรื่องเฮี้ยนๆ เกิดขึ้นกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นนะครับ

แต่ถึง ศึกยุทธหัตถี จะเกิดที่ไหน
ก็เป็นที่น่าภาคภูมิใจของคนไทยนะครับ ว่าถ้าเราสามัคคีกัน
ก็สามารถเอาชนะศึกสงคราม เอาชนะศัตรูที่กล้าแกร่งได้
แต่วันใดที่เรา แตกแยก เราก็จะพ่ายแพ้ต่อ ข้าศึกศัตรูอีกแน่นอนนะครับ

ส่วนเรื่อง พระแท่นดงรัง พระบฏโบราณนี่ เก่าแก่มากเลยนะครับ

ถ้าเก็บรักษาได้ถูกวิธี ควบคุมเรื่องอุณหภูมิและความชื้นได้จะดีมาก ส่วน พระพุทธบาทไม้ประดับมุก ลวดลายละเอียด ปราณีต
งดงามมากจริงๆ

ปล.มาบล็อกคุณซีริว ต้องมาอ่านตอน ตี 4 แบบนี้แหละครับ
จะได้มีสมาธิอ่านหน่อย มากลางวัน เดี๋ยวเจอพวกสาวๆ ติ๊กต๊อกเต้น ไม่เป็นอันเม้นท์เลยละครับ 555

โดย: multiple

วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:4:18:08 น.

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:6:17:08 น.

แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ

โดย: **mp5**

วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:6:38:52 น.

อ่านไปก็งงๆ กับประวัติศาสตร์นะคะ(พี่อ้อ... บ่นเอง)
สถานที่จริง-ไม่จริง

มาเที่ยวชม
เจดีย์ยุทธหัตถี ที่บ้านดอนเจดีย์ อ.พนมทวน

พม่าว่าไม่มีทั้งยุทธหัตถี
แถมไม่มีพระสุพรรณกัลยา

มากราบพระแท่นดงรังดีกว่า
น่าไปๆ

วิหารพระพุทธมงคล
ที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตวัดพระแท่นดงรัง
องค์ใหญ่โตมากๆ
น่าศรัทธา

หากมีดอกาศต้องยกครอบครัวตัว อ ไปเที่ยวพนมทวนบ้าง

โควิด กับ วัดวีน ก้มาแล้ว

โปรดรอสักครู่

โดย: เริงฤดีนะ

วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:46:44 น.

สวัสดีครับคุณชีริว

ตามมาเป็นลูกทัวร์ชมสถานที่และอ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ด้วยคนนะครับ เวลาชมภาพโบราณสถานตามที่ต่างๆ ก็เคยคิดนะครับว่า ทำไมเราไม่ทำภูมิทัศน์ใหม่ๆ บ้าง (หมายถึง ต้นไม้ สนามหญ้า การจัดสวน อะไรนี้ครับ) เช่น เจดีย์ในรูปถ่ายรูปแรก ถ้าโดยรอบไม่เป็นลานปูน ล้อมกรอบด้วยต้นเข็ม(ใช่มั้ยครับ) แล้วจะเป็นอะไรได้บ้าง ผมก็บ่นไปเรื่อย ^^

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ
ผมเป็นขาจรงานตะพาบ นี่เพิ่งเขียนครั้งที่ 2 เองครับ มีเรื่องให้ได้เขียนประจวบเหมาะพอดีครับ

โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา

วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:51:10 น.

กลับจากกาญฯ มาเปิดบล็อกซ๊ะหน่อยทิ้งร้างไป 3-4วัน
เพลินเที่ยวกับเช็คภาพในกล้อง อย่างเดียวเลยช่วงนี้ค่ะ

ตามมาๆปัดฝุ่นบล็อกประวัติศาสตร์ของคุณชีริวกันหน่อย
บล็อกไม่ยาว แต่อัดแน่นด้วยสาระเชิงประวัติศาสตร์ไทย
สมัยยุดยา แต่อยู่เมืองกาญฯ จขบ.สมแล้วที่เป็นคนยุดยา
ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ป่ะคร้า เขียนเล่าบรรยายได้เหมือน
เห็นภาพมากๆคร้า...เป็นเราปิดกรุประวัติศาสตร์ชาติไทย
ไปเรียบร้อย รู้แค่ผ่านหูผ่านตา ...ชื่นชมคุณชีริวเด็กรุ่นใหม่
ใส่ใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ซากอิฐที่มา ตอกย้ำให้คนรุ่นหลัง
ใส่ใจตามค่ะ...เราก็ได้ความรู้เพิ่มจากที่นี่ด้วยค่ะ
ขอบคุณคร้า

โดย: Tui Laksi

วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:14:48:43 น.

เรื่องยุทธหัตถีนี่ผมชอบอ่านเหมือนกันครับ
สนุกดี น่าสนใจ
เรื่องในประวัติศาสตร์เหมือนมีพระเอก ตัวร้ายอยู่ตลอดเลย
แต่เรื่องจะจริงจะไม่จริงยังไงก็อีกเรื่องครับ คนชนะคือคนเขียนประวัติศาสตร์อ่ะเนอะ

จากบล๊อก
NGV ผมว่าวิ่งเข้าปทุมฯ ทำที่โอสุ คลองหลวงดีกว่าครับ
ขับผ่านบ่อยๆ คนเข้าเยอะเลยครับ รับประกันด้วย ^^

ขอบคุณค้าบบบที่ชมลูกชายผมเท่ อิอิ

โดย: จันทราน็อคเทิร์น

วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:15:00:29 น.

