Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
[Tezuka Osamu's Ayako] 1/3 - ญี่ปุ่นหลังสงครามโลก

อายาโกะ เป็นผลงานของ อ.เทะสึกะ โอซามุ บิดาแห่งการ์ตูนญี่ปุ่น ที่คนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นทุกคนรู้จัก อ.โอซามุ มีผลงานที่โดดเด่นอย่างเรื่องเจ้าหนูปรมาณู, ริบบ้อนเจ้าอัศวิน, เลโอ, ฯลฯ ซึ่งเป็นแนวแฟนตาซีคล้ายการ์ตูนของดิสนี่ย์ ก่อนจะกลับมาโด่งดังอีกครั้งกับผลงานที่มีแนวทางเป็นของตนเองมากขึ้นและดราม่ามากขึ้นอย่างแบล็คแจ็ค, สามตาปาฏิหารย์, บุดดา หรือฮิโนโทริตอนหลังๆ

แต่ช่วงเวลาราวปลายยุค 60s - ต้นยุค 70s ถือเป็นยุคมืดของ อ.เทะสึกะ ผลงานต่างๆที่เกิดในช่วงนั้นถูกพูดถึงน้อยกว่าเรื่องอื่นๆ การ์ตูนในยุคมืดของเทะสึกะนี้ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาที่ซับซ้อนและรุนแรง อย่างอายาโกะ, อะลาบาสเตอร์, บทเพลงอะพอลโล, คำสรรเสริญแด่คิริฮิโตะ, ฯลฯ ประกอบกับการ์ตูนกีฬาเข้ามาได้รับความนิยมในช่วงนั้น ในประเทศไทยเองก็ยังไม่มีสำนักพิมพ์ไหนพิมพ์การ์ตูนในยุคนี้ออกมาเป็นภาษาไทยเลยแม้แต่เรื่องเดียว แต่ทุกเรื่องที่กล่าวมา ถูกสำนักพิมพ์ Vertical นำมาจัดพิมพ์ขึ้นใหม่เป็นฉบับภาษาอังกฤษเล่มเท่าเขียง สำหรับคอการ์ตูนคลาสสิค และผมก็ได้มีโอกาสสัมผัสความยอดเยี่ยมของการ์ตูนเหล่านี้เอาตอนนี้เอง

อ่านแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่าการ์ตูนเหล่านี้ถูกเขียนออกมาเมื่อ 40 ปีที่แล้ว!

สมัยนี้การเขียนการ์ตูนอาจนำไอเดียบางส่วนจากทีม บก. หรือผู้อ่านที่ให้ความเห็นผ่านจดหมายหรือสื่อออนไลน์ต่างๆ อีกทั้งข้อมูลประกอบก็ยังสามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก ผิดกับสมัยก่อนที่การ์ตูนเกือบทั้งหมดถูกสร้างสรรค์ออกมาโดยผู้เขียนโดยตรง และตลาดการ์ตูนยังไม่กว้างขวางมากนัก ทำให้การ์ตูนส่วนใหญ่มีเนื้อหาไม่สลับซับซ้อน และมักใช้สัญลักษณ์ทำให้ตัวการ์ตูนโดดเด่นมากกว่าการลงมิติของตัวละครอย่างจริงจัง แต่การ์ตูนของ อ.เทะสึกะ ในยุค 70s นี้ คงจะล้ำยุคเกินไป โดยเฉพาะเรื่อง "อายาโกะ" และ "คำสรรเสริญแด่คิริฮิโตะ" นั้น เทียบชั้นได้กับหนังสืบสวนชั้นเยี่ยมเลยทีเดียว

ผมเคยอ่านเรื่องย่อคร่าวๆของการ์ตูน อ.เทะสึกะ มาหลายสิบเรื่อง (จากทั้งหมด... เจ็ดร้อยกว่าเรื่อง) รู้ว่าอายาโกะเป็นเรื่องของ "เด็กผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงอยู่ในห้องใต้ดิน" ฟังพล็อตก็รู้สึกหดหู่แปลกๆ แถม อ.เทะสึกะยังได้ผนวกเอาเหตุการณ์จริงหลังสงครามโลกครั้งที่สองเข้ามาในพล็อตเรื่อง โดยตัวอาจารย์นั้นได้ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาแล้ว การ์ตูนเรื่องนี้จึงเหมือนกับสะท้อนเอาอดีตเมื่อยี่สิบปีก่อนกลับมา (สำหรับพวกเราคือ 60 ปีก่อน)

ทั้งเรื่องไม่มีฉากสงคราม ไม่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันโครมครามให้เห็นเลือดเห็นเนื้อของฝูงชนแบบการ์ตูนที่เน้นช่วงสงครามโดยตรงเรื่องอื่นๆ แต่จะสะท้อนความลำบากของผู้คนที่ได้รับผลกระทบหลังสงคราม ผนวกกับความเลวร้ายของผู้คนที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์บีบคั้นเหล่านั้น

สำหรับเล่มที่พิมพ์ขึ้นใหม่โดยสำนักพิมพ์ Vertical นี้ปกหน้าเป็นรูปสาวสวยยืนเปลือยกาย ปกหลังเป็นเงาผู้หญิงแขวนคอ บอกให้รู้ว่านี่ไม่ใช่การ์ตูนสำหรับเด็กแน่ๆ ส่วนรูปที่ห้อยอยู่ท้ายชื่อของสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาเม้นท์ในบล็อกนี้จะเป็นเงาเด็กผู้หญิง ซึ่งก็คือเงาของอายาโกะที่หน้าเปิดของการ์ตูนเรื่องนี้ครับ



ถ้าหันไปมองด้านบนบล็อกนี้จะเห็นแถบตัวการ์ตูนที่ผมเปลี่ยนทุกปีตามบล็อกหลักที่ตั้งใจจะอัพของปีนั้นๆ สำหรับปีนี้คือบรรดาตัวละครของ อ.เทะสึกะ ที่เค สุวาเบะ นำมาวาดใหม่ครับ และแม่สาวผมดำยาวหน้าตามืดมนด้านขวานั่นแหละคืออายาโกะ ที่ผมใช้ธีมนี้เพราะตั้งใจว่าบล็อกหลักที่ผมจะเขียนในปีนี้คือ "อายาโกะ" บล็อกนี้ครับ

