Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
30 กรกฏาคม 2559
 
All Blogs
 
ตอนพิเศษ : วุ่นนักรักต้องอุ้ม ๙





๙.
_______________________________________________________



ปานไพลินลืมตาขึ้นอย่างงัวเงียเมื่อได้กลิ่นอาหารโชยมาเตะจมูก สิ่งแรกที่มองเห็นคือผู้ชายตัวสูง ใบหน้าหล่อเหลาสวมชุดคลุมอาบน้ำและยืนกอดอกมองเธอด้วยสายตาแพรวพราว หญิงสาวใจเต้นแรง แก้มแดงเรื่อ รีบมุดหัวลงไปสำรวจสภาพร่างกายตนเองภายใต้ผ้าห่มหนา

“นี่หน้าผมมันฟ้องความรู้สึกขนาดนั้นเลยเหรอ อย่าห่วงเลยน่า ผมสัญญาแล้วไงว่าจะรอจนถึงวันแต่งงาน”

เสียงกลั้วหัวเราะของเขาลอยมากระทบหู เธอลอบถอนใจ เสื้อผ้ายังอยู่เรียบร้อยดี โผล่หัวขึ้นมาจากใต้ผ้าห่มอย่างขัดเขินระคนฉุนนิดๆ

“งั้นทำไมยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีกล่ะ ฉันว่าฉันหลับไปนานเหมือนกันนะ” หญิงสาวลุกขึ้นนั่งพลางเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์มือถือมาดูเวลา เกือบสี่โมงเย็นแล้ว

“ผมก็รอให้คุณตื่นมาทายาให้ก่อนน่ะสิ” เขายิ้มกริ่ม เดินมานั่งที่เตียงและยัดเยียดยาแก้ฟกช้ำใส่มือนุ่มเล็ก “ทายาให้หน่อยนะ ที่หลังอะ ผมเอื้อมไม่ถึง”

เมื่อเธอสบตาเขา พลันเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นก็หลั่งไหลเข้ามาในห้วงคำนึง

ปานไพลินอาจไม่ได้ตื่นขึ้นมาในสภาพเรียบร้อยแบบนี้ หากปล่อยให้ความรู้สึกทางร่างกายมีอิทธิพลเหนือเหตุผล ผู้ชายอย่างปรมัตถ์ไม่มีวันหันหลังให้สาวสวยที่นอนระทดระทวยอยู่ใต้อกเขา เธอเกือบจะสูญเสียการควบคุมไปแล้วเช่นกันหากไม่เหนี่ยวรั้งตัวเองกลับมาได้ในวินาทีสุดท้าย

‘ถ้าคุณรอได้ถึงวันแต่งงาน ฉันอาจจะคิดเรื่องของเราอีกครั้ง’

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนั้นสภาพของเธอเป็นยังไง มันยิ่งกว่าคำว่า ‘ยินยอมพร้อมใจ’ อย่างเห็นได้ชัด เขาจะไม่หยุดก็ได้ เธอรู้ว่าถ้าเขาเดินหน้าเธอก็ไม่เหลือแรงต้านทานมากพอ หรือถึงไม่ยอมวันนี้ วันหน้าเขาก็จะทำให้เธอยอมได้อยู่ดี ตอนนี้เธออยู่ในกำมือเขาแล้ว เขาเองก็คงมองออกเช่นกัน แต่ปรมัตถ์กลับเลือกที่จะหยุดและเรียนรู้ที่จะรอ

‘ผมรู้ว่าคุณจะคิด และผมจะรอ’

เขาให้สัญญาก่อนจะจูบหน้าผากเธอทีหนึ่งแล้วลงจากรถโดยที่เสื้อผ้ายังอยู่ครบดีทุกชิ้น แต่เหตุที่เธอต้องมานอนบนเตียงของปรมัตถ์เพราะชายหนุ่มสั่งอาหารมื้อเที่ยงมากินกันใหม่ เธอถูกบังคับให้กินเพื่อลูกแต่แล้วก็อ้วกออกมาจนหมดไส้หมดพุงจึงถูกพามานอนพักในห้องของเขาและหลับไปเกือบสองชั่วโมง

