Bloggang.com : ความหลงในสงสาร : สะบายดี ณ วังเวียง @ ลาว

ห่างหายจากการรีวิว สถานที่ท่องเที่ยวไปนานมาก...ทั้งๆที่ไปมาหลายที่ในหลายปีนี้ แต่ด้วยงานที่เยอะขึ้น อายุก็มากขึ้น ความขี้เกียจก็เลยเพิ่มพูนขึ้นกว่าเดิม (แต่ยังขยันเที่ยวเหมือนเดิมนะคะ) เลยทำให้หายออกไปจากบล็อกนี้นานหลายปี วันนี้นึกขยันเพราะมีรุ่นน้องอยากทราบรายละเอียดของการเดินทางไปเที่ยววังเวียงในครั้งนี้ เลยต้องลุกขึ้นมาขยับคีย์บอร์ดอีกสักครั้ง เผื่อมีท่านอื่นๆสนใจอยากเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองเล็กๆสงบๆนี้ดูบ้าง....ไปไม่ยากเลยค่ะ เหมือนนั่งรถเที่ยวเมืองไทยบ้านเราเลย

เริ่มต้นที่อุดรธานี บ้านเราก่อนเลยนะคะ ณ บขส.อุดรธานี รถไปวังเวียงมี 2 เส้นทางค่ะ

เส้นทางแรก : อุดร-วังเวียง มีรถเที่ยวเดียวคือ 8.30 น. ระยะเวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชั่วโมงค่ะ ตั๋วราคา 320 บาท แต่ควรจองก่อนล่วงหน้านะคะ เพราะขนาดตัวเองไปวันธรรมดาเลยไม่ได้จองไปก่อน ตั๋วยังเต็มเลยค่ะ Smiley

ต้องเปลี่ยนแผนไปเส้นทางที่ 2 แทน

เส้นทางที่ 2 : อุดร-เวียงจันทน์ เวียงจันทน์-วังเวียง รถมีหลายรอบเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่ 8 โมง 9 โมง เรื่อยไปจนถึงเย็นค่ะ แต่ควรไปเช้าๆหน่อยนะคะ เพราะเราต้องไปต่อรถจากเวียงจันทน์ไปวังเวียงอีกหลายชั่วโมง ราคาตั๋วรถจากอุดรไปเวียงจันทน์ก็ 80 บาท นั่งรถประมาณ 2.30-3 ชั่วโมง และจากเวียงจันทน์ไปวังเวียงอีก 4 ชั่วโมง

*** ซื้อตั๋วรถต้องใช้พาสปอร์ตนะคะ ***

นั่งรถจากอุดร-หนองคาย มาถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ก็มาถึงด่านแรก ตม.ไทย ลงจากรถมาสแตมป์พาสปอร์ตค่ะ

หลังจากนั้นก็นั่งรถไปอีกแป๊บนึงอ่ะค่ะ (จำเวลาไม่ได้ว่ากี่นาที) ก็จะถึง ตม.ฝั่งลาว ก็ลงมาแสตมป์พาสปอร์ตอีก และก็ซื้อตั๋วออก(ค่าตั๋ว 5 บาท ลักษณะเหมือนออกจากรถไฟฟ้าบ้านเราอ่ะค่ะ) หลังจากนั้นเราก็ต่อรถตู้โดยสารตรงจาก ตม.ลาว ไปวังเวียงได้เลย แต่ขอบอกว่าขึ้นรถตู้จากตรงนี้แพงกว่าไปขึ้นที่ บขส.เวียงจันทน์นะคะ ขึ้นตรงนี้หัวละ 370 บาท แต่ถ้านั่งรถ บขส.ที่เรานั่งมา ไปต่อรถตู้ที่ บขส.เวียงจันทน์ เค้าคิดหัวละ 200 บาทเอง (เสียค่าโง่ไปแล้ว....ซึ่งมารู้จากน้องอีกกลุ่มที่ไปเจอที่วังเวียง)

