Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
20 กุมภาพันธ์ 2558
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. ความปลอดจากอวิชชาโยคะ

ภิกษุ ท.!
ความปลอดจากอวิชชาโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ?

ภิกษุ ท.!
บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ..
.. ซึ่งความก่อขึ้นแห่งผัสสายตนะหกด้วย
.. ซึ่งความดับไปแห่งผัสสายตนะหกด้วย
.. ซึ่งรสอร่อยแห่งผัสสายตนะหกด้วย
.. ซึ่งโทษแห่งผัสสายตนะหกด้วย
.. ซึ่งอุบายเครื่องพ้นไปจากผัสสายตนะหกด้วย;

เมื่อเขารู้ชัดตามทีเป็นจริงอยู่เช่นนั้น, อวิชชาและอัญญาณใด ๆ ในผัสสายตนะหก อวิชชาและอัญญาณนั้น ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น.

ภิกษุ ท.!
นี้เราเรียกว่า ความปลอดภัยจากอวิชชาโยคะ.

ภิกษุ ท.!
ด้วยเหตุนี้แหละจึงรวมเป็น ..
.. การไม่ประกอบอยู่ด้วยกามโยคะ ๑
.. ความไม่ประกอบอยู่ด้วยภวโยคะ ๑
.. การไม่ประกอบอยู่ด้วยทิฏฐิโยคะ ๑
.. และการไม่ประกอบอยู่ด้วยอวิชชาโยคะ ๑.

ภิกษุ ท.!
บุคคลไม่ประกอบด้วยกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพโดยเด็ดขาด อันเป็นอกุศลธรรมอันลามกเศร้าหมอง เป็นเหตุให้มีภพใหม่อันกระสับกระส่าย มีผลเป็นทุกข์ มีชาติชราและมรณะต่อไป;

เพราะฉะนั้นเราจึงเรียกว่า "ผู้มีปรกติเกษมจากโคะ (โยคกฺเขมี)" ดังนี้.

ภิกษุ ท.!
เหล่านี้คือ ความปลอดจากกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ ๕ อย่าง แล.

(คาถาผนวกท้ายพระสูตร)
สัตว์ทั้งหลาย ..
.. ประกอบพร้อมแล้วด้วยกามโยคะ ด้วยภวโยคะ ด้วยทิฏฐิโยคะ และถูกอวิชชากระทำในเบื้องหน้าแล้ว,มีปรกติไปสู่ชาติและมรณะ; ย่อมไปสู่สังสารวัฏ.

ส่วนสัตว์เหล่าใด ..
.. รอบรู้แล้ว ซึ่งกามและภวโยคะ โดยประการทั้งปวง,
.. ถอนขึ้นได้แล้วซึ่งทิฏฐิโยคะ,
.. และพรากออกได้โดยเด็ดขาดซึ่งอวิชชา,
สัตว์เหล่านั้นแล ไม่ประกอบแล้วด้วยกิเลสอันประกอบสัตว์ไว้ในภพทั้งปวง, เป็นมุนี ล่วงเสียได้ซึ่งโยคะกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ ; ดังนี้แล.
.
.
.
จตุกฺก. อํ ๒๑/๑๕/๑๐.


Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2558 5:58:34 น. 0 comments
Counter : 850 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.