“คิดอะไรกับแผ่นหลังของผมอยู่ใช่ไหมถึงได้หน้าแดงอย่างนี้”

น้ำเสียงทะเล้นที่ดังอยู่ไม่ไกลเรียกสติของเธอกลับมา พอตื่นจากภวังค์ก็เห็นว่าปรมัตถ์นั่งหันหลังให้ในสภาพที่เสื้อคลุมถูกร่นลงมากองที่เอว อวดแผ่นหลังกว้างและต้นแขนกำยำอย่างคนออกกำลังกายเพื่อรักษารูปร่าง แก้มที่ร้อนอยู่แล้วยิ่งรู้สึกว่าร้อนหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่า

“บอกไว้ก่อนนะว่ามองได้ ทายาด้วย” เขาชี้ที่หลอดยาในมือเธอ “แต่ห้ามลวนลามผมนะ เพราะผมมีสัญญาที่ต้องรักษาด้วยชีวิต”

หญิงสาวเผลอชกไหล่เขาไปทีด้วยความขัดเขินระคนหมั่นไส้ ชายหนุ่มร้องลั่น เพราะเธอดันชกถูกรอยช้ำพอดี

“เขินเบาๆ หน่อยคุณ นี่ผมขอให้ช่วยทายานะ ไม่อยากได้รอยช้ำเพิ่ม” เขาเอ็ดไม่จริงจังนักพร้อมรวบมือเล็กเอาไว้ในอุ้งมือใหญ่ สายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่ม

ทั้งที่ปากบอกห้ามเธอลวนลาม แต่การกระทำนี่มันอ่อยกันชัดๆ!

“ปล่อยมือแล้วหันหน้าไป ไม่ต้องหันกลับมาจนกว่าจะทายาเสร็จ อ้อ...รูดซิปปากซะด้วยถ้าไม่อยากได้แผลเพิ่ม” ปานไพลินสั่งเสียงเขียวแก้เขิน

ปรมัตถ์หัวเราะเบาๆ ในลำคออย่างชอบใจ แต่ก็ยอมทำตามคำสั่งเพื่อหญิงสาวจะได้ทายาถนัดหน่อย

“ผมสั่งยำรวมมิตรมาให้ เผื่อคุณหิว สั่งให้เขาทำเผ็ดหน่อยจะได้แก้วิงเวียน คุณอยากได้อะไรอีกไหม กินซะหน่อย อิ่มแล้วผมจะไปส่งที่บ้าน”

เขาเรียนรู้จากการได้อยู่กับปานไพลินทุกวันว่าหญิงสาวกินอาหารรสจัดได้สบายจึงสั่งแม่ครัวให้จัดเต็มกับรสชาติ แต่เพื่อไม่ให้เธอแสบร้อนกระเพาะจึงสั่งนมอุ่นมาด้วย

“ยังไม่รู้เลยว่าจะกินลงรึเปล่า แค่นี้ก็พอแล้ว ขอบคุณนะ” เธออ้อมแอ้มบอกขณะลากปลายนิ้วที่แต้มยาซึ่งเป็นเนื้อครีมลงไปบนรอยช้ำ นวดเบาๆ จนเนื้อครีมซึมเข้าไปในผิวหนังแล้วค่อยบีบยามาแต้มรอยใหม่ ทำแบบเดิมวนไปจนเสร็จก็ปิดหลอดยาและเลื่อนเสื้อคลุมขึ้นบนไหล่กว้าง

เขาเอี้ยวตัวกลับมามองหน้าเธอและยิ้ม นัยน์ตาคมทอประกายอ่อนโยนจนปานไพลินรู้สึกได้ ถูกจ้องด้วยสายตาแบบนี้ใครไม่เขินก็เก่งเกินไปแล้ว

“มองอะไร” เธอต้องคอยทำเสียงแข็งเข้าไว้เพื่อกลบเกลื่อนความอ่อนไหวของตัวเอง

ชายหนุ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ วางมือลงบนที่นอน ทำให้ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองยิ่งน้อยลง แถมยังพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนชวนหวั่นไหว “อยากให้ถึงวันแต่งงานของเราเร็วๆ จัง”

