กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
 
พระราชปุจฉาอันเป็นมูล "พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณ"


พระมหาเจดีศรีสรรเพชญดาญาณ



......................................................................



ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้อันเชิญพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยา มีนามว่าพระศรีสรรเพชญ ซึ่งเสียหายจากเพลิงไหม้ครั้งเสียกรุงศรีอยุธยา ลงมาสู่กรุงรัตนโกสินทร์ ทรงพระราชดำริจะหลอมลงเอาทองสร้างพระพุทธรูปองค์ใหม่ขึ้น จึงให้มีพระราชปุจฉาโปรดให้สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) และพระราชาคณะทั้งปวง ประชุมค้นอรรถกถาแก้พระราชปุจฉานี้ เป็นที่มาของการสร้างพระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณ แห่งวัดพระเชตุพนฯ


......................................................................



พระราชปุจฉาที่ ๑


ว่าด้วยสิ่งซึ่งเปนกัลปนาสำหรับพระอารามฤาเจดียถาน ซึ่งยับเยินสาบสูญแล้ว จะควรเอาทรัพย์สิ่งของนั้นทำประการใด จึงจะไม่มีโทษ

ศุภมัศดุจุลศักราช ๑๑๔๖ นาคสังวัจฉรนักษัตรฉศก ไพศาขมาศกาฬปักษ์ปาติปเทดฤถีภุมวารปริเฉทกาลกำหนด พระบาทสมเด็จพระบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว เสด็จสถิต ณ พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ ทรงพระกรุณาดำรัสเหนือเกล้าฯ ประภาษพระราชปุจฉาให้ออกหลวงศรีวรโวหารราชบัณฑิตลิขิตเขียนหน้าพระที่นั่ง แล้วเผดียงถามสมเด็จพระสังฆราชพระราชาคณะทั้งปวงว่า ท้าวพระยาเศรษฐีคหบดีผู้มีศรัทธาแต่ก่อน ถวายส่วยสัดพัฒนากรค่าที่เรือกสวนไร่นา อุทิศเปนกัลปนาบูชาไว้เปนของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สำหรับอารามใดๆ ก็ดี บัดนี้พระพุทธรูป พระสถูปเจดีย์วัดอารามทั้งปวง ก็ยับเยินสาบสูญไปเปนอันมาก และพระธรรมพระสงฆ์ผู้รักษาพยาบาลก็หามิได้ ยังแต่ค่าเรือกสวนไร่นาส่วยสัดพัฒนากรนั้น ชอบจะเอาของนั้นไปกระทำประการใดจึงจะสมควร หาโทษมิได้ ถ้าจะเอาทรัพย์สิ่งของนั้นมาสร้างพระไตรปิฎก แลจะทำการบูชาพระพุทธบาทมหาเจดียถานนั้น จะควรฤๅมิควรประการใด ให้สมเด็จพระสังฆราช พระราชาคณะทั้งปวงวิสัชนามาให้แจ้ง ฯ



แก้พระราชปุจฉาที่ ๑


อาตมาภาพ สมเด็จพระสังฆราช พระราชคณะทั้งปวง ๑๒ รูป ขอถวายพระพรว่า อารามมีผลไม้ดอกไม้ ถ้าหาผลไม้ดอกไม้มิได้ มีแต่ที่เปล่าก็ดี แลพระมหากษัตริย์ เศรษฐีท่านอุทิศเปนกัลปนาไว้ สำหรับขึ้นเปนของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในอารามต่างๆ สืบ ๆกันมาแต่ก่อน ท่านอุทิศไว้แต่เดิมนั้นเปนค่าจตุปัจจัย ถึงปีแล้วให้ถวายเปนบิณฑบาตเสนาสนะ คิลานเภสัช ครั้นเรียวมาราชบุรุษอารามิกโยมวัดคิดอ่านกัน เรียกเอาเปนกัปปิยวัตถุ เอาปนเงินเปนทองสืบกันมาตราบเท่าทุกวันนี้

