Group Blog
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
เมษายน 2557

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
26 เมษายน 2557
Porsche Por travel to KOH LARN, Pattaya!!
ฮัลโหลลล! ไม่ได้เขียนบล็อกนานเลย คราวนี้กลับมาแปลกหน่อย ไม่ได้เขียนรีวิวเครื่องสำอางหรือทำ How to แต่งหน้าแต่อย่างใด แต่เป็นบล็อกรีวิวเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวเบาๆ เนื่องจากถ่ายรูปมาเยอะมาก เลยรู้สึกว่าอยากเขียน อยากมาเล่าสู่กันฟัง มาบอกต่อ 55+

ลองอ่านและดูภาพประกอบกันเลยแล้วกันนะ อาจจะเขียนได้ไม่ดี เพราะปกติไม่เคยทำเกี่ยวกับท่องเที่ยว รวมถึงรูปอาจจะไม่สวยแบบมืออาชีพก็อย่าว่ากันนะ ปอเขียนในแบบของปอเนอะ เชิญชมเลย วู้ววว!!!

Welcome to Porsche Por's Voyage!

"Bitches Trip at Koh Larn, Pattaya"

"เกาะล้าน" สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลสุดฮิตที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วยน้ำทะเลใสๆ หาดทรายสวยๆ และใช้เวลาในการเดินทางไม่นานจึงไม่แปลกที่ใครต่อใครต่างพากันมาเที่ยว 

ปอออกเดินทางจากนครปฐมในเช้าวันศุกร์ที่ 18 เมษายน (ช่วงเดือนแห่งการท่องเที่ยวทะเล) ปอกับเพื่อนอีก 5 (ตามไปเพิ่มอีก 2 คนในวันเสาร์) คนนั่งรถยาวจากนครปฐมไปเลย (รถตู้นครปฐม-พัทยา) จริงๆ แล้วรถตู้จะสุดสายแค่ที่บิ๊กซีพัทยาใต้ แต่พวกปอก็ของให้เขาเลยเข้าไปส่งที่ท่าเรือแหลมบาลีฮายเลย ซึ่งพี่โชเฟอร์ก็ใจดี (และหน้าตาดี) ไปส่งให้ถึงที่โดยไม่คิดเงินเพิ่ม เสียค่ารถกันคนละ 200 บาท



ออกเดินทางจากนครปฐมตั้งแต่ 6 นาฬิกา พระอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้าเลย 555+ นั่งรถมาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษๆ ก็มาถึงท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ไม่รอช้ารีบไปซื้อตั๋วขึ้นเรือทันที ด้วยความที่กลัวไม่ทันรอบเรือ

ปอได้ขึ้นเรือรอบ 9.40 น. โดยเสียค่าเรือคนละ 30 บาท บอกนิดหนึ่งสำหรับคนที่กำลังจะไปเป็นครั้งแรก จุดขายตั๋วขึ้นเรือข้ามจากแหลมบาลีฮายไปยังท่าเรือหน้าบ้าน เกาะล้านจะอยู่ด้านในสุด ฝั่งขวามือ ก่อนจะออกตัวอาคารเลย ถ้าเดินเข้าไปงงๆ จะมีพวกเรือสปีดโบ๊ทออกมาเรียกลูกค้า ซึ่งค่าเรือพวกนี้จะแพงมาก ประมาณ 150-300 เลยทีเดียว (แต่ถ้าใครต้องการซื้อความเร็วก็ไม่ว่ากัน) ส่วนปอนั่งชิลล์ๆ ดูวิวไปเรื่อยๆ ล่ะกันเนอะ



อยู่บนเรือแล้ว กว่าจะเดินมาถึงเรือก็ร้อนและเหนื่อยเอาเรื่องนะ เพราะสะพานยาวมาก ส่วนเรือที่ใช้โดยสารก็เป็นเรือขนส่งขนาดใหญ่พอสมควร มี 2 ชั้นด้วยกัน บรรจุคนได้ประมาณ 200 คน ที่ที่นั่งจะมีเสื้อชูชีพวางไว้ ถ้าไม่พอก็หยิบเอาจากถุงกระสอบใหญ่ๆ ที่แขวนไว้ด้านหน้าได้ อย่าลืมใส่กันด้วยนะ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ^^ 



หลังจากนั่งเรือมาได้ประมาณ 30 นาที เราก็มาถึงเกาะล้านแล้ว เรือใกล้จะเทียบท่าที่ท่าเรือหน้าบ้าน ท่าเรือหลักของเกาะล้านแล้ววว!! เกาะล้านอยู่ตรงหน้าเราแล้ว ตื่นเต้นเหมือนกันนะ เพราะปอเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก >< 



นี่คือท่าเรือหน้าบ้าน เหมือนๆ กับฝั่งพัทยาเลย แต่ระยะทางของสะพานสั้นกว่าเยอะ 55+ เวลาก้าวลงจากเรือและขึ้นบันไดใช้ความระมัดระวังหน่อยนะ ไม่ต้องรีบร้อน เดี๋ยวจะตกน้ำไป 



ถึงแล้ว!! ขอแชะภาพกันหน่อย เย้ๆ
ลืมบอกไปว่าปอได้จองที่พักไว้ก่อนหน้าที่จะมาแล้ว ถ้าใครจองที่พักไว้ล่วงหน้าแบบปอ ก่อนจะนั่งเรือให้โทรบอกทางที่พักก่อนนะ ว่าเราขึ้นเรารอบไหนมา แล้วพอมาถึงทางที่พักจะส่งรถมารับ (สำหรับที่พักที่มีรถรับ-ส่งนะ) พอเรือเทียบท่าเกาะล้านปุ๊บ ป้าเจ้าของที่พักก็โทรมาเลย คำนวณเวลาเป๊ะมาก! 