ถ้ารู้ว่าเขาจะพูดเรื่องนี้เธอคงไม่ถามให้เข้าตัว หญิงสาวพยายามวางหน้าให้นิ่ง แม้จะรู้ว่าตอนนี้เขาคงอ่านใจเธอจนปรุหมดแล้ว แต่เรื่องอะไรจะยอมรับง่ายๆ เล่า

“ยำของฉันล่ะ หิวแล้ว” เธอเฉไฉมองหาของกิน จะได้ไม่ต้องมองตาเขา

ปรมัตถ์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะลุกไปยกถาดอาหารมาส่งให้ปานไพลินจนถึงเตียง “ดื่มนมด้วยนะ จะได้ไม่แสบท้อง”

“ขอบคุณ แต่ฉันคงซาบซึ้งมากกว่านี้ถ้าคุณไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยซะที” หญิงสาวเตือนโดยไม่มองหน้าเขา ทำทีเป็นสนใจอาหาร เริ่มลงมือจัดการกับมื้อเที่ยงครั้งที่สามในรอบวัน และได้แต่หวังว่าจะไม่ขย้อนมันออกมาอีก

เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ก็ได้ แต่ห้ามแอบมองนะ บอกเลยว่าตอนนี้ต่อให้คุณเป็นฝ่ายยั่ว ผมก็ไม่สนใจแน่ ผมจะรอจนกว่าจะถึงวันแต่งงานของเรา ถึงวันนั้นคิดว่าคุณคงมีคำตอบให้ผมแล้ว”

ปานไพลินไม่ตอบว่ายังไง ได้แต่ตักกุ้งตัวโตเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ

ชายหนุ่มได้แต่โคลงศีรษะและยิ้มกับตัวเอง ถึงเธอไม่ตอบแต่เขาก็รู้ว่าหญิงสาวกำลังคิดในสิ่งที่เขาพูด เขารู้ได้ยังไงน่ะเหรอ ก็พวงแก้มแดงจัดของเธอไงละ...



หนึ่งสัปดาห์ต่อมาปานไพลินได้เห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งนำเสนอเรื่อง หนุ่มหน้าตาดีถูกซ้อมปางตาย เธอคงไม่สนใจข่าวนี้หากไม่เห็นรูปเหยื่อในกรอบเล็กๆ บนหน้าหนึ่ง เป็นรูปของวิทยาไม่ผิดแน่ หญิงสาวเปิดดูรายละเอียดด้วยความสนใจ ไม่ใช่เพราะห่วงใย แค่สงสัยว่าใครอยู่เบื้องหลัง

ในข่าวรายงานว่าจับตัวคนร้ายได้แล้ว ผู้ต้องหาได้ซัดทอดถึงผู้จ้างวานซึ่งก็คือแวววรรณ แม่ม่ายสาวใหญ่ที่เป็นคู่ขาของวิทยา โดยสาเหตุของการทำร้ายร่างกายครั้งนี้แวววรรณให้การว่า หล่อนถูกวิทยาหลอกลวงมากว่าครึ่งปี เขาโกหกว่ายังโสดแต่หลอกเอาเงินของหล่อนไปเลี้ยงผู้หญิงอีกคน ซึ่งหล่อนมารู้ภายหลังว่าหญิงสาววัยละอ่อนคนนั้นเป็นภรรยาและมีลูกกับวิทยาแล้ว กว่าจะรู้ความจริงหล่อนก็ถูกปอกลอกจนหมดตัว ด้วยความแค้นใจจึงได้ว่าจ้างคนขับวินมอเตอร์ไซค์สองคนด้วยเงินสี่หมื่นบาทให้ไปทำร้ายวิทยาจนบาดเจ็บสาหัส

หญิงสาวพับหนังสือพิมพ์เก็บพลางถอนใจยาว “คนที่ถูกหลอกจนหมดตัวจะเอาเงินสี่หมื่นจากไหนไปจ้างใครให้ทำร้ายคนอื่นได้”

เธอโทรศัพท์หาปรมัตถ์ทันที ไม่มีใครน่าสงสัยกว่านี้อีกแล้ว!

