กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ...มาเล่นกีฬากะน้องกานพลูกันนะคะ
จำหนู กันได้ไหมคะ กานพลู มาแว้ววววว แม่บอกว่า บังเอิญ หนีหนู ไปเดินเที่ยวกะน้าปูแถวถนนข้าวสารมาค่ะ ไปเจอชุดนักมวย น่ารัก ก็เลยซื้อมาให้หนูใส่ เปิดการไถ่โทษ ที่หนีหนูไปเที่ยวค่ะ อิอิแม่บอกว่า อยากให้หนูเป็นเด็กที่สนใจเรื่องกีฬา เพราะกีฬา เป็นยาวิเศษ แม่อยากให้หนูชอบเล่นกีฬา เพราะการเล่นกีฬา มันจะสอนให้หนูเป็นเด็กที่มีน้ำใจ รู้แพ้ รู้ชนะ และก็รู้อภัยค่ะคุณน้า ๆ คิดว่า หน่วยก้านของหนู พอจะเป็นนักกีฬา กะเค้าได้ไหมคะ อิอิ นักมวยตัวน้อย ๆ รุ่นจูเนี่ยแบนตั้มเวท ค่ะ อิอิท่านี้เค้าเรียกว่าท่า "ไอ้เข้..ฟาดหาง" ค่ะ อิอิดูท่ากานพลู กำหมัด...ขวาตาย ซ้ายสลบ แน่นอนค่ะ 555+กานพลู เท่ ไหมคะ พอจะเป็นนักมวยกะเค้าได้ไหมคะ กวนไปนิด แต่ก็น่ารักนะคะ 555+เตะ เตะ เตะก่อนขึ้นชก...ขอกำลังใจจากยาย ซะหน่อย อิอิเดี๋ยว...ขอไปซ้อมก่อนดีว่าค่ะ เหมือนจะอ่อนซ้อมไงไม่รู้ อิอิเย้...กานพลู เป็นฝ่ายชนะ เพราะคู่แข่ง ขอแพ้บายค่ะ แม่ 555+เพื่อน ๆ อย่าลืมมาเล่นกีฬาเ หมือนกานพลู นะคะ เพราะกีฬา ทำให้เรามีสุขภาพแข็งแรงค่ะ
กานพลู กับ ท่านตี่จู่เอี๊ย (น่ารัก ๆ ...อย่าคิดมากนะคะ)
น้องกานพลู มาแล้วค่ะ ไม่ทราบว่า คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา ในห้องชานเรือนจำหนูได้รึป่าววันนี้ แม่ของหนู เอารูปน่ารัก ๆ ของหนูมาให้อมยิ้มกันอีกแล้วค่ะ ตอนนี้กานพลู อายุ 1.4 ขวบแล้วค่ะ แม่บอกว่า หนูพูดเก่ง รู้มาก และฉลาด แต่ที่แน่ ๆ แม่บอกว่าหนุ ซนเป็นลิงเลยค่ะ อิอิรูปในกระทู้นี้เป็นเพียงอีก 1 เรื่องราวที่เกิดขึ้นของหนูค่ะ ทุกวันนี้ กานพลู จะอยู่บ้านกะคุณยายค่ะ เพราะว่าแม่ต้องออกไปทำงาน ทุกวัน คุณยายก็จะเป็นคนสอนให้กานพลูให้ทำอะไรได้หลาย ๆ อย่างเลย ต้องขอยกเครติดให้กับคุณยายค่ะมาดูความน่ารักของหนูกันดีกว่าค่ะ ธุจ้า...ขอให้ท่านตี่จูเอี๊ย...ปกป้องคุ้มครอง คุณยาย คุณแม่ คุณน้าปู คุณน้าชาโต๊ะ คุณน้าอาร์ม รวมถึงตัวกานพลู ด้วยนะคะ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นครอบครัวที่อบอุ่นตลอดไปนะคะ border=0>ขอให้แม่ของกานพลู ถูกหวย รางวัลใหญ่ ๆ ด้วยนะคะ อิอิ ห๊า.....อะไรนะคะ อ๋อ ...เข้าใจแล้วค่ะ ท่านบอกว่า ให้หนูนับดอกไม้ในแจกันเหรอคะ ไม่ใช่เหรอคะ ท่านบอกว่า ให้หนู ไปบอกกับแม่ กับยาย และทุก ๆ คนว่า ถ้าขยัน ก็จะรวยเองค่ะ ให้มีชีวิตอยุ่อย่างเพียงพอ ก็จะมีความสุขอย่างพอเพียงค่ะ ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวกานพลู จะบอกกับแม่ และทุก ๆ คนค่ะ อ้าวววววววววว....แม่จ๋า ทำไมเจ้าเปลี่ยนไปคะ
