Group Blog
All Blog
### ความอยาก ###











“ความอยาก”

ปัญหาของพวกเราก็คือความอยาก

 อยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้

 พอไม่เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ก็จะพยายามหาวิธี

ทำให้เป็นไปตามความอยาก พอเป็นแล้วก็เท่านั้น

ไม่ได้แก้ปัญหาคือความอยาก ไม่ได้ทำให้ความอยากหมดไป

 พอได้สิ่งที่อยากได้แล้ว

ความอยากก็จะโผล่ขึ้นมาอีก อยากได้อีก

 ก็จะอยากไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหมดปัญหา

เพราะเวลาอยากได้อะไร ก็ต้องมีปัญหามีอุปสรรค

 กว่าจะแก้ปัญหาฟันฝ่าอุปสรรคได้

ก็จะเสียเวลาเสียเงินทองไปโดยใช่เหตุ

 เพราะไม่ได้แก้ปัญหา กลับสร้างปัญหาขึ้นมาอีก

 เพราะจะมีความอยากอีก เพราะเบื่อกับของที่ได้มา

 อยากได้ของที่ยังไม่ได้ ถ้าไม่หยุดความอยาก

ความอยากจะไม่มีวันหมดไป

 ความทุกข์ต่างๆก็จะไม่มีวันหมด

วิธีแก้ปัญหาที่แท้จริงก็คือต้องหยุดความอยาก

ถ้าหยุดความอยากได้แล้ว ปัญหาต่างๆก็จะหมดไป

 เหตุที่ทำให้อยาก ก็เพราะไม่รู้ว่า

สิ่งที่อยากได้นั้น ไม่ได้แก้ปัญหา ไม่ได้ทำให้ใจอิ่มพอ

 ไม่ว่าจะเป็นลาภยศสรรเสริญ

 เป็นความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย

 จะไม่สามารถให้ความอิ่มความพอแก่ใจได้

 ต่อให้ได้มามากน้อยเพียงไรก็ตาม ความพอจะไม่เกิดขึ้น

 เพราะไม่ได้หยุดความอยาก ได้เงินมาร้อยล้านก็ยังไม่พอ

 ได้พันล้านก็ยังไม่พอ ได้แสนล้านก็ยังไม่พอ

ยังอยากอยู่อย่างนั้น ถ้าไม่อยากได้เงิน

ก็อยากจะได้อย่างอื่น ได้เงินมากแล้ว

ก็อยากจะได้เกียรติยศ

 พอได้ลาภแล้วก็อยากจะได้ยศ

 รวยแล้วก็อยากจะเป็นคุณหญิงเป็นคุณนาย

 อยากเป็นรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี

 เป็นประธานาธิบดี จะอยากไปเรื่อยๆ

ดังที่เคยพูดไว้ ตอนต้นก็อยากจะอยู่ดีกินดี

ไม่อดอยากขาดแคลน พออยู่ดีกินดีแล้ว ก็อยากจะร่ำรวย

พอรวยแล้วก็อยากเป็นใหญ่เป็นโต อยากมีเกียรติ

 มีชื่อเสียงมีหน้ามีตา พอมีแล้วก็อยากจะมีไปนานๆ

 ไม่อยากให้เสื่อมหมดไป เวลาตายไปก็อยากจะไปสวรรค์

จะอยากต่อไปเรื่อยๆไม่มีวันสิ้นสุด

ถ้ายังมีความอยากก็ยังมีความหิว มีความต้องการ

มีความไม่พอ ก็จะไม่มีความสุข ต้องหยุดความอยาก

 เพราะถ้าหยุดความอยากได้ ความอิ่มความพอก็จะเกิดขึ้น

พวกเราไม่รู้ความจริงนี้ ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้

แล้วนำเอาความจริงนี้มาเผยแผ่ มาบอกพวกเรา

 พวกเราจะไม่มีวันรู้ได้

 ก็จะหลงอยู่กับการหาลาภยศสรรเสริญ

 หาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย

 แล้วก็ต้องมาทุกข์กับความเสื่อมของลาภยศสรรเสริญ

ของความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย

 เช่นเวลาสูญเสียสิ่งที่รักไป สูญเสียบุคคลที่รักไป

ก็จะเศร้าโศกเสียใจ ในขณะที่เราอยู่กับสิ่งที่รักกับบุคคลที่รัก

 ก็จะมีความห่วงใย มีความวิตกกังวล กลัวว่าจะจากไป

 เวลาไม่มีสิ่งที่รักบุคคลที่รัก ก็อยากจะมี

พออยากจะมีก็อยู่ไม่เป็นสุข ต้องดิ้นรนแสวงหา

สิ่งที่รักสิ่งที่ชอบ บุคคลที่รักบุคคลที่ชอบ

เพราะใจมีแต่ความอยาก จึงผลักดันให้ไปหาสิ่งต่างๆ

 ความอยากเกิดจากความหลง เห็นผิดเป็นชอบ

เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นความทุกข์ว่าเป็นความสุข

 เห็นลาภยศสรรเสริญ เห็นความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย

ว่าเป็นสุข แต่ความจริงแล้วเป็นทุกข์

 ทุกข์เพราะไม่เที่ยงแท้แน่นอน ไม่เจริญอย่างเดียว

เจริญแล้วก็เสื่อมด้วย เกิดแล้วก็ดับ มาแล้วก็ไป

 มองไม่เห็นส่วนที่เสื่อม ส่วนที่ดับ ส่วนที่จากไป

เวลาเห็นสิ่งที่อยากได้ จะไม่คิดว่าจะจากไป