“ทำไม คุณเป็นห่วงเขาเหรอ?” ชายหนุ่มยังไม่ยอมรับแต่กลับย้อนถามรวนๆ

“เปล่า ฉันแค่...กลัวคุณทำลายหลักฐานไม่หมด จ่ายเงินสดรึเปล่า?”

ปรมัตถ์ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ มาตามสาย “ผมไม่โง่ พ่อคุณก็ไม่”

ปานไพลินนิ่งไปนิด เรื่องที่ร้านอาหารวันนั้นคงไม่พ้นเป็นหัวข้อซุบซิบของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ แน่นอนว่าเรื่องต้องร้อนมาถึงหูบิดาของเธอไม่วันใดก็วันหนึ่ง

“คนที่อยู่เบื้องหลังจริงๆ คือคุณพ่อสินะ”

มิน่า ในข่าวถึงไม่ได้ระบุว่าเหยื่อเป็นอดีตลูกเขยของเสี่ยยิ่งยศ พ่อเธอคงหมดไปไม่น้อยเพื่อจัดการเรื่องนี้

“อย่าคิดมากเรื่องนี้เลยป่าน โดนแค่นั้นถือว่าพ่อคุณปรานีมากแล้วนะ”

เธอเหลือบมองผู้เป็นพ่อที่นั่งบนเก้าอี้รถเข็นไฟฟ้า จิบกาแฟอย่างสบายอารมณ์อยู่ริมเฉลียง

เสี่ยใหญ่หันมาสบตาลูกสาวแวบหนึ่งพร้อมรอยยิ้มกว้างขวาง ก่อนจะหันไปมองท้องฟ้ามองต้นไม้ และยิ้มกับตัวเองอย่างเบิกบาน

วิทยานอกใจปานไพลินและเดินจากไปโดยไม่ได้อะไรติดตัวสักอย่าง นั่นถือว่าเขาเมตตาสุดๆ แล้ว ด้วยเริ่มมองออกว่าลูกเขยคนนี้เป็นคนปลิ้นปล้อน หน้าไหว้หลังหลอก มีดีแค่หน้าตา การแต่งตัวและลมปากเท่านั้น หากเลิกรากับลูกสาวเขาเสียได้นับว่าเป็นเรื่องดี เขาจึงยอมปล่อยไปง่ายๆ

แต่คราวนี้ไอ้หมอนั่นดันไม่เจียมกะลาหัว บังอาจคิดชั่วมาตอแยหาเรื่องปานไพลินไม่เลิก ถูกซ้อมแค่นี้เขายังว่าน้อยไปด้วยซ้ำ แต่ก็เอาเถอะ เขาส่งคนไปขู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ต่อไปมันคงไม่กล้ามาระรานลูกสาวเขาอีก เพราะหากมันโง่ขนาดนั้น เขาก็จะสนองโทษมันด้วยชีวิต!



“ผมไปหาได้ไหม วันนี้คุณแพ้ท้องรึเปล่า?”

เสียงจากปลายสายเรียกความสนใจของปานไพลินกลับมา

“ไม่เท่าไหร่ แค่เวียนหัวนิดหน่อย”

“ตอบแบบนี้แปลว่าไม่ต้องเสนอหน้าไปใช่ไหม?”

เธออดค้อนลมค้อนแล้งแทนคนที่อยู่ปลายสายไม่ได้ เขาช่างมีวิธีทำให้เธอต้องเป็นฝ่ายโอนอ่อนผ่อนตามได้เสมอ เกลียดนักเชียว

“อยากมาก็มาสิ ฉันเคยห้ามคุณได้ด้วยเหรอ”

“งั้นเดี๋ยวเจอกันนะครับ”

เขาวางสายไปแล้ว หญิงสาวได้แต่อมยิ้มกับมือถือ ก่อนจะเดินออกมาหาบิดาที่ริมเฉลียง

“คุณพ่อคะ ป่านจะออกไปข้างนอกนะคะ เดี๋ยวคุณปอมารับ”