ครั้งแรกของชีวิตที่ได้รับพวงมาลัยจากลูก...(ความสุขที่ขอแบ่งปัน)
สวัสดีค่ะวันแม่ปีนี้ เป็นอีก 1 ปีที่มีความประทับใจและขอเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีค่ะ ไม่คิดมาก่อนในชีวิตว่า จะได้มีโอกาสแบบนี้ ตั้งแต่ตัดสินใจที่จะมีลูก ก็คิดอยู่เสมอว่า เราจะทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุดเพื่อเค้า เพราะว่าเราจะต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ให้เค้า มันเหมือนมีภาระที่ยิ่งใหญ่ ให้เราต้องรับผิดชอบ แต่อยากบอกว่า ภาระนี้มันช่างมีความสุขเหลือเกิน แม้ว่าเราจะต้องดิ้นรนและต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องเจอ แต่ลูกเป็นเหมือนยาวิเศษ ที่คอยรักษาเยียวยาหัวใจของแม่คนนี้ ที่บางครั้งเหนื่อยล้า และท้อแท้ ให้กลับมีพลังที่จะต่อสู้ต่อไปค่ะแม่อยากบอกกานพลู ว่า "แม่รักกานพลูมากนะคะ แม่จะเลี้ยงลูกให้เติบโตขึ้นมาเป็นคนที่ดี ไม่ก่อปัญหาให้กับสังคมในวันข้างหน้า แม้ว่าใคร ๆ อาจจะมองว่าลูกเกิดมาอาจจะต้องกลายเป็นเด็กที่มีปัญหา เพราะว่าไม่มีพ่อ แต่แม่เชื่อว่าลูกของแม่ต้องไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน แม่จะดูแลและอยู่เคียงข้างลูกตลอดไป...ตราบเท่าที่ลมหายใจของแม่ยังคงมีนะคะ..."ตื่นมาเช้านี้ คุณยายของกานพลู กับคุณน้าของกานพลู แอบให้กานพลูทำเซอร์ไพส์แม่ โดยการให้กานพลูเอาพวงมาลัย กะโน๊ตเขียนข้อความว่า "กานพลูรักแม่" เดินมาให้เรา ปลื้มมาก ๆ ค่ะ กานพลูก็เดินมาจุ๊บ ๆ เราด้วย ความรู้สึกของคนเป็นแม่ มันยิ่งใหญ่และมีความสุขอย่างนี้นี่เอง...ขอให้แม่ ๆ และลูก ๆ ทุกคนมีความสุขมาก ๆ นะคะ ...เลยขอเอาภาพความประทับใจมาอวดนิดนึงนะคะ เป็นภาพเพิ่งตื่นนอนกันเลยค่ะ ผมเผ้าอาจจะยุ่งเหยิงกันไปหน่อยนะคะ โปรดอย่าว่ากัน 555+ภาพแรก...กานพลู เดินถือพวงมาลัยมาหาแล้วก็จุ๊บ ๆ แม่ค่ะ ภาพที่ 2 จากนั้นก็ยื่นพวงมาลัยให้ พร้อมกับหันไปยิ้มให้กล้องหน่อย อิอิภาพที่ 3 กานพลู ก็ยื่นพวงมาลัย พร้อมโน๊ต ที่คุณน้าปู จับมือเขียนส่งให้ค่ะ ภาพที่ 4 จากนั้น ก็จุ๊บปากบอกรักกันอีกครั้งค่ะ ภาพที่ 5...ความน่ารักของลูก ทำเอาแม่น้ำตาคลอค่ะ ภาพสุดท้าย...กานพลู อยากบอกแม่ว่า "หนูรักแม่ค่ะ" 555