เรื่องอายาโกะจะเริ่มขึ้นในปี 1949 ตั้งแต่ช่วงที่อายาโกะยังเป็นเด็ก หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงไม่นาน และญี่ปุ่นถูกแทรงแซงทางการเมืองการปกครองโดยสหรัฐ โดยเฉพาะการปฏิรูปการถือครองที่ดิน ที่มีผลต่อตระกูลใหญ่เจ้าของที่ดินต่างๆในญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก อายาโกะเป็นลูกสาวของตระกูลเท็นเงอันยิ่งใหญ่ แต่ถูกจับขังไว้ในห้องใต้ดินกว่ายี่สิบปีเพื่อปกปิดความผิดของครอบครัว จากนั้นเรื่องนี้จะเล่าไปถึงปีปัจจุบันที่อาจารย์เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาคือต้นยุค 70s ที่อายาโกะเติบโตเป็นสาวแล้ว ช่วงเวลากว่ายี่สิบปีที่หายไปนั้นบ้านเมืองญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงไปมาก สาวน้อยอายาโกะที่เติบโตมาโดยไม่รู้ความเป็นไปของโลกภายนอก อีกทั้งผู้คนใจดีที่เคยช่วยเหลือก็ล้วนจากไปเกือบหมดแล้ว เหลือแต่ญาติๆที่ต่างคนล้วนมีเรื่องราวที่ไม่น่าเอามาอวดใครนัก เธอจะผ่านพ้นมันไปได้อย่างไรเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในบล็อกสามตอนจบนี้ครับ

*ทุกภาพ แสกนจาก Ayako ฉบับภาษาอังกฤษของ Vertical และนำมาใส่คำแปลเป็นภาษาไทยครับ (อ่านจากซ้ายไปขวาแบบไทยปกติ)

อยากให้ดูงานภาพเรื่องนี้ จะเห็นว่ารายละเอียดมากกว่าเรื่องอื่นๆที่อาจารย์เขียนพอสมควรเลยครับ แถมสีหน้าตัวละครจะจริงจัง และไม่มี comic relief อย่างพวกเฮียวตั้น ก๊อง หรือสาวอ้วนบ้าพลังออกมาทำฮาด้วย


ญี่ปุ่นหลังสงครามโลก

วันที่ 13 ม.ค. 1949 เหล่าทหารญี่ปุ่นที่ถูกปล่อยตัวจากค่ายกักกันเชลยได้ลงเรือมายังท่าโยโกฮาม่ากลับมาหาครอบครัวของพวกเขา หนึ่งในนั้นคือจิโร่ ลูกชายคนรองของซาคุเอม่อน หัวหน้าตระกูลเท็นเงอันโด่งดัง เขาคุยเรื่องความเป็นไปในครอบครัวกับนาโอโกะน้องสาว และคุณแม่ที่มารับ และได้รู้ว่ามีสมาชิกครอบครัวคนใหม่เกิดขึ้น แต่เธอเป็นลูกสาวของซาคุเอม่อนกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่แม่ของจิโร่ แล้วพวกเขาก็พากันกลับมาบ้านที่เขาโยโดยามะ





แค่ตอนแรกก็ได้เค้าลางแห่งความเน่าหนอนของตระกูลเท็นเงแล้วใช่ไหมครับ ก่อนจะอ่านต่อ ขอแนะนำตัวละครในตระกูลเท็นเงป้องกันงงสักนิด


อิจิโร่ได้พาจิโร่ไปสักการะศาลเจ้าอินาริบนที่ดินของพวกเขา แล้วก็ตัดพ้อเรื่องนโยบายปฏิรูปการถือครองที่ดินของรัฐบาลให้ฟัง ตรงนี้อิงจากประวัติศาตร์จริงครับ





การปฏิรูปการถือครองที่ดินของญี่ปุ่น
ในปี 1946 นายพลดักลาส แม็คอาเธอร์ ได้ออกกฎปฏิรูปเกษตรกรรมของญี่ปุ่นผู้แพ้สงคราม ให้เจ้าของที่ดินที่มีพื้นที่มากกว่า 12.5 เอเคอร์ ต้องแบ่งพื้นที่เพาะปลูกให้คนอื่น และสามารถเปิดพื้นที่ให้ผู้อื่นเช่าได้เพียง 2.5 เอเคอร์ จากกฎนี้ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกแบ่งสรรให้เกษตรกร และมีกำลังผลิตอาหารได้เพียงพอต่อความต้องการ แต่ก็ทำให้ตระกูลใหญ่เจ้าของพื้นที่จำนวนมากไม่พอใจ การเข้าแทรกแซงของสหรัฐหลังญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกนี้เป็นไปเพื่อลดกำลังทหาร กระจายอำนาจไม่ให้รวมอยู่ที่ส่วนกลาง และทำให้ประเทศญี่ปุ่นเป็นประชาธิปไตย

อีกไม่นานซาคุเอม่อนจะเสียชีวิตตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวและมรดกจะตกเป็นของอิจิโร่ ลูกชายคนโต และพ่อก็ไม่ค่อยพอใจที่จิโร่ไปอยู่ในค่ายกักกันเชลย แทนที่จะได้สละชีพเพื่อองค์จักรพรรดิ เขาจึงไม่ยกสมบัติให้จิโร่ แต่เมื่อจิโร่ถามเรื่องอายาโกะ อิจิโร่จะไม่พอใจ ความจริงแล้วอิจิโร่ได้เสนอซูเอะ ภรรยาของตัวเอง ให้พ่อของเขาสำเร็จความใคร่ เพื่อแลกกับทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูล และทั้งสองคนก็มีเพศสัมพันธ์กันมาเรื่อยโดยคนในตระกูลต่างก็รู้เรื่องนี้

จิโร่แปลกใจที่ทุกคนต่างไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องนี้ อีกทั้งอิจิโร่ยังเกลียดขี้หน้าและชอบทำร้ายอายาโกะอย่างไม่มีเหตุผลบ่อยๆ จิโร่รู้สึกว่าเขาไม่ควรกลับมาที่นี่เลย ตระกูลเท็นเงที่มีความเป็นมากว่า 500 ปี อาจถึงคราวต้องสิ้นสุดลงแล้วก็ได้ แต่เสียงก้องจากจิตสำนึกของเขาก็บอกว่าตัวเขาเองไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นๆในครอบครัวเลย เพราะเขาทำงานสปายเพื่อเอาชีวิตรอดในค่ายกักกัน และต้องทรยศผู้คนไปมากมาย


จิโร่พยายามปิดบังไม่ให้ทุกคนในครอบครัวรู้ว่าเขาทำงานสปาย ตอนที่ชิโร่ชวนให้เขาเล่นเป็นเกมพิพากษาและให้เขาแพ้คดีถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตนั้น จิโร่เผลอโมโหใส่น้องชายที่ดันให้บทเขาเป็นสปายที่ถูกจับได้

