Group Blog
หน้าบ้านชานเรือน
เรื่องสั้น
เปาบุ้นจิ้น...ผู้ทรงความยุติธรรม
บันทึกของคนเดินเท้า
คุ้ยวรรณคดี สามก๊ก
สังสรรค์สนทนา
ฮ่องเต้ห้าแผ่นดิน
รวมร้อยกรอง
กว่าจะถึงวันนี้
ขุนโจรแห่งเขาเนียซัวเปาะ
ธรรมะคือคุณากร
ขุนช้างขุนแผน ฉบับรวบรัด
พระอภัยมณี ฉบับเร่งรัด
คนดีแผ่นดินซ้อง
คนซื่อแห่งกังหนำ
พงศาวดารจีนยุครัตนโกสินทร์
นักรบสองแผ่นดิน
ทหารเสือแผ่นดินถัง
ยอดคนแผ่นดินเหม็ง
คนชั่วแผ่นดินจิ้น
ย้อนอดีต ของ พญาเขินคำ
เรื่องสั้นหรรษา
เรื่องเล่าของคนวัยทอง
เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา
ย้อนอดีต
สัพเพเหระคดี
อะไรก็ได้
บันทึกของผู้เฒ่า
ฝึกหัดวางภาพ
ภาพเก่าเล่าเรื่อง
ผู้เฒ่าเล่าอดีต
เรื่องของคนกับหมาและแมว
พลิกพงศาวดาร
หลานปู่
บันทึกของผู้เฒ่า ๒๕๕๕
เรื่องไม่ขำ
นิทานชาวสวน
หลากชีวิตในพงศาวดารจีน
สยุมภู ทศพล
สามก๊กฉบับคำกลอน
สามก๊กคำกลอนประกอบภาพ
สามก๊กฉบับคำกลอน ขบวนที่ ๒
เก็บตกจากตู้หนังสือ
คุยกับเจียวต้าย
โลกสดใส
ตำนานลิ่วล้อ
คุ้ยสามก๊ก
คลังแห่งปัญญา
ทบทวนนิยายจีน
สามก๊กฉบับคำกลอนขบวนที่ ๓
ทบทวนสามก๊ก
จากคลับสามก๊ก
เรื่องเล่าจากอดีต
จากกระทู้นอกเรื่อง
ภาพในอดีต
นิยายธรรมะ
สามก๊กฉบับมหาอุปราช
ภาพเก่าเล่าอดีต
ยิ้มคนเดียว
สามก๊กฉบับลายคราม
สามก๊กฉบับลิ่วล้อ
All Blogs
ก่อนจะถึงพรุ่งนี้
ความหลังของแม่พลอย
ตายยาก
การให้
ความจำเป็น
อันความกรุณาผปรานี
มิตรภาพที่มีค่า
คน(ไม่)รักรถ
คนเกลียดถนน
ผู้รักษาความสะอาด
ผู้มี(แต่)น้ำใจ (๘)
ผู้มี(แต่)น้ำใจ (๗)
ผู้มี(แต่)น้ำใจ (๖)
ผู้มี(แต่)น้ำใจ (๕)
ผู้มี(แต่)น้ำใจ (๔)
ผู้มี(แต่)น้ำใจ (๓)
ผู้มี(แต่)น้ำใจ (๒)
ผู้มี(แต้)น้ำใจ (๑)
ความเอยความหลัง (๔)
วันนั้น
เพื่อนมนุษย์
รถของเพื่อน
ขาของเพื่อน
เรื่องของอาหาร
เมื่อผมเป็นครู
คนขี้โมโห (๓)
คนขี้โมโห (๒)
คนขี้โมโห (๒)
คนขี้โมโห
เหตุเกิดในโรงแรม (๔)
เหตุเกิดในโรงแรม (๓)
เหตุเกิดในโรงแรม (๒)
เหตุเกิดในโรงแรม (๑)
เรื่องของหญิงบริการ (๓)
เรื่องของหญิงบริการ (๒)
เรื่องของหญิงบริการ (๑)
เรื่องของแท็กซี่ (๓)
เรื่องของแท็กซี่ (๒)
เรื่องของแท็กซี่ (๑)
ของกลางหาย
วายร้ายจนมุม
คนชอบเขียน
วันฝนตก
อยู่เพื่อแมว
เพื่อนเก่า
ผู้น่าสงสาร
แมวหน้าบ้าน
สิ่งที่เหลืออยู่
ความเอยความหลัง (๓)
ความเอยความหลัง (๒)
ความเอยความหลัง
ขอทาน
ค่าของมิตรภาพ (๑)