รูปนี้เป็นรูปที่สภาพทุกคนยังสมบูรณ์กันอยู่ ก่อนที่จะโดนน้ำสาดดด!!! ช่วงวันที่ปอเลือกไปกันเป็นช่วงเทศกาลวันไหลพัทยาพอดี ก็รู้นะ แต่ที่ไม่รู้คือบนเกาะเขาเล่นกันด้วย 555+ ก็เปียกกันไปตามระเบียบ แต่ไม่ถึงกับเปียกเยอะนะ ส่วนกระเป๋า สัมภาระต่างๆ ก็ยัดใส่ไว้หน้ารถ จึงไม่เปียก (รถที่มารับเป็นรถกระป๊อ หรือสองแถวคันเล็กๆ) 



ถึงที่พักแล้วฮะ! (มิได้เป็นการโฆษณาแต่อย่างใด แต่ถือว่าเป็นการรีวิวที่นี่ไปเลยแล้วกัน)
ตอนแรกเลือกๆ ที่อื่นไว้นะ เพราะอยากได้ห้องใหญ่ อยู่รวมกันได้สะดวกหน่อย แต่มันเต็มหมดเลยเอาที่นี่ ก็โทรมาจะจองห้องใหญ่อยู่ได้ 6-8 คนเหมือนกัน แต่ป้าแกก็บอกว่าเต็ม เหลือแต่ห้องกลางอยู่ได้ 4 คน แต่เสริมได้ ก็เลยเอา เพราะดูรูปในเว็บห้องก็โอเค กว้างขว้าง แต่พอมาถึง อีห้องใหญ่ที่ป้าแกบอกว่าเต็มไม่เห็นจะมีใครพักเลย!! ก็เลยอยู่กันแบบอบอุ่นในห้องขนาดกลาง =_="


(อย่าสนใจอีอ้วนในรูป 555+)



ถ่ายให้ดูสภาพห้อง คือห้องไม่ได้กว้างอะไรมากนะ ถ้าเทียบกับรูปในเว็บ แต่ก็ไม่ได้แคบอะไรมากซะจนอึดอัด รวมๆ ก็ถือว่าไม่ได้แย่ สมราคาห้อง (ราคาวันจันทร์-ศุกร์อยู่ที่ 2,000 บาท ส่วนวันเสาร์และวันหยุดสำคัญ 2,500 บาท เสริมคนละ 300 บาท) แต่ก็ขอบ่นหน่อยเถอะ!
- เรื่องแรกคือตู้เย็น มีไว้ก็เหมือนไม่มี แทนที่จะเย็นกลับแช่อะไรไม่ได้สักอย่าง ลองพยายามขยับปลั๊ก ปรับระดับเย็นสุดอะไรแล้วนะ แต่ก็ไม่เย็นอยู่ดี แต่ตู้เย็นทำงาน คืออะไร? ไปแจ้งป้าแกก็บอกว่าปลั๊กมันไม่ดี ต้องลองขยับดู (ตูก็ขยับจนไฟจะดูดอยู่แล้วป้า!)
- เรื่องที่สอง เรื่องปลั๊กไฟเนี่ยล่ะ ให้ปลั๊กไฟมาเยอะมาก แต่บางปลั๊กเสียบไฟไม่เข้า!!! 
- เรื่องที่สาม คือสายโทรทัศน์ เสียบปกติทีวีไม่ติดนะจ๊ะ ต้องพาดสายแบบพิศดารๆ ทีวีถึงจะติด
- เรื่องสุดท้าย คือ WiFi ตามข้อตกลงตอนแรกคือมี wifi ให้ แต่พอมาถึงขอรหัส ป้าแกบอกว่า wifi ใช้ไม่ได้ แล้วก็ไม่ยอมให้รหัส เลยต้องนั่งใช้ 3G กันไป

เอาล่ะ บ่นมาพอล่ะ! เริ่มเที่ยวเกาะล้านกันอย่างเป็นทางการดีกว่า!!!
พวกปอไปกัน 6 คน เลยเช่ามอไซด์กัน 3 คัน (เช่ากับทางที่พักเลย) เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ เพราะหาข้อมูลมา เลยทำให้รู้ว่าทางบนเกาะค่อนข้างอันตราย ซึ่งก็จริง! ดังนั้นปอแนะนำว่าให้เช่ามอไซด์แล้วไปคันละ 2 คนจะดีกว่า (ค่าเช่ามอไซด์คันละ 300 บาทต่อวัน คืนมอไซด์เที่ยงของอีกวันหนึ่ง) จากนั้นก็ขี่ไปทางที่เขาไม่เล่นสงกรานต์กัน (สงกรานต์บนเกาะจะเล่นแค่ช่วงท่าหน้าบ้านและละแวงนั้นนะ ส่วนแถวชายหาดจะไม่มีเล่นกันแล้ว)

วันแรก



ประเดิมที่แรกที่ "หาดตาแหวน" ชายหาดที่ฮิตที่สุดบนเกาะล้าน นักท่องเที่ยวเยอะมากกก มีขายของเยอะอยู่เหมือนกัน และที่นี่เป็นท่าเรืออีกแห่งบนเกาะล้าน สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเล่นน้ำแบบมาเช้ากลับเย็น ไม่ค้างคืน ส่วนใหญ่พวกทัวร์จะมาลงที่ท่าเรือนี้ จึงทำให้คนเยอะ แต่ยังไงน้ำก็ใสมากนะ หาดทรายขาย สะท้อนแสงแดดได้ดีมาก 55+ ถ่ายรูปสวยดี ^^



