กรรมใคร-กรรมมัน
เรื่องนี้ คิดว่าเป็นเรื่องที่สมควรนำมาเผยแพร่ ถึงแม้จะเป็นเรื่องแย่ๆ ภายในครอบครัว แต่ก็เป็นสิ่งที่ให้แง่คิดชีวิตกับเราได้ดีมากๆ และคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับคนทั่วไป เป็นประโยชน์กับคนที่ใช้ชีวิตประมาท เป็นประโยชน์กับคนที่คิดว่าจะหนีพ้นสิ่งที่เคยกระทำ

ถ้าพูดถึงคำว่า กรรม ทุกคนย่อมรู้ดีว่าเป็น ผลที่เกิดจากการกระทำของตัวเราเองทั้งนั้น บางคนใช้ชีวิตผ่านไปนานหลายปีก็ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่ตัวเองกระทำ จะส่งผลอะไรกับอนาคต ก็ย่ามใจ ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ต่อไปจนถึงวันที่ผลการกระทำมันส่งผลย้อนกลับคืนมาให้ผู้กระทำ ก็โทษเวรโทษกรรมเก่า แต่หลงลืมสิ่งที่ตัวเองเคยกระทำมาด้วยกันทั้งนั้น

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องภายในครอบครัวของเราเอง เกิดขึ้นกับตัวเราเองมาตั้งแต่เด็ก เป็นเรื่องที่เราไม่เคยรับรู้มาก่อน จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกสิ่งที่อย่างที่เคยสงสัย ในวัยเด็กก็กระจ่างขึ้นมาทันที

บ้านเรา ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวข้าราชการ พ่อแม่รับราชการครูด้วยกันทั้งคู่ เราใช้ชีวิตแบบพอเพียงกันมาตลอด มีที่นาของตัวเอง มีโรงสีของตัวเอง ไม่เคยมีปัญหาเรื่องข้าวที่จะกินในแต่ละวัน กับข้าวถ้าไม่ซื้อผักปลาในตลาดมาทำกิน ก็เก็บผักริมรั้วมานึ่งหรือลวกกินกับน้ำพริก กินกับหมูทอดบ้าง ปลาบ๊วงบ้าง วัยเด็ก เราก็มีชีวิตปกติสุขสมฐานะ มีกินมีใช้ปกติ จนพอมีโครงการออมเงิน สมัยที่เราเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 3 ทางโรงเรียนก็มีโครงการออมเงิน มาให้เด็กๆ นักเรียนแบบเราๆ ต้องขยันอดออมกัน มีการพาไปฝากเงินทุกสิ้นเดือน เราได้เงินไปโรงเรียนวันละ 10 บาท พอซื้อน้ำและขนมได้อย่างละชิ้นต่อวัน กลับบ้านมีงานนวดให้ยายและถอนหงอกให้พ่อแม่ได้เงินมาเล็กน้อย

เรามีเงินเก็บพันกว่าบาทภายในหนึ่งปี แต่แล้วอยู่ๆ แม่ก็ถอนเงินของเราออกไปหมด ตอนนั้นเสียใจมาก มากพอๆ กับตอนที่เรียนอยู่ ป.1 ที่เงินเก็บ 200 บาทของเราหายไป และพี่ชายของเราก็มีรถจักรยานคันใหม่ออกมาใช้ คนใช้เงินทุกบาทเอาเงินเก็บไหนซื้อ? และเมื่อเวลาผ่านมาจนถึงตอนที่เราเรียน ม.5 เหตุการณ์เดิมก็วนกลับมาอีกครั้ง เมื่อย่างเข้าสู่ ม.ปลาย แม่เราให้เงินเราผ่านบัญชีธนาคาร สมัครบัตร ATM ให้เราใช้จ่าย ในแต่ละเดือน เราได้เงินเดือนละ 4,000 บาทเฉพาะช่วงเปิดเทอม ค่าอาหารกลางวัน เราแลกซื้อคูปองอาหารไว้ตั้งแต่ต้นเดือน เฉลี่ยเดือนละ 2,000 มีเงินเหลือซื้อสมุด หนังสือและทานขนมเดือนละ 2,000 บาท บางครั้งก็มีเพื่อนมาจ้างทำของขวัญบ้าง ก็มีเงินกินอยู่ใช้ตามสภาพของเรา มีเงินเก็บค่อยๆ พอกพูนขึ้นทุกเดือนเพราะเป็นคนประหยัด
น้ำดื่มเราไม่ซื้อเราพกจากบ้านไปเอง ขนมไม่ซื้อเพราะไม่ค่อยชอบอยู่แล้วเป็นทุน จนมีเงินเก็บหลายพันบาท อยู่มาวันนึง แม่เราก็มาขอเงินจากเรา เราก็ยื่นบัตร ATM ของเรา ให้แม่กดใช้เท่าที่แม่คิดว่าพอใช้ เราบอกแม่ว่า เงินนี้แม่ให้ แม่จะใช้เท่าไหร่ก็ได้

