Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
20 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
บ้านสไตล์อินดัสเตรียล ...ดิบแบบโดนใจ


     บ้านสไตล์อินดัสเตรียล (Industrial) นั้น นับว่าถูกอกถูกใจใครหลายคนที่หลงรักความดิบ เรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยอารมณ์โก้

*ซึ่ง กฤษณ์ แสงวิเชียร หนุ่มนักออกแบบสถาปัตยกรรมและหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท ดีไซน์ ดีพาร์ทเม้นท์ สตูดิโอและบริษัทที่ปรึกษาด้านการออกแบบอย่างครบวงจร ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบสไตล์อินดัสเตรียลเช่นกัน

หลังจากที่มีโอกาสได้ฝากฝีมือการออกแบบให้กับโปรเจกต์สำคัญๆ อย่าง เอสตาเต้ เขาเขียว รีสอร์ท บูติกรีสอร์ตเก๋แนวโมเดิร์นซาฟารี บุราส่าหรี โรงแรมหรูที่จังซีลอน จ.ภูเก็ต ผับชื่อดังย่านสุขุมวิทอย่าง เอสคูโด้ ร้านอาหารริมน้ำแนวฟิวชันย่านพระราม 3 บุรีธารา บวกกับออกแบบบ้านสวยหลากหลายแนวให้กับลูกค้ามากมาย กฤษณ์ แสงวิเชียร เลือกดีไซน์บ้านของตัวเองในแนวที่เขาโปรดปรานมากที่สุดนั่นคือ Industrial Look

เจ้าตัวบอกว่า เสน่ห์ของ Industrial Look คือ ความดิบที่ไม่ต้องอาศัยการประดิษฐ์หรือเสริมเติมแต่งใดๆ จุดเด่นจะอยู่ที่การโชว์เนื้อผิวธรรมชาติของวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง เช่น อิฐ เหล็กไอ-บีม เหล็กเอช-บีม พื้น ค.ส.ร. และปูนเปลือย เป็นต้น

*นอกจากนี้ การออกแบบและตกแต่งบ้านแนวอินดัสเตรียล ยังเปิดโอกาสให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการผสมผสานวัสดุต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

สำหรับใครที่อยากจะมีบ้านดิบๆ ปนกลิ่นอายมินิมัลแบบนี้ เขาแนะนำว่าควรเริ่มจากการเลือกสไตล์บ้านให้เหมาะกับพื้นที่ เช่น การวางผังบ้านควรขึ้นอยู่กับทิศเป็นหลักในการสร้างบ้านทรงตัว L หรือตัว I และควรคำนึงถึงทิศทางพระอาทิตย์ขึ้นและตก เพื่อรับแสงสว่างในบ้าน นอกจากนี้ฟังก์ชันการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง เช่น หากเจ้าของบ้านชอบเปิดบ้านสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ก็อาจเน้นห้องรับแขกให้มีขนาดใหญ่ เป็นต้น

ถัดมาจึงเลือกวัสดุหลักๆ ตามชอบ อย่างเช่น ปูนเปลือยขัดมัน อิฐ หิน หรือกระจก เป็นต้น ภายในบ้านยังควรผสมผสานความดิบที่หลากหลาย เพื่อให้บ้านดูมีลูกเล่นและไม่น่าเบื่อ ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญในระยะยาว เพราะเทกซ์เจอร์หลายแบบจะช่วยผ่อนคลายสายตา เช่น ผนังด้านหนึ่งอาจเป็นอิฐที่ก่อให้ดูไม่ต้องเรียงเป็นระเบียบเรียบร้อยแบบทั่วๆ ไป ส่วนอีกด้านอาจเป็นผนังปูนเปลือยขัดมัน

     นอกจากนี้ ยังสามารถหาเทคนิคสร้างสรรค์สร้างเทกซ์เจอร์แบบใหม่ๆ เช่น ผนังปูนหล่อไม้แบบ โดยนำแผ่นไม้หลายๆ แผ่นมาวางไว้ในช่องที่ต้องการเทปูน ก่อนปูนแห้งจึงดึงแผ่นไม้ออก ก็จะได้ผนังปูนที่มีผิวสัมผัสลายไม้ ซึ่งกฤษณ์แนะว่าไม้สักจะเหมาะที่สุด เนื่องจากจะช่วยให้เห็นเทกซ์เจอร์ของไม้ได้ชัดเจน หรืออาจใช้เทคนิค Fresco คือใช้แปรงหรือวัสดุอื่นๆ ขีดลงบนผนังปูนที่ยังไม่แห้ง เพื่อสร้างลาย หรืออาจจะใช้วิธีก่ออิฐฉาบปูน แล้วกะเทาะปูนออกบางส่วนเพื่อให้ดูมีลูกเล่น ส่วนพื้นบ้านอาจใช้ปูนเปลือย หรืออาจใช้พื้นหินเทอราซโซ เพื่อเติมอารมณ์โก้ และยังง่ายต่อการทำความสะอาดอีกด้วย

