Group Blog
 
All Blogs
 
ผู้ทำคุณบูชาโทษ (๓)

ลิ่วล้อเล่าเรื่องสามก๊ก

ผู้ทำคุญบูชาโทษ

ตอนที่ ๓ มิตรไม่แท้และศัตรูไม่ถาวร

“ เล่าเซี่ยงชุน “

ในการทำศึกระหว่างลิโป้กับโจโฉที่เมืองปักเอี้ยงนั้น ทั้งสองฝ่ายได้พักรบไประยะหนึ่ง เพราะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวของชาวบ้าน ต่างก็หาเสบียงไว้เลี้ยงกองทัพของตน ลิโป้และตันก๋งนั้นอยู่ที่เมืองปักเอี้ยง กับเตียนซีเศรษฐีใหญ่ซึ่งยอมเป็นพวกด้วย เพราะกลัวฤทธิ์เดชของลิโป้ ส่วนเมืองกุนจิ๋วที่ยึดเอามาจากโจโฉนั้น ให้นายทหารรองสองนายรักษาไว้ จึงถูกเคาทูทหารเสือผู้มีพละกำลังของโจโฉ เข้าตีแย่งเอาคืนไปได้อย่างง่ายดาย แล้วก็ยกพลมาจะเข้าตีเมืองปักเอี้ยง

ลิโป้รู้ข่าวแล้วก็รีบยกทหารออกไปสู้รบด้วย ตันก๋งห้ามก็ไม่ฟัง ขับม้ารำทวนออกไปท้ารบหน้าทัพโจโฉ และลองกำลังกับเคาทูคนเก่งกล้าบ้าบิ่น ถึงยี่สิบเพลงแล้วก็ยังไม่เพลี่ยงพล้ำต่อกัน โจโฉจึงให้ทหารเอกออกมาช่วยอีกห้าคน กลายเป็นมวยหมู่หกต่อหนึ่ง ลิโป้ก็ยังไม่แพ้แต่เห็นว่าจะเอาเปรียบกันเกินไป ก็เลยถอยจะกลับเข้าเมือง ปรากฏว่าเตียนซีซึ่งอยู่บนเชิงเทิน สั่งให้ชักสะพานข้ามคูเมืองออก แล้วร้องบอกลิโป้ว่า ตนเปลี่ยนใจกลับไปเข้ากับโจโฉแล้ว อย่าเข้ามาทำเรื่องวุ่นวายในเมืองอีกเลย ลิโป้ก็ไม่รู้ว่าจะทำประการใด นอกจากก่นด่าบรรพบุรุษของเตียนซี กลับไปกลับมาพอให้บรรเทาความแค้น แล้วก็พาทหารกลับไปเมืองตันลิวตามเดิม ส่วนตันก๋งที่ยังอยู่ในเมืองก็ต้องพาครอบครัวของลิโป้ ตามไปเมืองตันลิวด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้ดีกว่านั้นเหมือนกัน

เมื่อโจโฉเข้าเมืองปักเอี้ยงได้ ก็ให้นำตัวเตียนซีมาสอบสวนเป็นประการแรก แล้วลงความเห็นว่า คราวก่อนมีหนังสือไปลวงมาให้เสียทีลิโป้นั้น โทษหนักหนาอยู่ แต่คราวนี้แก้ตัวไม่ให้ลิโป้เข้าเมืองได้ ก็มีความชอบมากเป็นอันเสมอตัว แล้วโจโฉก็ยกทหารตามลิโป้ไปยังเมืองตันลิว

