พี่เลยดิ้นรนหาหนทางไป แต่ด้วยความที่เป็นคนขี้หนาวมาก และเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความพยายามจะไปทำอะไรถ้าร่างกายไม่อำนวย พี่ก็เลยเล็งเวลา หาจังหวะเหมาะๆ  ... จนท้ายที่สุด ฟ้าฝนก็เป็นใจ ให้พี่นึกครึ้มอะไรไม่รู้ เปิดไปดูตั๋ว ~airasiago~ กดไปเจอ ตั๋วเครื่องบินไปกลับ พร้อมที่พัก 5 วัน 4 คืน ในราคาที่ไม่ต้องคิด  นาทีนี้พี่ไม่ชั่่งใจใดๆ แล้ว กดจองแต่โดยพลัน ในสนนราคาที่ คนละ 7,3xx บาท !!!  (อัพห้องแล้วด้วยค่ะ)

ใช่ค่ะ เราพิมพ์ถูกแล้ว ราคา ตั๋วเครื่องบินไปกลับ พร้อมที่พัก 4 คืน พี่ก็จัดเลยจ๊า แต่ก่อนจะถึงวันเดินทาง อุปสรรคเราช่างมากมายเหลือเกิน พี่มีโปรเจคยักษ์ที่ร่วมทำกับเพื่อน ส่งบริษัท และมีงานที่ทำประจำตลอดๆ อยู่แล้ว บวกกับ ได้รับผิดชอบงานดูแลล/ครายใหม่ ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่พี่ทอดทิ้งไม่ได้  เอาไงดีฟร่ะ 

จนแล้วจนรอด พี่พยายามเคลียร์ตัวเอง เรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องส่วนตัว จนเกือบจะเรียบร้อย ในขณะที่ดูแล้ว พี่มีเวลา 1 อาทิตย์ในการหาข้อมูลก่อนการเดินทาง  

~1 อาทิตย์ก่อนเดินทาง ~ 

พี่น้องเชื่อไม๊ 1 อาทิตย์นี้อยู่ดีดีที่เหมือนจะว่างก็มีงานประดังประเดเข้ามามากมายบวกกับข่าวร้ายเรื่องโรคระบาดเพื่อนๆ 4-5 คนที่รู้ว่าเราจะไปก็เป็นห่วงกันน่าดู เอาไง ไปไม่ไป "แกจะไปจริงๆเหรอ ทิ้งเหอะ " นั่นๆ นี่ๆ อีกทั้งเพื่อนสาวร่วมทิรป ได้ข่าวว่าต้องสอบซ่อม (ก่อนหน้าก็คือสอบตกไง) กลายเป็นจะไม่มีเวลามาหาข้อมูลช่วย เอาแล้วไง แล้วที่สำคัญนางต้องสอบก่อนเดินทางคืนนั้นเลย  สุดยอดไปม๊ายยยยยย เอาว่ะ ได้เท่าไหร่เอาเท่านั้น !!  คำพูดนี้น่าจะเป็นคำพูดปลอบใจที่ดีที่สุด แต่ยังไงก็ไป เพราะยังไงมันก็คือฝันของติ่ง 

โม้มานานแระ มาถึงกำหนดวันเดินทาง 

ไฟล์ที่เราขึั้นคือ 1.55 am แปลว่าตีหนึ่งนั้นเอง สภาพเพื่อนนางนึงซึ่งเพิ่งผ่านวิกฤตตัวหนังสือมาร่วมสัปดาห์ก็เลยเห็นเป็นเช่นนี้ 

บรรยากาศโดยรวมที่คิดว่า เพราะโรคระบาดอาจจะไม่มีคนบิน หรือคนบินน้อยก้ไม่นะ เพราะรอบที่เราไป คนเยอะใช้ได้ทีเดียว