ทางด้านซูเอะ หลังถูกจิโร่พบว่าเธอมีเพศสัมพันธ์กับซาคุเอม่อน ก็ตัดสินใจแขวนคอกับต้นไม้หลังศาลเจ้า แต่นาโอโกะก็ไปพบเข้าและช่วยไว้ได้ทัน นาโอโกะมีทัศนคติที่แตกต่างกับซูเอะซึ่งเป็นแม่ศรีเรือนตามแนวญี่ปุ่นยุคศักดินาที่ต้องคอยรับใช้สามี สำหรับนาโอโกะนั้นเธอกล้าเผชิญหน้าต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม และยุคที่ผู้หญิงต้องเป็นช้างเท้าหลังมาตลอดนั้นจบลงไปแล้ว


บนรางรถไฟ

จิโร่ได้รับคำสั่งจากกองทัพสหรัฐให้ทำงานอีกภารกิจหนึ่ง หนนี้เขาต้องขับรถที่มีศพอยู่ท้ายรถไปทิ้งให้รถไฟทับ ซึ่งเป้าหมายของเขาคือชายผู้เป็นแกนนำแนวร่วมพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progress Party มีแนวร่วมเป็นผู้สนับสนุนคอมมิวนิสต์หรือ The Reds ...จะเรียกว่าพวกเสื้อแดงหรือฝ่ายซ้ายก็ได้) ฝั่งตรงข้ามของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่ควบคุมญี่ปุ่นอยู่ คนกลุ่มนี้ถูกกองทัพสหรัฐตามกำจัดจึงต้องสุมหัวกันอย่างหลบๆซ่อนๆ หลังสะกดรอยตามชายคนนี้มาจิโร่ก็พบว่านาโอโกะน้องสาวของเขาเองก็เป็นแนวร่วมของพรรคนี้อยู่ด้วย แถมยังเป็นแฟนกับชายที่พวกเขาต้องสังหารอีก!

หลังแยกย้ายกับคนรักแล้วนาโอโกะได้มาพบกับจิโร่ที่ชานชลาแห่งหนึ่ง จิโร่ขอให้เธอเลิกกับชายคนนี้เพราะไม่อยากให้น้องสาวต้องเสียใจ แต่นาโอโกะก็ปฏิเสธแล้วขึ้นรถหนีกลับบ้านไป เมื่อรู้ว่าอีก 1 วัน ร่างของชายที่นาโอโกะรักต้องถูกทิ้งลงมาบนรางรถไฟแห่งนี้แล้วจิโร่ก็ได้แต่ขอให้น้องสาวยกโทษให้สิ่งที่เขาจะต้องทำด้วย

16 มิ.ย. 1949 ประชาชนได้ออกมาเดินขบวนประท้วงนโยบายการปลดคนงานการรถไฟญี่ปุ่น 9.5 หมื่นคนภายในสามสัปดาห์ ซึ่งนโยบายนี้มีกองทัพสหรัฐเป็นคนผลักดัน แต่หนังหน้าไฟก็คือนายชิโมคาว่าที่ถูกแต่งตั้งเป็นประธานการรถไฟในตอนนั้น นายชิโมคาว่าคนนี้แปลงบทบาทมาจากนายชิโมยาม่า ซึ่งมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ครับ






การรถไฟ
ในปี 1949 การรถไฟแห่งประเทศญี่ปุ่นได้มีการแปรรูปเป็นบริษัทเอกชน และแต่งตั้งนายซาดาโนริ ชิโมยาม่า อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในวันที่ 1 มิ.ย. 1949 หลังได้รับแต่งตั้ง 1 เดือน ชิโมยาม่าได้ปลดคนงานออก 3 หมื่น จาก 9.5 หมื่นคน วันที่ 6 ก.ค. 1949 มีคนพบร่างของชิโมยาม่าบนทางรถไฟเชื่อมโตเกียว-มิยางิ และในฤดูร้อนปีเดียวกัน มีคนถอดรางออกสองครั้งติดกัน เพื่อต่อต้านนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่น

และแล้วก็มาถึงวันที่ 17 มิ.ย. 1949 วันที่จิโร่ต้องปฏิบัติภารกิจทิ้งศพ วันนี้ซาคุเอม่อนชวนจิโร่เล่นหมากล้อมแล้วขอให้เขาลืมสิ่งที่เห็น (ว่ามีเซ็กส์กับแฟนลูก) โดยเขาจะยกที่ดินบางส่วนให้จิโร่ด้วย และแนะนำยูระ ลูกสาวเจ้าของที่ดินข้างเคียงให้เป็นภรรยาของจิโร่ แต่จิโร่ปฏิเสธ แถมพูดจาดูถูกว่า "พ่อเล็งจะเอาหญิงคนนี้อีกคนใช่ไหมล่ะ?" ทำให้ซาคุเอม่อนโกรธมากและเลิกคิดแบ่งสมบัติให้เขาทันที

จิโร่มาพบพรรคพวกตามนัดหมาย เขาขับรถนำศพของเป้าหมายไปทิ้งให้รถไฟทับเรียบร้อย ซึ่งก็นับเป็นโชคดีที่คืนนี้พายุเข้า ทำให้ปฏิบัติการเป็นไปอย่างง่ายดาย โดยรถไฟที่แล่นผ่านมาไม่ได้สังเกตว่าทับศพไป ทางด้านนาโอโกะที่ออกมารอคนรักก็รอแล้วรอเล่าโดยไม่รู้ว่าเขาถูกฆ่าตายไปแล้ว










หลังจากนี้จิโร่ที่เหมือนจะดูดีกว่าคนอื่นในบ้านจะเผยความเลวร้ายออกมาเรื่อยๆ และการมาเห็นรอยเลือดที่เสื้อของจิโร่นี้เอง ที่เป็นจุดเริ่มต้นโศกนาฏกรรมของทั้งโอเรียว และอายาโกะ...


ฆาตกรรม

จิโร่นำเสื้อเปื้อนเลือดใส่ถุงฝังดินไว้ รุ่งเช้าของวันต่อมามีคนมาพบร่างที่แหลกเป็นชิ้นบนรางรถไฟ จากการตรวจสอบพบว่าชายคนนี้ชื่อทาดาชิ เอโนะ ซึ่งเมื่อนาโอโกะรู้ข่าวก็เสียใจเป็นอย่างมาก ข่าวลือกันไปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่นาโอโกะเชื่อว่าเอโนะไม่ใช่คนที่จะจากไปทั้งที่ไม่ได้บอกอะไร และเธอจะต้องหาตัวคนร้ายเพื่อล้างแค้นให้คนรักให้ได้

นอกจากจะต้องรู้สึกผิดกับนาโอโกะแล้ว จิโร่ยังกลัวสาวสติไม่ดีอย่างโอเรียวจะเผลอพูดเรื่องเสื้อเปื้อนเลือดขึ้นมา จึงขู่ไม่ให้เธอและอายาโกะพูดเรื่องเลือดนั่นอีก ไม่งั้นเขาจะฆ่าเธอทิ้งซะ ถึงจะสติไม่ดีแต่โอเรียวยังอยากมีชีวิตอยู่ จึงให้สัญญากับจิโร่ว่าเธอจะปิดปากสนิท ไม่พูดเรื่องเสื้อเปื้อนเลือดอีก






