โรงงานช็อกโกแล็ตมหัศจรรย์ ผู้แต่ง โรอัน ดาห์ล
ผู้แปล สาลินี คำฉันท์
ชาร์ลีอาศัยอยู่ในกระท่อมผุๆกับพ่อ,แม่,ปู่,ย่า,ตาและยาย ทั้งเจ็ดชีวิตอาศัยอยู่รวมกันมีเพียงพ่อคนเดียวที่ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวแม่ต้องดูแลคนแก่ทั้งสี่ คือ ปู่,ย่า,ตาและยายที่ช่วยตัวเองไม่ได้วันๆเอาแต่นอนอยู่บนเตียง เตียงเดียวที่สี่ชีวิตนอนรวมกัน เงินที่พ่อหาได้ในแต่ละวันไม่พอเลี้ยง 7 ชีวิตให้กินอิ่มได้แม้สักมื้อ
บ้านชาร์ลีอยู่ใกล้โรงงานทำช็อคโกแล็ตที่อร่อยที่สุดทุกวันที่เดินไปโรงเรียนชาร์ลีจะได้กลิ่นของช็อคโกแล็ตร้อนๆที่น่ากิน ทุกปีชาร์ลีจะได้รับของขวัญวันเกิดเป็นช็อคโกแล็ตแท่งเล็กๆหนึ่งแท่งนอกจากวันเกิดแล้วชาร์ลีไม่มีโอกาสได้กินช็อคโกแล็ตอีกเลยแม้เขาจะต้องการมันมากเพียงใดก็ตาม
วันหนึ่งเจ้าของโรงงานช็อคโกแล็ตมิสเตอร์วองการ์ได้ประกาศว่าจะให้เด็กผู้โชคดีที่เป็นเจ้าของบัตรสีทองที่ซ่อนตัวอยู่ในช็อคโกแล็ตที่ผลิตออกมาจากโรงงานเป็นผู้ได้เข้าชมโรงงานโดยบัตรจะมีอยู่5 ใบผู้โชคดีสามารถเข้าเยี่ยมชมโรงงานได้พร้อมผู้ปกครองและเมื่อกลับจากการเยี่ยมชมโรงงานยังจะได้ขนมจากโรงงานกลับไปกินที่บ้านอีก1คันรถบรรทุกและสามารถมารับเพิ่มกินกันได้ไม่อั้น
เด็ก 5 คนที่เป็นผู้โชคดีนั้นก็มี ออกั๊สตั๊ส กลู๊ปเด็กชายยอดตะกละ,เวรูก้าซ้อลท์เด็กหญิงที่พ่อแม่ตามใจจนเหลิง,ไวโอเล็ต โบรีการ์ดเด็กหญิงที่เคี้ยวหมากฝรั่งทั้งวันไม่มีหยุดปาก,ไม้ค์ ทีวีเด็กชายที่ไม่สนใจอะไรนอกจากการดูทีวีและคนสุดท้าย ชาร์ลี บัคเก็ตเด็กชายยากจนที่สุดแสนจะโชคดี
ชาร์ลีไปเยี่ยมชมโรงงานกับปู่โจส่วนเด็กที่เหลือมีพ่อหรือแม่ไปเป็นเพื่อน มิสเตอร์วองการ์พาเยี่ยมชมในโรงงานผ่านห้องต่างๆ ที่สุดแสนจะพิศดารเด็กแต่ละคนก็ทำตามใจตนเองไม่เชื่อฟังคำสั่งดื้อดึงจึงทำให้ต้องประสบกับเรื่องแปลกๆต่างๆกันและค่อยๆถูกทยอยส่งออกจากโรงงานทีละคน
จนในที่สุดเหลือชาร์ลีเป็นคนสุดท้ายและเมื่อนั้นมิสเตอร์วองการ์จึงบอกกับเขาว่าสาเหตุที่ให้เด็กมาเยี่ยมชมโรงงานก็เพื่อจะคัดหาตัวทายาทรับช่วงสืบทอดโรงงานต่อไปและชาร์ลีก็เป็นเด็กผู้โชคดีคนนั้น
โรงงานช็อคโกแล็ตมหัศจรรย์เป็นวรรณกรรมสำหรับเด็กที่มีรายชื่อติด1 ใน 50 เล่มที่ควรอ่านก่อนโต (ที่มา://www.chulabook.com/article-detail.asp?articleid=1210)