ค่าของมิตรภาพ (๒)
ภาพหลอน
วันฝนตก
พรประการที่สาม
ไม่อาจเอ่ยคำลา
แม้ไม่มีคำลา
ยังไม่มีคำลา
คนไม่ทันสมัย
เหตุเกิดบนถนนสายหนึ่ง
วรรณกรรมลอกเลียน
สุราเมระยะ
ชีวิตใหม่
คำพิพากษา (เรื่องเล่าจากจอแก้ว)
รวมเรื่องสั้น ๒๕๕๓
เสียงผู้อ่าน สรรสาระ
ความล้มเหลว
เพื่อนในอากาศ
นี่แหละเพื่อน
มิตรภาพที่เป็นจริง
เรื่องของกระบี่
คนรักเพื่อน
วันรำลึกถึงแม่
เหตุเกิดที่สวนอ้อย
พยาน
อนิจจาความรัก
นักเขียน
ดาวร้าย
ความสำนึก(ผิด)
เขาปรารถนา
ความคิดคำนึง
ความหวังของเขา
ค่าเรื่องของนักเขียน (แก่)
ค่าแรงของนักเขียน (เก่า)
เรื่องของ บก.
จากเพื่อนถึงเพื่อน
ฤๅจะถึงจุดจบ
จุดจบ
คนมีเพื่อน
ลูกของผม
คนอยากเขียน
ควันพิษ
รวมเรื่องสั้น ๒๕๔๘
ก่อนจะถึงพรุ่งนี้
เรื่องสั้น
ก่อนจะถึงพรุ่งนี้
เพทาย
สมหวัง ยืนมองกลุ่มชนที่นั่งบ้างยืนบ้าง หน้าเวทีในท้องสนามหลวงด้านเหนือ ซึ่งหันหลังให้สำนักงานสลากกินแบ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่ แทนอาคารหลังเก่า และตึกของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ถูกเผาไปหมดแล้วตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีก่อน หันหน้าเวทีมาทางพระบรมมหาราชวัง
แม้จะมีผู้ฟังกระจายออกมาไม่ถึงถนนที่ผ่านพาดกลางสนามหลวง แต่ดูด้วยตาก็นับว่ามากมายพอใช้
เขายืนอยู่ใต้ต้นมะขามรุ่นใหม่ที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ด้านอนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่หนึ่งซึ่งเป็นระยะทางไม่ห่างไกลนัก พอได้ยินเสียงจากเครื่องขยายและลำโพงชั้นดี ที่ติดตั้งอยู่ข้างขอบสนาม
ฝูงชนทั้งหลายเหล่านั้นทุกคน ต่างจ้องมองขึ้นไปบนเวที ซึ่งมีผู้นำการชุมนุมนั่งเก้าอี้อยู่ด้านผนังด้านหลังของเวทีเป็นแถวยาว และมีอยู่คนหนึ่งที่ยืนพูดอยู่หน้าไมโครโฟนบนโต๊ะสูงติดขอบหน้าสุดของเวที
สมหวังยืนอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานพอสมควร เขาจับใจความได้ว่าผู้พูดกำลังโน้มน้าวผู้ฟังให้เกลียดชังบุคคลคนหนึ่ง และเมื่อถึงเวลาที่นัดกันไว้ ก็จะออกเดินขบวนไปยังบ้านของใครคนนั้น
เสียงของผู้พูดเร่งเร้ารุนแรง ทำให้เหล่าผู้ฟังมีการตบมือและโห่ร้องสนับสนุน เป็นระยะ
เวลาที่กำหนดนั้นยังอยู่อีกนานพอควร
เขากำลังพลิกฟื้นความจำ ว่าเขาเคยเห็นภาพเหล่านี้นานสักกี่ปีมาแล้ว
.......................