ทางที่จะมาหาดตาแหวนเป็นทางลาดลงจากเนินเขานะ ถ้าขี่มอไซด์ต้องใช้ความระมัดระวังหน่อย (บนเกาะจะมีป้ายเตือนเลย ว่าห้ามใช้เบรกมือขวา เพราะมันเป็นเบรกหน้า ถ้าลงเขาเร็วๆ แล้วเบรกหัวทิ่มได้) จริงๆ ไม่ใช่แค่ทางลงหาดตาแหวนหรอก แทบจะทุกทางบนเกาะอ่ะ เป็นทางบนเขาหมด ยิ่งทางที่จะขึ้นจุดชมวิวหรือทางที่ใช้ลัดเลาะต่างๆ นี่อันตรายมาก ทางชัน ต้องขึ้น-ลงเขาสูง และเป็นโค้งหักศอก คนขี่รถไม่แข็งต้องระวังเป็นพิเศษ ปอเองก็เกือบล้มมาแล้วถ้ายันขาไม่ทัน ทางมันอันตรายมากจริงๆ (แต่พวกเราก็ไม่ยอมแพ้นะ adventure สุดๆ 55+) 



ไปต่อกันดีกว่า รูปนี้ปออยู่ที่จุดชมวิวบนยอดเขาที่มีเหมือนโรงไฟฟ้าหรืออะไรสักอย่าง ขึ้นมาสูงมาก! เรียกได้ว่าเห็นแทบจะทั่วเกาะล้านเลย เห็นวิวฝั่งพัทยาได้ชัดเจนด้วย ก่อนหน้าก็ขี่ผ่านๆ มาหลายที่นะ ทั้งชายหาดและจุดแวะชมวิวจุดอื่นๆ แต่มันเหนื่อยเลยไม่ได้ถ่ายรูปเลย และกว่าจะขึ้นมาบนนี้ได้ก็เสียวใช่ย่อย เข้าใจฟิลขี่มอไซด์ไต่เขาป่ะ? ฟิลเดียวกันเลย ทางทั้งสูง ทั้งชัน บิดกันหน้าตั้งเลยทีเดียว แต่ขึ้นมาแล้วก็คุ้มนะ ^^ แดดร้อน แต่ก็สู้ตายกับการถ่ายรูป 555+ (จริงๆ เห็นว่ามีจุดชมวิวที่สูงๆ แบบนี้อีกที่ ที่มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมอ่ะ แต่พวกปอหาทางขึ้นไม่เจอ เลยไม่ได้แวะไป ใครรู้ว่าขึ้นตรงไหนเม้นบอกหน่อยนะ เผื่อไปคราวหน้าจะได้ไม่พลาด) 



ขึ้นมาทั้งทีก็ถ่ายรูปให้เต็มที่เลย เป็นไง Bitch สมชื่อทริปดีไหม?? 555+ 
ขอตั้งชื่อรูปนี้ว่า "Aimee vs Chermarn" ค่ะ!
เดากันเองว่าใครเป็นใคร (ขำๆ นะ อย่าซีเรียส)


หาดนี้ตั้งใจมากันเพราะมองจากจุดชมวิวด้านบนแล้ว หาดนี้สวยมากๆๆๆๆ พอลงจากเขามาก็รีบหาทางมาเลย หาดนี้ชื่อว่า "หาดนวล" เป็นหาดที่ปอชอบที่สุดเป็นการส่วนตัว เพราะบรรยากาศดี คนไม่พลุกพล่านมาก พอลงชายหาดแล้วมีร่มไม้บ้าง ลมพัดเย็นสบายมาก 



ไม่ลืมถ่ายรูปแน่นอน 555+ แดดร้อนมากๆ 
ปอกับเพื่อนๆ นั่งพักกันที่หาดนี้สักพักก่อนจะกลับที่พัก ยังไม่เล่นน้ำกันนะ เพราะแดดร้อนเกินไปอ่ะ สู้ไม่ไหว ขอพักก่อน แต่ก็ตกลงกันว่าได้ที่เล่นน้ำสำหรับตอนเย็นแล้ว นั่นคือหาดนวลนี่เอง



ใช้เวลาขี่รถมอเตอร์ไซด์ทัวร์เกือบรอบเกาะไม่ถึง 2 ชั่วโมง ไล่ทุกที่ตั้งแต่หาดตาแหวนเป็นต้นไป จบท้ายที่หาดนวล แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไรเลย พอตอนเย็นที่ออกไปเล่นน้ำ ก็ไม่เอากล้องและไอโฟนไป เพราะกลัวเปียกตรงที่เขาเล่นน้ำสงกรานต์กันเนี่ยล่ะ 