กลับมาทางด้านชิโมคาว่าที่ต้องรับสถานการณ์คนงานการรถไฟสไตรค์ทั่วประเทศ เพื่อประท้วงที่เขาปลดคนงานจำนวนมาก และวันที่ 5 ก.ค. 1949 (ตรงกับวันในประวัติศาสตร์ที่เกิดคดีชิโมยามะ) ชิโมคาว่าก็หายสาบสูญไป จนกระทั่งมีคนพบศพเขาถูกรถไฟทับบนรางโจบันบริเวณอายาเสะ แถมคืนนั้นฝนก็ตกล้างหลักฐานต่างๆไปหมด คดีนี้คล้ายคลึงกับคดีของเอโนะเมื่อเดือนที่แล้วมาก ทำให้นักสืบเกตะให้ความสนใจเป็นพิเศษ และเขาเชื่อว่าคดีเอโนะเป็นการทดลองอำพรางคดีเพื่อใช้จริงในคดีชิโมคาว่านี่แหละ


ครอบครัวของอายาโกะมาเที่ยวงานเทศกาล มีตำรวจมาหาซาคุเอม่อนเพื่อขอสอบสวนเนื่องจากนาโอโกะเป็นหนึ่งในแนวร่วมพรรคประชาธิปไตยและเกี่ยวข้องกับเอโนะผู้เสียชีวิตไปเมื่อเดือนที่แล้ว หลังรู้ว่าลูกสาวของเขาเป็นพวกฝ่ายซ้ายก็ทำให้ซาคุเอม่อนโกรธมาก ที่ร้ายกว่านั้นคือคนขายปลาไหลย่างเผลอสับปลาไหลจนเลือดกระเด็นมาเปื้อนเสื้อของอายาโกะ ทำให้อายาโกะเผลอหลุดปากเรื่องเลือดบนเสื้อของจิโร่ออกมาให้พ่อและตำรวจฟัง


ซาคุเอม่อนรู้สึกเสียเกียรติเป็นอย่างมากที่ลูกชายและลูกสาวของเขาทำเรื่องเลวร้ายลงไป วันต่อมาเขาเรียกนาโอโกะมาไต่สวนในครอบครัวตามธรรมเนียมของตระกูล เขาไม่ยกโทษให้นาโอโกะที่เข้าร่วมเป็นฝ่ายซ้ายที่เขาแสนเกลียด จึงสั่งให้ไปให้ปากคำกับตำรวจแล้วไล่ออกจากครอบครัวไปโดยไม่ฟังคำอธิบายของลูกสาวแม้แต่น้อย

หลังจบคดีนาโอโกะไปแล้วก็เข้าสู่คดีหลัก เรื่องของจิโร่ จิโร่ถูกเรียกตัวมาไต่สวนพร้อมกับโอเรียว...


ซาคุเอม่อนพยายามเค้นเอาความจริงจากโอเรียวว่าเธอเห็นจิโร่สักเสื้อเปื้อนเลือดจริงหรือไม่ แต่โอเรียวไม่กล้าตอบเพราะถูกจิโร่ขู่ไว้ จิโร่เห็นดังนั้นก็นึกเรื่องโกหกที่แสนชั่วช้าได้ เขาหัวเราะออกมาแล้วบอกกับพ่อว่า "ถึงจะถามยังไงโอเรียวก็ไม่ตอบหรอกน่า" เขาขอให้พ่อสั่งให้คนอื่นออกไปให้หมด เพราะเรื่องที่เขาจะเล่านี้อาจทำให้ตระกูลต้องเสื่อมเสียมาก ซาคุเอม่อนจึงสั่งให้พวกคนใช้ออกไปให้หมด ให้เหลือเพียงเขา อิจิโร่ จิโร่ และโอเรียวเท่านั้น

แล้วจิโร่ก็เล่าเรื่องที่เขากุขึ้นมาให้พ่อฟังว่าคืนนั้นโอเรียวเข้ามายั่วสวาทเขา และจิโร่ก็ยินยอมมีเซ็กซ์กับโอเรียวแต่โดยดีเพราะร่างกายเธอยั่วยวนมาก โอเรียวยังบริสุทธิ์อยู่ คืนนั้นเป็นครั้งแรกทำให้มีเลือดออก และเลือดนั้นก็มาเปื้อนเสื้อเขา จิโร่ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องน่ารังเกียจนี้จึงเอาเสื้อไปซัก และได้ขู่ไม่ให้โอเรียวบอกเรื่องนี้กับใคร ทำให้โอเรียวกลัวเขามาก

ซาคุเอม่อนและอิจิโร่สลดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น (แม้ว่ามันจะเป็นแค่เรื่องที่จิโร่กุขึ้นมาเองก็ตาม) แถมคนสติไม่ดีอย่างโอเรียวก็ไม่มีปัญญาจะแก้ต่างอะไร ทำให้คดีจบลงด้วยชัยชนะของจิโร่ แต่ชิโร่ที่รออยู่ด้านนอกขู่เขาว่าถ้าตำรวจเอาเสื้อนั่นไปตรวจแล้วหมู่เลือดไม่ตรงกับโอเรียว จิโร่จะซวยเอาได้ง่ายๆ

พอได้ยินแบบนั้นจิโร่ก็วิตกจนต้องขุดเสื้อที่ฝังไว้เอาขึ้นมาเผา แต่ชิโร่ที่แอบตามมาก็บอกว่าชาวบ้านอาจเห็นควันไฟผิดสังเกตแล้วแห่กันมาดู ชิโร่อาสาขอจัดการกับเสื้อเปื้อนเลือดแทน ซึ่งจิโร่ก็ยอมแต่โดยดี แต่ในใจก็ระแวงเจ้าน้องชายหัวดีคนนี้ไม่น้อย...

จิโร่ได้พบกับหญิงสาวตัวแทนจากรัฐบาลสหรัฐคนหนึ่ง จิโร่รู้ว่าการที่เขาทำงานพลาดจนเหลือหลักฐานให้คนอื่นเห็นทำให้สหรัฐส่งคนมาเก็บเขา แต่จิโร่ไหวตัวทันและเอาปืนขู่ให้เธอขับรถเข้าไปในเมือง จากนั้นก็ร่วมเสพสังวาสจนฝ่ายหญิงติดใจลีลาและเลิกคิดที่จะรายงานเจ้านาย (จิโร่มันร้ายกาจมาก! Smiley) เธอยินดีหนีไปเมืองอื่นและเริ่มต้นชีวิตใหม่กับจิโร่ แต่ขอให้จิโร่จัดการสองพยานที่อาจขัดขวางอนาคตของพวกเขาซะก่อน แม้ทั้งสองจะเป็นแค่หญิงไม่เต็มบาทกับเด็กอายุสี่ขวบก็ตาม

เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ จิโร่ต้องยอมสวมบทฆาตกรอีกครั้ง...