เสี้ยวเดียวครับ.....พรุ่งนี้รวย
เด็กชายวัยประถมเดินร้องตระโกนออกไปซ้ำ ๆ ซาก ๆ แก่ผู้ที่เดินบ้าง ยืนบ้าง อยู่แถวบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ริมถนนเจริญกรุง หลายคนเหลียวมามอง แต่แล้วก็ไม่สนใจใยดี มีบางคนชำเลืองดูเลขท้ายอย่างเสียไม่ได้ แต่ส่วนมากมักจะสั่นศีรษะ เมื่อเขายัดเยียดล็อตเตอรี่ครึ่งใบสุดท้ายของเขาเข้าไปใกล้ ๆ
สมหวังเดินตระเวนร้องตะโกนแบบนี้มาเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรแล้ว ตั้งแต่สะพานพุทธยอดฟ้า ไปบางรัก สีลม จนกระทั่งย้อนกลับมาถึงโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมกรุงอีก
ตั้งแต่ล็อตเตอรี่ยี่สิบใบเต็ม ๆ จนเหลือเสี้ยวสุดท้าย ตั้งแต่โรงเรียนเลิกตอนเที่ยง จนกระทั่งเย็นเกือบค่ำอย่างในขณะนั้น แต่เจ้าใบสุดท้ายนี่ช่างขายยากขายเย็นเสียจริง ๆ แล้วเมื่อไรเขาจะได้กลับบ้าน
เขาคิดอยู่ในใจด้วยความรู้สึกที่ท้อแท้
ที่บ้านซึ่งมีแต่แม่ผู้แก่ชรา และเป็นวัณโรค โรคร้ายซึ่งดูเหมือนไม่มีทางรักษา ถึงจะมียาที่พอจะชลอ อาการให้ชีวิตยืดยาวต่อไป แต่ก็มีราคาแพงเกินกว่าที่เขาจะมีเงินซื้อได้ เขาจึงต้องเอาเวลาหลังจากเรียนหนังสือช่วงเช้า มาขายล็อตเตอรี่ซึ่งพอจะมีกำไรเป็นค่าอาหารในแต่ละวันเท่านั้น
เสี้ยวเดียว.......พรุ่งนี้ออก..............พรุ่งนี้รวย
สมหวังร้องตะโกนต่อไป ผู้คนแถวหน้าโรงภาพยนตร์นั้นชักจะบางตาลง เพราะหนังเริ่มฉายรอบใหม่แล้ว คนที่ยืนคอยก็หายเข้าไปในโรงหมด คนที่เพิ่งออกมาจากรอบที่แล้ว ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
เขาเดินข้ามถนนเข้าไปในตลาดขายอาหาร คิดในใจว่ายังไงก็จะต้องยัดเยียดเจ้าเสี้ยวสุดท้ายนี้ไปให้ได้
แต่เขาก็ต้องผิดหวัง ไม่มีใครต้องการโชคลาภที่เขาเสนอให้เลย
เขาออกจากตลาดแห่งนั้นเดินเรื่อยเปื่อยไปตามถนน แต่เบื่อที่จะร้องจะโกนเสียแล้ว จนกระทั่งมาถึง แม่พระธรณีบีบผมมวยหัวมุมถนนข้างกระทรวงยุติธรรม
ซึ่งฝั่งตรงข้ามคลองหลอด ก็คือโรงแรมรัตนโกสินทร์ และกรมประชาสัมพันธ์ที่มีหน้าตาเหมือนตึกที่เป็นห้างฝรั่งเก่าแก่
เขาจึงแวะเข้าไปวักน้ำประปาที่ไหลออกมาจากมวยผม ในอ่างด้านล่าง ขึ้นลูบหน้าลูบตา และดื่มเสียสองสามอึกด้วยความหิว เขาคิดถึงแม่ และอยากจะกลับบ้านเต็มที แต่ก็ยังเสียดายโอกาสที่จะได้เงินอีกเล็กน้อย จากล็อตเตอรี่เสี้ยวสุดท้ายในกระเป๋ากางเกง
เขาร้องประโยคเดิม ๆ เมื่อเห็นมีคนเดินผ่านไปมา บริเวณนั้นคือที่ซึ่งจะมีตลาดนัดในเช้าวันพรุ่งนี้ วันนี้เป็นวันเสาร์ พ่อค้าแม่ค้าจำพวกขายต้นไม้ดอกไม้และเครื่องประกอบในการปลูกต้นไม้ ต่างขนของมาวางเรียงรายเป็นแถวไป ตลอดฝั่งคลองอันยาวเหยียด เพื่อจะได้ตื่นขึ้นขายแต่เช้ามืด