ชีวิตช่วง ม.ปลาย คือ ช่วงที่ค่อนข้างเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเราแล้วแหละ เราไม่เข้าใจ ว่าทำไมบ้านเราถึงมีหนี้สินที่มากทั้งที่เราประหยัดกันทั้งบ้านมาตั้งนาน เราเข้าใจว่า ตอนแม่ซื้อรถยนต์ตอน ป.1 เป็นการกู้เงินจากธนาคารมาเพื่อซื้อ แต่ความเป็นจริงแล้ว เป็นเงินเก็บที่แม่เราเก็บจากบัญชีพ่อแม่รวมกันทุกเดือน แม่มีเงินมากพอจะซื้อรถเป็นเงินสด แล้วหนี้สินของเรามาจากไหนกันแน่? พ่อแม่ไม่เคยบอก จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ก่อน

พ่อแม่มาหาเราพร้อมกับคำบ่นตามปกติที่แวะมา ต้องมีเรื่องมาบ่นเป็นประจำอยู่แล้ว ทุกทีจะบ่นเรื่องพี่สะใภ้ เรื่องพี่ชายคนโต แต่ครั้งนี้ มาพร้อมเรื่องใหญ่กว่าเดิม เพิ่มเติมคือเป็นเรื่องของ อา น้องสาวของพ่อ เจ้าประจำ คนเดิมที่ปัญหาพอกพูน ยิ่งกว่าดินพอกหางหมู พ่อแม่บ่นไม่อยากอยู่บ้านแล้ว อยากหนีไปอยู่กับพี่ชายคนโต เพราะว่า อาของเราแวะมาหาพ่อเราถึงบ้าน คุยเรื่องเดิมวนซ้ำไปซ้ำมาทุก 2-3 วัน อามาบีบบังคับให้พ่อขายที่ดิน สมบัติชิ้นสุดท้ายของพ่อเรา เพราะมีชื่ออยู่ 3 คน และพ่อของเรามีสิทธิ์ 2 ส่วนในที่ดินผืนนั้น ลูกเขยอาเราเขาบังคับให้พ่อเซ็น
ยินยอมให้เขาดำเนินการแทนพ่อเรา ซึ่งพ่อไม่ยอม พ่อบอกให้โอนเงินมา แล้วจะโอนที่ให้ ไม่มีเงิน ไม่ต้องมาขออะไรอีก มาหลอกพ่อว่าที่ดินขาย 3 ล้าน แต่พ่อรู้ราคาประเมินว่าที่ตรงนี้ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท ตอนแรกพ่อเล่าแค่นี้