หลังเสียโอเรียว พี่เลี้ยงที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาไปแล้ว การใช้ชีวิตในความมืดที่ยาวนานกว่า 20 ปีของอายาโกะก็เริ่มต้นขึ้น...

ขอลาพักบล็อกเพื่อเที่ยวอินเดีย 6 วันครับ อีกสองสัปดาห์มาต่อตอนหน้าครับ Smiley


อัพเดท

อ่านตอนต่อไปได้ตามลิงค์นี้เลยครับ

[Tezuka Osamu's Ayako] 2/3 - ในห้องใต้ดิน
[Tezuka Osamu's Ayako] 3/3 - โลกอันมืดมิดนี่แหละคือที่ของฉัน





Create Date : 04 ธันวาคม 2555
Last Update : 7 สิงหาคม 2560 21:54:45 น. 46 comments
Counter : 16338 Pageviews.

 
สวัสดีตอนดึกๆ ครับ .....

เพิ่งรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้ เนื้อเรื่องมืดหม่นจริงๆ แบบนี้คงไม่ีมีโอกาสได้อ่านฉบับภาษาไทยแน่ๆ .....

ภาพดูแปลกตาไปจากผลงานช่วงหลังของ อ.เท็ตสุกะ โอซามุ ที่เราคุ้นเคยกันค่อนข้างมากเลยทีเดียว แต่ลายเส้นก็ยังสวยและมีรายละเอียดมากเช่นเคย .....



โดย: NET-MANIA วันที่: 4 ธันวาคม 2555 เวลา:23:48:08 น.  

 
มาอัพบล็อกแล้วหนีหรือ? ผมรอพรุ่งนี้ค่อยอัพน่ะ เรื่องเกี่ยวกับพ่อในการ์ตูน พักบล็อกเพื่อเที่ยวอินเดีย 6 วัน เหรอครับ เที่ยวให้สนุกนะครับ เดี๋ยวแวะมาอ่านอีกที


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 4 ธันวาคม 2555 เวลา:23:55:22 น.  

 
สนุกมากเลยครับ ให้รออีก2สัปดาห์ดูท่าผมจะไม่ไหวนะครับ 555


โดย: Don't try this at home. วันที่: 5 ธันวาคม 2555 เวลา:3:53:18 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว

ชอบลายเส้นการ์ตูนครับ
เดี๋ยวจะลองไปหาซื้อมาอ่านดูบ้าง

รูปที่น้องชีริวถาม
พี่ก๋าถ่ายรูปกองไฟน่ะครับ


ปล. เอารูปและประสบการณ์จากอินเดียมาฝากเยอะๆนะครับ
พี่ก๋าจะรอชมครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 ธันวาคม 2555 เวลา:5:35:20 น.  

 
อ่านสนุกมากเลยค่ะ

ตอนนี้ยังไม่ได้ลงบล็อกเลยมาทำธุระอยู่เชียงใหม่ ( อีกละ)

อุ๊ปไก่ รสชาติจะคล้าย ๆ คั่วไก่แต่แถวแม่ฮ่องสอน และทางหนือมันจะมีกลิ่นอะไรซักอย่างหอมอ่อน ๆ ด้วยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 ธันวาคม 2555 เวลา:9:27:53 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog
สนุกจังเลยค่ะคุณชีวิว ไม่เคยอ่านมาก่อน เอ แต่จะว่าไป การ์ตูนเครียดๆ ก็ไม่ค่อยจะชอบอ่านสักเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่จะอ่านการ์ตูนผู้หญิงค่ะ แต่จะรออ่านตอนต่อไป ชิ มาทำให้ติดซะได้นะคุณชีวิว
---
เห็นของฝากที่บ้านแล้วอิจฉาล่ะซี้ อิๆ น่าทานมากเลยค่ะ เปิดไปทีไรก็น้ำลายไหลเหมือนกัน 5555
โห น่าอิจฉาสุดๆ เลยค่ะ ไปอินเดียซะด้วย ง่า จะให้กอดแพะเลยเหรอคะ เอ แต่จะว่าไปมันก็น่ารักดีนะคะ โดยเฉพาะลูกแพะ ก็กอดได้อีกแหละ แต่ขอสะอาดๆ หน่อยแล้วกันค่ะ อืม แต่จะให้ดี ขอเป็นหนุ่มๆ หน้าตาดีๆ สักคนได้ไหมคะ 555555
เดี๋ยวจะไปช่วยเฝ้าบ้านให้ค่ะ เที่ยวให้สนุกนะคะ ที่สำคัญอย่าลืมของฝากด้วย


โดย: ประกายพรึก วันที่: 5 ธันวาคม 2555 เวลา:10:20:51 น.  

 
ปรมาจารย์ด้านการ์ตูนญี่ปุ่น เลยนะคะ
นับถือๆ เอาไป 1 like เอ๊ย!! 1 vote

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
กิ่งฟ้า Literature Blog ดู Blog
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 5 ธันวาคม 2555 เวลา:10:32:47 น.  

 
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog โหวตให้เลย..เพราะถูกใจจริง

หวัดหายไปหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาเป็นใหม่เมื่อคืนนี้แหละครับ เบื่อน้ำมูกไหลตลอดๆๆ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 5 ธันวาคม 2555 เวลา:11:55:16 น.  

 
เนื้อเรื่องรันทดหดหู่มาก...การ์ตูนเมื่อ 60 ปีก่อนหรือนี่

ไปเที่ยวอินเดีย...เก็บภาพและเรื่องเล่ามาฝากเยอะๆ นะคะ พี่คาดหวังสูงมาก จะได้ชมแบบเต็มพร้อมเรื่องเล่ายาว...ปานอ่านหนังสือ พี่คงไม่มีโอกาสไปแน่เลย อินเดีย...

ปล. ตอนที่พี่ทำงานก็ออกต่างจังหวัดบ่อย เดินวนไปมาแค่ห้องสัมมนาและห้องพัก (แต่ไม่ได้เล่นไพ่ค่ะ) เหมือนกัน ไร้ค่าหรือป่าวไม่รู้ แต่ไปทำงานเนาะ ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยแหละ

บ้านบอลกำหนดส่วนสูงเข้าเล่นด้วยค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 5 ธันวาคม 2555 เวลา:13:51:20 น.  

 
โอ้โห บล็อกนี้ อ่านหลายวันแน่
สงสัยพอดีแหละกว่าคุณชีริวจะกลับมา
เดี๋ยวแวะมาอ่านเรื่อยๆ จนจบนะ
เยอะมาก จริงๆ เที่ยวให้่สนุกนะคะ ^^


โดย: Sawnoy วันที่: 5 ธันวาคม 2555 เวลา:21:52:50 น.  