ขณะนั้นเวลากำลังจะค่ำ แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ลับหายไปแล้ว ไฟตามเสาข้างถนนเริ่มเปิดขึ้นประปราย สมหวังตัดสินใจที่จะกลับบ้าน ซึ่งจะต้องเดินเลาะสนามหลวงไปทางด้านทิศเหนือ
เขามองไปในบริเวณนั้น เห็นมีคนมากมายล้มหลามนั่งบ้างยืนบ้างสนใจฟัง ผู้ที่ยืนอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่งกำลังพูดกรอกลงไปในไมโครโฟนที่ตั้งตรงหน้า เขากำลังด่าใครสักคนหนึ่งด้วยถ้อยคำที่แข็งกร้าวด้วยหน้าตาและออกท่าทางเหมือนอย่างจะกินเลือดกินเนื้อใครคนนั้น ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจผู้ฟังมากมายที่อยู่ตรงหน้า จึงมีเสียงเฮฮาโห่ร้องสลับอยู่เป็นระยะ
สมหวังยัดล็อตเตอรี่เสี้ยวนั้นใส่กระเป๋ากางเกง แล้วตัดใจก้าวเท้ามุ่งหน้าจะกลับบ้าน ในตรอกแคบ ๆ ย่านบางลำพู
พลันก็มีเสียงดัง บึม....เหมือนเสียงระเบิดที่เคยได้ยินในสมัยสงคราม แม้จะไม่ดังเท่านั้น แต่ก็ทำให้คนที่อยู่กลางสนามหลวงแตกฮือขึ้นมาทางทิศเหนือ ราวกับฝูงผึ้งแตกรัง
และก่อนที่เขาจะรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น ฝูงชนนั้นก็บ่าออกมาจากแนวต้นมะขามวิ่งผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว บางคนกระแทกสมหวังล้มคว่ำลง แล้วคนชนก็ล้มคว่ำทับร่างของเขาจนจุก
แต่เขาไม่รอช้ารีบลุกขึ้นแล้ววิ่งเตลิด ปะปนไปกับฝูงชนที่ผ่านเขาไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่คิดชีวิต
ในขณะนั้นดูเหมือนไม่มีใครสนใจใยดีกับอะไรอีกแล้ว นอกจากตนเอง ใครแข็งแรงจึงจะอยู่ได้ ใครอ่อนแอล้มลงหมายถึงถูกเหยียบไม่ตายก็คางเหลือง ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กสิบกว่าขวบอย่างเขา
สมหวังรู้สึกเหมือนตนเองเป็นเศษผงชิ้นเล็ก ๆ ที่ปลิวไปตามแรงลมพายุอย่างเปะปะ จนในที่สุดก็มาถึงริมฝั่งคลองหลอดตรงสะพานเสี้ยวที่มีรางรถรางข้าม และไม่สามารถจะหยุดได้เพราะแรงดันที่มาจากข้างหลัง เขาและอีกหลายคนจึงหล่นลงไปในน้ำ
สมหวังคลานขึ้นมาจากลำคลองที่มีน้ำไม่ลึกนัก เมื่อเสียงอื้ออึงห่างหายไปแล้ว ก่อนอื่นเขารีบล้วงกระเป๋ากางเกง ควานหาเงินค่าลอตเตอรี่ เคราะห์ยังดีที่อยู่ครบถ้วนทั้งเสี้ยวสุดท้ายนั้นด้วย แม้จะเปียกปอนไปหมด เมื่อเดินเข้าตรอกมืด ๆ ที่จะไปบ้านเขาจึงรู้สึกว่าเคล็ดขัดยอกไปทั่วทั้งตัว
เขาเอาเงินและลอตเตอรี่เสี้ยวนั้นให้แม่ที่รออยู่ โดยไม่รู้เรื่องที่เขาผจญมาจากภายนอก เมื่อกินข้าวก้นหม้อที่แม่เหลือไว้ให้แล้ว ก็เข้านอนในมุ้งเก่า ๆ เคียงข้างแม่ ด้วยความอ่อนละเหี่ยเพลียไปทั้งกายและใจ
แม่บอกเบา ๆ ที่ข้างหูว่า หลับเสียเถิดลูก........เดี๋ยวก็จะเช้าแล้ว แต่เขานึกถึงลอตเตอรี่เสี้ยวสุดท้ายที่เหลืออยู่ ถ้ามันถูกเลขท้าย........อะไรจะเกิดขึ้น......