จนกระทั่งเดินออกไปส่งแม่ซื้อของ แม่ก็เล่าให้ฟังเพิ่มเติมต่ออีกว่า หนี้สินทั้งหมด ของบ้านเรา เกิดจากครอบครัวอา อาเราไม่รู้นึกยังไงไปกู้เงินมาถมที่ แล้วใช้ที่ดินค้ำ เงินที่ต้องส่งธนาคารทุกเดือน พ่อเราให้อาเราจัดการ พ่อก็ส่งเงินให้ทุกเดือน พอผ่านไปเกือบปี พ่อมารู้ทีหลังว่า ธนาคารยึดที่ดินไปแล้ว เพราะขาดส่งเงิน อาก็แถว่า ลุงไม่ยอมให้เงิน เลยไม่ส่งเงินธนาคาร แล้วเงินพ่อแม่เราที่ส่งให้ทุกเดือน (มึง)เอาไปทำอะไรหมด? พอที่ดินผืนสุดท้ายถูกยึด ปู่เราแขวนคอจะฆ่าตัวตาย ย่าเรากินยาฆ่าแมลงจะฆ่าตัวตาย เลยเป็นเหตุให้พ่อยอมไถ่ที่ดินคืนจากธนาคาร ยอมเป็นหนี้เกือบล้าน(เมื่อหลายสิบปีก่อน) ส่งเงินจนเงินในครอบครัวเราไม่เหลือใช้ แม่ใช้สิทธิกู้ธนาคารของข้าราชการที่ใช้คืนทุกเดือน เดือนละครึ่งนึงของที่กู้ฉุกเฉิน เงินเดือนทุกเดือนถูกหักออกตลอด จนแม่เรารู้สึกว่า เงินเดือนเหลือน้อย และแม่ต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อที่จะได้ไม่ต้องกู้ฉุกเฉินอีก แม่ใช้วิธีลดเงินกู้ลงทุกเดือน จนเดือนสุดท้ายกู้แค่ 400 บาท และหลังจากนั้นก็ไม่กู้อีกเลย หนี้สินก้อนนี้ ทุกวันนี้ก็ยังใช้ไม่หมด และถ้าถามว่ามีเงินสดพอจะถมหนี้ไหม คำตอบคือ มี แต่เก็บหนี้ไว้ส่งทุกเดือนแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ พ่อแม่เราสะดวกใจแบบนี้

แต่ปัญหาที่สานต่อจากการไถ่ที่ดินคืนของพ่อก็ คือ ที่ดินที่ควรตกเป็นของพ่อแต่เพียงผู้เดียว พ่อเราเลือกคืนให้ปู่ จนพอปู่เสียที่ดินกลายเป็นมรดก มีชื่อคน 3 คน 4 สิทธิ์อยู่ในนั้นปู่ไม่ได้แบ่งตั้งแต่แรกเลยเป็นปัญหาลามมาจนเมื่อไม่กี่วันก่อน สุดท้ายแล้วก็ขายที่ดินได้และแบ่งเงินกันไปตามสัดส่วนที่ควรได้รับ พ่อเราโอนเงินให้ลูกๆ ตั้งแต่ตอนที่ได้รับเงินไม่เหลือเงินติดบัญชีแม้แต่บาทเดียว และตัดขาดกับอาเราเป็นการถาวร

ภาพที่เรารับรู้เกี่ยวกับอา คือ แม่เราไม่ชอบอาโดยที่เราไม่รู้เหตุผลมาโดยตลอดตั้งแต่เด็ก อาเราร่ำรวยถึงขนาดที่ซื้อรถยนต์คันใหม่ เปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ทุกๆ 4-5 ปี มีรถยนต์ 2 คัน เราเคยถามพ่อแม่ ว่า เขาร่ำรวยมาจากไหนหรอ? ในเมื่ออาชีพเดียวกันกับพ่อแม่ทั้งคู่ พ่อแม่ก็เอาแต่บอกว่า ช่างเขาเถอะ ช่างเขาเถอะ ช่างเขาเถอะ เขามีเงินกินเที่ยวตลอด แต่บ้านเราจะเที่ยวทีคือต้องรอน้าน้องชายแม่มาพาไปเที่ยวทุกปี มารับรู้ไม่กี่วันมานี้ คือ รู้สึกเจ็บใจแทนพ่อแม่มาก รู้แล้วว่าทำไมบ้านเราถึงอยู่อย่างยากลำบากมาตลอด และแม่เราไม่มีเงินจนกระทั่งต้องมาขอเงินเราเพื่อกินอยู่กัน 3 คน

เรื่องเกี่ยวกับอา ที่พ่อแม่เราเล่าให้ฟังนอกเหนือจากเรื่องหนี้สิน ก็คือ อาเราเลือกสามีผิด เรื่องนี้เกิดมาก่อนที่พ่อกับแม่จะแต่งงานกัน สมัยที่อาเราสาวๆ เป็นผู้หญิงสวยคนนึง มีผู้ชายมาติดพันอยู่ 2 คน คนหนึ่งเป็นนายธนาคาร อีกคนเป็นทหารเกณฑ์ นายธนาคารคนนั้น เช้าถึงเย็นถึง เข้าตามตรอกออกตามประตู แวะเวียนมาหาปู่กับย่ามาตลอด พ่อเราก็ชอบคนนี้ แต่อาเราแพ้ลมปากทหารเกณฑ์คนนั้นจนได้เสียและท้องก่อนแต่ง พอแต่งงานกันแล้ว อาเขยเราก็ออกราย กินเที่ยวแบบตามใจฉัน มีชู้อยู่ตลอด กินเหล้าเมายาตลอดเวลา และไม่รู้ว่าจากทหารเกณฑ์กลายมาเป็นข้าราชการครูได้ยังไง ลูกสาวของอาเรา อาเราไม่ได้เลี้ยงเลย พ่อเราช่วยเลี้ยงตลอดมาตั้งแต่ทารกจนพ่อกับแม่แต่งงานกัน พ่อก็ไม่ได้เลี้ยงดูหลานสาวอีกเลย และย้ายออกมาอยู่บ้านกับแม่เรา