 
เย่..เพ่เอ็มมมมมมบล็อกนี้ยาวมั๊กๆเลยยยยยยยย

โหวตให้การ์ตูนดีมีคุณภาพก่อนนน
เด่วพุ่งนี้ค่อยมาอ่าน

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog

แพมกลับไปศีกษาศาสตร์ของท่านยางิวก่ะไปฝึก
ร้องเพลงเท่ห์ๆไว้ปีใหม่ก่อน ฮ่ะมะช่ายๆพูดเล่น
ปัยแร่ะ ฟิ้วววววววววววว~~~~~~~~



โดย: mastana วันที่: 5 ธันวาคม 2555 เวลา:23:56:00 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 ธันวาคม 2555 เวลา:6:38:32 น.  

 
มาเฝ้าบ้านให้ตามสัญญาค่ะคุณชีวิว


โดย: ประกายพรึก วันที่: 7 ธันวาคม 2555 เวลา:9:20:37 น.  

 
เจ็ดร้อยกว่าเรื่องนี่ไม่ใช่ธรรมดานะครับ

เข้าขั้นจอมเทพไปเลย

จินตนาการต้องสุดยอดใบตองอ่อนเอามากๆ


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 7 ธันวาคม 2555 เวลา:11:51:55 น.  

 
โว้ อ ะไรกันเนี่ย
คุณชีริว อลังการบล็อกการ์ตูนนะเนี่ย ยาวแท้ๆ

ขอเวลาอ่าน 10 นาที แล้วจะมาวิเคราะห์เม้น

ไม่อ่านไม่ได้ เด๋วแซวไม่ถูกจุด 555+



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 7 ธันวาคม 2555 เวลา:12:07:32 น.  

 
คุณชีริววววววววววว


รินอ่านหมดแล้วตัวสั่นอะ
ตอนแรกคิดว่า พ่อกะพี่ทำไมชั่่วช้า แต่พอมากลับตาลปัตร
จิโร่ยิ่งกว่าอีก


โอเรียว...........ตัวเดืนเรื่องแค่เริ่มต้นยังไม่พอ

คนที่จะหวาดผวาเรื่อยๆ คือ อายาโกะ

แต่ตระกูลนี้ต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลอยู่ในนั้นแน่ๆ
แต่ไม่รู้เป็นอะไร

รู้แค่ว่า

อายาโกะไม่ใช่ลูกพี่ชาย แต่พี่ชายให้เมียตัวเองไปนอนกะพ่อ

โอ้วววววววววว อั้ยย๊ะ

ผูกเรื่องได้น่าติดตาม พงศาวดารอะไรมากเลย
ทำให้รินอยากรู้อยากเห็น อยากอ่านเสียเองซะแล้ว


หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นดีอย่างนี้นี่เอง ลี้ลับซ่อนเงื่อน
พลิกแพลงไปมาได้อีก บลาๆ


สุดยอดอะ

อาจจะเน้นเรื่องจริงก็ได้นะ น่ากลัวที่สุด
อ่านแล้วติดแน่นอน เรื่องแบบนี้รินก็ชอบเป็นที่สุดเลยไม่อยากพลาดดดดด



ว่าแต่กลับจากอินเดียมาเล่าต่อเลยนะ
ไม่งั้นจะลงแดงแน่ๆ

อยากรู้ๆๆๆๆๆๆ





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 7 ธันวาคม 2555 เวลา:12:33:54 น.  

 
โห บอกว่าจะใช้เวลาอ่านซัก 10 นาที ล่อไปเกือบครึ่งชัวโมง 555+
สุดยอดจริงๆ บล้อกนี้บล็อกเดียว ทึ่งน่าติดตามมากกกกก
ลืมบอกว่าก่อนไปอินเดียเตรียมตัวจะพบอะไร

เพื่อนรินเพิ่งกลับมาวันสองวันนี่เอง

เละค่ะเละ

ไว้ให้คุณชีริวมาเล่าดีกว่าว่าเป็นอย่างไรนะ
เจอคนที่เปลี่ยนแปลง ยิ่งเห็นนักท่องเที่ยวตาวาวล่ะสินั่น


เอาน่า


รอชมค่า แต่ตอนนี้รินก็พอไปดอยเหมือนกัน อิอิ
แปะไว้ก่อน เผื่อกลับมาทันอ่านก่อนที่ยังไม่เปลี่ยนบล็อกน้า




เป็นบล็อกสำนึกรักบ้านเกิด
ช่วยโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดต่อค่า

หนาวนี้กอดหมอก กันที่ภูเทวดา____ภูลังกา พะเยา กันนะคะ ^^



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 7 ธันวาคม 2555 เวลา:12:35:44 น.  

 
มาไม่ทันอวยพรปานี้คงอยู่ที่อินเดียแล้วนะค่ะ


โดย: ตาลเหลือง วันที่: 7 ธันวาคม 2555 เวลา:13:24:26 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่เอ็ม ชอบหนังสือจัง

ชอบตรงที่ภาพลายเส้นผู้หญิงอ่ะ 5555

ไม่อ่านไม่ว่ากันนะ อ๊ากกกจะ้วกแว้ว พยายมไปหาทุกคนน

แต่เหนื่อยมากอ่ะ รู้ตัวดีเที่ยวมากไป ไม่ค่อยได้พักผ่อน

แต่ก็คิดถึงเสมอนะ คริคริ ไปแหล่ะ

รักษาสุขภาพเด้อ



โดย: maitip@kettip วันที่: 7 ธันวาคม 2555 เวลา:16:24:21 น.  

 
อ้าว มิน่า เงียบ หายไปไหน พาพ่อไปเที่ยว อินเดีย นี่เอง.

การ์ตูน ..อ่านง่ายดี แต่เรื่องท่จะยาว .. สนุกดีนะ มีตื่นเต้นด้วย ..
บางเรื่องเกี่ยวกับประวัติศ่าส อ่านจากหนังสือ มันดูไม่น่าอ่าน พอจับมาเป็นการ์ตูน ดูมีชีวิตชีวา ขึ้นมา ..
เหมือนเรื่องสาม ก๊ก พี่ชอบอ่านดาร์ตูน ..อิอิ

เที่ยวให้สนุก ..เก็บเรื่องราวมาเล่าให้ฟังบ้างนะ สงสาร หน่อย ไม่เคยไป เอิ๊กๆๆ
..


โดย: tifun วันที่: 7 ธันวาคม 2555 เวลา:19:16:20 น.  

