Group Blog
All Blog
<<< "ไม่มีอะไรดีกว่า มีแล้วก็วุ่นวาย" >>>










"ไม่มีอะไรดีกว่า มีแล้วก็วุ่นวาย"

ไม่มีอะไรน่ะดีกว่า มีแล้วก็วุ่นวาย

มีแล้วก็ต้องคอยดูแลรักษา แล้วต้องมากังวล

 แล้วเดี๋ยวเกิดมันหายไปต้องมาเสียใจ

 แล้วก็ไม่พออีก ต้องไปหาใหม่

ถ้าหยุดซื้อได้หยุดอยากได้ ก็สบาย

อยู่เฉยๆ ร่างกายก็ไม่ต้องใช้มัน

 มีร่างกายหรือไม่มีร่างกายก็ไม่เป็นปัญหาอะไร

 มันจะแก่จะเจ็บจะตายก็ไม่ต้องเดือดร้อน

 เพราะเราไม่ต้องใช้ร่างกาย

 ที่เราเดือดร้อนก็เพราะเรายังต้องใช้ร่างกาย

เหมือนกับถ้าเรามีคนรับใช้นี่

 เวลาคนรับใช้ไม่สบายเราเดือดร้อนไหม

 มันเคยกวาดบ้านถูบ้านซักผ้าให้เรา

 มาบอกวันนี้ไม่ไหวแล้วจ้ะ

 ไม่สบาย แล้วใครทำล่ะ

 เราก็ต้องทำ ร่างกายเราก็เป็นเหมือนคนใช้

 มันรับใช้เรา วันไหนมันไม่สบาย เราก็วุ่นวายแล้ว

 ตายล่ะ จะไปเที่ยวก็ไปไม่ได้

 จะแต่งเนื้อแต่งตัวให้สวยมันก็แต่งไม่ได้แล้ว

 นอนอยู่บนเตียง ไอเอย น้ำมูกไหลเอย ไข้ขึ้นเอย

 อันนี้แหละถ้าเราต้องใช้ร่างกาย

 แต่ถ้าเราไม่ใช้เราก็ไม่เดือดร้อน

มันจะเป็นยังไงปล่อยมันเป็นไป

เพราะเราไม่ได้ใช้มันพาเราไปเที่ยว

 เราไม่ได้ใช้มันแต่งเนื้อแต่งตัวให้เรา

มีความรู้สึกสบาย สวย มีความสุข

เพราะเรามีความสุขจากการไม่มีกิเลส

มีความสุขจากการทำใจไม่ให้มีกิเลส

จาก การทำใจให้สงบ จากการนั่งสมาธิ

นี่คือเรื่องต่างๆ ที่เราไม่รู้กัน และจะไม่มีวันรู้

ถ้าเราไม่ได้มาพบกับพระพุทธศาสนา

ไม่ได้มาพบกับพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์

 ตอนนี้พระพุทธเจ้าไม่อยู่ก็จริง

แต่ธรรมนี้เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า

 ถ้าได้พบกับพระธรรมก็ถือว่า

ได้พบกับพระพุทธเจ้า

 พระพุทธเจ้าบอกว่า ธรรมคำสอนของเรานี้

จะเป็นศาสดาแทนเราต่อไป

จะเป็นศาสดาของพวกเธอแทนเราต่อไป

 พวกเธอจะไม่ได้อยู่ปราศจากศาสดา

ถ้ามีพระธรรมคำสอน

ถ้ามีพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎกก็ดี

ในหนังสือของพระอริยสงฆ์สาวกก็ดี

อันนี้ก็ถือว่าเป็นพระธรรมคำสอนเหมือนกัน

เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าได้

มีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์

ก็จะมีคนสอนคนบอกว่า

อะไรคือบุญ อะไรคือบาป

 อะไรคือกิเลส อะไรคือตัณหา

 แล้วทำไมต้องตัดกิเลส ทำไมต้องตัดตัณหา

ทำไมต้องไม่ทำบาป ทำไมต้องทำบุญ

อันนี้มันจะสอนเราบอกเราให้รู้

เมื่อเรารู้แล้วว่าอะไรเป็นประโยชน์เราก็ทำไป

เมื่อเรารู้ว่าอะไรเป็นโทษเราก็เลิกทำ

เช่น ดื่มสุราเป็นโทษก็เลิกดื่ม

 เล่นการพนันเป็นโทษก็อย่าไปเล่น

ทำบุญเป็นประโยชน์ก็ทำกัน

แทนที่จะนำเงินไปซื้อสุราก็เอามาทำบุญแทน

แล้วจิตใจเราจะเปลี่ยนไปเลย

จากจิตใจที่วุ่นวาย ใจที่มีความทุกข์

กลายเป็นจิตใจที่สงบ จิตใจที่มีความสุข

อันนี้คือเรื่องของจิตใจของพวกเรา

 ที่ต้องมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.........................

สนทนาธรรมะบนเขา

วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๐








ขอบคุณที่มา fb.. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 15 มิถุนายน 2560
Last Update : 15 มิถุนายน 2560 5:06:03 น.
Counter : 681 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