บล๊อกประจำวัน จันทร์ / ศุกร์ |
|
กระเช้าไฟฟ้าออกจากสถานี ไหลเลื่อนลงสู่ข้างล่างผ่าน ยอดสน |
ไม่เหมือนนั่งเรือไวกิ้ง หรือพวกที่ทิ้งดิ่ง แต่ไหลลงแบบนุ่มนวล |
อากาศเย็นสบาย ชะโงกดูข้างล่างเห็นแต่ยอดไม้ เนินเขา ไม่นานก็เห็นสีเขียวของผัก |
ในแปลงข้างล่าง ที่ปลูกลดหลั่นของเนินเขา ยอมรับว่า สวย...
|
|
เสียดายที่สุด นั่งด้านซ้าย เอื้อมมือไปถ่าย ตรงหน้าต่างไม่ได้ ได้แต่มองผ่านกระจก |
ของตัวเคเบิลคาร์... ใจนึกอยากจะขอเปลี่ยนที่นั่งกับเพือน แต่ก็ไม่กล้า |
ไม่ได้กลัวเขาด่านะครับ กลัวเคเบิลคาร์มันโยก 555
|
นั่งถ่ายภาพเท่าที่ทำได้ ส่วนใหญ่จะมองไปข้างหน้า ไกล... เลยไม่รู้สึกนึกกลัวความสูง |
แต่แหะ ๆ ก็หวั่นนิด ๆ ผมว่ามันสูงมาก ๆ เห็นคนอยู่ข้างล่างตัวนิดเดียว
|
|
นั่งอยู่ข้างบน ไม่นาน... เสียวอยู่ระยะเดียว 555 อย่าเพิ่งหัวเราะนะครับ ผมหมายถึง |
รู้ตัวเองว่า นั่งอยู่บนกระเช้า มันค่อยเลือนนิ่มนวล กลัวอยู่บ้างเป็นชั่วขณะหนึ่งแล้วก็ |
เกิดความเพลิดเพลิน อยากนั่งนาน ๆ
|
|
มองลงไปเห็นบ้านชาวสวน สลับกับยอดสนที่สูงต่ำ แปลงผักสีเขียว ดินสีแดงปนดำ |
ลักษณะคล้ายนาขั้นบันใด แต่ไม่มากเท่า บาหลี แหะ ๆ ยังกะเคยไป |
ดูตามภาพในนิตยสารนะครับ |
|
เกือบถึงสถานี เบื้องล่าง เห็นต้นไม้ บางชนิด ใบไม่ค่อยมีเกือบจะเรียกว่า โกร๋น |
มีลูกสีเหลือง ส้ม อยู่ประปราย เพ่งมองครู่เดียว อ้อ.. Persimmon หมายถึงลูกพลับ |
ลูกเล็กไม่สวย เท่าที่ขายในตลาด
|
|
ดูแล้ว เขาคงให้เทพธิดาเลี้ยง ก็เทพท่านเลี้ยงลูกไม่เป็น ขนาดลูกตัวเองยังส่งให้ |
คนไทยเลี้ยงอยู่ 555 |
ลูกพลับเลยเล็ก น่าจะผลโตขนาดมะนาวแป้น |
|
อ้าวเผลอนั่งดูลูกพลับ สลับกับทะเลสาปสีน้ำเงิน ที่อยู่ไกลออกไป แพล๊บเดียว
|
เคเบิลคาร์ ก็เลือนเข้าสู่สถานี พอประตูเปิดออก พวกเราก็รีบก้าวลงไม่ให้เกะกะคนอื่น |
ตัวรถมันเลื่อนช้า ๆ แล้ว คงจะวนขึ้นไปข้างบนอีก
|
|
เสียดายจัง แอบสอบถามไกด์สาวใส่แว่นตา เขาคิดค่าบริการเที่ยวเดียว ประมาณ |
90 บาท เราไม่ต้องเสียอีก เขาคิดรวมค่าใช้จ่ายเดินทางแล้วละ เรานั่งรถผ่าน เนินเขา บ้านชาวบ้าน ไปหลายแห่ง ถนนสวย |
|
.......
....
.....
......
.....
....
.....
.....
