ประเดิมภาพเปิดด้วยห้องพักของเรา ณ โรงแรมอัมพวาน่านอน กันไปเลยค่ะ
หลังจากปล่อยภาพนี้เรียกน้ำย่อยให้เพื่อนหลายคนได้เห็นกันมาบ้างแล้ว โรงแรมอัมพวาน่านอน โรงแรมบูติคขนาดอบอุ่น ภายใต้แนวคิด“สว่าง สะอาด สงบ” และอยากมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ในทุกมุม ทุกจุด แล้วคุณจะรักอัมพวาอย่างที่เคยรักเค้าว่างั้นอะ ^^
เดินทาง เส้นทางเดินรถ เราใช้เส้นถนนเลี่ยงเมืองอัมพวาจะสะดวกที่สุดนะคะ หากถามว่าหลงทางอีกมั้ย ?? นะคะ 555 ไม่ใช่อะไร ตามถนนถนนทางเมื่อเข้าเขตอัมพวานั้นจะมีป้าย ว่าเรามาถูกทางเค้าชัวร์ พิกัด GPS โรงแรมอัมพวาน่านอน 13.426418,99.955431 ขับรถตรง ไปทางตลาดน้ำ ด้านขวามือมีป้ายโรงแรมบอกให้ด้วย เลี้ยวขวาๆ เจอตึกสีเทา 5 ชั้นขับเข้าไปจอดกันได้เลยค่า~อ้อ!! ที่จอดรถเราเห็นมีคนเดินมาจะเสียบบัตรจอดรถด้วยล่ะ นะคะ พื้นที่จอดรถบริเวณนี้กว้างค่ะ ล็อบบี้อยู่ชั้น 1 ด้านซ้ายมือเป็นห้องอาหาร ขวามือเป็นมุมพักผ่อนนั่งเล่น มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเล่นกันหลายจุดเลยล่ะค่ะ อ้อ มี Welcome Drink ด้วยนะคะ เราจำไม่ได้ว่าน้ำอะไร คอแห้งดื่มหมดแล้วลืมถ่ายรูป ฮี่
เช็คอิน นเรียบร้อยล่ะ ว่าแล้วก็เข้าไปยังห้องพักของเรากันได้เลยค่า ~ อกไปอะเปล่าไม่รู้ เราชอบการตกแต่งอย่างมีสไตล์ เข้ากันๆ ของโรงแรมอัมพวาน่านอนนะคะ เรียกว่า อย่างเพลิน ถึงห้องพักเราแล้วค่า ป้ายห้องพัก เก๋ได้อีกนะ อิอิ Dreamy Deluxe คือรูปแบบห้องพักของเราค่ะ มีระเบียงที่กว้างมาก เอาไว้นั่งเล่น Chill Chill กันไว้คืนนี้ก่อนล่ะกัน ตอนนี้เข้ามาสำรวจภายในห้องพักกันค่าโทนห้องสีเหลืองดูอบอุ่นมากในสายตาเราอ่ะ ส่วนห้องน้ำ ประตูเป็นแบบไม้ขัดเก๋ได้อีก เปิดเข้าไป อะจ๊ากกก เจอชักโครกเลยทันที เมื่อ ดินเล่นยัง ตลาดน้ำอัมพวานะคะใกล้มากๆ เลยล่ะ หาของกินอร่อยๆ กันดีกว่า แบบว่าหิวแล้ววววเดินมองดูร้านไหนพอมีที่นั่งว่างมั่ง วันเสาร์คนเยอะเป็นพิเศษ หาร้านที่ถูกใจยากหน่อย นั่งกันริมน้ำนี่แหละน้า ขอแค่มีที่นั่งก็พอแล้ว สั่งๆ โลด ปลาหมึกย่าง ปูนึ่ง กุ้งเผา ว 555 อะๆ เดินเล่นกันต่อ หน้าโรงแรมอัมพวาน่านอนมีคิวรถตู้จากอนุสาวรีย์ฯเพียบค่ะ ประมาณว่า ใครไม่ได้ขับรถส่วนตัวมาหาที่จอดลำบากอีก ก็นั่งรถตู้มาลงที่นี่ได้เลย สะดวกรวดเร็วดีออก ส่วนเราเดินกลับโรงแรม หลังจากมีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่า “คุณรินคะ คืนนี้เราเตรียมดินเนอร์ไว้ให้นะคะ” แฮ่ เพิ่งอิ่มมาหยกๆ จะมีมีอีกเซ็ตแล้วเหรอคร๊าา ^^