หลังจากนั้นปู่ก็มีปัญหาที่ดินกับน้องชายของปู่ โดนขโมยที่ดินเนื่องจากคิดแบบคนโบราณ ซื้อที่ดินแล้วใส่ชื่อเจ้าของเป็นน้อง พอน้องตายที่ดินกลายเป็นมรดกแทนที่จะกลับคืนมาที่ปู่ ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้ว ที่ผืนนั้นพ่อเราเป็นคนเอาเงินเก็บของตัวเองไปซื้อให้ปู่ไว้ทำมาหากิน ปู่เราก็เครียดจนกลายเป็นพาคินสัน ปู่นั่งรถเข็นและดูแลตัวเองไม่ได้อีกเลยหลังจากนั้น อาและลุงเราอยู่บ้านเดียวกันกับปู่ย่า แต่แทนที่ 2 คนนั้นจะดูแลพ่อแม่ตัวเอง กลับไม่เหลียวแล ปล่อยปู่นอนจมกองขี้ เหม็นคลุ้งไปทั้งบ้าน ข้าวปลาไม่หาให้กิน อาเขยก็ไม่ดูแล แถมถีบปู่เราตกรถเข็นอยู่ตลอด พ่อเราก็ทนไม่ไหวก็เทียวไปเทียวมาระหว่างโรงเรียน กับบ้านปู่ทุุกเช้า กลางวัน เย็น ไปกลับหลายสิบกิโล จนพ่อกับแม่ก็คุยกัน ว่า แบบนี้มันมากเกินไป พ่อก็เจรจากับอาเราอีก ให้อาเราดูแลปู่ย่าในตอนเช้ากับกลางวัน ส่วนตอนเย็นพ่อเราจะไปดูแลเอง อาเราก็รับปากแล้วก็เริ่มดูแลปู่ย่าแบบส่งๆ เหมือนเดิม

พอ ปู่ดูแลตัวเองไม่ได้ ทำงานไม่ได้เหมือนเดิม พ่อเลยเปิดร้านขายของชำให้ย่าเรา ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ขายได้เงินเดือนละหลายพันบาท แต่เงินกินอยู่ของย่าเรานั้น สุดท้ายก็ไม่เข้ากระเป๋าย่าเรา ลุงเรามาขโมยเงินจากร้านของย่าอยู่ตลอด ส่วนอาของเรา ก็มาไถเงินจากย่าของเราอยู่ตลอด ค่าเทอมลูกสาวอา 2 คนก็มาไถจากปู่ย่าทุกเทอม เงินไม่พอกินไม่พอใช้ก็มาเปิดเก๊ะขโมยเงินในร้านของย่า จนสุดท้าย ร้านเจ๊ง พ่อเราก็ไม่ลงเงินอะไรให้ปู่กับย่าอีกเลย แต่แค่ไปดูแลเหมือนที่ทำทุกๆ วันแทน