ลิโป้กับเตียวเมา เจ้าเมืองซึ่งสนิทชิดชอบกันอยู่ ก็ช่วยกันรักษาเมืองไว้อย่างเหนียวแน่น แต่ลิโป้เป็นนักรบที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง แม้ตันก๋งที่ปรึกษาผู้หวังดีจะทัดทานให้คิดดูให้ดีก่อน เพราะโจโฉมีสติปัญญาในการศึกลึกล้ำยิ่งนัก ลิโป้ก็ไม่ฟังตามเคย จึงออกไปดูลาดเลาจะเข้าตีค่ายโจโฉ แต่โจโฉก็วางกับดักไว้อย่างดี เมื่อลิโป้ยกทหารไปเผาป่ารอบค่ายโจโฉเพราะคิดว่ามีข้าศึกซุ่มซ่อนอยู่ ก็ไม่ได้ผลเพราะไม่มีผู้ใดเลย จะยกเข้าตีค่ายก็เห็นเงียบอยู่ จึงลังเลไม่แน่ใจว่าจะทำประการใด ทหารเอกทั้งหกคนของโจโฉ ก็คุมทหารโห่ร้องเข้ามาล้อมลิโป้ไว้ แต่ลิโป้ก็ใช้ฝีมือที่เหนือกว่า ตีหักออกมาได้แต่ตัวคนเดียว แล้วก็ไม่เข้าเมือง โจโฉจึงยกพลเข้าตีเมืองตันลิวแตก เตียวเมาเจ้าเมืองเผ่นหนีไปหาอ้วนสุดที่เมืองลำหยง ตันก๋งก็รับหน้าที่คุมครอบครัวของลิโป้หนีออกจากเมือง ไปเจอลิโป้ที่ริมทะเลชายแดน ปรึกษากันว่าจะไปอาศัยอ้วนเสี้ยวก็ไม่ได้ เพราะเคยผิดใจกันมาแล้ว จึงพากันบ่ายหน้าไปทางเมืองชีจิ๋ว ซึ่งโตเกี๋ยมเคยเป็นเจ้าเมืองอยู่ และลิโป้มีคุณในการที่ช่วยรักษาเมืองครั้งก่อน

แต่คราวนี้ปรากฏว่าโตเกี๋ยมป่วยตายไปแล้ว และยกเมืองชีจิ๋วให้เล่าปี่
ครอบครองอยู่แทนทายาทของตน ลิโป้กับตันก๋งก็เข้าไปหาเล่าปี่ ขอฝากเนื้อฝากตัวอาศัยอยู่ด้วย ลิโป้ท้าวความเก่าให้ฟัง และย้ำว่าเมื่อครั้งที่โจโฉยกมา จะทลายเมืองชีจิ๋วให้ราบเรียบนั้น ตนก็ได้ช่วยเหลือโดยการไปตีเมืองกุนจิ๋วของโจโฉ จนต้องถอยจากเมืองนี้ไปโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ แต่รบกันอยู่นานจนโจโฉกลับเป็นผู้ชนะ ตนเองไม่มีที่จะอาศัย จึงต้องหนีมาพึ่งพาครั้งนี้ เชื่อว่าคงยินดีช่วยเหลือ

เล่าปี่นั้นแม้จะเคยต่อสู้กับลิโป้ แต่ก็นับถือฝีมือว่าเป็นนักรบที่เข้มแข็งกล้า
หาญ อยากจะเอาไว้เป็นพวกด้วย และมีอาวุโสสูงกว่า จึงจะยกเมืองชีจิ๋วให้ลิโป้ครอบครองเสียเลย ลิโป้ซึ่งใคร ๆ ก็ตราหน้าว่าเป็นคนโลภ หากตัญญูมิได้ ก็ดีใจอยากจะรับไว้เหมือนกัน แต่เกรงใจกวนอูกับเตียวหุย ซึ่งยืนถลึงตาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ข้างหลังเล่าปี่ จึงแกล้งหัวเราะแล้วว่าตนเองเป็นทหารชำนาญการรบพุ่งเท่านั้น ถ้าจะให้ปกครองบ้านเมืองเห็นจะเกินสติปัญญา ตันก๋งก็ช่วยออกตัวให้ว่า

“…….ธรรมดาเป็นแขกมาหาท่าน แล้วหรือจะบังอาจเก็บเอาทรัพย์สินสิ่งของ เจ้าเรือนไปด้วยนั้น หาควรไม่ และตัวลิโป้ซึ่งมาอยู่ในสำนักท่าน ซึ่งจะคิดชิงเอาเมืองนี้หามิได้ ท่านอย่าได้สงสัยเลย……..”