ข้ามไปตอนค่ำ หลังจากเล่นน้ำทะเลกลับมาเลยแล้วกันนะ 



อาหารการกินเป็นอย่างที่เห็น ตอนแรกคิดกันว่าจะไปกินที่ร้าน เพราะมันสะดวกดี แต่โทรเช็คร้านที่ลองๆ หาข้อมูลมา 3 ร้าน ปิดทุกร้าน! ก็เลยซื้อมากินกันเองซะเลย มีอาหารทะเลสดรวมๆ อยู่ด้วย มื้อนี้หมดไปพันกว่าบาท หารๆ กันก็ตกคนละไม่เท่าไร อาหารก็เป็นดั่งที่เห็นในรูป 
ก่อนหน้าที่จะมา ปอหาข้อมูลเกี่ยวกับราคาอาหารทะเลระหว่างบนเกาะกับฝั่งพัทยามา ได้ข้อมูลมารวมๆ กันว่าราคาไม่ได้ต่างกันมากนัก บนเกาะแพงกว่านิดหน่อย แต่ด้วยความที่ไม่ได้สำรวจบนฝั่งมาก่อน เลยเทียบไม่ได้ 
ราคาที่ซื้อบนเกาะ ที่จำได้คร่าวๆ ตามนี้ หมึกกล้วย(ตัวใหญ่) โลละ 300 บาท หมึกไข่ 350 บาท กุ้งแม่น้ำ 350 บาท ปลากระพง 300 บาท หอยแครง 220 บาท (แต่ตัวใหญ่มาก) หอยเชล 300 บาท อย่างอื่นจำไม่ได้แล้วอ่ะ ทุกอย่างคิดเป็นกิโลกรัมหมดนะ เราซื้อแล้วทางร้านจะจัดการปรุงสุกให้เลย อย่างหอยเราบอกได้ว่าเราสุกมากน้อยแค่ไหน แล้วเดี๋ยวเขาจะเอาไปส่งให้ตามที่พักตามเวลาที่เราแจ้ง ก็สะดวกดี 
พวกปอได้ซื้อส้มตำไก่ย่างมาเพิ่มด้วย ราคาก็แพงกว่าทั่วไปนิดหน่อย ส้มตำครกละ 50-70 บาทแล้วแต่ว่าสั่งตำอะไร ส่วนไก่น่องใหญ่ น่องละ 60 บาท และมาสั่งข้าวสวยกับต้มยำปลาหมึกที่ที่พัก ซึ่งต้มยำห่วยแตกมาก ราคาตั้ง 250 นะ แต่เนื้อปลาหมึกแทบจะนับชิ้นได้เลย มีแต่น้ำกับหอมใหญ่!! ครั้งเดียวพอเลยค่ะ!!!

ปล. 1 จาน ชาม ช้อน ซ้อม แก้วน้ำ กระติกน้ำแข็ง บลาๆ เหล่านี้ขอจากทางที่พักเอานะ ขึ้นอยู่กับที่พักแต่ละที่ว่ามีบริการไหม
ปล. 2 น้ำแข็งบนเกาะแพงกว่าที่ขายกันปกติเป็นเท่าตัว และ 7-Eleven ไม่มีน้ำแข็งหลอดถุงๆ ขายนะ


ดูทะเลยามค่ำคืนกันหน่อย อย่างที่ว่ากันเลยเนอะ ท้องทะเลยามกลางวันช่างสดใส แต่ยามกลางคืนนี่ช่างลึกลับ ยากที่จะคาดเดา รูปนี้ถ่าย ณ เวลาเกือบเที่ยงคืน ยังเห็นไฟฝั่งพัทยาอร่ามอยู่เลย เทียบกับบนเกาะนี่คนละเรื่องกันเลย อย่าว่าล่ะเนอะ พัทยากลายเป็นเมืองใหญ่อีกเมืองที่ไม่มีวันหลับไหล



ส่งเข้านอนในวันแรกที่เกาะล้าน จุ๊บๆ ^3^

วันที่สอง

เริ่มต้นวันที่สองด้วยการตื่นเช้า อาบน้ำเตรียมตัวข้ามฝั่งไปพัทยา เพราะนัดเพื่อนอีก 2 คนที่จะตามมาสมทบไว้ และจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ในวันไหลพัทยากัน (ไหนๆ มาถึงที่แล้วก็ต้องเอาให้คุ้ม!) 



นั่งเรือจากเกาะล้านเพื่อข้ามไปยังพัทยา ไปกันตั้งแต่รอบเช้าเลย 9 โมงหรือ 9.30 น. เนี่ยล่ะ ฮูเล่ๆ 



นั่งท้ายเรือ ลมเย็นๆ นั่งไปนั่งมาง่วงมาก 55+ แต่ก็ยังเก็กถ่ายรูปไหวนะ



เรือออกจากเกาะล้านมาไกลพอสมควรแล้ว ตอนนี้อยู่กลางทะเลโดยแท้ ที่เห็นอยู่ลิบๆ นั่นคือเกาะล้านจ้า เกาะยาวอยู่เหมือนกันเนอะ วันนี้คลื่นลมสงบ ไม่มีคลื่นใหญ่ๆ ทำให้เรือโคลง น้ำทะเลกลางทะเลนี่สวยมากเลย ทะเลเมืองไทยไม่แพ้ชาติอื่นเหมือนกันนะ!

เมื่อถึงพัทยาก็รอเพื่อนอีก 2 คนอยู่สักพัก แล้วก็เดินไปเล่นวันไหลที่ Walking Street เลียบชายหาดพัทยาแบบยาวๆ ฉีดน้ำ ปะแป้งหนุ่มๆ สนุกสนาน 555+ ไม่ได้ถ่ายรูปกันเลย เพราะไม่ได้เอากล้องไป ส่วนไอโฟนของแต่ละคนก็ยัดใส่ซองกันน้ำ ซองยา กันคนละหลายๆ ชั้น แล้วใส่ในกระเป๋าเป้กันน้ำอีกที เลยไม่ได้หยิบขึ้นมาเลย 

พอเล่นน้ำและปะแป้งหนุ่มๆ (ฝรั่ง) จนหนำใจแล้วก็เดินกลับไปยังท่าเรือ เพื่อเตรียมข้ามไปยังเกาะ แต่ก่อนจะขึ้นเรือก็เดินไปซื้ออาหารทะเลสดกันก่อน (ร้านมันจะอยู่แถวๆ 7-Eleven ท่าเรืออ่ะ มีอยู่ประมาณ 2-3 ร้าน) ยอมหิ้วไปจากฝั่งพัทยาเลย เพราะราคาถูกกว่า (เดี๋ยวจะบอกราคาตอนกินล่ะกัน อิอิ) จากนั้นก็ขึ้นเรือกลับเกาะเที่ยวบ่าย 2 โมง ที่รีบกลับเพราะคิดกันไว้ว่าจะกลับไปดำน้ำดูปลาและปะการัง แต่พอไปถึงเกาะ ก็ต้องอด เพราะเรือที่พาออกไปดำน้ำเที่ยวสุดท้ายคือบ่าย 2 แงๆ T^T อดเบยยย... เสียดายมาก!