*“คนที่ชอบให้บ้านมีแสงสว่าง ก็สามารถเพิ่มกระจกใส ในส่วนต่างๆ ของบ้าน ซึ่งนอกจากจะทำให้บ้านดูโปร่งแล้ว ยังถือเป็นการทำให้บ้านมีแสงสว่างอย่างพอเพียงในเวลากลางวัน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ ถือเป็นการประหยัดไฟและพลังงานได้อีกด้วย หรือหากใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็สามารถสร้างผนังปิดทึบในส่วนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างห้องน้ำ หรือห้องนอนได้” เขาว่า

ด้วยโครงสร้างโดยรวมของบ้านที่ให้ความรู้สึกดิบและแข็ง บวกกับโทนสีของวัสดุต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในโทนสีขาว ดำ และเทา จึงควรเพิ่มสีสันให้บ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์สีสดใส อย่างโซฟา ม่าน หรือพรม นอกจากนี้ยังสามารถเติมรายละเอียดด้วยของใช้กระจุกกระจิก อย่างเชิงเทียน โคมไฟ หรือแม้แต่แก้วน้ำสีสดก็ได้ กฤษณ์แนะนำให้เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ เป็นอีกวิธีหนึ่งจะช่วยเบรกความแข็งของลุคโดยรวม และเพิ่มความเป็นธรรมชาติให้แก่บ้าน ซึ่งไม้รูปทรงธรรมชาติถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะเจาะ โดยเขาเลือกที่จะใช้โต๊ะไม้รูปทรงธรรมชาติ ที่เขาเป็นผู้ออกแบบเองให้กับเฟอร์นิเจอร์ไม้แบรนด์กานล์ (KAANL) นอกจากนี้อาจจะเพิ่มการใช้ไม้ในบางส่วนของบ้าน เช่น บันได หรือเลือกใช้พื้นปาร์เกต์ในบางจุด

     กฤษณ์ยังเสริมอีกว่า ควรนำธรรมชาติมาใส่ไว้ในบ้านบ้าง เช่น เว้นพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้ปลูกต้นไม้ หากอยากให้เก๋ก็สามารถเว้นที่ตรงกลางของบ้านเพื่อปลูกต้นไม้ หรือนำต้นไม้กระถางที่มีรูปทรงอ่อนช้อยมาวางไว้ตามจุดต่างๆ หรือหากที่ดินที่ใช้ปลูกบ้านมีต้นไม้ใหญ่อยู่เดิม ก็สามารถออกแบบบ้านให้ครอบต้นไม้นั้น โดยไม่จำเป็นต้องตัดทิ้ง ต้นไม้ที่เลือกนำมาปลูกก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว แต่ควรเป็นต้นไม้ที่มีรูปทรงที่ไปในทางเดียวกัน เช่น ต้นไม้ทรงสูงอย่างปีบ หรือหูกระจง นอกจากนี้อาจเลือกปลูกต้นไม้ที่ให้ความรู้สึกขัดแย้งกันไปเลย อย่างต้นไม้ที่มีโครงสร้างเลื้อยๆ เช่น ลีลาวดี

ดีไซเนอร์หนุ่มยังแนะนำด้วยว่า สามารถเติมกลิ่นอายความเป็นไทยๆ ให้บ้านได้ด้วยการเลือกใช้ของตกแต่งที่ให้อารมณ์ไทยๆ โดยในห้องน้ำกฤษณ์เลือกใช้อ่างล้างหน้าที่ทำจากสำริด ซึ่งเขาดีไซน์ให้กับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สำริดที่เขาเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น ในชื่อกฤษณ์ชนะ (Krishna) ซึ่งสีทองของสำริดยังช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับห้องน้ำได้เป็นอย่างดี

*บ้านแนวอินดัสเตรียลนี้ถือเป็นบ้านประหยัดงบ เนื่องจากไม่ต้องใช้งบประมาณในการตกแต่งมากนัก สนนราคาตั้งแต่ 2.5 -8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้ ซึ่งบ้านสไตล์นี้มักจะเป็นบ้านที่เน้นฟังก์ชันและประโยชน์การใช้สอย มากกว่าการเน้นรายละเอียด

     สำหรับใครที่ใฝ่ฝันอยากจะมีบ้านในแนวอินดัสเตรียล หรือต้องการคำปรึกษาในการออกแบบบ้านสามารถติดต่อ กฤษณ์ แสงวิเชียร ได้ที่บริษัท ดีไซน์ ดีพาร์ทเม้นท์ โทร. 02-585-9034


ขอขอบคุณ
ที่มา :
โพสต์ทูเดย์ วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์


H O M E



Create Date : 20 มกราคม 2553
Last Update : 20 มกราคม 2553 15:03:48 น. 2 comments
Counter : 1461 Pageviews.

 


โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:16:13:50 น.  

 
สวยจังค่ะ


โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:21:22:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.