อ้อ!! เราสามารถแลกเงินและซื้อซิมจาก ตม.ลาวได้เลยนะคะ

เราจะเป็นเศรษฐีกันก็คราวนี้แหละ แลกไป 5000 ได้คืนมาตั้ง 1.2 ล้านเลย Smiley

ซื้อซิมก็ตรงด่านนี้แหละค่ะ แนะนำซิมของลาวเทเลคอม (จริงๆตอนไปซื้อก็เห็นมีอยู่บริษัทเดียวนั่นแหละ) 3G บ้านเค้าเร็วกว่า 4G บ้านเราซะอีก ซื้อซิม 50 บาท + เติมเงินแบบเล่นเน็ตอย่างเดียวอีก 50 บาท เค้าบอกใช้ได้ 7 วันเลย (แต่อยู่แค่ 3 วันเลยไม่รู้ว่าจริงป่าว) แต่เร็วและแรงจริงๆค่ะ

4 ชั่วโมงต่อมา นั่งรถหลับๆตื่นๆ หัวสั่นหัวคลอน ไส้ลงมากองรวมกันเป็นบางช่วงเพราะถนนยังอยู่ในช่วงปรับปรุง(หรือสร้างใหม่ไม่แน่ใจ) ขยับไส้ให้เข้าที่เล็กน้อย และแล้วเราก็มาถึงวังเวียง......ที่พักของเรา เวียงธารา วิลล่า.....โอ้ว!! ฟินนนนน

ที่พักเวียงธาราวิลล่า จะเป็นวิวภูเขาและท้องนา (แต่ก่อนไปควรสอบถามไปก่อนนะคะว่าเดือนไหนนาเป็นสีเขียว เดือนไหนนาเป็นสีทอง เพราะถ้าไปไม่ตรงกับช่วงทำนาความสวยอาจจะลดลงไปเยอะทีเดียว (จขกท.ไปกลางเดือน พ.ค.จร้า เขียวขจีเลย)

ที่พักอยู่ใกล้แม่น้ำซอง เดินไปนิดเดียวก็ถึงสะพานข้ามแม่น้ำแล้ว (เสียอย่างเดียวสะพานข้ามแม่น้ำตรงนี้ต้องเสียค่าข้ามไปข้ามมา แต่ถ้ามากับรถของรีสอร์ทก็ไม่เสียค่ะ.....แต่ถ้าข้ามเองหัวละ 10-15 บาทไทยนี่แหละค่ะ (จำไม่ได้เพราะไปกับรถของรีสอร์ทเลยไม่เสีย) แต่ถ้าใครอยากได้วิวริมแม่น้ำ ลองเดินหาได้นะคะ มีหลายรีสอร์ท หลายราคาเลยค่ะ เริ่มจากหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน

ราคาบ้านพักที่เวียงธารา มีทั้งแบบเฉพาะค่าห้องวิวท้องนาคืนละ 3,xxx (ราคาน่าจะขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาลด้วยค่ะ) กับ แบบเป็นแพ็คเก็จหัวละ 4,300 บาท (ค่าบ้าน+อาหาร 5 มื้อ+แพ็คเกจท่องเที่ยว) แต่เค้ามีห้องแบบอื่นด้วยนะคะเป็นวิวสวนอยู่อีกด้านกับวิวท้องนา ราคาจะถูกกว่านี้

มาที่นี่วังเวียงเหมือนมาอยู่ประเทศไทยเลยค่ะ อาหาร ขนม รายการทีวี เหมือนบ้านเราทู้กอย่าง.....(ชายสี่หมี่เกี๊ยว ยังตามมาขายเฟรนชายด์ที่นี่เลย)

ออกไปเที่ยวข้างนอกกันบ้างดีกว่าค่ะ.....จขกท.ซื้อที่พักเป็นแบบแพ็คเกจเอาไว้ ราคาท่องเที่ยวเลยรวมอยู่ในนั้นแล้ว เลยไม่รู้ว่าถ้าไปซื้อ one day trip ตามร้านในตัวเมืองจะคิดราคายังไง แต่เท่าที่สอบถามน้องๆที่ไปพายเรือด้วยกัน เค้าบอก 500-600 บาท/คน ยังไงลองเดินสอบถามหลายๆร้านเปรียบเทียบดูก่อนได้ค่ะ ร้านอยู่ติดๆกัน มีหลายร้านเลย