ตัดกลับมาถึงตอนเวลาที่ Landing เลยแล้วกันค่ะ เรามาถึงเกาหลีตามเวลาในประเทศเค้าประมาณ 9 โมง รอรับกระเป๋าซึ่งกว่าจะเดินไปถึงก็ไกลโขอยู่ รับเรียบร้อย ซื้อซิม 1 อัน ( แชร์เน็ตเอา) ในราคา 30,000 W  เพื่อนซื้อบัตร T-Money และเติมเงินคนละ 20,000 W (เรามีบัตรอยู่แล้วประหยัดไปนิดหน่อย)  จ่ายครั้งแรก สรุป 72,500 W ในสนามบิน ออกจากสนามบิน ซื้อตั๋วเข้าเมืองไปลงที่หน้าบริเวณที่ที่เราพักเลย คนละ 10,000 = 20,000 W แค่ไม่กี่ชม. แรก ก็หมดไปเกือบแสนแระจ๊า  O_๐!

เรามาถึงที่พักหน้าสถานีเมียงดง แล้วมุดใต้ดินเดินข้ามมาออกประตู3 ( ที่จริงแกเดินข้ามทางม้าลายก็ได้ ง่ายๆเลย) แล้วก็ตรงขึ้นไปเอียงขวาไปค่ะ ไม่นานก็เจอที่พักเรา นัมซานเกสเฮ้าส์ จอง2 ได้นอน 4 ซะงั้น ไม่เปงไร ยังไงก็ได้ไม่ซี แค่มีที่นอนก็โอ !!

อันล่างนี่ที่เราจองมา

แต่เราถูกย้ายมานอนที่นี่ ทว่า ติดกันเลยจ่ะ อยากได้บรรยากาศแบบบ้านพักสบายๆ เป็นกันเอง แต่ไม่เปงไร นอนที่ไหนก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละ เน๊อะ >>>>

บรรยากาศภายในห้องนอนเราค่ะ เป็นห้องแบบ 2 เตียง ขนาดไม่กว้างมากนัก แต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

แอร์ ทีวี ชั้นวางของ ไดร์เป่าผม ไม่มีตู้เย็นนะคะถ้ามีของมาแช่ ต้องแช่ที่ Break Room ด้านล่างค่ะ กาแฟ มาม่า ขนมปังกินได้ตลอดเวลา น้ำร้อน น้ำเย็นมีบริการพร้อมสรรพค่ะ

นี่ค่ะ บริเวณ Break Room ที่ว่า อยู่ชั้นใต้ดินของอาคารค่ะ ถ่ายไว้ในเวลาเช้าตรู่ที่ยังไม่มีใครตื่นลงมา เพราะ Night Life ที่นี่น่าสนใจมาก เพียงแต่เราไม่ได้ไปชื่นชมบรรยากาศเหล่านั้น ... แอบเสียดายเล็กๆ เหมือนกันนะเนี๊ยะ

Ok จบเรื่องบรรยากาศที่พักของเรา พี่จะพาไปเที่ยวเลยละกัน เพราะวันที่พวกเราไปถึงหลังจากเก็บของ พวกเราก็ออกไปเลยจ๊า

แอบบอกก่อนว่า พวกเราไม่ได้วางแผนอะไรกันมามากนัก ว่าจะไปไหนเรียงลำดับยังไง ก่อนหลัง เป๊ะๆๆ --- เรื่องเหล่านี้สำหรับเราไม่เคยเกิดขึ้น แผนของพวกเราคือ " ไม่มีแผน" นั่นเอง

วันที่เรามา ก่อนจะถึงที่พักแอบมีฝนตกเล็กๆ แต่พวกเราไม่เจอฝนนะ พี่ที่ดูแลที่นี่บอกว่า ก่อนหน้าที่คุณจะมาฝนตกทุกวันเลย แต่วันนี้ ไม่ตกแล้วไปเที่ยวได้อย่างสบายใจนะ อิอิ

ถึงกระนั้นแล้วก็ยังไม่ได้เชื่อทั้งหมดนะ แต่ลึกๆ คาดหวังว่า เราจะไม่เจอฝน (เพราะพี่ปักตะไคร้มาแล้ว) แอบเปิดดูอุณหภูมิที่คาดการณ์ในเวบ ผลคือ เมฆหนา ปกคลุม และมีฝน ทุกวันเลยอ่ะ .... ^^" กำแล้วไง งั้นไปไหนที่เราไปได้ก่อนละกัน