เรื่องก็ทำท่าว่าจะเรียบร้อยลงด้วยดี เล่าปี่ก็ให้ลิโป้พักอาศัยในเมืองชีจิ๋ว แต่กวนอูกับเตียวหุยนั้น คอยจ้องลิโป้ด้วยความหวาดระแวงอยู่เสมอ เพราะเคยปะทะเห็นฝีไม้ลายมือกันมาแล้ว

วันต่อมาลิโป้เชิญสามพี่น้องมากินเลี้ยงที่บ้าน เพื่อขอบคุณเล่าปี่ซึ่งให้ที่อยู่อาศัย และให้ครอบครัวออกมาคำนับเล่าปี่ แต่เล่าปี่ถ่อมตัวว่าไม่ต้องคำนับหรอก ลิโป้ก็ว่าน้องเราจงให้บุตรภรรยาเราคำนับเถิด เท่านั้นเองเตียวหุยซึ่งคอยจะหาเรื่องอยู่แล้ว ก็โพล่งออกมาว่า

“……..ตัวนี้เป็นไฉน จึงบังอาจเรียกพี่กูว่าน้อง พี่กูเป็นเชื้อพระวงศ์ อุปมาเหมือนต้นไม้ทองใบแก้ว ซึ่งอวดตัวว่ากล้าหาญ จงออกไปลองฝีมือกันดูสักสามร้อยเพลง……..”

เล่าปี่ก็ห้ามปรามไว้ แล้วให้กวนอูพาเตียวหุยออกไปก่อน พร้อมกับขออภัยลิโป้ว่า เตียวหุยคงจะเมาสุรา จึงพูดหยาบคายขออย่าได้ถือโทษเลย แต่พอเล่าปี่ลากลับไปแล้ว สักพักเตียวหุยก็ย้อนกลับมาหาลิโป้ร้องท้าทายว่า เมื่อกี้พี่กูอยู่กูเกรงใจ ตอนนี้พี่กูไปแล้ว มาลองฝีมือกันสักพักดีกว่า ลิโป้ชักอดใจไม่ไหว แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรมากกว่านั้น เล่าปี่ก็ให้กวนอูมาลากตัวเตียวหุยไปเสีย

ลิโป้เห็นว่าขืนอยู่ไปก็ไม่มีความสุขแน่ รุ่งขึ้นอีกวันจึงไปลาเล่าปี่ว่า เมื่อ
มาขออาศัยท่านก็ยอมให้อยู่ แต่เตียวหุยน้องท่านกลับดูหมิ่นด่าว่าให้เจ็บใจ ขืนอยู่ไปก็จะเคืองใจกันเสียเปล่า ๆ ตนจึงจะขอลาไปหาที่อยู่ใหม่ดีกว่า เล่าปี่ก็เสียใจว่าถ้าลิโป้อยู่กับตนไม่ได้ ผู้คนก็จะนินทาเอา ขอให้ไปอยู่ที่เมืองเสียวพ่ายเถิด ถ้าขาดเหลือสิ่งใดก็ให้บอกมา จะได้ช่วยดูแลส่งเสียให้ แล้ววันหลังตนจะพาเตียวหุยไปขอขมาลิโป้เอง

ลิโป้กับตันก๋งก็เลยต้องพาครอบครัว ไปอยู่ที่เมืองเสียวพ่าย ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในปกครองของเมืองชีจิ๋ว เพราะไม่มีปัญญาที่จะไปอยู่ที่ไหนให้ดีกว่านี้ แต่ลิโป้กับเล่าปี่ก็ดีกันอยู่ได้ไม่นาน โจโฉปราบปรามขุนนางของพระเจ้าเหี้ยนเต้ที่เป็นศัตรูได้หมดแล้ว ก็ตั้งตัวเป็นมหาอุปราชว่าราชการอยู่ที่เมืองฮูโต๋ ซึ่งเป็นเมืองหลวงใหม่ แล้วก็คิดถึงเล่าปี่ว่า ถ้าเป็นมิตรกับลิโป้แล้ว ก็อาจชวนกันมารุกรานเอาได้ จึงวางแผนให้ทั้งสองแตกคอกันเสียก่อน จึงให้ทำหนังสือเป็นรับสั่งพระเจ้าเหี้ยนเต้ แต่งตั้งให้เล่าปี่เป็นเจ้าเมืองชีจิ๋วอย่างเป็นทางการ แล้วฝากหนังสือลับส่วนตัวถึงเล่าปี่ ให้ช่วยกำจัดลิโป้ด้วย เล่าปี่ก็ดีใจที่ได้รับหนังสือแต่งตั้ง แต่หนังสือของโจโฉนั้น ขอคิดดูก่อน