มาดูที่เที่ยวที่แรกกันนะคะ

ถ้ำจัง.....คำว่าจัง แปลว่า เย็นจนตัวสั่น ไกด์บอกว่าเป็นถ้ำที่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี น้ำที่ไหลออกมาจากถ้ำก็เป็นน้ำเย็น (โปรแกรมนี้ขอบวกเพิ่มจาก one day trip ค่ะ เพราะอยู่ใกล้ๆรีสอร์ท มีเวลาเดินตอนเย็นวันแรกหน่อยนึง) แต่เสียดายที่ไปถึงตอนเย็นแล้ว (ถ้ำปิด16.00 น.) เลยไม่มีรูปในถ้ำมาอวด ได้แต่รูปบริเวณพื้นที่รอบๆถ้ำที่ยังเปิดอยู่ แต่ต้องเสียค่าเข้า 2 ด่านนะคะ ด่านแรก : บริเวณสะพานส้มค่าเข้าคนละ 4,000 กีบ (แต่ในบางเว็บเค้าบอกเสียแค่คนละ 2,000 กีบเอง จ่ายแพงกว่าคนอื่นอีกแระ!! แย่จััง!!) ด่านที่สอง : บริเวณปากทางเข้าถ้ำคนละ 15,000 กีบ (ดีนะไม่ได้เข้า ถ้าเข้าอาจจะโดน 30,000 กีบเป็นแน่ เพราะจ่ายแพงกว่าคนอื่นตัลลอด)

ไปถ้ำจัง..เสร็จแล้วเย็นๆกลับมาถ่ายรูปบอลลูนลอยฟ้าที่รีสอร์ทกัน (ไม่มีเงินขึ้น 3,000 บาท/หัว ได้ถ่ายรูปเป็นแบล็คกราวน์หน่อยก็ยังดี)

ว่ากันด้วยเรื่องสำคัญค่ะ....อาหาร อาหาร และอาหาร

ดินเนอร์เย็นวันแรก....มีหลายเซทให้เลือกค่ะ

ดินเนอร์วันที่สองค่ะ....ข้าวผัดสับปะรด แต่แม่ครัวมาบอกทีหลังว่าลืมใส่สับปะรดให้ค่ะ 55555 (ขนาดลืมใส่ยังอร่อยเลยค่ะ)

มาถึงถิ่นแล้วอย่าให้ร่างกายขาดส้มตำค่ะ......ตำเส้นลาว.....รสชาติก็เหมือนส้มตำบ้านเรา แต่เส้นขนมจีนเค้าเหมือนเส้นอุด้ง...แซ่บหลาย

อาหารเช้า...ก็เหมือนกันทั้งสองวันค่ะ ABF แต่ระวังไขมันจุกอกตายนะคะ ไข่ดาวก็ 2 ใบแล้ว ยังทำไข่กระทะมาให้อีก 2 ใบ ถ้ายังไม่หนำใจจะสั่ง เฝอ หรือ ข้าวต้มเพิ่มอีกก็ได้นะคะ

เฝอ....เหมือนก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านเรา แค่เพิ่มมะเขือเทศไปหน่อย

กินอิ่ม..นอนหลับ ตื่นมาไปเที่ยวกันต่อดีกว่าค่ะ.....เริ่มกันตั้งแต่ 8.30 น. เช้าวันที่สองเลยค่ะ

ทูปปิ้งถ้ำน้ำ + วัดถ้ำช้าง

ทูปปิ้งถ้ำน้ำ คือ การนั่งห่วงยางเกาะเชือกไต่เข้าไปในถ้ำ ไกด์จะมีอุปกรณ์ให้ คือ ห่วงยาง เสื้อชูชีพ และก็ไฟฉายติดหัว สนุกตอนที่เวลาไต่เชือกสวนกันไปมาแล้วเตะน้ำใส่หน้ากันนี่แหละค่ะ ฝรั่ง จีน ไทย แขก เตะใส่กันมั่วไปหมด

