คงต้องย้อนกลับไปเมื่อ 26 ปีที่แล้ว สมัยที่จบมัธยมปลายใหม่ๆ เราสอบได้ที่
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตสงขลา (สมัยนั้นยังเป็นวิทยาเขตอยู่น่ะนะ) คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาและวรรณคดีอังกฤษ
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่จะต้องจากบ้านไปไกล ไปเรียนหนังสือ ไปอยู่หอพักรวมกับเพื่อนๆ ซึ่งตอนนั้นใครคือใคร มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ก็ต้องไป ชีวิตเส้นทางกำหนดไว้แล้วว่าเราจะต้องไปใช้ชีวิตที่นั่น ไปเจอเพื่อนๆ ครูอาจารย์ที่นั่น ตอนนั้นยินดีและเต็มใจที่จะเจอกับสิ่งใหม่ๆ
แล้วก็ตกใจ .... ตกใจกับการรับน้อง ทุกๆเย็นจะต้องขึ้นสแตนเชียร์ ทุกๆวันจะต้องร้องเพลงเชียร์ให้ได้วันละเพลง และจะต้องจำชื่อเพื่อนๆ พี่ๆ ให้ได้อย่างเร็วที่สุด .... ไหนจะต้องปรับตัวกับชีวิตใหม่ๆ ไหนจะต้องมาเจอกับการกดดันจากพี่ๆ แทบจะไม่ไหว แต่จะทำยังไงได้ ต้องอดทน ต้องสู้ ต้องรวมกันกับเพื่อน ช่วยเหลือกัน ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องรับน้องในช่วงนั้น และนั่นคือสิ่งหนึ่งที่หล่อหลอมให้กลายเป็นคนอดทนและสู้กับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต นั่นคือสิ่งหนึ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนแน่นแฟ้นอย่างเหลือเกิน
คิดดูเถอะค่ะ ลานหินแห่งนี้ผ่านการบ่มแดดมาตลอดทั้งวัน พอตอนเย็นๆเราต้องขึ้นไปนั่งรอเพลงเป็นชั่วโมง ถามหน่อยเถอะก้นใครไม่พองบ้าง ... ไม่มี เป็นฝีที่ก้นกันกี่คน ... ตอบมา ^^"
คณะของเราแบ่งเป็นเอกภาษาและวรรณคดีไทย และ ภาษาและวรรณคดีอังกฤษ ทั้งหมดรวมกัน 81 คน ... เกียงคือคนที่ 1 และ เอกคือคนที่ 81
จนกระทั่งจบช่วงเวลาของการรับน้อง มาถึงพิธีบายศรีสู่ขวัญ จัดขึ้นที่บ้านวิภาวดี เป็นพิธีที่แสนซาบซึ้งอย่างเหลือเกิน
จากนั้นก็จะเป็นการเลี้ยงน้อง พี่รหัส พี่คณะ ป้าลุงรหัส พี่จังหวัด สารพัดสารพัน นัดกันไม่ได้ว่างเว้น
แต่ด้วยชีวิตที่ขีดกำหนดอีกนั่นล่ะ เพื่อนบางส่วนมีความจำเป็นจะต้องย้ายไปเรียนที่วิทยาเขตประสานมิตร และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เรามีโอกาสเรียนที่สงขลาเพียงแค่ 3 เทอม จากนั้นย้ายไปต่อที่ประสานมิตร บรรดาพวกย้ายจากสงขลามาก็เกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น รักกันมาก ต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถประสานตัวให้กลมกลืนกับเพื่อนๆในที่ใหม่ได้อย่างแนบสนิท ส่วนหนึ่งคือเราไม่ได้ผ่านการรับน้องมาด้วยกัน เราไม่ได้กิน นอน เที่ยว เล่น มาด้วยกัน การเรียนในกรุงเทพ คือ เช้ามาเรียนเย็นกลับบ้าน ต่างจากชีวิตเด็กหออย่างมาก ชีวิต 24 ชั่วโมงใน 7 วันคลุกคลีอยู่แต่กับเพื่อน จะเจ็บจะไข้ จะร้องไห้หัวเราะ เรามีเพื่อนช่วยปลอบโยน และร่วมหัวเราะไปด้วยกัน