 
มาโหวตให้การ์ตูนซีเรียสๆ เล่มนี้ค่า

ทำให้ติดอยากอ่านเองไม่รอแล้วเนี่ย
เจ้าของบล็อกไม่มาซะที

กลับมาเล่าต่อเลยนะ 555+



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ลงสะพาน...เลี้ยวขวา Food Blog ดู Blog
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 8 ธันวาคม 2555 เวลา:10:51:26 น.  

 
พี่เอ็ม สบายดีเปล่า เป็นไงบ้าง

ใกล้สิ้นปีแล้ว งานเยอะหรอ อิอิ เค้าไม่เท่าไหร่หรอก

แต่เพลีย ไม่ค่อยได้พักผ่อน 5555

ไปแหล่ะ รักดษาสุขภาพนะคะ


โดย: maitip@kettip วันที่: 8 ธันวาคม 2555 เวลา:16:14:43 น.  

 
ปกไม่ผ่านครับ สำหรับประเทศที่คลั่งศีลธรรมเกินความจำเป็นต้องเซ็นเซอร์
ปี 1949 กำลังปฏิวัติจีนเลยนะนั่น

แค่แผ่นแรกก็.... รู้สึกดาร์กจริงๆ

ยิ่งอ่านยิ่งดาร์กขึ้นเรื่อยๆ จิโร่นี่มัน......

ตอนนี้พึ่งเริ่ม ต้องรอตอนต่อไปสินะ หลังงานเขียนตะพาบจะรออ่านอีกที

+



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 ธันวาคม 2555 เวลา:12:25:11 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 ธันวาคม 2555 เวลา:6:47:08 น.  

 
วันนี้ใช่มั้ยที่ท่านบอกว่าจะกลับมา


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 ธันวาคม 2555 เวลา:15:12:03 น.  

 
เรื่องมันดาร์กดีจริง ๆ ไม่โมเมเองแต่อิงประวัติศาสตร์ด้วย
อ. Tezuka เค้าเจ๋งมากครับ *_*

เค้าทำรูปเล่มดีมาก ราคาเล่มละเท่าไหร่ครับ
ถ้าไม่นับภาพปกแล้วชวนให้นึกถึง text book เลยล่ะ *_*
ส่วนผมคงไม่มีโอกาสได้อ่านแน่ ๆ ขอบคุณที่เอามารีวิวนะครับ
ไว้ติดตามตอนต่อไปครับ ^_^


ป.ล. คุณชีริวไปอินเดีย พอดีกับที่ผมเพิ่งอ่าน Buddha จบ
นึกถึงอินเดียเลยล่ะ บังเอิญมาก


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 10 ธันวาคม 2555 เวลา:15:34:21 น.  

 
ตอนที่เขียนบทความนึกไม่ค่อยออกเลยครับ สำหรับพ่อในการ์ตูน แต่ยิ่งเขียนยิ่งเยอะ โดยเฉพาะพวกพ่อที่ใช้ไม่ได้ เยอะจริงๆ

เรื่องโจโจ้ บทบาทของ พ่อของโจนาธาน ในช่วงที่ล้มป่วยแล้วพูดว่าตนเองอาจจะเข้มงวดกับลูกมากไป แถมยังไม่ตอนเข้าไปรับมีดแทนอีก ก็ถือว่าสุดยอกเหมือนกัน สำหรับโจทาโร่ตอนที่ช่วยโจลีนแล้วโดนชิงดิสก์ไปก็ดูซึ้งดี

จริงๆ ถ้าจะเขียนตอน 2 ยังได้เลยด้วยมั้ง (พอดีเวลาในการเขียนค่อนข้างจำกัดน่ะ) รอปีหน้าดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวหมดมุก 555


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 ธันวาคม 2555 เวลา:19:25:41 น.  

 
จะรออ่านนะครับน้องชีริว
เรื่องเกี่ยวกับอินเดียในมุมมองของน้องชีริว
ยังไงก็ต้องน่าสนใจแน่ๆครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 ธันวาคม 2555 เวลา:20:56:15 น.  

 
ชอบปกหนังสือนะ ลืมบอก มิสเตอร์ชีริว



อยากหนาวเนอะ


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:11:06:28 น.  

 
งานคุณแม่เพิ่งผ่านไป
3 สาว ครอบครัว ตัว"อ" ก็ขอขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:11:21:10 น.  

 
555 นายใหญ่ทำแบบนั้นเด๊ะเลย อิอิ ชอบอ่ะ

อ่านแล้วฮาช่วงท้าย อิอิ

สวัสดีค่ะพี่เอ็ม อีโมบ้านเค้าน่ารักออก

มันก็ดื้อ ๆมึน ๆ เหมือนเจ้าของบ้านอ่ะจ้า 555

น่ารักดี อิอิ

ไประไปทานจะข้าวค่ะ


โดย: maitip@kettip วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:11:59:24 น.  

 
สวัสดีค่ะ
จะรอชมภาพท่องเที่ยวแต่ต้องรอปีหน้าเลยหรือค่ะ




แต่ไม่เป็นไร รอได้คะ


โดย: ตาลเหลือง วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:13:34:18 น.  

 
คุณชีริวเป็นจอมวางแผนเนอะ แพลนอะไรไว้ยาวมาก...มีบ้างมั้ยคะ ไม่เป็นไปตามแผนที่เราวางไว้

อย่างข้อความข้างบน...ถ้าหันไปมองด้านบนบล็อกนี้จะเห็นแถบตัวการ์ตูนที่ผมเปลี่ยนทุกปีตามบล็อกหลักที่ตั้งใจจะอัพของปีนั้นๆ สำหรับปีนี้คือบรรดาตัวละครของ อ.เทะสึกะ ที่เค สุวาเบะ นำมาวาดใหม่ครับ และแม่สาวผมดำยาวหน้าตามืดมนด้านขวานั่นแหละคืออายาโกะ ที่ผมใช้ธีมนี้เพราะตั้งใจว่าบล็อกหลักที่ผมจะเขียนในปีนี้คือ "อายาโกะ" บล็อกนี้ครับ

พี่นึกทึ่งหน่ะ อะไรจะเป๊ะขนาดนั้น "ใ้ห้ได้ดังใจ" แล้วถ้า "ไม่ได้ดังใจ" หล่ะ มีบ้างมั้ย

บล็อกอินเดียอีก 1 เดือน จะอัดในตอนเดียวจบ แต่เนื้อหาเต็มอิ่ม...เดาไม่ถูกค่ะ พี่เล่าเรื่องไม่ค่อยเป็น อาจจะเป็นเพราะข้อมูลไม่แน่น ส่วนมากที่ถ่ายรูปมา รู้เลยว่าถ้าเวลาผ่านไปอาจจะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง เลยชอบถ่ายมาเยอะ แล้วให้ภาพเดินเรื่องแทน...ไม่ใช่เฉพาะตอนเพิ่งมาำทำบล็อก ตอนพี่เลี้ยงเมฆคนเดียว พี่ถ่ายรูปเมฆเกือบทุกวัน พัฒนาการเค้าเปลี่ยนไปเป็นช่วงๆ เนาะ แต่ก็โรคจิตอีกนั่นแหละ ไม่ชอบบันทึกภาพเป็นภาพเคลื่อนไหว ชอบภาพนิ่งมากกว่า

ปล. เตี้ยแค่ไหนคงไม่ต่ำกว่า 120 ซม. มังคะ เพราะเมฆอดเข้าบ้านบอลนานแล้ว ยืนมองตาปริบๆ อยากเล่นมาก

คุณชีริวอาจจะไม่โดนจับโยนออกมาหรอก อาจจะโดนประนามด้วยสายตาจากคนดูแลบ้านบอลมากกว่า "ไรเนี่ย...ยังจะมาแย่งเด็กเล่นอีก ไม่เคยได้เล่นหรือไง"


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:15:06:21 น.  

