ตะลอนทริป นำเสนอตอน .. มาลิบูล เกาะสีชัง, ชลบุรี

เหมือนเป็นธรรมเนียมของเราไปแล้ว ไม่ว่าจะไปเองหรือไม่ พอถึงวันหยุดยาวทีไรก็จะได้ยินคำถามแบบนี้ประจำ หนนี้หยุด 4 วัน 

ตั้งใจว่าจะไปกางเต้นท์นอนที่เขาใหญ่ แต่ติดภาระกิจที่บ้านจะมาหา 

(หลานๆปิดเทอม) เลยคิดว่าไปกางเต้นท์คงไม่เหมาะ

เปลี่ยนแผนกะทันหัน 

( โดยส่วนตัวอยากไปหาดใหญ่อ่า ก็ไม่เคยไปนี่นา แต่ไม่มีแนวร่วมเลย) 

เปลี่ยนใจไปเที่ยวใกล้ๆ แทน แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจอีกตามเคย ตอนแรกตั้งใจแค่ไปหาข้าวกินไกลๆ มุ่งหน้าไป มุมอร่อย-ชลบุรี ตั้งใจว่าวันนี้จะกินของทะเลให้สมอยาก แต่ฝนไม่เป็นใจเลยตั้งใจว่าจะหาทีหลบฝน ... 

สุดท้ายก็มุ่งหน้าขับผ่านร้านไปจนไปถึงเกาะลอย 

แล้วก็กระโดดขึ้นเรือไปซะงั้นน่ะ  ฮา ...

(หลังจากพาญาติๆ ไปแหมะทิ้งไว้อีกทีแถวๆนั้นแหละ)

วันที่เรามานี่ คือแบบว่า ฝนตกฟ้ารั่ว คือไม่เป็นใจเลยนะ ยังคิดอยู่เลยว่า 

มาทำไมว๊า .....

แต่จนแล้วจนรอด ฟ้าก็เข้าข้างเราอีกตาม หุหุ ฮิ้วววววว !!!  ^__^

ก่อนอื่น พาไปที่พักเราก่อนค่ะ คือเนื่องจากเรามาแบบไม่ได้เตรียมตัวและเราก็ไม่ได้เตรียมใจอะไรมาเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ ลองของเลยละกัน 

เคยได้ยิน"ชื่อเสีย" มานานจากการอ่านพันทิพย์เลยจำได้

คือถ้ามาเกาะสีชัง รีสอร์ทดังๆ ที่ติดปาก 

ก็ปารีฮัท มาลิบู สีชังพาเลซ อะไรเงี๊ยะป่าว  .... เราเลือก

"มาลิบูล เกาะสีชัง"

ปราสาทที่หลายคนบอกว่าร้างและน่ากลัว 

แต่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแห่งเดียวบนเกาะแห่งนี้ .... 

จากที่อ่านๆ มานะไปดูกันว่าจริงรึเปล่าละกันนะ

งานนี้ไม่มีสปอยด์แน่นอนค่ะ

ระหว่างนั่งเรือมาก็อ่านรีวิวพยายามค้นหารีวิวปี 2014  หาไม่เจอ เจอแต่เก่าๆ

ว่าสถานที่พักแห่งนี้เป็นยังไง แต่ที่อ่านมาส่วนใหญ่คือ ชื่อเสียโด่งดังมาก 

เรื่องรูปไม่เหมือนกับสถานที่จริง เราติดต่อไปที่พักแล้วสอบถามราคา 

สนนราคาคืนละ 900 บาท พร้อมอาหารเช้า 

และเน้นย้ำก่อนว่า 

"ขอดูห้องก่อนได้ใช่ไม๊คะ ถ้าไม่โอเคไม่พักได้ใช่ไม๊" 

 เมื่อทางปลายสายบอกว่า โอเค เราจึงตกลงไป 

โดยทางรีสอร์ทติดต่อเช่ามอไซด์ให้เราทันที ราคาวันละ 300 บาท  

ทันทีที่ไปถึง พี่กอล์ฟ เจ้าของมอไซด์รอรับเราอยู่แล้ว 

และขับนำเราไปส่งที่ที่พัก ในระหว่างทางไป เราก็ถามนะ ว่าที่พักโอไม๊ อะไรยังไง 

พี่เค้าก็ตอบแบบกลางๆ ให้เราไปดูและตัดสินเองก่อน แต่ถ้าไม่โอจะให้พาไปที่อื่นก็ยินดี ( อันนี้น่ารักมาก ชื่นชมค่ะ )