จนเรียนจบ เพื่อนที่ย้ายมาจากประสานมิตรบางคน หอบเอาชุดครุยไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆที่สงขลา เพื่อนที่สงขลาหลายๆคนมาร่วมแสดงความยินดีกับพวกที่ย้ายมาที่ประสานมิตร มิตรภาพไม่ได้ห่างหาย
เข้าสู่วัยทำงาน สร้างครอบครัว บางคนหลุดหายไปจากวงจรเพื่อนๆ เราก็คงจะเป็นหนึ่งในนั้น แต่สายใยที่เกี่ยวยึดกันไว้ ทำให้พวกเราได้เชื่อมต่อกันอีกครั้ง เพื่อนๆเริ่มมีการจัดการพบปะสังสรรค์กันปีละครั้ง ทุกครั้งที่รู้ข่าวบอกได้เลยว่าอยากไปเจออยากไปร่วมด้วยมากๆ แต่ก็ยังไม่มีปีไหนที่ปลีกตัวไปได้
จนกระทั่งปีนี้ .............. เรามีภาพเช่นกันรวมกันอีกครั้ง
จะยังไง .... โปรดติดตามตอนต่อไป
*** จากครูไก่ ***
เราเล่นเฟสไม่เป็น..แต่เราก็อยากเขียนบรรยายความรู้สึกมั่ง..แรกเริ่มเดิมที..เราสอบติดทั้งมอ.หาดใหญ่และมศว.สงขลา..เราได้ไปรับน้องกับมอ.หาดใหญ่แล้วในวันก่อนสอบสัมภาษณ์..แต่คืนนั้นเราตัดสินใจบอกพี่รร.เราที่เขาคอยเทคแคร์เรา..ว่าเราตัดสินใจจะไปเรียนที่มศว.สงขลา..พี่จะโกรธมั้ย..พี่เขาบอกว่า..ดีใจที่น้องตัดสินใจเลือกทางเดินในชีวิตด้วยตัวน้องเอง..ตกลงพี่เขาก็เป็นธุระจัดการพาเราไปสอบสัมภาษณ์ที่มศว.สงขลา..เราเลือกวิชาเอกภาษาและวรรณคดีอังกฤษ..แต่อาจารย์ที่สอบสัมภาษณ์..มาทราบภายหลัง..หลังจากเข้าเรียนที่นั่นว่าคือ..อ.กิ่งกาญจน์..ท่านบอกว่า..เกรดภาษาไทยหนูดีมาตลอดสูงกว่าเกรดภาษาอังกฤษนะ..อ่อ..หมันก็แน่อยู่แล้วแลอาจารย์..เรานึกในใจ..อาจารย์ว่าเธอน่าจะไปเรียนวิชาเอกภาษาและวรรณคดีไทยดีกว่านะ..บอดตามตรงว่าเราผิดหวังมาก..เพราะเราชอบภาษาอังกฤษ..แต่เราไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น..สรุปว่าเราได้เข้าเรียนคณะมนุษยศาสตร์..วิชาเอกภาษาและวรรณคดีไทย..ผิดเป้าหมายที่ตั้งไว้..แต่ก็ยังพอทำใจ
วันแรกของการก้าวเท้าเข้าไปสู่รั้วเทาแดง..เรารู้สึกกลัวกับการต้องพบเจออะไรใหม่ๆ..แต่เพื่อนใหม่ก็ทำให้เราปรับตัวได้ในเวลาอันรวดเร็ว..เราต้องขึ้นสแตนด์เชียร์..โดนว้าก...โดนรับน้อง..เรากลัวการโดนว้าก..พวกพี่ๆสอนให้พวกเราร้องเพลงคณะ..สอนให้เรารักคณะ..รักพวกพ้อง..รักเพื่อนๆ..ทำงานเป็นทีม..เราจำได้ดี..พอขึ้นสแตนด์เชียร์พี่ว้ากก็จะถามก่อน..