Group Blog
All Blog
### มะตูม ###





















มะตูม

......

หน้าร้อนนี้มาดื่มน้ำมะตูมกันดีกว่า

เครื่องดื่มสุขภาพ ไม่แหกตาเหมือนชาเขียว หรือน้ำส้มเทียม

ต้นมะตูม ส่วนใหญ่จะปลูกเป็นไม้มงคล

ส่วนที่นำมาเป็นอาหาร คือยอดใบอ่อน

นำมาเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก หรือกินกับลาบ มีรสหอม

 ใบมะตูม นำมาคั้นน้ำในแกงโบราณของไทย

 ที่เรียกว่า" แกงบวน" ซึ่งถือว่าเป็นแกงของพิธีมงคลต่างๆ

 ผลมะตูม นำมาเชื่อมเก็บไว้รับประทาน เป็นอาหารหวาน

 ผลมะตูมอ่อน นำมาผ่านตากแดดให้แห้ง

 แล้วนำไปต้มดื่มเช่นเดียวกับน้ำชา

เมื่อมีอาการกระหายน้ำ

สรรพคุณทางยาของมะตูมนั้น สามารถขับลมได้

แก้ท้องผูก แก้อาการอ่อนเพลีย แก้ลม จุกเสียด

 ผลมะตูม ผลสุกหรือผลแห้ง นำมาต้มดื่มเป็นยาแก้บิด

 แก้ร้อนใน แก้โรคลำไส้เรื้อรังได้

 และมีวิตามินบี 1 บี 2 อยู่ ช่วยให้ปลายมือเท้าไม่ชา

 ไม่เป็นโรคปากนกกระจอก

ใบมะตูมนำมารับประทานทำให้เจริญอาหาร

 เป็นยาแก้โรคลำไส้ได้ และยังให้เบต้าแคโรทีน

ซึ่งเป็นสารช่วยป้องกันโรคมะเร็งด้วย


มะตูม เป็นไม้ผลที่มีดอกหอมแรง ได้ไกลที่สุดชนิดหนึ่ง

มีด้วยกัน 3 สายพันธุ์ คือ

ชนิดผลกลมยาว กับชนิดที่มีผลคล้ายลูกมะขวิด

 ขนาดผลเล็กเปลือกบาง ซึ่งชนิดนี้เรียกว่า มะตูมไข่

และสายพันธุ์สุดท้าย ทรงผลเหมือนกับชนิดแรก

แต่เปลือกผลจะอ่อนนุ่ม ใช้นิ้วกดจะบุ๋มได้

เรียกว่า มะตูมนิ่ม

มะตูม มีถิ่นกำเนิด มาจากประเทศอินเดีย

เป็นพันธุ์ไม้มงคลของศาสนาฮินดู ที่นิยมปลูกในบ้าน

โดยถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ของพระศิวะนั่นเอง

 สำหรับบ้านเรานั้นมีความเชื่อว่า ใบมะตูมนั้น

สามารถนำมาใช้ป้องกัน ภูตผีปีศาจ เสนียดจัญไรได้ด้วย

ในงานพระราชพิธี และงานมงคลทั่วไป

 ที่มีพิธีพราหมณ์เกือบทุกงาน เช่น ในพระราชพิธีโสกันต์

 ในวันโสกันต์ เจ้านายที่จะโสกันต์

จะถูกแบ่งเกศาจุกออกเป็นสามปอย

ด้วยการใช้พายเงินพายทอง พายนาค

แบ่งแล้วเอาลวดเงิน ลวดทอง ลวดนาค

สายสิญจน์ ผูกปลายเกศา แต่ละปอยกับแหวนนพเก้า

 และใบมะตูมทั้งสามปอย

ในงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเจิมและทรงทัดใบมะตูม

พระราชทานพระยาแรกนา และเทพีคู่หาบทั้งสี่

การที่ไทยใช้ใบมะตูมในงานพิธีต่าง 

หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ประทานความเห็นว่า

ใบมะตูมที่มีสามแฉกนั้น หมายถึงตรีมูรติ

หรือพระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะของฮินดู

 ความเชื่อของฮินดูมาก ตามลัทธิฮินดูนั้น

มะตูม ที่มีชื่อเป็นภาษาสันสกฤตว่า “พิลฺว”

หรือที่เป็นภาษาฮินดูว่า “เพล” นั้น เป็นไม้ “ศรีผล”

หรือเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวคือเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ประจำพระศิวะ

หรือพระอิศวรนั่นเอง เหตุนี้พระศิวะจึงมีสมญานาม

 “พิล วฑณ ฑ” หรือ “ผู้มีไม้มะตูมเป็นคทา”

นอกจากนั้นไม้มะตูม ยังเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์

ของ พวกลัทธิศากตะด้วย

ชาวฮินดูเชื่อว่าใบมะตูม ที่มีรูปเป็นสามแฉกคล้ายตรีศูล นั้น

เป็นสัญญลักษณ์ของหน้าที่ 3 อย่างของพระศิวะ

 คือ การสร้าง การพิทักษ์ และการทำลาย

นอกจากนั้นยังเป็นสัญญลักษณ์

ของตาทั้งสามของพระศิวะด้วย

มะตูม ภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า “Beal”

ส่วนมะตูมภาษาใต้จะเรียกว่า “ตูม ตุ่มตัง กะทันตาเถร”

แต่ถ้าเป็นภาษาเหนือนั้นจะเรียกว่า “มะปิน”



















ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ




Create Date : 07 พฤษภาคม 2558
Last Update : 7 พฤษภาคม 2558 11:54:38 น.
Counter : 3039 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