บทลงโทษบทที่ 1 ที่ลูกทำให้กับตัวพ่อ (เยี่ยงนี้)
เมื่อวานจิตตกนิดหน่อย ตัวพ่อโผล่มาหากานพลูที่บ้าน แถมมีของเล่นชิ้นใหญ่มาให้ลูกอีกต่างหาก ไม่อยากต้องมาเจอกับภาพแบบนี้เลยค่ะ ภาพที่ลูกสนใจของเล่นแสนแพงที่พ่ออุตส่าห์ซื้อมาให้ แต่ก็สนใจแค่แป๊บเดียว แถมไม่สนใจตัวพ่อเลย ไม่ให้อุ้ม ไม่ให้กอด ไม่ให้หอม จ้องมองหน้าพ่อด้วยความรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า และตัวพ่อเองก็ทำหน้าไม่ถูกเวลาที่โดนลูกทำแบบนั้นใส่ สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือ ทำหน้าเจื่อน ๆ ตาแดง ๆ ยิ้มแหย๋ ๆ เวลาที่เราบอกให้ลูกยกมือไหว้ขอบคุณ กับตอนที่เราบอกให้ลูกเรียกชื่อตัวพ่อ ว่า "ไก่" กานพลู ก็พอที่จะพูดได้แล้ว ก็ส่งเสียงแจ้ว ๆ เรียกไก่ ๆ ตามประสา โดยที่ไม่รู้เลยว่า ตัวเองกำลังเรียกพ่อด้วยซ้ำ สงสารลูกมากค่ะ แต่ทำไงได้ค่ะ ตัวพ่อเค้าเป็นคนเลือกเองที่จะให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ เลือกที่จะเป็นฝ่ายมาหาแบบนาน ๆ ครั้ง เลือกที่จะทำให้ลูกไม่จดจำหน้าตาของเค้าเอง เลือกที่จะทำเป็นคนไม่คุ้นเคยสำหรับลูกเอง และเราก็ไม่เคยที่จะไปสอนกานพลู ให้เกลียดพ่อ หรือทำอะไรที่แสดงออกถึงความไม่คุ้นเคย ตัวพ่อเค้าทำตัวเองทั้งสิ้น ก็คงจะต้องรับไปเต็ม ๆ ในสิ่งที่ตัวเองเลือก แต่ที่แย่และทำร้ายจิตใจตัวพ่อยิ่งกว่าสิ่งใด ๆ ก็คือการที่ได้แต่นั่งมอง กานพลู ลูกสาวตัวเอง เดินไปจุ๊บ ๆ แก้ม จุ๊บ ๆ ปาก กับน้าอาร์ม ไม่รู้กี่ทีต่อกี่ที แถมเรียกชื่อน้าอาร์ม "อาม อาม อาม" ตลอดเวลา และน้าอาร์มก็แสดงความรัก ความอ่อนโยนกับกานพลูแบบที่ตัวพ่อไม่เคยทำมาก่อนเลยทั้งชีวิต นั่นก็คือ การป้อนอาหารใส่ปากกานพลู การหยิบเท้าของกานพลู ขึ้นมาจูบมาหอม โอบกอดกันด้วยความรู้สึกคุ้นเคยและไร้เดียงสา ไม่มีการปรุงแต่งใด ๆ เลย ระหว่างความรัก ของคนทั้งคู่ ไม่อยากบอกเลยคะว่า ณ เวลานั้น หัวใจของเรามันรู้สึกปวดร้าวเพียงใด แต่ก็ต้องยิ้ม เพื่อให้ตัวพ่อเห็นว่า นี่แหละคือสิ่งที่เธอทำไว้ และควรยอมรับมันให้ได้แม้ว่ามันจะเจ็บปวดรวดร้าวสักเพียงใดก็ตาม เพราะว่าเราก็เจ็บปวดไม่ต่างกันเลยของเล่นแพง ๆ แต่ก็ไม่อาจแลกได้กับความรัก ความอบอุ่น ที่ลูกขาดหายไปหรอกค่ะ เป็นธรรมดา ที่เด็กเห็นของเล่นใหม่ ๆ ที่เค้าไม่เคยมีมาก่อน ก็มักจะรู้สึกอยากเล่น อยากลองเป็นธรรมดา สักพักก็ไม่ยอมเล่น ตัวพ่อทำหน้าเศร้า ๆ เฉา ๆ ที่ลูกไม่สนใจของเล่นที่ซื้อให้ จนเราต้องบอกให้ถามกานพลู เพื่อที่จะทำให้ตัวพ่อรู้สึกยิ้มได้ว่า "กานพลุ ชอบรถที่พ่อซื้อให้ไหมลูก ถ้าชอบก็จุ๊บ ๆ รถหน่อยนะคะ" กานพลู ก็ทำตามด้วยความไร้เดียงสา ทำเอาตัวพ่อยิ้มหน้าบานได้ แล้วตัวพ่อก็กลับมาสู่โหมดเศร้า เหี่ยวเฉาอีกครั้ง เมื่อเห็นภาพกานพลู ไม่สนใจของเล่น แต่เดินมาจุ๊บ ๆ น้าอาร์มต่อหน้าต่อตา เดินมาเกาคางให้น้าอาร์ม จนเคลิ้มเลย เดินมาเล่น เอาโรออนมาทาเต่าให้น้าอาร์ม อิอิภาพความน่ารัก ความไร้เดียงสาแบบนี้ ตัวพ่อไม่เคยได้สัมผัสเลยสักครั้ง ปิดท้ายด้วยสองภาพสุดท้าย ที่ถ่ายโดยช่างภาพตัวน้อยอายุเพียง 1.1 ขวบนะคะ ไม่น่าเชื่อว่าจะถ่ายได้ 555 และก็ภาพนี้ค่ะ (มีน้าปูคอยช่วยประคองกล้องให้ค่ะ แต่กานพลู เป็นคนกดถ่ายรูปเอง) น้าโม่..ว่า กานพลู พอจะเป็นช่างกล้องมืออาชีพแบบน้าโม่ได้ไหมคะ
เอาข้าวโพดของยาย...คืนมานะ
เรื่องมีอยู่ว่ายายกำลังจะนั่งแทะข้าวโพดอยู่ ก็มีหลานตัวน้อยคนนึง ชื่อกานพลู มายืนข้าง ๆ ทำหน้าตาน่าสงสาร มองยายแทะข้าวโพดด้วยความอยากกิน ทำตาปริบ ๆ ยายก็ยังไม่ยอมยื่นข้าวโพดให้แทะบ้างเลยแหมมมม...จะไปแทะไรได้ละคะ ก็ฟันหนูยังไม่มีเลยนิหน่า มีขึ้นมาอยู่ 1 ซีกเอง ยายก็เลยไม่ได้ชวนหนูกินข้าวโพดนะสิยายก็ปล่อยให้หลาน มองดูยายแทะข้าวโพดอย่างเอร็ดอร่อย ต่อไป.....หลังจากยืนดูยายแทะข้าวโพดอยู่นาน คิดได้ว่ายังไงยายก็คงจะไม่ให้แทะแน่นอน เจ้ากานพลู ก็เลยเล่นเอาตอนยายเผลอ แย่งข้าวโพดจากยายมาจนได้ 555พอแย่งข้าวโพดมาได้ เจ้ากานพลู น้อยก็ไม่รอช้า รีบแทะ ๆ ข้าวโพดอย่างเอร็ดอร่อย แต่ก็น่าสงสาร เพราะว่าเจ้ากานพลู ตัวน้อยยังไม่มีฟันเลย ทำได้แค่ดูด ๆ อม ๆ ก็นี้ก็สุขใจแล้ว อิอิหลังจากที่พยายามแทะข้าวโพดอย่างไม่สนใจใครได้สักพัก ก็นึกสงสารยาย ก็เลยเอาข้าวโพดที่แย่งยายมาไปคืนยาย แต่เอะ ทำไมข้าวโพดของยายจึงเหลือแค่ซังเท่านี้ละก๊ะ ***เออ...สงสารยาย รึ เจ้ากานพลู ดีน๊อ 555