เมื่อไปถึงเราก็ตกใจเล็กน้อย !! แต่ไม่แสดงอาการคือ  

เริ่มตั้งคำถามให้ตัวเอง

1. มันใช่ที่เดียวกันกับที่เราดูรูปมาป่าวหว่า ???

2. เค้ายังเปิดให้บริการอยู่ใช่ไม๊ ???

คิดบวกว่า เพราะฝนตกไง มันเลยเฉอะแฉะดูเปียกลื่น ไม่น่ามอง ผ่านไป 

ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ

พอลงมอไซด์ ตกลงกะคนข้างๆ พักเลยละกัน 

( โดยยังไม่ได้เข้าไปดูห้อง) เพียงเพราะ 

"อยากลองของ"

แต่ก็เจ็บปวด ตรงที่เราไม่ได้อ่านข้อความในเวบให้ดีก่อน  ..

ที่นี่ไม่มีน้ำอุ่นและไม่มีตู้เย็นนะคะ .... พลาด!! 

เพราะเราติดการอาบน้ำอุ่นมาก แต่ก็ผ่านไปได้นะ  

ช่วยไม่ได้นี่เน๊อะ ตกลงนอนที่นี่ไปแล้วนี่นา

คุณลุงน่ารักมาก แนะนำให้เรานอนห้องสวีท อาคารด้านหน้าเลย 

บอกว่า มีดาดฟ้าเป็นส่วนตัว และห้องเราจะอยู่ด้านบนจะไม่มีคนเดินผ่านรับประกัน ( แอบคิดในใจ มีคนพักด้วยหราเนี๊ยะ กลัวนะ แต่ไม่พูดเพราะเด๋วอีกคนจะยิ่งแย่ไปใหญ่เลยเลือกที่จะทำลั๊ลลา ทำดี๊ด๊า กับบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้าละกัน

เรามาถึงโดยที่ยังไม่ได้กินอะไรกันเลยรีบออกไปหาอะไรกิน เนื่องจาก กลัวไม่มีที่กิน 55+ เพราะตอนที่เรามามันดูเงียบๆ พิกล คนน้อยๆ 

( เพราะฝนเพิ่งหยุดรึเปล่านะ)  ไม่รู้ละ ออกมาก่อน

ปรากฏว่า สั่งทะเลเผา หมด ( ไม่มีปู )  

สั่งปลาหมึกไข่ย่าง ( หมด ไม่มีปลาหมึกไข่ จบกัน)

เอาเป็นว่ามีอะไรก็กินอันนั้นละกัน  2 คน จัดไป 5 อย่างลืมตัว  

ขออภัยจริงๆ ค่ะ จำชื่อร้านไม่ได้

ร้านข้างถนนแต่อร่อยมาก คนเพียบอ่ะ   Confirm !!!!

อิ่มข้าวแล้ว ก็หาที่นั่งชมวิวกันค่ะ เนื่องจากที่เกาะสีชัง 

ไม่มีวิวชายหาดให้เราได้นั่งมองเท่าไหร่

พวกเราเลือกซื้อเบียร์ 7-11 แล้วก็มานั่งมองทะเลสีดำ (ยามค่ำคืน) กันที่ท่าเรือค่ะ 

กินอะไรเสร็จกลับมาที่พักเลยเพิ่งสังเกตุเห็นว่า ห้องมันก็เล็กๆ นิดนึงเองเน๊อะ !!  ติดเบียร์มา 2ป๋อง กะว่ามาจิิบเบียร์บนดาดฟ้า แล้วนั่งชมวิวกันต่อ

ถ่ายตึกข้างหลังไม่เห็นอ่า ต้นไม้บัง วิวกลางคืนจะมีแค่ดึกข้างๆ กันอันเดียวนะ   พินิจพิจารณากันเอาเองนะจ๊ะ ท่านผู้ชม