ฝ่ายลิโป้รู้ว่าเล่าปี่ได้เป็นเจ้าเมืองชีจิ๋วตามรับสั่งฮ่องเต้ ก็ไปแสดงความยินดีตามธรรมเนียม กำลังคำนับกันอยู่ดี ๆ เตียวหุยก็ชักกระบี่ออกมาจะฆ่าลิโป้อีก เล่าปี่ก็กันเอาไว้ได้ ลิโป้ก็สงสัยว่าเตียวหุยโกรธเคืองด้วยเรื่องอะไรหนักหนา จึงคิดพยาบาทอาฆาตจองเวรพาลหาเรื่องตนอยู่เรื่อยไม่เลิกรา

เตียวหุยก็เลยเปิดโปงออกมาว่า

“………ตัวมึงมิรู้จักคุณคน โจโฉจึงมีหนังสือมาให้พี่กูฆ่ามึงเสีย……”

เล่าปี่ก็ตกใจที่เจ้าน้องชายตัวดี เอาความลับออกมาเปิดเผยดังนั้น จึงให้ทหารเอาตัวเตียวหุยออกไปเสียจากที่นั้น แล้วก็พาลิโป้เข้าไปข้างใน เอาหนังสือของโจโฉออกมาให้ดู แล้วเล่าความให้ฟังตามความจริง ลิโป้ก็ว่าโจโฉทำเช่นนี้ก็หวังจะให้เราทั้งสองเป็นศัตรูกัน เล่าปี่ก็ว่าถึงอย่างไรตนก็จะไม่คิดร้ายต่อลิโป้ ขอให้วางใจได้ แล้วก็ชวนลิโป้กินโต๊ะอยู่จนเย็น จึงลากลับไป

ฝ่ายโจโฉพอรู้ว่าเล่าปี่ไม่หลงกล ก็เดินหมากใหม่ ทำหนังสือไปบอกอ้วนสุดเจ้าเมืองลำหยงว่า เล่าปี่จะยกทัพมาตีเมืองลำหยง แล้วก็อ้างรับสั่งฮ่องเต้ให้เล่าปี่ยกไปตีอ้วนสุดด้วย เป็นการยุยงให้แตกแยก จะได้ทำลายทีละส่วน

เล่าปี่ก็ต้องยกทหารไปตามรับสั่ง โดยให้เตียวหุยอยู่รักษาเมือง แม้จะไม่ค่อยไว้ใจ แต่เตียวหุยให้สัญญาว่าจะไม่เสพสุรา และให้ตันเต๋งขุนนางเก่าฝ่ายบุ๋นเป็นที่ปรึกษา พอเล่าปี่ยกไปได้ไม่นาน เตียวหุยก็เชิญขุนนางฝ่ายทหารและพลเรือนมาประชุม บอกว่าวันนี้จะเสพสุราให้สนุกสักวัน ต่อไปจะหยุดโดยเด็ดขาด แล้วก็ชวนขุนนางทั้งปวงกินสุรา

แต่มีอยู่คนหนึ่งชื่อโจป้าเป็นทหารเก่า ไม่ยอมกินเพราะไม่เคยกิน เตียวหุ
ยก็บังคับให้กินไปจอกหนึ่ง ครั้นตนเองเมาแล้วจะให้โจป้ากินอีกโจป้าไม่กิน ก็สั่งให้เอาตัวไปเฆี่ยนเสียร้อยหนึ่ง ตันเต๋งจะห้ามปรามก็ไม่ฟัง โจป้าจึงอ้อนวอนขอโทษว่าขอให้เห็นแก่หน้าบุตรเขยของตนเถิด เตียวหุยถามว่าผู้ใดเป็นบุตรเขย โจป้าก็บอกว่าลิโป้ เตียวหุยได้ยินชื่อคู่อาฆาตก็ยิ่งโกรธ เร่งให้เฆี่ยนฝากไปให้ลูกเขยด้วย พอเฆี่ยนได้ห้าสิบที ขุนนางทั้งปวงก็ช่วยกันขอโทษไว้

