ราชาเงินผ่อนควรรู้ไว้
วันนี้หลานชายผมมาปรึกษาว่าจะถอยรถจักรยานยนต์สักคัน
เพื่อใช้เดินทางไปทำงานและเล่าให้ฟังว่า
วันก่อนไปติดต่อดูรถยี่ห้อฮอนด้าที่ห้างหนึ่ง(ขอสงวนนาม)
หลานผมเล่าให้ฟังว่าพอไปถึงที่ร้านก็ไปเดินๆดู
ก็มีพนักงานขายเข้ามาดูแลและสอบถามว่า
ต้องการซื้อเงินสดหรือเงินผ่อน
พอหลานผมตอบพนักงานขายคนดังกล่าวไปว่า
จะซื้อเงินสด พนักงานคนดังกล่าว
เริ่มแสดงอาการแบบไม่อยากขาย
พยายามชักชวนให้ซื้อเงินผ่อน หลานชายถามผมแบบ งงๆ ว่า
ทำไม่เขาถึงต้องการขายเงินผ่อนมากกว่าขายเงินสด
มันได้เงินทันทีไม่ใช่หรือ? ผมก็เลยตอบหลานให้หายงงว่า
ขายเงินผ่อนมันได้กำไรมากกว่าขายเงินสด
ดังนั้น วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่อง
สำหรับผู้ไม่มีความรู้เรื่อง ระบบผ่อนชำระเงินงวด
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ขัดแย้ง...
ผมขออธิบายหลักการคำนวณเงินงวด...
เพราะอาศัยว่าอดีตเคยทำงานสถาบันการเงินมาก่อน
ที่จะมาเป็นทนายความจึงขอใช้ประสบการณ์มาอธิบาย
ซึ่งมีความสำคัญสำหรับคนที่ยังไม่รู้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งราชาเงินทั้งหลายควรรู้เอาไว้
การคิดเงินงวด มีอยู่ 2 แบบ ดังนี้
1. ระบบ ลดต้น-ลดดอก (หรือ ระบบดอกเบี้ยทบต้น)
หลักง่ายๆคือ "ดอกเบี้ยของเดือนนี้...
คิดจากเงินต้นคงเหลือจากเดือนก่อน"
ซึ่ง จะแบ่งย่อยออกเป็น 2. ระบบ คือ
1.1 ระบบเงินต้นคงที่ = จ่ายเงินงวดเท่ากันทุกๆเดือน
แต่ช่วงแรกๆเงินต้นจะน้อย ดอกเบี้ยจะเยอะ
พอมาช่วงหลังๆ ดอกเบี้ยจะน้อย เงินต้นจะเยอะ
ระบบนี้ธนาคารเค้าใช้กัน
1.2 ระบบเงินต้นคงที่ = จ่ายเงินต้นเท่ากันทุกเดือน
แต่ช่วงแรกๆเงินงวดจะสูง แต่พักหลังๆ เงินงวดจะลดลง
ระบบนี้ สหกรณ์ต่างๆเค้าจะใช้กัน
2. ระบบดอกเบี้ยคงที่ (หรือ ระบบ ดอกกระด้าง)
หลักการณ์คือ คิดดอกเบี้ย และเงินต้น เท่ากันทุกเดือน
เช่น ต้องส่งเดือนละ 3,000 บาท
ซึ่งประกอบไปด้วย เงินต้น 2,000 + ดอกเบี้ย 1,000
แปลว่าท่านต้องจ่ายในอัตรานี้ไปตลอด
ระบบนี้ พวกไฟแนนซ์รถ บัตรอิออน เค้าจะคิดกัน
.......................
ขอบคุณที่มา fb. ทนายพรชัย รังสรรค์
ทีนี้พอรู้กันบ้างแล้วนะคะว่าใครได้เปรียบใครเสียเปรียบ
แต่ก็นั่นแหละเพราะเรามีเงินไม่พอแต่เกิดกิเลสอยากได้
ก็ต้องเจอแบบนี้แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราไม่ว่ากันนะ
แต่อยากแนะนำให้ท่านลองนำความพอเพียงของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาลองใช้กันดู
เผื่อทุกข์ที่เกิดจากความอยากมีอยากได้มันจะลดลงบ้าง
เปิดช่องว่างให้ความสุขมันเข้าหาตัวเราได้บ้างก็คงดี