“ไปสิ ว่าแต่วันนี้จะไปไหนกันล่ะ” เสี่ยยิ่งยศเอ่ยถาม รอยยิ้มแต้มใบหน้าบ่งบอกว่าเขากำลังอารมณ์ดีและเริ่มเปิดใจให้ว่าที่ลูกเขยคนใหม่มากขึ้น

“ยังไม่รู้เลยค่ะ อาจจะกินข้าวแล้วก็ไปสนามขี่ม้าก็ได้ หมอเขื่อนไม่อยู่แล้วคุณปอต้องดูแลตรงนี้แทนทั้งหมด”

“หมอเขื่อนไปทำงานที่กรุงเทพฯ จะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้วใช่ไหมลูก” ผู้เป็นพ่ออดถามถึงชายหนุ่มที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีไม่ได้

“ยังไม่แน่หรอกค่ะ เห็นคุณปอบอกว่าอาจจะกลับมาหรือไม่กลับก็ได้ น่าขำนะคะ หมอเขื่อนเป็นทั้งเพื่อนและหุ้นส่วนของคุณปอ หมายถึงเขาก็เป็นเจ้าของม้าและรีสอร์ตชิดตะวันครึ่งหนึ่งด้วย แต่เราทุกคนกลับคิดว่าเขาเป็นแค่ลูกจ้างมาตั้งนาน”

ปรมัตถ์เล่าให้ปานไพลินฟังในที่สุด เขาบอกว่าเมื่อตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันแล้วก็อยากจะซื่อตรงกับเธอทุกเรื่อง

“พ่อว่าแล้ว คนมีความรู้ดีอย่างหมอเขื่อนไม่น่าเป็นแค่ลูกจ้างใครหรอก” เสี่ยใหญ่หัวเราะร่วน ก่อนจะเย้าลูกสาวเล่น “ป่านไม่เสียดายหมอเขื่อนแน่นะลูก?”

หญิงสาวอดมองค้อนบิดาไม่ได้ แต่ก็ยอมตอบตรงกับใจด้วยพวงแก้มที่แดงเรื่อ “ที่จริงป่านคิดว่าป่านคงไม่เคยรักหมอเขื่อนจริงๆ หรอกค่ะ ป่านแค่รู้สึกว่าเขาแตกต่างจากผู้ชายคนอื่น ถ้าเป็นเขาคงจะไม่ทำให้ป่านเสียใจอีก ป่านก็เลย...อยากได้ผู้ชายคนนี้มาทดแทนความผิดหวังในอดีต”

“งั้นที่รู้สึกกับนายปอก็คงไม่เหมือนกันสินะ” ผู้เป็นพ่อรุกต่อยิ้มๆ

แก้มที่แดงปลั่งอยู่แล้วยิ่งแดงซ่านขึ้นอีก มือที่วางบนตักบิดกันโดยไม่รู้ตัวเมื่อนึกถึงผู้ชายในหัวข้อสนทนา ไม่เพียงเท่านั้น ใจเธอยังเต้นระส่ำราวกับเขามายืนอยู่ตรงหน้า เท่านี้คนเป็นพ่อก็รู้แล้วว่าคำตอบคืออะไรจึงได้แต่หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี

“เอาเถอะ พ่อไม่เซ้าซี้ดีกว่า เขามาโน่นแล้ว”

หญิงสาวหันขวับ เห็นผู้ชายตัวสูงยืนอยู่ด้านหลังก็อดตกใจไม่ได้ เขาได้ยินที่พ่อเธอถามรึเปล่าก็ไม่รู้...