ห้อง มุม ๆ มี ขอให้ตากล้องเจ้าเสน่ห์ถ่ายรูปให้หน่อยดี้มุมสวยๆแบบนี้จะพลาดได้ไงล่ะนั่น ^^ ~ คราวนี้เดินมายังฝั่งซ้ายมือกันมั่ง จะเป็นมุมสำหรับดินเนอร์คืนนี้ค่ะ ซึ่งลูกค้าของทางโรงแรมสามารถสั่งอาหารจากทางโร งแรมมานั่งรับลม ชมวิวในบริเวณนี้ได้ มองเห็นวิว ทิวทัศน์ เมืองแห่งสายน้ำ ตลาดน้ำ ทิวต้นมะพร้าวและพื้นที่ข้างเคียงได้โดยรอบ นั่น พนักงานกำลังจัดโต๊ะกันล่ะนะ โต๊ะ เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาดินเนอร์ของเราล่ะ ค่า ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปเปลี่ยนชุดสวยๆ ให้เข้ากับบรรยากาศเค้าซะหน่อย แต่ติดว่าขี้เกียจอ่ะ เสื้อยืด เกงยีนส์นี่แหละ ดูแมนดี มาดูรายการอาหารกันเลย บนโต๊ะทั้งหมดนี่แหละค่ะ "ปลาทู" ส่วนคนตรงหน้าเราเล่าว่า คนแม่กลองของแท้เค้าทำการแกะปลาทูทั้งตัวด้วยช้อนได้สวยมากเลยนะเออ พร้อมทั้งสาธิตให้เราดูการแกะปลาทูของตัวเองบ้างล่ะ อ้าว !! เนื้อปลาทูหลุดลุ่ยออกมาด้วยล่ะนั่น อ้อ !! ก็ไม่ใช่คนแถวนี้นี่นา เลยไม่เซียน อดโชว์พาวเลยใช่มั้ย ฮ่าาา กับค่ำคืนนี้ ที่นี่ อัมพวาน่านอน
คืน ในเมื่อเราตื่นแล้ว หลับต่อไม่ลงล่ะเนี่ย ก็เลยได้ที ไปปลุกคนอื่นๆเค้าไปทั่วล่ะกัน ถูกบ่นกันเชียว 555 (นิสัยเค้าดีเหอะ) ก็เป็นอันว่า การตื่นเช้าสุดๆของเราในวันนั้น ทำให้ได้มีโอกาสได้ไปเดินเล่นตลาดน้ำอัมพวายามเช้าตรู่กัน ไปดูกันค่ะยามเช้าที่นี่จะเป็นอย่างไรน้า เนื่องจากบริเวณพื้นที่ของโรงแรมอัมพวาน่านอนใกล้ตลาดน้ำอัมพวา ด้านข้างและด้านหลังโรงแรมฯเราสามารถเดินทะลุเข้าไปยังตลาดน้ำได้ใกล้กว่าที่จะเดินออกทางด้านหน้าโรงแรมนะคะเช้านี้เราจึงมาเดินลัดเลาะออกด้านข้างมั่งเจอมุมเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปเล่นเพียบเลยอะ !! จัดไปค่า ~ พวกเราพากันเดินทะลุมายังตลาดน้ำอัมพวาช่วงเช้าที่ไร้คนร้านรวงต่างๆ ยังไม่เปิดขาย มีแต่มุมตลาดยามเช้านิดหน่อย ช่างต่างกับช่วงกลางวันและเย็นยิ่งนักอากาศช่วงเช้าๆ กำลังเย็นสบายๆ ^^ พากันเดินเล่นเก็บภาพเพลินๆได้ ในสภาพที่ยังง่วงๆ นั่นแหละล่ะ 555 ยามเช้าเราก็ยังไม่ได้ล้างหน้ามาเดินกันในสภาพนี้แหละ ไม่ต้องเสียเวลาแต่งหน้า อิอิ ตัดฉับ ื้อเช้าของเราบุฟเฟ่ต์จากทางโรงแรมค่ะ ช่วงที่เราไปพักเป็นช่วงกินเจ จึงมีอาหารเจจำนวนมาก แต่ที่ขาดไม่ได้อีกนั่นคือ ปลาทู รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ของทางโรงแรมด้วย เห็นบอกว่าเป็นความตั้งใจอย่างหนึ่งที่อยากให้ชิมปลาทูต้นตำรับทอดร้อนๆ พร้อมกับน้ำพริกตามวิถีชีวิตของคนที่นี่ค่ะ ระหว่างนั้นก็มีสาวน้อยน่ารักๆ านั่งเล่นดนตรีไทยให้ฟังที่ห้องอาหารของทางโรงแรมด้วย