ตัดบรรยากาศยามค่ำคืน ตื่นมาดูวิวที่พักยามเช้ากันบ้างดีกว่าค่ะ 

อาคารหลังนี้ ที่เรานอน ห้องด้านบนค่ะ  บรรยกาศดาดฟ้า นั่งจิบเบียร์ เคล้าแมลง แฝงด้วยจิ้งจกอีก 2 ตัว

ข้างๆ ตึกเราที่มุมถ่ายรูปเล็กๆ น่ารักนะ 

เดินเข้ามาด้านใน เป็นอาคารบ้านเป็นหลังไม่เกี่ยวข้องกะใคร แต่ด้านในเป็นไงไม่รู้นะคะ 

เชื่อลึกๆนะ ว่าถ้าตกแต่งสวนและบ่อหน้าห้องพักใหม่ มันคงจะน่าดู น่านอนกว่านี้ อันนี้มันแอบรกไปนิดไป ร้างหน่อยๆ

ขึ้นมาด้านบน วิวที่เห็นต่างกับรูปที่คนอื่นๆ ถ่ายมา 

เพราะต้นไม้คงโตขึ้นปกคลุมและบดบังตัวอาคารซะหมด จนเกือบมิดเลย

เดินไปต่อบนหอคอย แต่บอกตรงๆ นะ เรากลัวอ่า 

มันดูวังเวงยังไงไม่รู้ แต่เก็บฟอร์มตลอดๆ งานนี้

ถ่ายรูปแว๊บนึง มองลงไป คนข้างๆ บอกว่าให้ดูอะไรอยู่ที่เท้า ... ปรากฏว่า 

เป็นคลาบงูที่ลอกทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้า และที่สำคัญไม่ได้มีอันเดียว มี 2 จ่ะ  ... O_O" เริ่มเหงื่อตก ตลกไม่ออก หมดกันจ่ะ ไอ้ที่เก็บซ่อนไว้ ออกมาหม๊ดดดดนะ .... กิึ่งเดินกิึ่งวิ่งเลยจ่ะ ลงตึกแทบไม่ทัน แง๊ 

หน้ามันเชียว สังเกตุหน้า แปลว่า ร้อนมากๆๆๆๆ เหงื่อออกเพียบอ่ะจ่ะ งานนี้ 

มุมนี้เคยมีในโปสการ์ด แต่ตอนนี้ ต้นไม้มันเยอะไปค่ะ ถ้าปรับได้จะดีกว่านี้ มันรกไปนิ๊สสสส นึงค่ะ

ขออนุญาตจบรีวิวภาคของ มาลิบูล เกาะสีชังไว้แค่นี้ก่อนนะคะ แล้วบล็อคต่อไปจะพาเที่ยวเกาะสีชังเบาๆ กันค่ะ ที่ว่าเบาๆ เพราะไม่ได้ไปไหนมาก 

ข้อดีของที่นี่ก็คือ เจ้าของเค้าใจดีนะคะ พูดจาดี มีใจบริการเต็มร้อยค่ะ  ที่พักมี Wifi Free และมีกาแฟกะข้าวต้มหมูสับเลี้ยงตอนเช้าด้วย เก๋ๆ อยู่นะ อิอิ 

ข้อเสีย 

1.ที่นี่ไม่มีน้ำอุ่น ไม่มีตู้เย็น ห้ามเสียงดัง

2.แอร์ห้องเราเสียงดังมากไปหน่อย คนหลับยากลำบาก

3.ปลั๊กน้อย มีแค่ 2อันเอง อีกอันมีแต่ใช้ไม่ได้เพราะปลั๊กติดกับที่เปิดไฟ ถ้ากดเสียบแน่นๆ ก็คือไฟดับไง

4. แอบรกร้าง น่ากลัวไปนิดอ่า ถ้าrenovate หน่อยคงดีกว่านี้ 

จบตอนแล้วจ้า 

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ  

Create Date : 28 ตุลาคม 2557 Last Update : 30 ตุลาคม 2557 11:49:29 น. Counter : 1396 Pageviews.		3 comments
Share Tweet