เมื่อไม่ได้ไปดำน้ำ ก็ไปเล่นน้ำมันซะเลย!! ไหนๆ ก็เปียกอยู่แล้ว


ท่านี้เพื่อนรีเควซ ชื่อท่าว่า "ท่าน้องวันใหม่" ลูกบุญธรรมหรืออะไรสักอย่างของบอย ปกรณ์อ่ะ ก็แบ๊วๆ ลดอายุกันไป (ทำอะไรไม่ต้องแคร์อายุ 555+) หาดที่เราเลือกไปเล่นกันก็คือหาดนวลเหมือนเดิม ติดใจกับบรรยากาศ และตอนแรกตั้งใจจะไปให้ถึงโขดหิวยาวๆ หรือเรืออับปางหรืออะไรสักอย่างอ่ะ เพราะตอนน้ำลงมันเหมือนอยู่ไม่ไกล แต่พอจะไปจริงๆ มันไกลจังฟร่ะ!! 555+ 



ข่าวด่วน!! พบซากพะยูนเกยตื้นที่ชายหาดเกาะล้าน 555+ (ใสๆ เนอะ//มั่นเว่อร์!!)



ข่าวใหญ่อีกข่าว นอกจากพบซากพะยูนเกยตื้นแล้ว ยังพบตัวเห้ลอยน้ำมาติดเกาะด้วย 555+



จบการเล่นน้ำวันที่สองเท่านี้ 
"We're at da beach, bitch!!" (ขอจังหวะเดียวกับเพลง Work Bitch - Britney Spears)
รู้สึกจะ bitch อยู่แค่ 2 คนนะ 5555+ ไม่แคร์ค่ะ!! 



มาถึงตอนหัวค่ำ ก็จัดการเอาหมึกที่ซื้อมาจากฝั่งพัทยามาย่าง เตาย่างและตะแกรงขอจากที่พักนะจ๊ะ ส่วนหอยแครงที่ซื้อมาพร้อมกันในทางที่พักลวกให้เลย 
มาๆ บอกราคากันเถอะ ราคาของสดที่ท่าเรือฝั่งพัทยานะ หมึกกล้วย(ไซส์กลาง) ประมาณ 180 บาท หมึกกล้วยและหมึกกระดอง(ไซส์ใหญ่) 220 บาท กุ้งแม่น้ำ(ไซส์ใหญ่) 280-300 บาท หอยแครง 160 บาท อย่าอื่นจำไม่ได้แล้วอ่ะ ถูกกว่าบนเกาะพอสมควรเลยที่เดียว โดยเฉพาะหมึก ตัวใหญ่กว่าและบางตัวมีไข่ด้วย เขาไม่ได้แยกขาย จัดไป 2 โล กินให้อ้วก!! 



โฉมหน้าข้างๆ นิดหนึ่งของพ่อครัว(และช่างภาพประจำทริป) สุภาพบุรุษคนเดียวในกลุ่มที่ทำเป็นทุกอย่าง นอกนั้นตุ๊ดและชะนีทำอะไรกันไม่ค่อยจะเป็นเลย 555+ ลองดูไซส์ปลาหมึกสิ มันตัวใหญ่จริงนะ ^O^



ถึงเวลากิน!! ซัดให้เรียบ ตอนแรกบ่นกันว่าเยอะ แต่เนื่องด้วยความหิวและความเพลียสะสมมาทั้งวัน (วันนี้ไม่ได้กินข้าวกันเลยทั้งวัน) เลยฟาดกันเรียบไม่เหลือซาก แถมขนมขบเคี้ยวอีก 2-3 ถุงใหญ่ ก็กวาดเรียบไม่มีเหลือ 555+ หิวจริงอะไรจริง ระหว่างกินก็เปิดเพลง (พ่อครัวของเราขนลำโพงเล็กๆ ไปด้วยนะจ๊ะ) สร้างบรรยากาศกันไป พอเริ่มดึกหน่อยก็เริ่มเป็นเพลงปาร์ตี้ โจ๊ะๆ ดีนะที่ห้องข้างๆ ว่าง ไม่งั้นคงโดนด่า 

จบวันที่สอง ณ เกาะล้าน จริงๆ หลังพักท้องจากอาหารมื้อหนักกันสักพัก ก็ออกไปถ่ายรูปกันที่ท่าเรือหน้าบ้านนะ แต่ไปแล้วเจอพวกเด็กแว๊นซ์ เลยกลับกันเลย หมดอารมณ์ มาบิดรถโชว์อยู่นั่น ถ้าตกทะเลไปจะสมน้ำหน้าให้!! 

วันที่สาม

วันนี้เป็นวันกลับแล้ว ก็ตั้งปลุกกันแต่เช้า ไม่ใช่รีบเช็คเอ้าท์นะ จะออกไปถ่ายรูปกันก่อนกลับ รูปของวันนี้เยอะสุด!! แค่ช่วงเวลาตอนเช้าอย่างเดียวเกือบ 500 รูป (ถ่ายบ้าถ่ายบอ!)


