วันนี้ Decor.Mthai นำ หลักฮวงจุ้ย มาฝากเพื่อนๆ เพราะฮวงจุ้ยคอนโดฯ กับฮวงจุ้ยบ้าน มีหลักการที่ต่างกัน โดยจุดแตกต่างจะมีอยู่ 2 ส่วนหลัก คือ ชัยภูมิที่ตั้งคอนโดฯ จะมีการแยกระดับชั้นอย่างเด่นชัด และมีการแบ่งแยกห้องเป็นส่วนตัวอย่างชัดเจน ซึ่งคำถามที่ฮอตฮิตที่สุดก่อนซื้อคอนโดฯ ก็คือ อยู่ชั้นไหนจึงจะถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย และเป็นมงคลต่อชีวิตมาก การเลือกชั้นคอนโดฯ นั้น มีอยู่หลายแบบ ขึ้นกับการเลือกใช้ ระบบฮวงจุ้ย ว่าจะเลือกระบบใด ซึ่งสามารถมองในภาพรวมได้ 2 แบบ ใหญ่ๆ คือเลือกโดยการดูพลังของธรรมชาติภายนอกแบบโดยรวม หรือที่เรียกว่า ยุค เป็นหลัก และการเลือกโดยดูจากตัวบุคคล เช่นการใช้ ปีเกิดเป็นหลัก
หลักฮวงจุ้ย คอนโด
หลักการเลือกชั้นคอนโด ตามหลักฮวงจุ้ย
- สำหรับหลักการเลือกชั้นคอนโดฯ ตามยุค ในหลักการของยุค ทั้ง 5 : จะมีการแบ่งรอบปี 60 ปี หรือ 60 กะจื้อ ออกเป็น 5 กลุ่มธาตุ คือ ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไม้ ธาตุไฟ
- อาคารที่เจริญรุ่งเรืองในช่วงปี พ.ศ. 2539-2550 จะจัดอยู่ในยุคธาตุไฟ ดังนั้นควรเลือกชั้นที่ลงท้ายด้วยเลข 0, 2, 5, 7 เป็นต้น
- อาคารที่เจริญรุ่งเรืองในช่วง พ.ศ. 2551-2562 จะจัดอยู่ในยุคธาตุไม้ ดังนั้นควรเลือกชั้นที่ลงท้ายด้วยเลข 2, 3, 7, 8 เป็นต้น
- ส่วนหลักการเลือกชั้นคอนโดฯ ตามปีเกิด : สามารถสังเกตได้ ดังนี้ ปีชวดคือธาตุน้ำ ปีฉลูคือธาตุดิน ปีขาลคือธาตุไม้ ปีเถาะคือธาตุไม้ ปีมะโรงคือธาตุดิน ปีมะเส็งคือธาตุไฟ ปีมะเมียคือธาตุไฟ ปีมะแมคือธาตุดิน ปีวอกคือธาตุทอง ปีระกาคือธาตุทอง ปีจอคือธาตุดิน ปีกุนคือธาตุน้ำ โดยเลือกชั้นที่พลังธาตุเป็นธาตุเดียวกัน หรือมาช่วยส่งเสริมกัน โดยใช้หลักแห่งธาตุทั้งห้า หรือเบญจธาตุโดยสามารถแบ่งได้เป็น
- - ปีชวด ควรอยู่ชั้นที่ 1,6,4,9
- ปีฉลู ควรอยู่ชั้นที่ 2,7,5,10
- ปีขาล ควรอยู่ชั้นที่ 3,8,1,6
- ปีเถาะ ควรอยู่ชั้นที่ 3,8 1,6
- ปีมะโรงควรอยู่ชั้นที่ 2,7,5,10
- ปีมะเส็ง ควรอยู่ชั้นที่ 2, 7, 3, 8
- ปีมะเมีย ควรอยู่ชั้นที่ 2, 7, 3, 8
- ปีมะแม ควรอยู่ชั้นที่ 2, 7, 5, 10
- ปีวอก ควรอยู่ชั้นที่ 5, 10, 4, 9
- ปีระกา ควรอยู่ชั้นที่ 5, 10, 4, 9
- ปีจอ ควรอยู่ชั้นที่ 2, 7, 5, 10
- ปีกุน ควรอยู่ชั้นที่ 4, 9, 1, 6
ตกแต่งห้องให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย
ตกแต่งห้องให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย : โดยลองหา ภาพวาด หรือลวดลายพื้นกระเบื้อง หรือผ้าม่านที่เป็นรูป ดอกไม้ เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข ทั้งจะส่งผลให้ชีวิตเบ่งบาน สำราญใจ ด้วยมีสีสันเข้ามาประดับเส้นทางชีวิตให้สดใสนั่นเอง