เมื่ออิ่มๆ กันแล้วก็ไปแปลงร่างกันค่า คราวนี้อาบน้ำแล้วล่ะนะตัวหอมๆ อิอิหลังจากที่เดินสำรวจมุมต่างๆภายในโรงแรมเมื่อวานก็อยากเก็บภาพเป็นที่ระลึกสักหน่อย กว่าจะได้รูปมานี่ต้องไหว้วานตากล้องถ่ายให้นะเนี่ยกว่าจะได้ภาพที่ถูกใจตากล้อง ก็ถูกดุ ถูกแว๊ดๆ กันจนหน้าชาไปเลย 555แต่พอเห็นภาพแล้วก็ทำให้ยิ้มกว้างงงงงได้อีกเพราะเราไม่เคยถ่ายรูปแนวนี้เลย จึงเรียกเช็ตนี้ว่า เรามาเก็บภาพห้องพักกันต่อค่า คราวนี้ขึ้นมาชมห้องใหญ่สุดแบบครอบครัวกันมั่ง พื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง มีห้องนอนเล็กใหญ่สองห้อง จำได้ว่ามีเพื่อนบล็อกคุณ NET-MANIA พร้อมครอบครัวเคยมาพักห้องนี้ด้วยเปิดประตูเข้าไปกันเล้ย ~ ห้องนอนใหญ่เตียงเดี่ยว และห้องนอนเล็กเตียงคู่ สีสันโทนสดใส สังเกตมาตลอดว่าโรงแรมอัมพวาน่านอน ไปไหนก็เจอหมอนเยอะมากๆเลยนะคะ หมอนสีสันไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือไม่ก็โซนล็อบบี้ หมอนเค้าเพียบค่า แบบห้อง Moonlight Sere nade มีห้องน้ำแยกส่วน 2 ห้องค่ะ ต่างจากแบห้องอื่นส่วนเครื่องอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นตู้นิรภัย ไดร์เป่าผม มินิบาร์ทุกห้องมีเหมือนกันหมดนะคะน้ำเปล่าฟรี 2 ขวด ชา-กาแฟก็ฟรี มาเปิดตู้เย็น สำรวจมินิบาร์กัน
แบบห้องต่อไปค่า Sleepy Deluxe ห้องนี้โทนสีฟ้า ให้ความรู้สึกเย็นและผ่อนคลายของเรานะคะ ภายในห้อง ภาพวาดเป็นวิว ีชีวิตชุมชนของชาวอัมพวาห้องพักกว้าง โล่ง
ส่วนห้องนี้สีเขียว หมอนสีชมพู
วามอ่อนนุ่มอัมพวาน่านอน ที่เราได้สัมผัสมาแล้วและอยากบอกต่อภายใต้คอนเซปต์"สว่าง สะ อาด ส งบ" ภายในความรู้สึกนั้นๆ เราก็ว่าตรงประเด็นทุกอย่างแถมให้อีกความรู้สึกหนึ่งการดูแล เทคแคร์ลูกค้าได้ใจเราไปเต็มๆ3 ผ่านไปเลยค่า ^^ ติดตามชม Review ฉบับใหม่ของเรา อีกเช่นเคย ที่นี่เร็วๆนี้ค่า 
แค่ภาพแรกก็อยากกระโจนลงไปนอนที่เตียงสวยๆนุ่มๆนั่นเลยคร้าคุณริน
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 316 คน [
เป็นโรงแรมที่ขนาดเล็กๆ
แต่คุณภาพไม่เล็กเลยหล่ะ
เหมาะกับการพักผ่อนและถ่ายรูปมากๆ
มุมเล็กๆน้อยเค้าเก็บลายละเอียดไว้หมดเลย
อาหารเช้าก็ดูดีที่มีปลาทู 555
แต่พี่ชอบด้านบนนะ นั่งกินลมชมวิวดี
แถมชอบสุดๆ เดินไปช้อปกลับเอามาเก็บได้สะดวกดี
คาดว่าหลังจากรีวิวออน์แอร์
คงจะเต็มตลอดจองไม่ทันแน่นอน
ภาพเซ็ทนี้ ดูคม ชัดขึ้นเยอะเลย
แถมยังมีนางแบบเซ็กซี่ให้ดูด้วยหล่ะ