มันเหมือนเป็นบาปเป็นกรรมวนเวียนซ้ำไปมา ถึงคราวลูกสาวอาของเราตัดสินใจจะแต่งงาน กับผู้ชายที่ทำงานในกรมประมงคนหนึ่ง เป็นคนใต้ นิสัยดีมาก ขยันขันแข็งเอาการเอางาน พ่อเราก็โอเคกับคนนี้มาก แต่อาเขยเราด่าลูกสาว และบีบบังคับให้เลิกกับผู้ชายคนนี้ เพราะเขาจน สุดท้ายก็เลิกรากันไป แล้วไปได้ผู้ชายคนใหม่ ที่ทำงานรับเหมาก่อสร้าง พอจะมีธุรกิจเล็กน้อย อาเขยเราพอใจคนนี้มาก ก็ให้แต่งงานกันไป ตอนแรกๆ ก็อยู่กัน สุขสบายดี แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกเขยคนนี้ก็กิจการล้ม ติดหนี้สินมากมาย จนขาดรายได้ ลูกสาวอาก็เลยต้องกลับเข้าทำงาน รับเงินเดือนและส่งเงินใช้หนี้ค่าบ้าน แต่ด้วยความที่ขยันมีลูกกันจนมีลูกได้ 3 คน ลูกทุกคนอาเราต้องจ่ายค่าเทอมให้ตลอด แถมตอนนี้ ยังขาดส่งค่าบ้าน เป็นหนี้สินเกือบล้านบาท ถ้าไม่จ่ายเงินตอนนี้จะถูกยึดบ้าน เลยเป็นเหตุ มาบีบบังคับให้พ่อเราขายที่ เพื่อใช้หนี้แทนลูกสาวตัวเอง ส่วนพ่อเราก็หมดพันธะผูกพัน กับทางน้องสาวตัวเองแล้ว ไม่เหลืออะไรที่ต้องมาคุยกันอีก ส่วนอาเขยเราทุกวันนี้ก็นั่งรถเข็น ป่วยเป็นพาคินสันโรคเดียวกับปู่ของเรา แต่ไม่รู้ว่า วันไหนจะโดนลูกเขยถีบตกรถเข็นเหมือนที่ทำกับปู่ของเรา ไม่รู้ว่าวันไหนจะล่มจมจนต้องขายที่ดินบ้านหลังที่อาศัยอยู่เหมือนกัน
หนี้สินของอาเรารวมกับอาเขยสองคนนี้ร่วมสิบล้านบาท ชาตินี้คงใช้ไม่หมดแน่นอน

ส่วนลูกสาวคนเล็กของอาเรา ดีหน่อย ได้สามีดีและพากันย้ายออกจากบ้านไปแล้ว ลงทุนสร้างบ้านใหม่ให้อากับอาเขยอยู่ และขู่ไว้ว่าถ้าอาเขยไปหาชู้อีกจะขายบ้านทิ้ง พ่อลูกไม่ต้องเผาผีกันอีกเลย

เรื่องที่พ่อเราเครียดมากแหละ แต่เราก็บอกพ่อว่า ปัญหามีไว้แก้ ถ้าที่ดินมันสร้างปัญหาให้พ่อ พ่อก็ขายมันไป แต่ต้องขายแบบมีชั้นเชิง ถ้าขายร่วมกัน 3 คนไม่ได้ พ่อก็ไปหั่นที่ดินออก ราคาที่ตกแน่นอน แต่ดีกว่าเป็นปัญหาสะสมระยะยาว พ่อไม่ต้องห่วงเรื่องสมบัติ เราไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นแหละ หาเองได้ และทางแฟนเราเขาก็มีอยู่มากมายอยู่แล้ว ถ้ากลัวว่าจะไม่มีให้ลูก ของแม่ก็มีอยู่แล้ว แค่พ่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้ตั้งแต่เกิดจนโตทุกวันนี้ นี่ก็คือสมบัติที่มีค่าที่สุด ที่พ่อได้มอบให้ลูกคนนึงมานานมากแล้ว

และหลังจากนี้ ก็คิดว่า เราจะไม่ได้ยินเรื่องอาเราอีกต่อไป เพราะถ้าอามาหาเราเรื่องเงิน ถ้าวันหนึ่งเขาล้ม เราคงไม่กระทืบซ้ำ เราคงไม่ข้าม แต่เราขอมองดูเขาอยู่ในจุดที่เรายืน แค่นั้น ดูจุดจบของคนที่ทำร้ายครอบครัวของเราตั้งแต่เราเกิดจนถึงทุกวันนี้ เราจะไม่ช่วยเหลือ จะไม่ทำอะไรทั้งนั้น เพราะที่พ่อเราเสียสละให้ในฐานะพี่ชาย มันมากเกินไปแล้วสำหรับคนๆ นึง ส่วนพ่อเราเราก็ดูแลเท่าที่เราทำได้ ไปมาหาสู่ปกติ อยากมาอยู่กับเราก็มา อยากไปอยู่กับพี่ก็ไป ถ้าเจ็บป่วยแฟนเราก็ไปส่งเรากลับบ้าน ไปดูแลพ่อแม่ตามปกติ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้น เราก็เล่าให้แฟนเราฟังทั้งหมด แฟนเราก็เข้าใจ และก็ให้คำแนะนำเรื่องที่ดินมา ซึ่งก็เป็นประโยชน์กับพ่อเรามาก เรื่องของแฟนเรา
เราเล่าให้พ่อเราตลอด พ่อเราก็เลยรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมคนที่เพิ่งหัดทำธุรกิจ จะมาสู้อะไร กับประสบการณ์ของครอบครัวแฟนที่เขาทำธุรกิจ ทำที่ดินมาเกือบ 70 ปี