ทางเดินไปทูปปิ้งที่ถ้ำน้ำค่ะ....เดินพอเหนื่อย จำไม่ได้ว่าระยะทางเท่าไหร่ เดินประมาณ 10-15 นาทีค่ะ

มาถึงหน้าถ้ำแล้ว...เตรียมตัวไปทูปปิ้งกัน

ไปละน๊า...... Smiley

ทูปปิ้ง ทูปปิ้ง

อยู่ในถ้ำประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ....ออกมาแระ

วัดถ้ำช้าง เป็นวัดเล็กๆ อยู่บริเวณที่จอดรถก่อนจะเดินไปทูปปิ้งที่ถ้ำน้ำ ในถ้ำจะมีหินงอกออกเป็นรูปช้าง เลยเรียกว่าถ้ำช้าง

มองออกไม๊คะ ว่าเป็นช้าง

ต่อด้วยพายเรือคายัคแม่น้ำซองค่ะ....แต่ก่อนไปก็กินข้าวกันก่อน ทางทัวร์มีข้าวกล่องให้ กินกันริมแม่น้ำตรงที่เราจะเริ่มต้นพายกันเลยค่ะ

จะมีข้าวผัด บาร์บีคิว ข้าวจี่ (ขนมปังธรรมดานี่แหละค่ะ แข็งๆหน่อยแต่คนลาวนิยมกินกันนะคะ) และก็กล้วยน้ำว้าค่ะ

เสร็จแล้วไกด์ก็จะมาแนะนำวิธีการพายคายัคให้ค่ะ ใครพายไม่เป็นจะไปกับไกด์ก็ได้ค่ะ......กรุ๊ปนี้มีประมาณ 10 คน / ไกด์ 3 คนค่ะ

ไปกันเลย...หนทางนี้อีกยาวไกล พายทั้งหมด 8 กิโล ใช้เวลาพายประมาณ 2 ชั่วโมง (ไกด์ถามเราสักคำไม๊ ว่าอยากพายไกลขนาดนี้)

วิดีโอ...บรรยากาศระหว่างพายค่ะ สนุกดี แต่ร้อนมาก ถ้าเลือกช่วงเวลาได้ควรเลือกพายตอนเย็นดีกว่านะคะ

วิดีโอ....ช่วงขึ้นมาพักกลางทางตรงบาร์ริมน้ำค่ะ มันจะฟินฟินหน่อยนะคะ

หลังจากพายเรือเสร็จ...เราก็ไปบลูลากูน แลนด์มาร์คสำคัญของวังเวียงกันค่ะ

กิจกรรมสำคัญ....มาแล้วมันต้องโดด (แต่ตัวเองไม่กล้าโดด...กลัวความฉูง อิอิ)

ปลาที่นี่แปลกดี มันไม่ตอดคน...เอะ!! หรือว่าปลาบ้านเรามันแปลกเอง ที่มันชอบตอด

one day trip ทัวร์ทางน้ำ 1 วันเต็มของเราหมดแล้วค่ะ ทูปปิ้งก็น้ำ พายคายัคก็น้ำ บลูลากูนก็น้ำ อยู่ต่ออีกนิดหางงอกกลายเป็นปลาแล้วค่ะ ขึ้นบกกันบ้าง กลางคืนที่วังเวียงก็มีถนนคนเดินนะคะ

ที่ดังๆหน่อย ก็ซากุระบาร์ค่ะ

หรือแนวหวานๆก็ ร้านหลวงพระบาง เบเกอรี่ค่ะ

แต่จะให้ฟินจริงๆ ก็ต้องมาชิม โรตีทอดค่ะ.....ถ้าจะให้อร่อย ก็ร้านแถวๆหน้าวัดกลางนะคะ มีหลายร้านให้เลือกเลยค่ะ (มันจะหลอนๆหน่อยนะคะ คนไม่ค่อยเดินมา แต่มันอร่อยกว่าเจ้าอื่นๆจริงๆค่ะ ลองเปรียบเทียบแล้ว)

ชีสเยอะมาก....