บัดนี้วัดอารามสาบสูญไปเปนอันมากแล้ว มีแต่ที่เรือกสวนไร่นาซึ่งเคยขึ้นมาแต่ก่อน แลจะเอาส่วยสัดพัฒนากรอารามนี้ไปอุทิศบูชาแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อารามอื่นนั้นมิควร ครั้นจะเอาส่วยสัดพัฒนากรไปส่งไว้ตำแหน่งอารามเดิมนั้น หาผู้จะรักษาแลปฏิสังขรณ์มิได้ ของนั้นก็จะสาบสูญเสียเปล่า ถ้าอารามใดยังมีพระพุทธรูปอยู่ ควรจะนิมนต์มาปฏิสังขรณ์ได้ ให้อาราธนาลงมาปฏิสังขรณ์โดยควร ถ้าพระพุทธรูปใหญ่โตนัก มิควรจะอาราธนาลงมาได้ ให้เอาทรัพย์นั่นไปจำหน่ายเปนสัมภาระ ซื้อไม้ซื้อจากซึ่งจะเปนร่มพระพุทธรูปพอสมควรที่จะทำได้ ถ้าทรัพย์ทั้งปวงนั้นเหลืออยู่ จะสร้างพระไตรปิฎกนั้นเสร็จแล้ว ให้เขียนจาฤกอุทิศเฉพาะไว้สำหรับอารามนั้น แล้วจะช่วยพิทักษ์รักษาบูชาเรียนไปพลางกว่าอารามจะมีผู้พิทักษ์รักษาแล้วจึงส่งไปก็ควร ถ้าเปนของสงฆ์ให้สร้างกุฎีแลเตียงตั่งเปนอาทิถวายอุทิศไว้ให้พระสงฆ์อื่นบริโภคพลาง แม้นสงฆ์ในอาวาสเก่านั้นมีขึ้นเมื่อใด พึงให้ไปเปนของสงฆ์ในอาวาสนั้น ถ้าปลงเจตนาไว้ดังนี้แล้วจะเอาทรัพย์นั้นมาจำแนกแจกจ่ายปฏิสังขรณ์ดังว่ามานี้ ก็หาโทษมิได้

อนึ่ง ของเขาอุทิศพระเจดีย์องค์นี้แล้ว ผู้ใดจะเอาของพระเจดีย์องค์นี้ไปบูชาเจดีย์องค์อื่นมิควร ถ้าบูชาพระเจดีย์องค์เดิมนั้นแล้วแลเหลือไปบูชาองค์อื่นนั้นได้ แลซึ่งห้ามไว้โดยละเอียดว่าจะน้อมของที่นี่ไปที่โน่นมิได้นั้น พบบทแต่ห้ามสิกขาบทข้างฝ่ายพระภิกษุฝ่ายเดียว มิได้พบโทษในฆราวาส ถ้าฆราวาสผู้ใดบูชาพระเจดีย์เดิมแล้วแลเหลือ จะเอาของที่เหลือสร้างพระไตรปิฎกจาฤกไว้สำหรับอารามก็ควรจะทำบูชาสักการะพระพุทธบาทมหาเจดียถานก็ควร หาโทษมิได้ ขอถวายพระพร ฯ


......................................................................



จึงโปรดเกล้าฯให้ก่อพระมหาเจดีย์สวมครอบพระศรีสรรเพชญ และพระราชทานนามว่า “พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณ” และในรัชกาลต่อๆ มา โปรดให้สร้างพระมหาเจดีย์ตามอย่าง พระมหาเจดีย์ดิลกธรรมกรกนิทานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระมหาเจดีย์มุนีปัตบริขารเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจดีย์ทรงพระศรีสุริโยทัยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

และในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสว่า สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๔ พระองค์นี้ ได้ทรงเห็นกันมา พอเป็นเหตุให้ทรงสร้างพระมหาเจดีย์ทั้ง ๔ องค์นี้ได้ แต่นี้ต่อไปขอสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อภายหลังอย่าได้ทรงสร้างพระเจดีย์ในที่นี่อีกเลย.


....................................................................................................................................................


Create Date : 03 พฤษภาคม 2550
Last Update : 3 พฤษภาคม 2550 13:07:19 น. 2 comments
Counter : 3753 Pageviews.  
 
 
 
 
ชื่อคล้ายวัดพระศรีสรรเพชญ์ ที่พระบรมมหาราชวังกรุงศรีอยุธยา เลยนะครับ
 
 

โดย: Commencer วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:13:02 น.  

 
 
 
วัดนั้นแหละครับ ที่ประดิษฐานพระศรีสรรเพชญ์เดิม
สวัสดีครับ คุณ Commencer
 
 

โดย: กัมม์ วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:53:36 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

กัมม์
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




วิชา ความรู้จะมีค่าเมื่อถูกถ่ายทอด
[Add กัมม์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com