 จะเสื่อม จะเปลี่ยนไป นี่คือความหลง

ที่จะหลอกให้วิ่งเข้าหาความทุกข์

 เพราะไม่เห็นความไม่เที่ยงแท้แน่นอน

ไม่เห็นความเสื่อมของสิ่งต่างๆ ไม่รู้ว่าไม่มีอะไรในโลกนี้

ที่จะให้ความสุขได้อย่างแท้จริง

ไม่รู้ว่าความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ไหน

 ถ้าไม่ได้พบพระพุทธศาสนา ถ้าได้พบก็จะรู้ว่า

ความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ในใจ อยู่ในตัวเรา

อยู่ที่การทำใจให้สงบ ถ้าไม่มีศาสนาก็จะไม่มีใครรู้

 คนที่ไม่มีศาสนาจึงไม่คิดที่จะทำใจให้สงบ

 ไม่รู้ว่าความสุขที่ยิ่งใหญ่ ความสุขที่ดีเลิศ

 ความสุขที่แท้จริงนั้น อยู่ที่ความสงบของใจ

จึงทุ่มเทเวลาให้กับการหาลาภยศสรรเสริญ

หาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย ก็เลยต้องอยู่กับกองทุกข์

 เวลาที่สิ่งต่างๆเปลี่ยนไป เสื่อมหมดไป

นี่คือความหลงของผู้ที่ไม่ได้เข้าหาศาสนา

โดยเฉพาะพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนารู้ว่า

ความสงบสุขของใจเป็นความสุขที่แท้จริง

รู้วิธีสร้างความสุขนี้ให้ถึงจุดสูงสุด ที่ไม่มีวันเสื่อม

ศาสนาอื่นก็รู้เหมือนกัน

แต่ไม่รู้วิธีสร้างความสุขให้ถึงจุดสูงสุด ที่ไม่มีวันเสื่อม

 รู้เพียงระดับฌานระดับสมาธิ ที่ต้องเสื่อมหมดไป

ไม่รู้วิธีสร้างความสงบที่ถาวร ก็คือพระนิพพาน

 พระนิพพานก็คือใจที่มีความสงบตลอดเวลา

สงบอย่างถาวร ที่เกิดจากการกำจัด

ความอยากทั้งหลายให้หมดไป ด้วยอำนาจของปัญญา

 ของสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ

ที่เห็นว่าสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้

ล้วนเป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา ต้องมีปัญญามีความรู้นี้

 จึงจะสามารถกำจัดความอยากต่างๆ

ให้หมดไปได้อย่างถาวร

ถ้ากำจัดด้วยการเพ่งอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง

เช่นกำหนดดูลมหายใจเข้าออก บริกรรมพุทโธๆ

เพื่อไม่ให้คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็จะหยุดความอยากได้ชั่วคราว

เพราะความอยากต้องใช้ความคิดเป็นเครื่องมือ

พอความคิดหยุดทำงานความอยากก็ต้องหยุดทำงาน

แต่ไม่ได้หยุดแบบถาวร

เวลาออกจากสมาธิมาคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้

 ความอยากก็จะตามมากับความคิดได้

 พอคิดถึงคนนั้นคนนี้ก็เกิดความอยากขึ้นมา

 อยากให้เขาเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้

 พอคิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้

ก็อยากจะให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้

 ก็จะเกิดความไม่สงบ เกิดความกระวนกระวาย

กระสับกระส่าย กระตือรือร้น อยู่ไม่เป็นสุข

เพราะความอยากไม่ได้หมดไปอย่างถาวร

ด้วยการหยุดความคิด

ความอยากเกิดจากความหลง เห็นผิดเป็นชอบ

 เห็นว่าได้อะไรแล้วจะได้ความสุข

ต้องแก้ความหลงด้วยสัมมาทิฏฐิ คือรู้พระอริยสัจ ๔

 ดังที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้

ทรงรู้ว่าความอยากได้สิ่งต่างๆนี้แล

 เป็นต้นเหตุที่ทำลายความสงบของใจ

พอความสงบถูกทำลายไป ความสุขก็หายไป

 ความทุกข์ก็กลับมาแทนที่

 ถ้าอยากจะให้ความสงบความสุขกลับมา

 ก็ต้องหยุดความอยาก.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.........................

กัณฑ์ที่ ๔๕๕ วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๖

 (จุลธรรมนำใจ ๓๓)

“ต้องหยุดความอยาก”







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 15 พฤษภาคม 2559
Last Update : 15 พฤษภาคม 2559 14:50:12 น.
Counter : 730 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