มีหลายหน้า หลายราคา คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 40-60 บาทค่ะ แต่เยอะและอร่อย คุ้มค่ะ

เที่ยวจนหนำแล้ว กลับไปนอนดูละครไทยต่อที่รีสอร์ทกันดีกว่า (ที่นั่นรับทีวีไทยได้ทุกช่องเลยค่ะ รับรองไม่พลาดสำหรับคนติดละครค่ะ)

เช้าแล้วยังอยู่บนที่นอน (เพลงบ่งบอกอายุเลย) เมื่อคืนฝนตกตอนเช้าภาวนาให้มีหมอก.....แล้วคำภาวนาก็เป็นผล ถึงจะไม่ใช่หมอกหนามาก แต่มันก็ทำให้ฟินได้

ถึงเวลาต้องลากลับแล้วนะจ้ะ วังเวียง ไว้ว่างๆจะมาเยี่ยมเธอใหม่.......

การเดินทางกลับก็ไม่ยากค่ะ ซื้อตั๋วรถจากที่รีสอร์ทได้เลย หรือหากที่รีสอร์ทไหนไม่ได้จำหน่ายตั๋วรถ ก็ซื้อตรงท่ารถในเมืองได้ค่ะ ถ้ารถ บขส.จากวังเวียงไปอุดร ก็มีเที่ยวเดียวค่ะ 8.30 น.เหมือนขามา ราคาก็เท่าเดิม 320 บาท แต่ถ้าไม่อยากออกเช้า ก็กลับเหมือน จขกท.ก็ได้ค่ะ นั่งรถตู้จากวังเวียงไปลงเวียงจันทน์ แล้วต่อรถ บขส.จากเวียงจันทน์ไปอุดรอีกต่อนึง รถมีออกทุกชั่วโมงเหมือนกันค่ะ แต่จำเวลาที่แน่นอนไม่ได้ แต่ จขกท.กลับรถเที่ยว 10.00 โมง ราคารถตู้หัวละ 250 บาท (บอกแล้วว่าขามาถูกโก่งราคาเก็บหัวละ 370 บาทเลย) ถ้าไปถึงเวียงจันทน์แล้วยังไม่อยากกลับเร็ว ก็นั่งสกายแล็บ (ตุ๊กๆบ้านเรานี่แหละค่ะ) เที่ยวเวียงจันทน์ต่ออีกสักหน่อยก็ได้ เค้าคิดราคาตามจุดแวะ 3-4 ที่ เหมา 700 บาท แต่ตัวเองอยากไปแค่ 2 ที่ ประตูชัย กับ วัดพระธาตุหลวง ก็เลยต่อราคาได้ที่ 500 บาท (จริงๆแค่ 2 ที่เอง น่าจะคิดแค่ 350 บาทก็พอเนอะ..)

ประตูชัยค่ะ....

ถ้าจะขึ้นไปชมวิวเมืองด้านบน (สูง 7 ชั้น เดินอย่างเดียวค่ะ สำหรับคนอายุ 40 ปลาย กับ 50 ต้น แข่งกันหอบแบบไม่มองหน้ากันเลยค่ะ) ค่าเข้าหัวละ 15 บาทค่ะ

วัดพระธาตุหลวง.....ค่าเข้าคนละ 40 บาทค่ะ

ถึงเวลากลับบ้านเราแล้วค่ะ......แต่ขากลับค่ารถกับค่าธรรมเนียมผ่านด่านแพงกว่าขามานะคะ (ค่ารถขามา อุดร-เวียงจันทน์ 80 บาท ขากลับ เวียงจันทน์-อุดร 110 บาท) (ค่าธรรมเนียมขาเข้าลาว 5 บาท แต่ขาออกทำไมกลายเป็น 50 ไปได้ สงสัยคิดค่าดินที่ติดเท้าออกไป อิอิ)

ขึ้นรถ-ลงรถ แสตมป์พาสปอร์ต ที่ ตม.ไทย - ตม.ลาวเหมือนเดิมค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ และขอโทษสำหรับรูปด้วย ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ยังมีความขี้เกียจสูง เลยไม่ได้ปรับขนาดให้เท่ากัน....หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่อยากเที่ยววังเวียงบ้างเล็กๆค่ะ Smiley

จอบอ...จบ แยก บาย นะคะ