จริงๆ ข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้จากอาของเราก็มีมากไม่น้อย สรุปรวมๆ ก็คือ
1. การเลือกคู่ชีวิต ไม่ควรเลือกคนเจ้าชู้ ควรให้โอกาสคนที่สมควรได้รับโอกาส
ควรมีสติในการเลือกคู่ครอง เพราะสุดท้ายแล้วมันก็จะกลายเป็นปัญหาระยะยาว
แม้แต่ยามเกษียณก็ยังเป็นปัญหา ลูกสาวคนโตของอาเราเลือกผู้ชายสไตล์พ่อ
ลูกสาวคนเล็กของอาเรามีปัญหาสุขภาพจิตมาตั้งแต่เด็กจนมีผลต่อร่างกายยามโต
เจ็บออดๆ แอดๆ แต่เล็กๆ จนแต่งงาน ท้องก็แท้งมาแล้ว 4 ครั้ง จนแทบจะไม่สามารถ
มีลูกได้อีก
2. การเป็นข้าราชการ เป็นพนักงานเงินเดือน ต้องรู้จักพอเพียง
ไม่ควรใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเกินกำลัง เกินฐานะของตัวเอง เพราะหนี้สินที่ต้องใช้ ในบ้านปลายของชีวิตนั้นหนักหนา มีก็ใช้ตามเท่าที่มี การอยากได้อยากมี เหมือนคนอื่น ไม่ได้ทำให้ชีวิตใครดีขึ้น มันอาจดีแค่ภาพลักษณ์ แต่เบื้องหลังความสุขตรงหน้า คือคราบน้ำตาและความอับจนจนต้องขายทุกอย่างกิน
3. การอกตัญญูต่อพ่อแม่เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะสุดท้ายแล้ว มันอาจจะย้อนกลับมาในวันที่เราเป็นพ่อแม่คนเข้าวันหนึ่งก็เป็นได้ พ่อแม่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่พ่อแม่ที่ให้กำเนิด แต่ขอรวมถึงบุคคลที่ชุบเลี้ยงและเลี้ยงดูเรามาก็อยู่ในฐานะพ่อแม่คนหนึ่ง ต่อให้ไม่ใช่ผู้ที่ให้กำเนิดแต่เป็นผู้ที่เลี้ยงดู ก็ควรตอบแทนเขาตามสมควรที่เขาควรได้รับแต่หากเขาเอาแต่ทำร้าย ก็ไม่จำเป็นจะต้องกตัญญูต่อบุคคลที่ทำร้ายเราต่อให้เป็นพ่อแม่แท้ๆ ก็ตาม เราไม่ควรหลับหูหลับตาดีกับทุกคน แต่เราควรเลือกปฏิบัติต่อบุคคลอย่างมีสติ



Create Date : 19 กันยายน 2563
Last Update : 19 กันยายน 2563 16:59:22 น.
Counter : 1034 Pageviews.

2 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า

  
สวัสดีครับน้องเหม่ง

อ่านจบก็พบว่าเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตที่ผิด
จนเกิดผลกระทบกับคนในครอบครัวด้วยนะครับ
ที่สำคัญยังก่อหนี้จำนวนมหาศาลขึ้นอีก

กรรมหนอกรรมจริงๆ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กันยายน 2563 เวลา:21:53:44 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ

ดีแล้วล่ะครับ
ที่ผ่านมันมาได้
ส่วนใครทำกรรมอะไรไว้
พี่ก๋าเชื่อว่าเขาก็หนีไม่พ้นกรรมของเขาอย่างแน่นอนครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กันยายน 2563 เวลา:7:40:32 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Princezz Matcha Latte
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มะมะมะเหม่ง เองงับ!!! ทุกวันนี้ไม่เดิน เพราะกลิ้งได้
^_^
กันยายน 2563

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
19 กันยายน 2563
All Blog