Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
23 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
ขี่จักรยานในกรุงเทพฯก็ได้ ถ้า...

โดย ศ.ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ผู้ก่อตั้งชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย

*ปัญหาราคาน้ำมันที่แพงขึ้นๆ ทุกวัน ทำให้บางคนต้องจ่ายค่าน้ำมันเดือนละเฉียดหมื่นบาท จนบางคนต้องเลิกขับรถแล้วหันมาใช้รถขนส่งมวลชนแทน ในขณะที่บางคนก็อยากจะลองขี่จักรยานเพื่อประหยัดเงินและก็เพื่อดูแลปัญหา เรื่องโลกร้อนไปด้วยพร้อมๆ กัน ซึ่งผมในฐานะผู้ก่อตั้งชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทยก็ต้องยินดีเป็นธรรมดา

เพราะผมมองในมุมมองของคนใช้จักรยาน ว่าเหตุการณ์น้ำมันแพงบ้าเลือดแบบนี้เป็นโอกาสไม่ใช่วิกฤต

แต่ก็เพราะความที่เป็นผู้ก่อตั้งชมรมจักรยานฯ และเป็นคนที่ริเริ่มชักชวนให้ใครต่อใครหันมาใช้จักรยานในชีวิตประจำวันมา เป็นสิบปีแล้วนี่แหละ ที่ทำให้ผมต้องออกมาเตือนคนที่ไม่คุ้นกับการใช้จักรยานแล้วอยากจะมาขี่ จักรยานบนถนนในกรุงเทพฯ ว่าต้องเตรียมตัวเตรียมใจอย่างไร

ข้อแรก : ทางจักรยานในเมืองไทยถือได้ว่ายังไม่มี เพราะที่มีอยู่นั้นมันสั้นมากจนถือเป็นนัยยะไม่ได้ ดังนั้น ถ้าจะให้ปลอดภัยก็ควรขี่จักรยานบนทางเท้า แต่ทางเท้ามีไว้สำหรับคนเดินเท้า จักรยานไม่มีสิทธิเหนือคนกลุ่มนั้น นั่นคือถ้าไปเจอคนเดินสวนมา หรือกำลังจะแซงคนที่กำลังเดินไปในทิศทางเดียวกัน ต้องดีดกระดิ่งให้สัญญาณเตือน และต้องหยุดรถลงจูงหากมีคนเดินบนทางเท้ามากจนขี่จักรยานได้อย่างไม่ปลอดภัย

ยิ่งถ้าไปเจอหาบเร่แผงลอย เช่น ตามประตูน้ำ สะพานควาย พระโขนง อย่างนี้ยิ่งไม่มีทางขี่จักรยานฝ่าเข้าไปได้แน่ๆ คนขี่จักรยานจึงต้องลงจูงหรือไม่ก็ไปขี่บนถนนใหญ่ในช่วงที่ทางเท้ามีคนเดินไปเดินมาหนาแน่น

ข้อสอง : เมื่อจำเป็นต้องไปขี่บนพื้นผิวจราจรหรือถนน สิ่งที่ต้องระวัง คือตะแกรงระบายน้ำฝนที่บางทีก็อยู่กลางถนน บางทีก็อยู่ริมถนน และถ้าตะแกรงระบายน้ำพวกนี้มีตัวแผ่นเหล็กซี่ตะแกรงวางตามยาวไปกับทิศทางที่ เราจะขี่จักรยานไป ช่องว่างระหว่างเหล็กตะแกรงก็จะกลายเป็นร่องหลายๆ ร่องติดๆ กัน ซึ่งหากล้อหน้าของจักรยานหล่นลงไปในช่องหรือร่องนั้น รถจักรยานก็จะล้มและตัวเราอาจตีลังกาไปเจอรถที่วิ่งตามมาข้างหลังได้ ผมจึงเรียกตะแกรงระบายน้ำฝนพวกนี้ว่า "กับดักจักรยาน"

ข่าวดีคือตอนนี้ กทม.ได้ทำตะแกรงแบบที่ไม่เป็นร่องให้ล้อหล่นลงไปได้เป็นส่วนมากแล้ว ปัญหานี้จึงมีไม่มากนัก ยกเว้นในบางเขตที่ยังไม่ได้พัฒนาให้เป็นมาตรฐานสากล

ข้อสาม : น้ำมันบนถนน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง หรือน้ำมันทอดอาหาร ล้วนทำให้ถนนลื่น โดยเฉพาะหากมีน้ำเปียกแฉะอยู่ด้วย ผู้ขี่จักรยานจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหากขี่เข้าไปในซอยหรือริมถนนที่มีรถเข็นหรือแผงลอยขายข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู ข้าวต้มกุ๊ย ฯลฯ แล้วล้างจานอยู่ริมถนน

