ดอกรสสุคนธ์
............
ไม้ดอกหอม ชื่อ แปลว่า
กลิ่นหอม รสกลิ่นอันดีเป็นที่ชื่นใจ "
จัดเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูก ตามบ้านเรือน
โดยมีความเชื่อว่า ผู้ปลูกจะเป็นผู้ดี
มีความงามบริสุทธิ์ ทั้งกายและใจ
มีชื่อเสียงดีเหมือนดังเถารสสุคนธ์ที่เลื้อยไปได้ไกล
จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีเนื้อไม้แข็ง
ไม่ผลัดใบ เป็นไม้เถามีเนื้อแข็ง เลื้อยได้ไกล 5-8 เมตร
กิ่งอ่อนมีขนขุยสีน้ำตาลแก่ปกคลุมอยู่
แตกกิ่งเลื้อยทอดยาว เปลือกเถามีสีเขียวเมื่อยังอ่อน
เมื่อเถาแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเทา เปลือกบางเรียบ
เป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตได้ดี ในที่ร่มมีแสงรำไร
และที่โล่งแจ้ง ทนความแห้งแล้งได้ดี
พบขึ้นได้ทั่วไป ตามป่าธรรมชาติ ป่าดิบแล้ง
ป่าผลัดใบ ป่าละเมาะ ป่าชื้นทางภาคใต้
หรือป่าเบญจพรรณและป่าชายหาดหรือชายฝั่งทะเล
ดอกรสสุคนธ์ ออกดอกเป็นช่อแบบแยกแขนง
ตามซอกใบหรือปลายยอด
ช่อดอกมีความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร
และมีเส้นผ่านศูนย์กลางของดอกเมื่อบาน
ประมาณ 0.8 เซนติเมตร มีดอกย่อยจำนวนมาก
ดอกมีลักษณะทรงกลม สีขาว กลีบดอกมีอยู่ 5 กลีบ
มักหลุดร่วงได้ง่าย ดอกมีกลิ่นหอม
และดอกมักบานไม่พร้อมกัน
เมื่อดอกบานจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร
ดอกมีเกสรตัวผู้สีขาวจำนวนมาก คล้ายเส้นด้าย
กระจายออกเป็นพุ่มกลม คล้ายดอกกระถิน
และมีกลีบเลี้ยงอยู่ 5 กลีบ
ดอกรสสุคนธ์ จะส่งกลิ่นหอมแรง ในตอนกลางคืน
สามารถออกดอกได้ปีละหลายครั้ง
ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม
และจะออกดอกมาก เป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว
หรือในช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์
ดอกรสสุคนธ์ มีรสหอมขม ใช้เข้าเครื่องยาหอม
มีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ ใช้ดอกปรุงเป็นยาหอม
ใช้คู่กับเถาอรคนธ์ หรือรสสุคนธ์แดง
ใบรสสุคนธ์ มีใบเป็นใบเดี่ยว ใบออกเรียงแบบสลับกัน
ถึงรูปขอบขนาน ที่โคนใบและปลายใบมนถึงแหลม
ปลายใบโต โคนใบเรียว ขอบใบเป็นจักห่างๆ
เนื้อใบค่อนข้างหนา มีสีเขียวเข้ม เส้นใบชัด
ลักษณะคล้ายลิ้นวัว
ผิวใบด้านบนเห็นเป็นเส้นแขนงใบเป็นร่อง
ส่วนผิวใต้ท้องใบสากคาย หลังใบมีสีเขียวเข้ม
และมีก้านใบยาวประมาณ 0.6-1 เซนติเมตร
ลักษณะของผลเป็นรูปไข่เบี้ยว ผลมีสีเขียว
มีขนาดประมาณ 0.7 เซนติเมตร และมีจะงอยที่ส่วนปลาย
เมื่อผลแก่จะแตกออกเป็นแนวเดียว
ภายในผลจะมีเมล็ดสีดำอยู่ 1-2 เมล็ด
เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปไข่สีดำ
และมีเยื่อหุ้มเมล็ด หรือเรียกว่ารกสีแดงสด
รสสุคนธ์ ชื่อสามัญ Tetracera loureiri, Dillenia
ชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า รสสุคนธ์ขาว เสาวคนธ์ เสาวรส
มะตาดเครือ (กรุงเทพมหานคร), ลิ้นแรด (อุบลราชธานี),
ลิ้นแฮด (ยโสธร), รสสุคนธ์ (สุรินทร์),
เถากะปดใบเลื่อม (ประจวบคีรีขันธ์), ปดน้ำมัน (ปัตตานี),
บอระคน เถาอรคน อรคน (ตรัง),
สุคนธรส มะตาดเครือ ย่านปด อรคนธ์ ปดขน (นครศรีธรรมราช),
ปดคาย ปดเลื่อม (สุราษฎร์ธานี), สับปละ (นราธิวาส),
ปะหล่ะลือแล็ง (ปัตตานี),
กะปด กะป๊ด ป๊ด ย่านป๊อด (ภาคใต้) เป็นต้น
ขอบคุณที่มา fb.Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