- รูป ระลอกน้ำ จะนำพามาซึ่งความสบายใจ ส่งผลให้ไม่ว่าเจ้าของห้องจะเจอะเจอเรื่องใดมาก็ตาม หากได้เห็น ภาพนี้แล้วจะรู้สึกใจเย็นขึ้น มีสติ คิดรอบคอบ ซึ่งจะส่งผลดีต่อชีวิตในระยะยาว
- รูป เหรียญทอง จะนำพามาซึ่งชัยชนะ การไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆ หรืออาจหา
- รูป ปลาทอง มาเลี้ยงในตู้กระจก หรือโถแก้ว เพื่อเรียกโชคลาภ เงินทอง เพื่อความร่ำรวย มีกินมีใช้ตลอดไป ไม่ตกอับยากจน อันเป็นมงคลยิ่ง ควรตั้งไว้บนชั้นในห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น เพื่อเสริมบารมีชีวิต
ของตกแต่งที่ไม่ควรนำมาแต่งห้อง : ได้แก่ ภาพวาด หรือลวดลายพื้นกระเบื้อง ผ้าม่านหรือพรมที่เป็นรูป งู เพราะงูเป็นสัญลักษณ์ของความอาฆาต ซึ่งส่งผลให้หมกมุ่นอยู่กับอารมณ์โกรธ และยังเป็นเครื่องหมายของตัณหาราคะ ส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในห้องนั้นฝักใฝ่แต่เรื่องโลกีย์
- รูป นาฬิกาทราย ชอบได้ แต่อย่านำมาไว้ที่ห้องจะดีกว่า เพราะนาฬิกาทรายจะมีลักษณะของการไหลเวียนอยู่เรื่อยๆ ส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในห้องนั้นต้องเผชิญกับการงาน หน้าที่ต่างๆ รวมทั้งภารกิจอันหนักอึ้ง ทำให้เหนื่อยและต้องทำอย่างรีบเร่งจนไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างสุขสบายเลย
- รูป ม้าลาย ก็ให้ใช้เฉพาะกับการแก้บน หรือทำอย่างอื่น แต่ไม่ควรนำมาแต่งห้อง เพราะจะส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยและคนร่วมห้องมีแต่เรื่องแตกแยกกัน และจะไม่มีโชคลาภเข้ามาหาเลย
- รูป จระเข้ ก็เช่นกัน เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของความเจ้าเล่ห์เพทุบาย ซึ่งจะทำให้อับโชค และมีคนคอยคิดมุ่งร้ายต่อคุณและคนในครอบครัว
- รูป หนู ไม่ควรนำมาแต่งห้อง เพราะมีความหมายไม่เป็นมงคลเช่นกัน เนื่องจากจะทำให้ถูกหักหลัง หรือถูกหลอกลวงจากคนนอกที่อาจมาฉกฉวยโอกาสหาผลประโยชน์เอาเปรียบได้ง่าย
แนะนำกันพอสังเขป สำหรับในชีวิตจริงไม่ว่าจะอาศัยอยู่ชั้นใดของคอนโดฯ ก็ตาม หากปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแล้ว สิ่งไม่ดีทั้งหลายจะแพ้ไปเอง พึงระวังการนำของตกแต่งที่ไม่ดีออกไป เพื่อมงคลแก่ชีวิต ทั้งนี้ทั้งนั้นการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและการทำความดี คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะต่อให้ปฏิบัติถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยแค่ไหน แต่ถ้าในแต่ละวันปล่อยจิต ละเลยใจ ชีวิตก็จะพบแต่ความยุ่งเหยิง
credit : nanapaint