สวัสดีตอนมืดๆวันจันทร์ครับ

จากที่บล็อก - ซุปด้วยรัก

ถ้ามีกระเทียมจีนทุบใส่ลงไปซัก 2-3 กลีบครับ น้ำซุปจะหอมขึ้นมากเลยครับ

ชวนไปเที่ยววัดเก่าในอำเภอเชียงแสนครับ - วัดมหาธาตุเชียงแสน เชียงราย

โดย: ทนายอ้วน

วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:19:11:00 น.

นมัสการพระแท่นดงรังค่ะน้องชีริว
ส่วนที่สูญหายของก้อนหินสีดำถูกแทนด้วยนิลทำให้สัญลักษณ์แทนพระโลหิตยังอยู่ครบนะคะ

ชาวบ้านที่ก้าวออกจากครอบครัวไปรบทั้งที่โอกาสจะกลับมาน้อยมาก
ขอยกย่องท่านเหล่านั้นในความเสียสละอย่างยิ่งค่ะ

ขอบคุณน้องชีริวที่พาเที่ยวและให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ค่ะ
พี่ต๋าอยู่ต่างจังหวัดพิมพ์ผ่านมือถือตอนนี้ ไว้กลับบ้านแล้วจะชมภาพสวยๆให้เต็มตาอีกครั้งค่ะ

โดย: Sweet_pills

วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:7:59:35 น.

สวัสดีค่ะ คุณชีริว ขอตามเกาะติดมาถ้วยในบล็อกด้วยคน
รายละเอียดแน่นเปรี๊ยะมาก . . แต่อ่านแล้วทำไมไปนึกถึง
ช่องหมอบีที่ดูล่าสุดเค้าไปบ้านใครสักคนแถวกาญจนบุรีนี่แหละมังนะ
ถ้าจำไม่ผิด ตอนสร้างบ้านเค้าก็ขุดเจอกระดูอะไรแบบนี้
เยอะแยะเลย ยิ่งขุดยิ่งเยอะ..

ทำให้รู้สึกว่าเออ.. โลกเรามันมีมายาวนานแล้ว
คนที่ตายก่อนเราก็กลายเป็นประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังคอยสืบค้น

หนอนไม่ค่อยอ่านหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตรเท่าไร
แต่หนังพระเนรศวรนี่ตามทุกภาคเลยค่ะ

จากบล็อก..
เพิ่งไปอ่านเจอเม้นจากบล็อกตะพาบโน้นนนนนน
เพิ่งเห็น จำไม่ได้ว่าตัวเองมาตอบเม้นแล้วหรือยัง แหะๆ
ที่ถามเรื่องกุ้งชีส อันนั้นคือ.. เมนูทีเพื่อนบ้านชอบทำ
เวลาออกไปกินเนื้อย่างเนยกัน แบบที่บ้านจะหอบขวด
เกลือชมพู กับพริกไทย ไปด้วยจนโต๊ะข้างๆ มองเลยทีเดียว

แล้วก็จะมีมือแกะกุ้ง มือทำ ส่วนเรารับหน้าที่ถ่ายรูปและรอกิน
5555+ มันก็เหมือนเมนูไข่คนนั่นแล ใส่เนยลงกระทะ ใส่กระเทียม
ตามด้วยข้าวโพดต้ม จากนั้นใส่กุ้ง คนๆ พอสุกใส่ไข่ที่ตีๆ แล้วลงไป
คนๆ พอไข่เริ่มจับเปนตัวก็โรยชีส กินได้..... เรื่องอ้วนไม่ต้องพูดถึง อ้วนแน่นวลลลล เมนูนี้ 555+

โดย: nonnoiGiwGiw

วันที่: 4 มีนาคม 2564 เวลา:11:34:06 น.

อ่อ โรยเกลือพริกไทยด้วยนะ

โดย: nonnoiGiwGiw

วันที่: 4 มีนาคม 2564 เวลา:11:34:25 น.

สวัสดีคะ...

ตามมาเที่ยวอีกครั้งคะ...

น่าไปเที่ยวเมืองกาญจน์นะคะ..ไปนับครั้งไม่ถ้วน..

ตอนไปเที่ยวพม่า คนพม่าก็เล่าประวัติศาสตร์ไม่เหมือนกับของไทย

ไกด์เป็นคนพม่า พูดไทยได้คะ..

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ

) วันที่: 4 มีนาคม 2564 เวลา:17:52:48 น.

กาญนี่กว้างใหญ๋มากๆ เลยนะยอมรับ ไปไม่เคยทั่วเลยใน อ. ที่ไม่ค่อยรู้จักแบบนี้
หรือไม่ใช่ที่เที่ยวในกระแสต้องเจาะจงจริงๆ แหละเนี่ย
พนมทวนนี่ตอนแรก นึกว่าอยู่พิษณุโลกด้วยซ้ำ แฮร่
มาแนวประวัติศาสตร์ สนใจตรง วัดพระแท่นดงรัง ที่ว่าเป็นเตียงนอนของพระพุทธเจ้านี่ล่ะ
ร.10 เสด็จถึง 3 ครั้งไม่ธรรมดานะเนี่ย
ปกติแบบนี้ตอนนี้คงไม่มาหรอก มีแต่ให้ผู้แทนพระองค์ไปแน่ๆ

โดย: Rinsa Yoyolive

วันที่: 5 มีนาคม 2564 เวลา:16:54:06 น.

มาเที่ยวด้วยค่ะ
ได้ความรู้อีกด้วย

โดย: newyorknurse

วันที่: 6 มีนาคม 2564 เวลา:0:20:20 น.

แวะมาทักทายวันอาทิตย์ที่แดดแรงครับ

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 7 มีนาคม 2564 เวลา:15:45:28 น.