ลุยที่แรกที่หาดตาแหวน เพราะอยู่ใกล้กับที่พักมากที่สุด หาดยามเช้าอากาศดีมาก คนยังน้อยอยู่ แต่ก็มีคนมาเล่นน้ำกันแล้วนะ หาดทรายทอดยาวที่วันแรกมาถ่ายรูป ตอนนี้ไม่มีแล้ว เพราะน้ำขึ้นจนถึงฝั่ง แต่น้ำยังคงใสอยู่ แสงอาทิตย์โผล่พ้นแนวเขามา ดูอบอุ่นและโรแมนติกมากอ่ะ 555+ (เสียดายไม่มีแฟน ><)



ตั้งกล้องถ่ายรวมสักหน่อย บรรยากาศดีๆ ยามเช้า จะสวยกว่านี้ไม่มีพวกขยะตามชายหาด! (ชุดเดียวกับวันมาเลย 555+ เสื้อตัวนี้เอาไว้ถ่ายรูปจริงๆ เดี๋ยวตอนกลับเปลี่ยนเสื้ออีกตัว)



ยาวไปที่หาดแสม อีกหาดที่ฮิตมากบนเกาะล้าน เพราะสะพานลอยน้ำทอดยาวลงไปยังทะเล จะบอกว่าเดินยากมาก 55+ (รองเท้าที่ถนอมมาแทบตาย เปียกที่นี่ล่ะ) เดินไปสุดสะพานนี้ น้ำทะเลดูลึกพอสมควรเลยนะ เสียวตกไปเหมือนกัน มีปลาตัวเล็กๆ ว่ายเป็นฝูงเลย น่ารัก ^^



ที่หาดนี้สามารถเดินไปยังอาคารปลากระเบน? (เขาเรียกแบบนี้ป่ะไม่แน่ใจ) ที่เป็นจุดเด่นอีกที่บนเกาะล้านได้ 



ไปต่อกันที่หาดทองหลางมั้งถ้าจำชื่อไม่ผิด ตอนแรกว่าจะขึ้นไปจุดชมวิวที่ไปวันแรกอีกรอบ แต่เนื่องด้วยมีคนมาเพิ่มอีก 2 คนทำไม่ต้องซ้อน 3 มันอันตรายเกินไป เลยยกเลิก วนรถกลับไปยังหาดอีกด้านของเกาะที่ยังไม่ได้ไป ก็มาถ้าที่นี่ก่อน ทางมาลำบากอยู่เหมือนกัน แถมทางลงไปหาดยังทุลักทุเลอีก เลยไม่ลงไปเดินที่ชายหาด ถ่ายแค่ด้านบนพอ หาดนี้มายากนะ แต่เรือเยอะมากๆ เหมือนเขามากันทางเรือแล้วมาลงหาดนี้เลยอ่ะ (รูปถ่ายออกมาแล้วเขียว ไม่รู้กล้องเป็นไร สงสัยต้องเข้าศูนย์อีกรอบ)



บ๊ายบายหาดทองหลาง 555+ จุดหมายวันนี้คือหาดตายาย



ก่อนถึงหาดตายาย มันจะมีแหลมเล็กๆ เรียกว่าอะไรสักอย่าง สังเกตชื่อไม่ทัน เป็นสะพานปูนยาวออกไป แล้วมีศาลาอยู่ปลายทาง แวะถ่ายรูปสิจ๊ะ จะพลาดได้ไง 555+



นางแบบ? อย่างเรา สู้ตายทุกที่ ทุกสถานการณ์! นี่ถ่ายไปก็กลัวพลาดตกทะเลเหมือนกันนะ ไม่มีที่กั้นอะไรเลย แต่สปีริตแรงมาก หาได้กลัวไม่ 



เบื้องหลังการทำงานค่ะ!! 555+ ทุ่มเทมาก ดีนะไม่ยกแฟรช ยกไฟมาด้วย





ไอ้เรามีรึจะยอม 555+ สู้ตายค่ะ!!! 



และก็มายังที่สุดท้าย นั่นคือ "หาดตายาย" สวยมากๆ เลย เสียดายที่ไม่ได้มาเล่นน้ำที่นี่  น้ำทะเลใสมากๆ และมีโขดหินสวยๆ ไว้ให้ถ่ายรูปเพียบเลย คนก็เริ่มมาเล่นน้ำกันตั้งแต่ช่วงสายๆ กันเลยทีเดียว



แชะภาพเบาๆ พอเป็นพิธี (จริงๆ รูป bitch หาดนี้เยอะมาก เรียกได้ว่าถ่ายแบบไม่อายสายตาใครทั้งนั้น 555+) แต่ขอสงวนไว้แล้วกันนะ >< 



ถ่ายรูปอะไรกันเสร็จก็กลับมาพักที่ห้องพัก เพื่อรอเวลาเช็คเอ้าท์ นี่คือสภาพหลังเช็คเอ้าท์เสร็จและรอรถมารับไปส่งที่ท่าเรือ ทำไมหน้าทุกคนดูอิดโรยและเบื่อโลกขนาดนั้น 555+ 



ขึ้นเรือเตรียมตัวกลับแล้วน๊าาา เรือรอบเที่ยง คนเยอะมากกก!!! (เรือจะมีเป็นรอบๆ นะ แต่ละรอบไม่ใช่มีเรือลำเดียว แต่รอบหนึ่งมีเรือเป็นสิบลำ พอลำไหนเต็มก็ออก ลำใหม่ก็เข้าแทน จนกว่าเรือจะหมด) ถ้าไม่ทันรอบนี้ต้องรออีก 2 ชั่วโมง ถ่ายรูปหน่อย 555+ หนวดเหนิดไม่ได้โกนเลย สภาพชูชีพก็แบบว่า ต้องยอมรับนะ เป็นแบบนี้ทุกตัว ใส่ไว้อย่าคิดมาก เพื่อความปลอดภัย!


