LovelyTrip เที่ยวทุกที่ที่ใจอยากไป
Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
17 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
รับประทานผลไม้สดให้ถูกวิธี





เมื่อพูดรับประทานผลไม้สดก็จะนึกถึง ผลไม้หั่นเป็นชิ้นๆ เคี้ยวแล้วรีบกลืนลงท้อง ความจริงไม่ง่ายเช่นนั้น 

ถ้าต้องการกินให้ได้ผล ต้องพิถีพิถันในเวลารับประทานผลไม้ดังกล่าวอะไรคือ...การกินแบบถูกวิธี ?

อย่ากินผลไม้หลังอาหาร  

ควรกินช่วงเวลาที่ท้องว่างเท่านั้น เช่นนี้แล้วผลไม้ถึงจะมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ และสามารถให้พลังงานแก่ร่างกาย รวมถึงลดความอ้วนได้อีกด้วย และมีผลต่อการร่วมและการก่อกำเนิดปฎิกิริยาในด้านอื่นๆอีก ผลไม้จึงจัดว่าเป็นอาหารที่มีส่วนสำคัญต่อการดำรงชีวิต

ลองนึกภาพดู ถ้าเรากินขนมปัง 2 แผ่น  หลังจากนั้น กินผลไม้ 1 ชิ้น 

ตามหลักแล้ว ผลไม้จะผ่านผนังกระเพาะอาหารก่อนเข้าสู่ลำไส้ แต่กลับถูกขวางทางจากอาหารอื่นที่รับประทานก่อน เมื่อผลไม้ที่กินเข้าไปผสมกับอาหารและน้ำย่อยที่เป็นกรดในกระเพาะอาหาร สรรพคุณผลไม้ก็ถูกเปลี่ยนไปด้วย

การรับประทานผลไม้ก่อนอาหาร 

หลังอาหารแล้วรับประทานผลไม้ คุณคงเคยได้ยินคนบ่นว่า ทุกครั้งที่กินแตงโมก็จะสะอึก ถ้ากินทุเรียนท้องจะจุก หากกินกล้วยหอมจะระบายอ่อนๆ เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่มาจากผลไม้และอาหารที่เริ่มย่อยสลายผสมผสานจนเกิดแก๊สขี้น

แต่ทว่าถ้ารับประทานผลไม้ก่อนรับประทานอาหาร ก็จะไม่เกิดเหตุดังกล่าว ผมขาว ผมร่วงศีรษะล้าน เคร่งเครียด นอนไม่ค่อยหลับจนขอบตาดำ เมื่อทานผลไม้ในขณะท้องว่าง ลักษณะดังกล่าวเบื้องต้นก็จะจางหายไป 

ดร. เฮ่อโป๋ ได้บอกผลวิจัยไว้ว่า เมื่อผลไม้เข้าสู่ร่างกายจะมีผลเป็นด่าง ดั่งเช่น ส้ม หรือมะนาวที่มีรสเปรี้ยวก็ตาม  ก็ล้วนเป็นอาหารที่มีความเป็นด่าง 

ประเด็นสำคัญคือการรับประทานผลไม้ในเวลาที่ท้องว่าง เพื่อให้ผลไม้ได้ช่วยเสริมความสวยงาม และอายุจะได้ยืนยาวนาน สุขภาพแข็งแรง มีพลามัยที่ดี มีความสุขและหุ่นดีอีกด้วย เมื่อคุณคิดจะดื่มน้ำผลไม้  ก็อย่าดื่มน้ำผลไม้กระป๋อง อย่านำผลไม้หรือน้ำผลไม้ไปอุ่นให้ร้อน เพราะจะเหลือเพียงรสชาติ คุณประโยชน์ที่ดีของผลไม้จะถูกทำลายสิ้น 

การรับประทานผลไม้ทั้งลูกย่อมดีกว่าดื่มน้ำผลไม้ 

แต่ถ้าต้องดื่มน้ำผลไม้ต้องดื่มเป็นคำคำ เพื่อให้น้ำลายได้คลุกเคล้ากันให้ทั่ว ก่อนดื่มลงไป

คุณสามารถรับประทานผลไม้ 3 วัน ติดต่อกัน เพื่อชะล้างร่างกายให้สะอาด ผิวพรรณจะนวลผ่อง ผู้พบเห็นจะตื่นตาตื่นใจ

กีวี 





ผลเล็กแต่มากด้วยสรรพคุณ ประกอบด้วยสาร โปตัสเซี่ยม แมกเนเซี่ยม วิตามินE และไฟเบอร์ มีวิตามินC เป็น 2 เท่าของผลส้ม

แอปเปิล

มีวิตามีC ต่ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยให้วิตามินCตื่นตัว ช่วยลดการเกิดมะเร็งในลำใส้ โรคหัวใจและโรคลมชัก จึงมีคำพังเพยที่ว่า “รับประทานแอบเปิลวันละผล แพทย์จะจน เพราะทุกคน สุขภาพดี”

สตรอเบอรี่ 





เสมือนหนึ่งเป็นผู้คุ้มกันปกป้องร่างกายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี จึงได้รับฉายาว่า ราชาแห่งผลไม้ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องมิให้เกิดมะเร็ง การแข็งตัวของเลือดที่เกิดขึ้นในหลอดเลือดและสารอนุมูลอิสระ

ส้ม





รับประทานวันละ 2-4 ผล สามารถต่อต้านไข้หวัด ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันหรือสลายนิ่วในไต ลดการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำใส้

แตงโม 




ประกอบด้วยน้ำถึง 95% :ซึ่งแก้กระหายได้ดี มีกลูตาไธโอนเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน มีตัวสำคัญของไลโคปีน สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน C และโปแทสเซี่ยม

ฝรั่งและมะละกอ 





มีวิตามิน C มากที่สุด ฝรั่งมีไฟเบอร์มากซึ่งแก้ท้องผูกได้ดี มะละกอ จะมีแคราตินส่งผลดีต่อดวงตา

เชื่อหรือไม่  ดื่มน้ำเย็นหลังอาหารก็จะเกิดมะเร็งได้ง่าย 

ดังนั้นหลังอาหารแล้วควรดื่มน้ำร้อน เพราะน้ำเย็นจะทำให้ไขมันที่กินเข้าไปแข็งตัว ซึ่งส่งผลเสียต่อการย่อย   ไขที่แข็งตัวทำปฎิกิริยากับกรดในกระเพาะ ทำให้ไขเป็นเกล็ดเล็ก ซึ่งง่ายต่อการดูดซึมในลำใส้ และจะฝังในผนังของลำใส้ ก่อตัวเป็นไขมัน ก่อให้เกิดมะเร็งนั่นเอง


ขอบคุณภาพจาก pinterest.com




Create Date : 17 กันยายน 2557
Last Update : 17 กันยายน 2557 11:30:09 น. 0 comments
Counter : 2050 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lovelytrip
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




จำนวนผู้ชม 5140140 ครั้ง
จำนวนผู้ชม Profile 970 ครั้ง

เที่ยวทุกที่ที่ใจอยากไป
New Comments
Friends' blogs
[Add Lovelytrip's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.