อีกนานเหลือเกิน........กว่าจะถึงพรุ่งนี้
...........................
ผู้คนในท้องสนามหลวงขยับเขยื้อนตัวกันไปทั่วบริเวณ ที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นยืน ต่างเตรียมที่จะเคลื่อนย้ายออกจากสนามหลวง ไปตั้งขบวนที่ถนนราชดำเนินกลางหน้ากระทรวงยุติธรรม
สมหวังยังยืนอยู่ที่เดิม เขามองผู้คนเหล่านั้นอย่างเห็นอกเห็นใจ เขาก็เคยร่วมขบวนอย่างนั้น เมื่อสามสิบกว่าปีมาแล้วอีกครั้งเมื่อยังเป็นวัยฉกรรจ์ ที่มีจิตใจแกร่งกล้าและบ้าบิ่น
ผลก็คือสูญเสียขาข้างขวาไปตั้งแต่ใต้หัวเข่า และได้ชื่อว่าเป็นวีรชนคนหนึ่ง ในจำนวนมากมายที่ต่างก็สูญเสียอะไรไปบางอย่างในร่างกาย แม้กระทั่งชีวิต
สมหวังขยับไม้ค้ำรักแร้ ออกก้าวเดินไปทางด้านอนุสาวรีย์ทหารอาสา เพื่อกลับบ้านเท่ารังหนู ในตรอกแคบ ๆ ย่านบางลำพู ที่ไม่มีแม่รออยู่อีกแล้ว
สะพานเสี้ยวของรถรางก็ไม่มีแล้ว พื้นที่ตรงนั้นเป็นถนนลาดลงมาจากเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า กรมประชาสัมพันธ์ก็กลายเป็นที่ว่างสำหรับจอดรถไปแล้ว เขาจะต้องเดินอ้อมไปลอดใต้สะพาน และเดินตามถนนพระอาทิตย์ จนตัดผ่านวัดชนะสงครามไปออกย่านถนนข้าวสาร จึงจะถึงตรอกบ้านของเขา
เหลียวไปดูข้างหลังผู้คนออกจากสนามหลวงหมดแล้วต่างพากันเดินข้ามสะพานหน้าโรงแรมรอ แยลไปเป็นแถวยาว มุ่งหน้าจะไปยังบ้านที่พักของคนที่เขาด่าว่ามาค่อนวัน และคงจะต้องพบกับการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่
ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อาจจะเหมือนกับที่เขาเคยได้ประสบมาแล้ว หรืออาจจะดีกว่าหรือเลวกว่าก็ได้
แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ประชาชนมือเปล่าก็ย่อมจะได้รับการสูญเสียอย่างแน่นอน
เขาขยับกระบะลอตเตอรี่ที่หนีบรักแร้ให้กระชับ เบือนหน้าจากภาพฝูงชนท้ายขบวนที่กำลังข้ามสะพาน ออกเดินกระโผลกกะเผลก ไปทางท่าช้างวังหน้า
กระบะนั้นเป็นกระบะว่างเปล่า วันนี้ลอตเตอรี่ได้ขายไปหมดแล้ว ไม่เหลือความหวังในวันพรุ่งนี้ เหมือนเมื่อห้าสิบปีก่อน
เขาภาวนาอย่าให้เกิดเหตุร้ายแรงกับฝูงชนเหล่านั้นเลย เขาไม่อยากให้ใครต้องเป็นวีรบุรุษพิการอย่างเขาอีก
แต่ดูเหมือนยังอีกนาน กว่าจะรู้ว่าการภาวนาของเขา จะเป็นผลหรือไม่ ยังอีกนาน...กว่าจะถึงพรุ่งนี้.......เขารำพึงกับตนเอง......