หลังบ้านเลยจ๊า นัมซานทาวเวอร์  หลังจากถามทางมาแล้ว ก็เดินเลยจ่ะ

สนนราคาค่า Cable Car ไปกลับ คนละ 8500 W = 17,000 W

( ก่อนหน้านี้เคยอ่านเจอ ว่าราคาแค่ 8000 ไปกลับ รวมทั้งยังมีคูปองส่วนลดด้วยนะ แล้วแต่ช่วง ยังไงลองมองหาดูกันนะจ๊ะ )

ช๊อบ ชอบ ระหว่างทางที่เราเดินไป จนไปถึงด้านบน จะมีลมพัดมาโดยตลอดๆ เป็นลมเย็นสบายๆ จริงๆก็หนาวเลยนะ แต่ไหวอยู่ มันโอมากเลย บรึ๊ยๆๆๆ

ตะแล๊ด แต๊ด แต๋ กันไปตามระเบียบ

ต้องบอกก่อนว่า วันนี้ที่เราขึ้นมาเป็นบรรยากาศหลังฝนตก ทำให้โชคดีตรงที่คนน้อย ถ่ายรูปได้โอเค แต่โชคร้ายที่ฟ้าไม่สวยเอาซะเลย ณ จุดนี้พวกเราเลยอยู่กันไม่นานค่ะ อีกทั้ง ยังไม่ได้กินอะไรด้วย เลยคิดว่า มาเดินๆ แรดๆ ถ่ายรูปซัก 40-50 รูปแล้วก็ไปที่อื่นกันดีกว่า อิอิ ดังนั้นจากนี้ก็จะเน้นรูปคน โดยมีวิวมีให้ชมกันแค่เล็กน้อยเท่านั้นค่ะ

ปิดท้ายบน N Seoul ที่ภาพนี้ละกันนะคะ เด๋วมาใหม่ พูดเลย !!! 

 จากนั้นพวกเราก็ลงมาเดินหาของกินด้านล่างค่ะ ชิมไปเรื่อยทุกอย่าง ตั้งแต่ คิมบับ 2,000 W นมกล้วย 1,300 W นมเฮอซี่ จำราคาไม่ได้  สตาบัค 2,000 W ไปจนถึง ขนมปลาใต้สถานีรถไฟใต้ดิน อร่อยเหมือนกันค่ะ 5,000 W

จากนั้นได้เวลาไปเดิน Survey ที่ เมียงดง ถนนที่ว่ากันว่า เป็นย่านสยามเมืองไทย 

วันแรกนี่ พวกเราเดินอ้อมไปอ้อมมา เดินซื้อนั้นซื้อนี่ชิมไปเรื่อยหาสาระไม่ได้เลย แต่คืออิ่มเลยนะ

ปล. แตงโมลูกใหญ่มาก อร่อย ฉ่ำมาก แก้วละ 3,000 W จ่ะ

พวกเราขึ้นไปร้านนี้กัน ว่าจะลองชิม ปรากฏว่า ในร้านไม่มีคนเลย เลยแบบว่า ถอยดีกว่า 55+ สุดท้าย กลับมากินมาม่าฟรีที่ที่พักซะงั้น หุหุ ... จริงๆ มันอิ่มมาก่อนแล้วด้วยล่ะจิ

สำหรับวันแรกนี่ แค่ชิมลางเกาหลี เดินเล่น Survey แถวบ้านก่อนเท่านั้น เราจะเริ่มออกเที่ยวกันจริงๆ พรุ่งนี้แล้วค่อยมาดูกันว่าหลงไปถึงไหนยังไงบ้าง ผิดถูด มีพลาดอะไร ไว้จะมาบอกเล่าให้อ่านกันนะจ๊ะ ใครที่หลงเปิดเข้ามาอ่านแล้ว กดไลค์ กดแชร์ให้กำลังใจเค้าบ้างก็ได้น๊า เค้าจะได้ดีใจ คริๆ มีกำลังใจอัพบล็อคต่อไป ฮิ็วววววววววววว 

เจอกัน Blog หน้าค่ะ 

~ บะบุย ~