Group Blog
All Blog
### หลวงตากับขอทาน ###


















นิทานโดนใจเรื่อง

หลวงตากับขอทาน

วัดแห่งหนึ่ง มีชายขอทานพิการเหลือแขนเพียงข้างเดียว

เดินทางมาเพื่อขออาหาร และได้พบหลวงตาเซน

 ผู้เป็นเจ้าอาวาส แต่เมื่อเอ่ยปากขออาหาร

หลวงตากลับชี้มือไปยังกองอิฐที่หน้าโรงทาน

และบอกกับขอทานแขนเดียวว่า

"โยมช่วยย้ายอิฐกองนั้นไปไว้ที่หลังโรงทานก่อนเถอะ"

ขอทานแขนเดียวได้ยินดังนั้นก็ไม่ค่อยพอใจ กล่าวว่า

 "ผมเหลือแขนเพียงข้างเดียวจะย้ายอิฐได้อย่างไร

 ผมมาขออาหาร หากท่านไม่อยากให้ทานก็ไม่เป็นไร

ผมไปขอที่อื่นก็ได้

หลวงตาเซน ไม่พูดอะไรเพียงแต่เดินไปยกก้อนอิฐ

โดยใช้แขนเพียงข้างเดียว จากนั้นค่อยกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า

"งานประเภทนี้ ถึงมีแขนข้างเดียวก็สามารถทำได้"

ขอทานแขนเดียว ด้วยความหิวและต้องการอาหาร

จึงได้แต่ทำตาม โดยค่อยๆ ย้ายก้อนอิฐไปยังหลังโรงทาน

 ทีละก้อน ทีละก้อน ใช้เวลาพักใหญ่จึงย้ายก้อนหินได้หมดกอง

 หลังจากนั้นหลวงตาเซน ก็มอบเงินค่าตอบแทน

ให้กับขอทานจำนวนหนึ่ง ขอทานคาดไม่ถึงว่าจะได้เงิน

จึงดีใจมากและกล่าวคำ "ขอบคุณ ขอบคุณ" ไม่หยุด

หลวงตาเซน จึงตอบว่า "ไม่ต้องขอบคุณอาตมา

 เพราะเงินนี้มาจากน้ำพักน้ำแรงของโยมเอง"

ขอทานรู้สึกปลื้มใจมาก ที่ได้เงินจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง

จึงเอ่ยด้วยความสำนึกว่า "ผมจะจดจำวันนี้เอาไว้"

จากนั้นจึงก้มตัวน้อมคำนับด้วยความสำนึกในบุญคุณ

ก่อนอำลาจากไป

ผ่านไปหลายวัน มีขอทานอีกคนหนึ่งเดินทางมาขอทานที่วัดนี้

หลวงตาเซน ก็พาขอทานผู้นี้เดินมาที่หลังโรงทาน

และชี้ไปยังกองอิฐและกล่าวว่า

"โยมช่วยย้ายอิฐกองนั้นไปยังหน้าโรงทานก่อนเถอะ"

แต่ขอทานผู้มีแขนขาครบผู้นี้กลับไม่สนใจคำกล่าวของหลวงตา

ได้แต่หันกายจากไปโดยพลัน แบบไม่ค่อยพอใจ

บรรดาพระในวัดเห็นดังนั้นจึงเอ่ยถามหลวงตาเซนว่า

 "คราวก่อนหลวงตาให้ขอทานย้ายอิฐมายังหลังโรงทาน

ทำไมวันนี้กลับคิดที่จะให้ขอทานอีกผู้หนึ่ง

ย้ายอิฐกลับไปหน้าโรงทาน

 ที่แท้แล้วหลวงตาอยากให้นำก้อนอิฐไปไว้ที่ใดกันแน่?"

หลวงตาเซนตอบพระลูกศิษย์เพียงสั้นๆ ว่า

"อิฐวางไว้หน้าโรงทานหรือหลังโรงทานล้วนไม่ต่างกัน

ทว่าจะย้ายหรือไม่ย้ายต่างหากที่สำคัญสำหรับขอทานเหล่านั้น"

กาลเวลาผ่านไปนานหลายปี

วันหนึ่งปรากฏคนผู้หนึ่งท่าทางภูมิฐานเดินทางมาที่วัด

คนผู้นี้มีแขนเพียงข้างเดียว ที่แท้ก็คือขอทานแขนเดียว

เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งนับตั้งแต่วันที่เขาพบหลวงตาในครั้งนั้น

 เขาจึงค่อยได้รู้ถึงคุณค่าในตัวเอง

จากนั้นจึงหาทางประกอบสัมมาอาชีพที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย

 จนในที่สุดได้พบกับสำเร็จในชีวิตสามารถสร้างฐานะจนร่ำรวย...

ส่วนขอทานที่ไม่ยอมขนย้ายอิฐนั้น

ก็ยังคงเป็นขอทานหมือนเดิมเพราะคิดได้แค่นั้นเอง

( เชื่อมั่นในตนเอง รู้คุณค่าในตนเอง และพึ่งพาตนเอง

 คือคุณสมบัติพื้นฐานที่สำคัญยิ่งในการเป็นมนุษย์ )










ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโตเพื่อธรรมะและธรรมชาติ
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2559 11:52:39 น.
Counter : 1580 Pageviews.

2 comments
  
เราต้องเชื่อมั่นในตนเองจึงจะทำงานสำเร็จ
โดย: วันปิยะ ฝากดี IP: 49.229.108.187 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:14:04:22 น.
  
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ tangkay เรียบร้อยแล้วนะคะ
มาอ่านนิทาน และมีหัวใจมาฝากค่ะ
โดย: mcayenne94 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:19:53:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