 
ขาดตอนงะ




โดย: OniZukA-Lee วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:15:30:53 น.  

 
อ่านไปครึ่งๆกลางๆยังงงกับคดีประวัติศาสตร์ตัวละคร
มันซ้อนกันหรือว่าแพมม่องเหม่งเนี่ยตกลงมันยังไม่จบ
ช่ายก้าอายาโกะโดนขังยุอ่ะเม้นท์ไม่ถูกเลยเรา...

แพมก็เคยอ่านใบไม้ที่หายไปตอนเรียนที่คณะอาจารย์ให้
อ่านใบไม้ที่หายไปกับปณิธานกวี กวีซีไรท์ด้วยยังจำได้น๊าา

เด่วพรุ่งนี้มีงานตะพาบออกด้วยอ่ะ..แพมยังคิดไม่ออกเลยแง่มๆๆๆๆ






โดย: mastana วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:23:24:38 น.  

 
การอ่านการ์ตูน อ่านรูปเล่มแบบญี่ปุ่นดีกว่าจริง ๆ ครับ
ที่ฝรั่งทำรูปเล่มแบบ text book ใหญ่ ๆ แบบอายาโกะ
ขืนนอนอ่านแล้วหล่นใส่หัวบาดเจ็บนะ อาจดั้งจมูกหัก
หรืออาจถึงขึ้นเลือดคั่งในสมองได้เลย (อันนี้เว่อร์ 55)


Buddha ผมอ่านสแกนเอาน่ะครับ ไม่มีปัญญาซื้อเหมือนกัน แหะ ๆ
ส่วนเรื่องรีวิวแบบที่คุณชีริวทำนี่ผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่
อาจต้องใช้เวลานาน...นานมาก...
ไม่รู้ภพชาตินี้จะทำเสร็จเปล่านะครับ เอิ๊ก ๆ


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 12 ธันวาคม 2555 เวลา:13:11:14 น.  

 
บ้านนี้ตะพาบยังไม่ออกคลาน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 ธันวาคม 2555 เวลา:0:23:00 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ธันวาคม 2555 เวลา:6:46:50 น.  

 
ชีริวมีความเพียรพยายามสแกนภาพมากมายแถมยังต้องวิริยะอุตสาหะเปลี่ยนคำบบรรยายเป็นภาษาไทยอีก ยกย่องเลยครับ


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 24 ธันวาคม 2555 เวลา:13:45:13 น.  

 
สแกนแบบนี้หนังสือเสียมั้ย
เสียดายแทน

เดี๋ยวมาอ่าน


โดย: นาน IP: 110.78.147.25 วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:10:30:41 น.  

 
สันย่นนิดๆครับ แต่เล่มนี้ทนทาน

ถ้าเรื่องหน้าแสกนทั้งเล่ม จะซื้ออีกเล่มต่างหากมาหั่นแสกนแบบตอนทำซุย 3 เล่มสุดท้ายดีไหมเนี่ย?


โดย: ชีริว วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:11:26:25 น.  

 
ต้องขอบคุณแทนชาวไทยหลายคน ที่ลุงยอมสละชีพการ์ตูนเล่มละหลายร้อย ToT
เพิ่งเห็นว่าได้ best cartoon blog ยินดีด้วย


โดย: oko IP: 110.77.230.150 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:04:00 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกหดหู่กับชีวิต สมเป็นงานของอ.จริงๆครับ
เน่าแล้วมาเจอเน่ากว่า

ทำอย่างนี้แจ๋วมากเลยครับ แปลแค่บางหน้า ย่อๆเรื่องมา


โดย: OceanSage วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:22:39 น.  

 
อ่านทั้งหมดแล้ว ขอบคุณมากที่นำเรื่องนี้มารีวิวให้ผมได้อ่านครับ พอได้อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า อ.เทสึกะ เหมาะสมกับคำว่า พระเจ้าแห่งวงการการ์ตูนจริงๆครับ ไม่ว่าจะไอเดีย สไตล์ของภาพสื่ออารมณ์อยู่ในระดับมืออาชีพครับ

แต่อันนี้ผมมีข้อสงสัยนิดหน่อยครับ ในบทแรกนี่แหละ

สงสัยว่าทำไมอิจิโร่กับซูเอะถึงไม่มีลูกด้วยกันเลยสักคน ทั้งที่อิจิโร่ค่อนข้างมีนิสัยแย่แบบนั้น แล้วถึงกับจะไม่มีอะไรกับภรรยาตัวเองเลยได้ยังไง มันก้อน่าคิดนะครับ


โดย: ภคพล PIXAR IP: 101.109.8.158 วันที่: 25 มิถุนายน 2556 เวลา:15:34:16 น.  

 
นั่นสิครับ ไม่รู้ว่าอิจิโร่มีความสนใจในตัวผู้หญิงหรือเปล่า ทั้งเรื่องเราไม่เห็นฉากอิจิโร่มีอะไรกับผู้หญิงเลยครับ
แต่ที่แต่งงานกับซูเอะ เพราะพ่อเลือกมาให้เป็นเจ้าสาวเพื่อพ่อจะได้มีสัมพันธ์กับลูกสะใภ้คนนี้ด้วย อิจิโร่ก็ยอมแต่งงานตามใจพ่อเพราะอยากได้มรดกเท่านั้น
อาจเป็นเพราะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ถูกพ่อตัวเองเอาด้วยหรือเปล่าที่ทำให้อิจิโร่ไม่ยอมมีอะไรกับเมียตัวเอง


โดย: ชีริว วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:9:41:22 น.  

 
หนังสือการ์ตูน Tezuka Osamu ที่ได้รับการแปลเป็นไทยเยอะมาก


โดย: สมาชิกหมายเลข 6051589 วันที่: 24 กรกฎาคม 2565 เวลา:17:53:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.