เพลงนี้ใครจำเนื้อร้องได้หมดแล้ว..เราดันยกมือว่าจำได้เพียงคนเดียว..พอพี่ว้ากถามต่อจำได้ว่าคือพี่เหล่ง..ถามว่า..ใครจำเนื้อเพลงไม่ได้บ้าง..ให้ลงมา..เพื่อนๆทุกคนต่างพากันวิ่งกรูลงไปด้านล่างสแตนด์เชียร์..เหลือเราอยู่บนสแตนด์เชียร์แค่คนเดียว..แล้วนั่งดูพวกเพื่อนๆถูกทำโทษ..ตอนนั้น..เรารู้สึกว่าเราโดดเดี่ยวมาก..แต่เพื่อนๆที่ถูกทำโทษเขาสนุกกันมาก..เขาไม่ได้เครียดหรือกังวลอะไร..นับจากวินาทีนั้น..เราตั้งปณิธานไว้เลยว่า..ต่อไปนี้..เราจะดูเสียงส่วนมาก..เราจะตอบว่าเราจำไม่ได้บ้าง..แต่ความจริงเราท่องจำเนื้อเพลงที่พี่ให้การบ้านไปจำมาได้ทุกเพลง..แต่เราไม่อยากโดดเดี่ยว..มันวังเวงและน่ากลัวมาก..โดยเฉพาะพี่ว้าก..น่ากลัวจริงๆ
พวกพี่ๆสอนให้เราร้องเพลง..สอนให้เรารู้จักเพื่อนในคณะ..สอนให้เรารู้จักพี่คณะ..พี่รหัส..ปู่รหัส.ย่ารหัส..สอนให้รู้จักมีสัมมาคารวะกับรุ่นพี่..เราเริ่มเรียนรู้อะไรๆได้หลายๆอย่างจากการรับน้อง..และแล้ววันแห่งความประทับใจก็มาถึง..วันนั้นเป็นวันที่พวกพี่ๆ..จัดให้มีพิธีรับน้องใหม่บนบ้านวิภาวดี..เราเห็นสิ่งที่พวกพี่ๆช่วยจัดตระเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างบนบ้านวิภาวดี..แล้ว..รู้สึกอึ้ง..ทึ่ง..และขนลุกไปเลย..ไม่ว่าจะเป็นการบายศรี..การมอบสิ่งดีๆความรู้สึกดีๆจากพี่สู่น้อง..ความโกรธ..ความกลัว..พลันมลายหายสิ้นไปหมด..หลังจากผ่านการขึ้นบายศรีสู่ขวัญรับน้องใหม่มนุษยศาสตร์รุ่นที่ 14 จำนวน 81 คนในวันนั้น..เข้าใจถึงความตั้งใจของพวกพี่ๆ..เรารักคณะมากขึ้น..รักพี่ๆไม่โกรธไม่เกลียดพี่ว้ากอีกต่อไป..เราว่าเราโชคดี..ที่ได้มาเรียนในคณะนี้
เราเรียนในคณะมนุษยศาสตร์เป็นเวลาสองปี..รู้จักเพื่อนๆในคณะทุกคน..พอถึงช่วงขึ้นปี3และปี4..ต้องเป็นช่วงที่แยกไปเรียนตามวิชาเอก..มันก็เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเราอีกครั้งหนึ่ง..แม่เราอยากให้เราเป็นครู..เราเถียงกับแม่เราตั้งแต่เราเข้าเรียนตอนปี1ว่าเรียนคณะมนุษย์ก็เป็นครูได้..แม่บอกว่าใช่..แต่ต้องเก็บหน่วยกิตวิชาชีพครูให้ได้ 14 หน่วยกิตด้วย..เราบอกว่าเราจะเก็บให้ได้..แต่เพื่อนๆรู้มั้ยว่า..เราไปแย่งลงทะเบียนเรียนไม่เคยทันเพื่อน..ปี1ผ่านไป..ปี2ผ่านไป..พอจะขึ้นปี3..แม่บอกว่าในเมื่อทำไม่ได้..ให้ทำเรื่องย้ายคณะ..ไปเรียนศึกษาศาสตร์..มันเหมือนฟ้าผ่าลงมาเลย..เราไม่ยอม..เราร้องไห้..เราเถียงกับเราเป็นรายแรกของมศว.สงขลาเลยล่ะมั้ง..ที่ทำเรื่องย้ายคณะ..เรารักคณะมนุษย์มาก...เราผูกพัน..แต่เราจำใจต้องย้ายคณะ..