และแล้วเรือก็ลอยลำออกจากท่าเรือ หันกลับไปมองอีกที เวลา 3 วันที่นี่ผ่านไปเร็วมาก รู้สึกว่ามันยังไม่เต็มที่เลย อยากอยู่ต่อ แต่ก็ต้องทำใจยอมรับ กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง 

บ๊ายบายเกาะล้าน ไว้เจอกันใหม่ ^^


Porsche Por's Tip for Sunbath!! 

การเที่ยวทะเลของปอครั้งนี้ ปออยากเปลี่ยนผิวปอให้เป็นผิวแทน (คนปกติทั่วไปอาจจะอยากขาวนะ แต่ปออยากแทน 555+) ไม่ได้มั่นหน้าหรือมั่นใจอะไรหรอก แค่อยากลองดู เพราะปอรู้สึกว่าผิวแทนมันดูเซ็กซี่ดี ก็เลยจัดการหาอุปกรณ์ หาตัวช่วยซะ

แต่บอกก่อนนะ ว่าทำผิวแทนในแบบของปออาจจะไม่เหมือนคนอื่น ไม่ได้ถูกต้องหรืออะไร แต่ปอทำแล้วมันได้ผลลัพธ์อย่างที่ปอต้องการ เลยเอามาบอกต่อ


อุปกรณ์จำเป็นในการไปทะเลรวมถึงทำผิวแทนในแบบของปอมีดังนี้ สำหรับคนที่ไปเที่ยวทะเลปกติ แนะนำว่าควรมีสิ่งเหล่านี้ติดไปด้วย ยกเว้นแค่ Tanning Oil เพราะมันจำเป็นอย่างมาก



เริ่มด้วยกันแดดหน้า ไม่จำเป็นต้องใช้เหมือนปอก็ได้ แต่ที่ปอเลือกตัวนี้เพราะค่ากันแดดสูง และสารกันแดดค่อนข้างเสถียร เพราะมี Titanium Dioxide ที่เป็นสารกันแดดที่เสถียรที่สุด แล้วก็ไม่เหนอะหน้าด้วย กันแดดที่ปอแนะนำสำหรับการไปทะเลนะ คือ SPF50 ไปเลย อย่าลืมค่า PA+++ ด้วยล่ะ ที่แนะนำให้หากันแดดที่มี Titanium Dioxide เพราะสารตัวนี้สามารถกันได้ทั้ง UVA/UVB และ UVA1 ที่ว่าน่ากลัวๆ ด้วย 

ปล. สำหรับปอที่ต้องการทำผิวแทน หน้าปอเป็นข้อยกเว้นนะ ปอโบกกันแดดเต็มที่กับผิวหน้า เพราะไม่อยากให้หน้าไหม้และดำ ไม่จำเป็นต้องแทน เพราะสามารถใช้การแต่งหน้าช่วยได้



กันแดดสำหรับผิวกายที่ปอใช้เป็นประจำและไม่เคยเปลี่ยน แนะนำเช่นกันว่าไปทะเลต้องมี!! อย่างน้อยต้อง SPF30 ขึ้นไป 



อย่าลืมริมฝีปากด้วย หลายๆ คนกันแดดใบหน้าและลำคอเป็นอย่างดี แต่ลืมกันแดดริมฝีปาก ปากก็ดำได้เหมือนกันนะจ๊ะ! เลือกลิปบาล์มหรือลิปมันที่มีค่า SPF อย่างน้อย 15 แต่อย่างของปอแท่งนี้ ค่า SPF30 เลยทีเดียว 555+



สิ่งนี้จำเป็นมากไม่แพ้กันแดดทั้งหลายแหล่ บางคนผิวไวต่อแดด ออกแดดแค่ไม่นานก็แห้งกร้านและไหม้ เจลว่านหางจระเข้ช่วยลดอาการเหล่านั้นได้ หลังจากออกแดดมาก็ทาเจ้าตัวนี้เลย ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำก่อน ถ้าอาบน้ำก็ทาอีกรอบได้ เพราะเจลนี้มีคุณสมบัติเย็น ช่วยลดความแสบร้อนของผิวที่ถูกแดดเผาได้ ทาเจ้าตัวนี้จะทำให้ผิวไม่ไหม้ ไม่ลอก มันช่วยได้เยอะเลย อีกอย่างมันอ่อนโยนนะ ไม่ต้องกลัวว่าจะแพ้

เอาล่ะ มาถึงขั้นตอนการทำผิวแทนในแบบของปอกันล่ะ อุปกรณ์ที่ใช้ก็คือเจ้า Tanning Oil ตัวนี้



ก่อนอื่นมารู้จักเจ้านี่กันก่อน Tanning Oil กับ Tanning Lotion มีคุณสมบัติคล้ายกันนะ คือช่วยให้ผิวไวต่อแดดมากขึ้น ช่วยเร่งให้สีผิวเข้มขึ้นจากรังสี UV เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวและอื่นๆ ที่เป็นตัวดูดแสง ทำให้ผิวเข้มเร็วขึ้นและทำให้สีผิวดูเข้มสม่ำเสมอกัน ผลิตภัณฑ์พวกนี้จะช่วยเปลี่ยนสีผิวเราเลยนะ ไม่ใช่ชนิดที่ทาแล้วล้างออกได้ แต่สีผิวเราจะเปลี่ยนไปเลย ต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนถึงกลับมาเป็นสีผิวปกติ (อาจจะเร็วหรือนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตและการบำรุง)