ข้อสี่ : ให้เคารพกฎจราจร เช่น ขี่ชิดซ้าย และเวลาเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวากรุณาให้สัญญาณมือ

ข้อห้า : แม้จะบอกไว้ในข้อสี่แล้วว่าให้ขี่ชิดซ้าย แต่ที่ผมพบมาทั่วโลกก็คือคนขี่จักรยานมักถืออภิสิทธิ์ขี่ย้อนศร อาจจะเพราะถือว่าตัวเองเล็กและเคลื่อนไหวได้คล่องตัวคล้ายกับคนเดินซึ่งมักเดินย้อนทิศทางของการวิ่งของรถเหมือนกัน

ทีนี้เมื่อขี่ชิดขวาไปเรื่อยๆ หากไปเจอซอยหรือทางแยกที่อยู่ทางขวามือ และมีรถยนต์จะออกจากซอยหรือทางแยกนั้นพอดี ให้รู้ไว้เลยว่าคนขับรถคนนั้นเขาจะไม่มองมาทางเรา เขาจะมองไปดูว่ามีรถบนถนนใหญ่วิ่งมาหรือไม่ ซึ่งเขาก็จะไม่มีทางเห็นเรา และหากเขาเห็นว่าปลอดภัยสำหรับเขา เขาก็จะออกรถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนใหญ่ แล้วจะมาชนกับเราได้ง่ายๆ

อุบัติเหตุแบบนี้พบว่าเกิดขึ้นได้เสมอๆ จึงต้องระวัง ทางที่ดีเมื่อเข้าใกล้ซอยหรือทางแยกแบบนี้ต้องชะลอให้ช้าที่สุด แล้วรีบเบรกให้ทัน

หรือจะให้ดีกว่านั้น ก็อย่าขี่ชิดขวาซะก็จะหมดเรื่อง

ข้อหก : มอเตอร์ไซค์ปาดหน้า อุบัติเหตุแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้บ่อยเช่นกัน เรื่องของเรื่องคือจักรยานต้องขี่ชิดซ้ายติดขอบทางเท้า แต่มอเตอร์ไซค์ซึ่งวิ่งได้เร็วกว่าและควรขี่ชิดซ้ายเหมือนกัน เมื่อมาเจอจักรยานซึ่งวิ่งช้ากว่าอยู่ข้างหน้า และมอเตอร์ไซค์อยากจะเลี้ยวเข้าซอยซ้ายมือข้างหน้า แต่มีจักรยานเกะกะอยู่ มอเตอร์ไซค์ก็มักจะเร่งเครื่องรีบแซงและรีบปาดหน้าจักรยานเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ซึ่งถ้าปาดกระชั้นชิดมากไป จักรยานเบรกไม่ทัน ก็จะชนกัน และหากชนกันแบบนี้คนขี่จักรยานเจ็บครับ คนขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ค่อยเจ็บ

ที่เขียนให้เห็นปัญหาอุปสรรคของการขี่จักรยานบนถนนใน กทม.ไว้เยอะแยะนี่ ไม่ใช่เขียนให้กลัวและเลิกความคิดที่จะใช้จักรยานนะครับ แต่เขียนมาเพื่อเตือนให้รู้ว่าจะระวังตัวอย่างไร

มีข่าวดีอีกข้อ คือเราไม่เคยเห็นสาวยาคูลท์ขี่จักรยานแล้วโดนรถยนต์ชนเลยใช่ไหมครับ นั่นแสดงว่าการขี่จักรยานในกทม.นี้มันทำให้ปลอดภัยได้ถ้าเรารู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ซึ่งนั่นก็คือต้องขี่ให้ชินจนมีทักษะหรือความชำนาญนั่นเอง

อีกเรื่องที่อยากจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ก็คือกรุงเทพฯไม่ใช่ประเทศไทย แต่ทั้งกรุงเทพฯและประเทศไทยมีปัญหาเรื่องน้ำมันแพงเหมือนๆ กัน

พวกที่อยู่ต่างจังหวัดหรือแม้กระทั่งเขตชานเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งการจราจรไม่สับสนซับซ้อนเท่ากับกรุงเทพฯ จึงมีความปลอดภัยและโอกาสในการใช้จักรยานบนถนนมากกว่ากรุงเทพฯ

จึงอยากชวนให้ออกมาขี่จักรยานกันเยอะๆ จนเกิดเป็นแรงผลักดันให้ภาครัฐจัดทำทางจักรยานให้เป็นระบบเหมือนอารยประเทศกับเขากันสักที

Credit : มติชนรายวัน วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551 หน้า 9

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E



Create Date : 23 สิงหาคม 2553
Last Update : 23 สิงหาคม 2553 18:29:17 น. 0 comments
Counter : 687 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.