เราเดินเรื่องยุ่งยากมากพอสมควร..แล้วเราก็กลัวพวกพี่ๆจะโกรธเรา..เกลียดเรา..กลัวเพื่อนๆจะห่างเหินกับเรา..แต่เราคิดผิด..พวกพี่ๆเพื่อนๆต่างก็พาเข้าใจเรา..ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด..ที่เรากังวล..พอเข้าไปเรียนในคณะศึกษาศาสตร์..เราได้รหัสประจำตัวใหม่..แต่เพื่อนๆจะเชื่อมั้ย..เราไม่เคยจำรหัสประจำตัวใหม่เลย..แต่รหัส..328011011..มันจำฝังเข้าไปในหัว..จำขึ้นใจ..จำได้จำดีไม่เคยลืม..พี่ที่คณะศึกษาเขาจะขอรับน้องเอกไทย..เพื่อนๆใหม่จากคณะศึกษาแจ้งมาว่าให้ไปเกาะยอ..ไปทำความรู้จักกับรุ่นพี่เอกภาษาไทย..เราตัดสินใจไม่ไป..เราไปเรียนที่ศึกษาศาสตร์แต่ตัว...แต่หัวใจของเรา..เราได้ทิ้งมันไว้ที่คณะมนุษยศาสตร์หมดแล้ว..เราไม่แคร์ที่พี่ๆในวิชาเอกของศึกษาศาสตร์จะไม่ดูแลหรือเทคแคร์เรา..แต่เราทนไม่ได้ถ้าพี่ๆและเพื่อนๆในคณะมนุษย์จะไม่สนใจเรา..แต่พี่ๆน้องๆของมนุษยศาสตร์ก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง..เราซาบซึ้งกับสิ่งดีๆเหล่านี้มากเลย..เพื่อนไม่เคยทิ้งกัน..ไม่ว่าเราจะไปอยู่คณะไหน..แต่เพื่อนในคณะมนุษย์ก็ยังถือว่าเรายังอยู่ในคณะเหมือนเดิมแม่..แต่แม่ก็มีเหตุผลของแม่..ทำให้เราต้องยอมรับ
เราเป็นรายแรกของมศว.สงขลาเลยล่ะมั้ง..ที่ทำเรื่องย้ายคณะ..เรารักคณะมนุษย์มาก...เราผูกพัน..แต่เราจำใจต้องย้ายคณะ..เราเดินเรื่องยุ่งยากมากพอสมควร..แล้วเราก็กลัวพวกพี่ๆจะโกรธเรา..เกลียดเรา..กลัวเพื่อนๆจะห่างเหินกับเรา..แต่เราคิดผิด..พวกพี่ๆเพื่อนๆต่างก็พาเข้าใจเรา..ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด..ที่เรากังวล..พอเข้าไปเรียนในคณะศึกษาศาสตร์..เราได้รหัสประจำตัวใหม่..แต่เพื่อนๆจะเชื่อมั้ย..เราไม่เคยจำรหัสประจำตัวใหม่เลย..แต่รหัส..328011011..มันจำฝังเข้าไปในหัว..จำขึ้นใจ..จำได้จำดีไม่เคยลืม..พี่ที่คณะศึกษาเขาจะขอรับน้องเอกไทย..เพื่อนๆใหม่จากคณะศึกษาแจ้งมาว่าให้ไปเกาะยอ..ไปทำความรู้จักกับรุ่นพี่เอกภาษาไทย..เราตัดสินใจไม่ไป..เราไปเรียนที่ศึกษาศาสตร์แต่ตัว...แต่หัวใจของเรา..เราได้ทิ้งมันไว้ที่คณะมนุษยศาสตร์หมดแล้ว..เราไม่แคร์ที่พี่ๆในวิชาเอกของศึกษาศาสตร์จะไม่ดูแลหรือเทคแคร์เรา..แต่เราทนไม่ได้ถ้าพี่ๆและเพื่อนๆในคณะมนุษย์จะไม่สนใจเรา..แต่พี่ๆน้องๆของมนุษยศาสตร์ก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง..เราซาบซึ้งกับสิ่งดีๆเหล่านี้มากเลย..เพื่อนไม่เคยทิ้งกัน..ไม่ว่าเราจะไปอยู่คณะไหน..แต่เพื่อนในคณะมนุษย์ก็ยังถือว่าเรายังอยู่ในคณะเหมือนเดิม