โจป้ากลับมาบ้านก็ให้คนถือหนังสือไปถึงลิโป้ เล่าเรื่องให้แจ้งทุกประการ
และขอให้ยกทหารไปชิงเอาเมืองชีจิ๋วในคืนนี้ เพราะเตียวหุยกำลังเมาอยู่ ลิโป้ปรึกษากับตันก๋ง ที่ปรึกษาก็ว่าบัดนี้ได้ทีแล้ว จงรีบยกไปตีเอาเมืองชีจิ๋วไว้ จะได้อยู่เป็นสุข ลิโป้เห็นชอบด้วยจึงยกทหารไปเป็นการด่วน เตียวหุยเห็นว่าสู้ไม่ไหวแน่ จึงทิ้งเมืองเอาตัวรอดไปกับทหารอีกสิบแปดคน ลิโป้ก็ไม่ได้ตามไป แต่โจป้ายังไม่หายแค้น จึงคุมทหารตามไปถึงริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง เตียวหุยก็หันกลับมาสู้ได้สามเพลงก็แทงโจป้าตกม้าตาย

ลิโป้ก็คิดถึงคุณของเล่าปี่ จึงดูแลรักษาครอบครัวของเล่าปี่ไว้เป็นอย่างดี ส่วน เล่าปี่รบกับอ้วนสุดยังไม่แพ้ชนะ ได้ข่าวว่าเมืองชีจิ๋วถุกลิโป้ยึดได้ ก็ถอยทัพไปทางเมืองกองเหลง อ้วนสุดได้ทีก็ตามมาตีแตก ลิโป้จึงมีหนังสือเชิญเล่าปี่ให้กลับเมืองชีจิ๋ว แล้วพาครอบครัวมามอบให้ ภรรยาทั้งสอง คือนางกำฮูหยินกับนางบีฮูหยิน ก็ยืนยันว่าลิโป้เลี้ยงดูเป็นอันดี ลิโป้ก็ออกตัวว่าที่ยกมาตีเมืองชีจิ๋วนี้ มิใช่จะเห็นแก่สมบัติ แต่เป็นเพราะเตียวหุยมัวแต่เมาสุรา เกรงว่าจะรักษาเมืองไว้ไม่ได้ จึงมาช่วยรักษาไว้ให้ แต่เล่าปี่อายแก่ใจบอกว่า เมืองนี้เดิมตนก็ตั้งใจจะยกให้ลิโป้อยู่แล้ว แต่ลิโป้ไม่เอา คราวนี้ยึดได้แล้วก็อยู่ไปเถิด ตนจะไปอยู่เมืองเสียวพ่ายเอง ลิโป้จะอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่ยอม คงลาไปจนได้ ลิโป้ก็ส่งเสียเล่าปี่ มิให้ขัดสนในเรื่องต่าง ๆ ทั้งสองก็อยู่กันเป็นปกติสืบไป

ในทางการเมืองมีสำนวนอยู่ว่า ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร คงจะมาจากตอนนี้เอง ลิโป้เคยรบกับเล่าปี่ แล้วก็มาช่วยเล่าปี่รบกับโจโฉ แล้วก็หันมารบกันเอง แล้วก็ดีกันอีก

ส่วนตันก๋งนั้น เมื่อแรกจะเป็นมิตรกับโจโฉก็ต้องผิดหวัง คราวนี้มาเป็นมิตรกับลิโป้ ก็อยากจะให้ลิโป้เป็นใหญ่ โดยไม่ต้องพึ่งทั้งโจโฉและเล่าปี่ แต่ผลจะเป็นอย่างไร ก็ต้องดูกันต่อไป

#########



Create Date : 26 ตุลาคม 2558
Last Update : 26 ตุลาคม 2558 7:38:54 น. 0 comments
Counter : 417 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.