--- ด อ ก ไ ม้ สำ ห รั บ อั ล เ จ อ น อ น ---
คิดถึงหนังสือเล่มนี้ (ตอนนั้นไม่ใช่ปกนี้ แต่เป็นปกสีม่วง ๆ ) ที่เคยอ่านสมัยเด็กจากตู้หนังสือของแม่ เขาชื่อชาร์ลี กอดอน เป็นชายปัญญาอ่อน * และอัลเจอนอน หนูตัวน้อยกะจิริด และได้ชื่อว่าเป็นหนูทดลอง
ชาร์ลี กอดอนถูกนำมาเป็นหนูทดลอง นักวิทยาศาสตร์แอบผ่าตัดสมองให้ชาร์ลีและเขาก็เฉลียวฉลาดขึ้น ขณะที่อัลเจอนอนกลายเป็นหนูฉลาด ชาร์ลีก็กลายเป็นอัจฉริยะ เก่งกว่าบรรดานักวิทยาศาสตร์ที่ผ่าตัดเขาหลายเท่า
ฉันจำได้ว่า สิ่งที่บ่งบอกระหว่างความปัญญาอ่อนและความเป็นอัจฉริยะของเขาคือการเขียนบันทึก ชาร์ลีเขียนบันทึกทุกวัน เริ่มจากการสะกดตัวหนังสือผิด ๆ ถูก ๆ จนกระทั่งตัวหนังสือที่มีเนื้อหายาก ๆ บ่งถึงความเป็นอัจฉริยะ ใช้ภาษายาก ๆ ที่คนสมองกลาง ๆ อย่างเราต้องแปลและเข้าใจยาก เขาอ่านหนังสือยาก ๆ ได้ การทดลองนี้เหมือนจะได้ผลดีจนเหลือเชื่อ
ต่อมา สมองของอัลเจอนอนเริ่มเสื่อมสภาพลง ส่วนชาร์ลี กอดอนก็เริ่มอ่านและเขียนได้ช้าลง ความจำช้าลง ตัวหนังสือจะบอกความเปลี่ยนแปลงของเขาทีละน้อย เขากำลังจะกลายเป็นปัญญาอ่อนเหมือนอัลเจอนอน
ถึงแม้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ความจำเลอะเลือนแต่สิ่งที่เขายังจำได้อยู่คือเจ้าหนูอัลเจอนอน เขาไม่ลืมวางดอกไม้ที่หลุมศพของอัลเจอนอนเป็นประจำ
เรื่องก็มีประมาณนี้...
อ่านครั้งนี้ ฉันนึกไม่ถึงว่า ในตัวคนปัญญาอ่อนคนหนึ่งจะมีความฝัน ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะศึกษาหาความรู้ เราจะเข้าไปสัมผัสกับโลกเบื้องหลังรอยยิ้มอันว่างเปล่าของเขา เปิดโลกใบใหม่ของเราเพื่อจะได้เข้าอกเข้าใจเขามากขึ้นมากกว่าการวัดคุณค่าคนจากไอคิว
ฉันทั้งรักและเห็นใจชาร์ลี กอดอน ชายปัญญาอ่อนคนนี้มากกว่าเดิม เคยร้องไห้และสงสารเขาแต่จำรายละเอียดอะไรไม่ค่อยได้เพราะเคยอ่านนานมากแล้ว ฉันถามแม่เรื่อย ๆ ว่า เจอหนังสือเก่าเล่มนี้หรือเปล่า ฉันอยากอ่านอีกครั้งแต่ก็หาไม่ได้ จนกระทั่งเพิ่งมาได้จากเพจหนังสือมือสองของเพื่อนในเฟซบุ๊กและค่อย ๆ อ่านใหม่อีกครั้ง
และสำหรับ อัลเจอนอน หนูทดลองตัวน้อย ไม่ว่าพวกมันจะถูกนำมาทดลองอะไร เราก็เป็นหนี้บุญคุณเจ้าหนูถีบจักรตัวนี้ไม่น้อย
อ่านจบอีกครั้ง ยังคงความซาบซึ้งตรึงใจ ฉันจำได้แล้วว่า ฉันร้องไห้เพราะอะไร
หนังสือเก่าที่เรารัก
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย
::
มหายเหตุ*
ขออนุญาตใช้คำนี้ อาจจะขัด ๆ หูแทนที่จะใช้คำอื่น คนสมองบกพร่องหรืออะไรที่ไม่สะเทือนใจกว่านี้ แต่เซ้นส์ของนิยายเรื่องนี้คือการวัดระดับไอคิวของคนไอคิวต่ำสุดเป็นพิเศษกับแบบปกติ ไม่มีเจตนาดูถูกหรือหมิ่นคนปัญญาอ่อนแต่อย่างใด
หรือควรจะใช้คำว่าไอคิวต่ำสุดเป็นพิเศษ น่าจะเหมาะสมมากกว่า
ขอบคุณค่ะ