ความจริงปรมัตถ์มาถึงครู่หนึ่งแล้วเพราะบ้านของปานไพลินกับรีสอร์ตชิดตะวันอยู่ห่างกันไม่กี่นาที เขาบึ่งรถแป๊บเดียวก็ถึง พอเดินตามยายพุ่มเข้ามาก็ได้ยินสองพ่อลูกกำลังพูดถึงตัวเอง จึงใช้มือจุปากแล้วโบกไปมาเป็นทำนองว่าให้แม่บ้านหลบออกไปเงียบๆ เสี่ยยิ่งยศเองก็มองเห็นเขา แถมยังรับไหว้ด้วยการผงกศีรษะน้อยๆ เพื่อไม่ให้ลูกสาวรู้ตัว ว่าที่พ่อตาเป็นใจขนาดนี้เขาจึงแอบเงี่ยหูฟังคำตอบของเธอซะเลย

“จะไปข้างนอกกันก็ไปเถอะ แต่อย่ากลับดึกนักละป่าน พ่อเป็นห่วง” เสี่ยใหญ่เอ่ยกับลูกสาว แต่ในคำพูดนั้นก็สั่งว่าที่ลูกเขยไปในตัว

“ไม่ต้องห่วงนะครับคุณพ่อ ผมจะพาป่านมาส่งให้ทันมื้อเย็น และจะขอฝากท้องที่นี่ด้วย บอกป้าสมพรกับยายพุ่มไว้แล้วว่าจะซื้ออาหารเข้ามา เย็นนี้ไม่ต้องทำกับข้าว” ชายหนุ่มรายงานอย่างสุภาพและเรียกขานว่าที่พ่อตาอย่างสนิทสนม

เขารู้สึกได้ว่าเสี่ยยิ่งยศเปิดใจให้เขามากขึ้นหลังจากได้ร่วมมือกันจัดการกับวิทยาด้วยวิธีที่เด็ดขาด แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจดีว่าเสี่ยยิ่งยศทำแบบนั้นเพื่อเตือนเขากลายๆ ด้วยว่าขืนบังอาจทำให้ปานไพลินเจ็บปวดและเสียน้ำตา เขาเองก็จะต้องชดใช้อย่างสาสมเช่นกัน

อยากมีเมียเป็นลูกสาวเจ้าพ่อก็ต้องเสี่ยงชีวิตแบบนี้แหละ!




______________________________________________________



พี่หมูน้อย คราวนี้ไปเยอรมันเหรอคะ ดีจัง ได้ไปหลายประเทศ ^__^

คุณ sakeena ขอบคุณที่ติดตามค่าาา ^____^








Create Date : 30 กรกฎาคม 2559
Last Update : 30 กรกฎาคม 2559 17:21:31 น. 4 comments
Counter : 875 Pageviews.

 
จริง ๆ ควรมีลูกอมมาฝาก แต่ไปได้มีดมาเพียบ น้ำหนักเกิน !!

เวอร์ค่ะ แต่ของที่ซื้อมาให้คงจะละลายตั้งแต่อยู่เยอรมันแล้ว แกะถุงมามันกองของอยู่ข้างล่าง pack จับกันเป็นก้อน truffle ของช้านนนนน



โดย: พี่หมูน้อย IP: 171.5.241.28 วันที่: 31 กรกฎาคม 2559 เวลา:12:23:48 น.  

 
ตอนพิเศษนี่เหมือนเรื่องใหม่เลย อิอิ

เรื่องสั้น!

เขียนให้ยาวกว่านี้ก็ได้นะ เป็นนิยายอีกเรื่อง

หน้าร้อนที่เยอรมันร้อนมาก แต่โรงแรมที่พักออกแนว local หน่อยไม่มีแอร์ 55 organic ช้อกโก truffle ของเดี๊ยนละลายเป็นน้ำ จับเป็นก้อนแข็งก้นถุงหาสภาพเก่าไม่เจอ


โดย: พี่หมูน้อย IP: 171.5.241.28 วันที่: 31 กรกฎาคม 2559 เวลา:12:49:18 น.  

 
ต้องติดตามอยู่แล้วว ขอให้มีผลงานมาเรื่อยๆๆนะจ๊ะ ^__^


โดย: sakeena IP: 183.88.94.186 วันที่: 1 สิงหาคม 2559 เวลา:11:28:25 น.  

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:13:28:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ระตา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




รู้สึกอยู่เสมอว่าการได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้คือความมหัศจรรย์...และการอ่านออกเขียนได้คือรางวัลของชีวิต...
Friends' blogs
[Add ระตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.