ต่างกับ Sunless/Suntan Lotion พวกนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทาแล้วทำให้สีผิวเปลี่ยนชั่วคราว อยู่ได้นานสุดก็ประมาณ 1 สัปดาห์ สามารถล้างทำความสะอาดออกได้ หาซื้อในไทย ประเทศที่นิยมความขาวค่อนข้างยาก การใช้งานคือทาเหมือนโลชั่น แต่ต้องทาให้เนียนๆ หน่อยนะ ไม่งั้นสีก็จะไม่สม่ำเสมอ หลังจากทาเสร็จ อย่าลืมล้างมือให้สะอาด ไม่งั้นมือจะส้ม เล็บก็ส้ม 

ปอเลือกใช้ Tanning Oil นะ เพราะไม่สามารถหาซื้อ Sunless Lotion ได้ จริงๆ การใช้งาน Tanning Oil คือฉีดลงไปที่ผิวตรงๆ อ่ะแหละ แล้วก็ลูบให้ทั่วๆ พื้นที่ผิวที่ต้องการให้แทน แต่สำหรับปอ ปอจะลงกันแดดก่อน 1 ชั้น แล้วถึงฉีดเจ้าตัวนี้ทับอีกที บางคนอาจคิดว่า แล้วจะฉีด Tanning Oil เพื่ออะไร ในเมื่อทากันแดด อย่าลืมว่ากันแดดมันสามารถป้องกันผิวเราจากแดดได้แค่บางส่วน เจอแดดแรงๆ อย่างแดดทะเล ยังไงก็กันไม่อยู่ ปอเองก็ไม่ได้อยากให้มันแทนเข้มมากเกินไป ดังนั้นการกันแดดไว้ก่อนแล้วฉีด Tanning Oil ทับจึงเป็นวิธีดักเพื่อไม่ให้ผิวเรามีสีเข้มจนเกินไป ผลลัพธ์ที่ปอได้ ปอพอใจนะ พอฉีด Tanning Oil แล้วออกแดดสักพัก แม้ว่าจะทากันแดดไปก็ตามก็จะรู้สึกได้ว่าผิวบริเวณที่ฉีดมีสีเข้มขึ้นจริงๆ แต่ไม่ได้เข้มมาก ที่สำคัญมันช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอจริงๆ (ปอฉีดบริเวณขาและแขน 555+ ตัดกันเป็นทูโทนเลยจะบอก) 


ดูจากรูป (สังเกตตรงขอบแขนเสื้อ) สีผิวปอเข้มขึ้นจริงๆ แต่มันไม่ได้เข้มจนถึงขั้นว่าดำขึ้นเยอะเลย มันกลายเป็นสีน้ำผึ้งมากกว่า ที่ชอบคือมันเนียนเสมอกัน ไม่เป็นจุดๆ กระดำกระด่าง แล้วเจ้า Tanning Oil มันก็มีส่วนช่วยทำให้ผิวที่ถูกแดดไม่ไหม้ด้วย เพราะคุณสมบัติเก็บกักความชุ่มชื้นของน้ำมันที่เคลือบผิวไว้ 

นี่เป็นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ของปอ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ถูกต้อง แต่ปอว่ามันก็ไม่ได้ผิดที่จะลองหรือทำดูนะ ใครอยากลองผิวแทน แต่ว่ากลัวสีผิวจะเข้มเกินก็ลองใช้วิธีปอดูก็ได้นะ แล้วมาบอกเล่าผลลัพธ์ที่ได้ให้ปอรู้บ้าง 

ยังไงถ้าใครจะไปเที่ยวกันก็ขอให้สนุกและปลอดภัยนะ 



ขอบคุณที่ติดตาม
ปอยินดีรับฟังทุกความเห็น เพราะนี่เป็นรีวิวที่ท่องเที่ยวครั้งแรก อาจจะไม่ถนัดสักเท่าไร
แล้วพบกันใหม่กับงานเครื่องสำอางเดิมๆ จ้า


Porsche Por



Create Date : 26 เมษายน 2557
Last Update : 26 เมษายน 2557 22:21:27 น.
Counter : 2297 Pageviews.

4 comments
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 27 เมษายน 2557 เวลา:3:42:27 น.
  
อยากไปบ้างจัง...
โดย: โอปอ IP: 58.10.39.37 วันที่: 27 เมษายน 2557 เวลา:7:24:54 น.
  
พวกท่านยอดเยี่ยมมากครับ ใช้เวลา 3 วัน
ไปได้ครบถ้วนทั้งเกาะล้าน จริงๆ
เนื้อหา เขียนได้ดีอ่านสนุก ภาพสวย
นายแบบน่ารักทุกคนเลยครับ
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 27 เมษายน 2557 เวลา:9:58:15 น.
  
ไปกันแบบโจ๊ะๆ เลยจ้า ถึงไหนถึงกัน ขี่มอไซด์กันมันส์มาก 555+
โดย: PorschePoR วันที่: 29 เมษายน 2557 เวลา:23:33:42 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

PorschePoR
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]



สวัสดีจ้าทุกคน!!! ก่อนอื่นก็แนะนำตัวกันก่อนเลย ชื่อ "ปอ" นะ ใครใคร่จะเรียก "ปอร์เช่ ปอ" ก็ตามใจ บล็อกของปอก็จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเครื่องสำอางต่างๆ ทั้งรีวิว how to เทคนิค หรือสิ่งที่ปอชื่นชอบ ปลาบปลื้ม รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นด้วย ยังไงช่วยติดตามกันด้วยน๊าาา ^^