.......
|
|
|
นั่งรถในเมือง ดาลัด ถนนจะสูงต่ำ ขึ้นเนินเขา บ้านคนปลูกกันสวยงาม มีบริเวณ |
แบบฝรั่งเศส ให้สีสวย หวาน |
|
คุยกับคนเวียตนาม เขาบอกว่า บ้านที่ดาลัด ทางราชการเขาให้เก็บรักษาภาพลักษณ์ |
แบบนี้ไว้ให้เป็นเมืองตากอากาศ |
|
ใครจะสร้างใหม่ต้องยื่นแบบแปลน ให้คล้ายบ้านชาวฝรั่งเศส รวมทั้งกำหนดสีด้วย |
หากเป็นไปตามนั้น ทางการจึงจะออกใบอนุญาต สร้างบ้านให้ |
|
ผมว่าดีนะ ที่ราชการกำหนดนโยบายแบบนี้ไว้ แม้ในสมัยก่อน ฝรั่งเศสจะเข้าครอบครอง |
กอบโกยทรัพยากร ไปเยอะมาก เมื่อ ท่านโฮจิมินห์ และ พลเอก โว เหงียน เกี๊ยบ ร่วมกัน |
ต่อสู้ขับไล่ฝรั่งเศส ออกไปได้
|
|
แม้จะขมขื่นต่อการถูกกระทำ แต่ฝรั่งเศส มีสิ่งดีที่ก่อสร้างเมือง สวยงามไว้ |
ราชการเวียตนาม แยกออก ว่า สิ่งไหนดี สิ่งไหน ไม่ดี ออก |
เขาจึงเก็บรักษาสิ่งที่ดีไว้ ปัจจุบันเลยเป็น จุดขาย เรียกเงินตราต่างประเทศเข้าสู่เวียตนาม |
ได้เยอะ |
|
ที่เห็นผ่านตา.. ดาลัดเป็นเมือง ตากอากาศ และเมือง เกษตรกรรม เป็นส่วนใหญ่ |
ขณะนั่งรถผ่าน จะเห็น แปลงผักโซนอากาศหนาวเย็น มีโรงเรือนหลังคาพลาสติกขาว |
ทอดยาว ไปตามเนินเขา
|
|
เสียดายที่ เราไม่ได้ขับรถซอกซอนไปเที่ยว แบบที่ผมเองใช้ในไทย โดยเฉพาะภาคเหนือ |
จะได้เห็นแปลงผัก เทคโนโลยีในการปลูก การเก็บ การให้ปุ๋ย |
การให้น้ำ
|
|
ถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาศไปเที่ยว ลองจัดเป็นทัวร์กลุ่มเล็ก ไปค้างตามหมู่บ้านคล้าย |
โฮมสเตย์ กินนอนอยู่กับชาวสวน
|
ตื่นมา จะได้เห็นหมอก จับ ใบพืช อากาศหนาว สายน้ำไหลในร่องน้ำ หรือดูสปริงเกลอร์ |
ที่เขาเปิดสาดไปทั่วแปลงผัก |
|
กลางคืนกลัว เหงา ก็ให้รถทัวร์เล็ก ๆ ไปส่ง ถนนคนเดิน กลางใจเมืองดาลัดที่ผม |
พักอยู่ เดินกันสัก 3 ชม.. ได้ของกิน ของฝากเยอะ ค่อยกลับ |
ไปค้างที่โฮมสเตย์
|
|
ขอบอกว่า กว่า 80 % พื้นที่เป็นแปลงเกษตร เป็นเนินสูงต่ำ สุดลูกหูลูกตา |
ถ้าใครเคยเห็น หมู่บ้านแอ่งดอย โป่งแยง อ.แม่ริม เชียงใหม่ |
แบบนั้นเลย... |
|
ขอบคุณน้องอิ้งค์ แห่ง Bloggang ช่วยแนะนำ แก้ไข จนผมลงภาพได้ |
ทราบซึ้งมากครับ เอาใจใส่ตลอด |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ
end visit บล๊อก 623,433 st
=
งานเขียนประเภท Diarist
เพื่อน จากเฟซบุค/บล๊อกแกง แวะมาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้
ที่กล่องความเห็น.. ผมจะได้แวะไปเยือน ตอบแทนครับ
ขอบคุณล่วงหน้า
|
|