..........อะไรจะเกิดขึ้น...ก่อนจะถึงพรุ่งนี้.
################
แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 50 19:12:14
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 4 ธ.ค. 50 18:28:39 ]
ความคิดเห็นที่ 1
กงล้อประวัติศาสตร์ เวียนกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่านะครับ
ดาว
จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) - [ วันพ่อแห่งชาติ 06:16:24 ]
ความคิดเห็นที่ 2
น่าแปลกที่เราได้รับบทเรียนซ้ำๆ...
และก็จะยังซ้ำอยู่อย่างนั้น
ทักทายป๋าเจียวต้ายครับ
จากคุณ : กลิ่นกาแฟ (กลิ่นกาแฟครับ) - [ วันพ่อแห่งชาติ 08:10:33 ]
ความคิดเห็นที่ 3
ติดใจว่าลอตเตอรี่เสี้ยวนั้นถูกรางวัลหรือเปล่า เหอๆ
จากคุณ : ลูนาติก - [ วันพ่อแห่งชาติ 09:20:26 ]
ความคิดเห็นที่ 4
พลุ
จากคุณ : kenkob - [ วันพ่อแห่งชาติ 10:38:42 ]
ความคิดเห็นที่ 5
ป๋าเจียวต้ายคะ
หลายครั้งที่เราไม่รู้ว่าเราเรียกร้องเพื่อใคร หรือเพื่ออะไร
เพราะท้ายที่สุดก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยเป็นเลย
จากคุณ : ทิวลิปสีน้ำเงิน - [ วันพ่อแห่งชาติ 11:10:04 ]
ความคิดเห็นที่ 6
นานๆทีได้อ่าน "เรื่องสั้น" แนวนี้ คุณเจียวต้าย
พรุ่งนี้ไม่มีวันถึง...........
จากคุณ : GTW - [ 6 ธ.ค. 50 04:57:09 ]
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณคุณหมอลูนาติก ที่ห่วงลอตเตอรี่เสี้ยวนั้น
ผมว่าคงไม่ถูก หรืออาจจะถูกแค่เลขท้าย
สมัยนั้นคงเป็นเงินน้อยนิด ฐานะของสัมหวังและแม่จึงไม่ดีขึ้นครับ
ที่ว่าประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยไงครับ คุณพีท
และคนเราก็ไม่ยักศึกษาประวัติศาสตร์ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
มันดีหรือไม่ดีอย่างไร คนรุ่นหลังจึงทำซ้ำอีก
แล้วมันก็เหมือนเดิมอีกครับ คุณกลิ่นกาแฟ
เวลาที่เขาเรียกร้องนั้น ส่วนมากเขามีเป้าหมายครับ คุณทิวลิปฯ
แต่บางทีก็ไม่ได้ตามนั้น แม้บางทีได้ตามนั้นแล้ว
ต่อมาก็เปลี่ยนไป ตามกิเลสคนครับ
ขอบคุณคุณ kenkob คุณเป็นนักอ่านที่ดีเสมอครับ.
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 6 ธ.ค. 50 09:49:06 ]
ความคิดเห็นที่ 8
ถูกต้องตามที่อาจารย์จีว่าครับ พรุ่งนี้ไม่มีวันถึง.........
สมหวังเจอครั้งแรกจนตกคลองหลอด
เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๙๙ - ๒๕๐๐ อายุ ๑๒ ขวบ
สมหวังขาขาด เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๖ อายุ ๒๘ ปี
ต่อมาก็ไม่ได้ออกไปวุ่นกับเขา
แต่สมหวังมาเจอครั้งนี้ โดยเป็นเพียงผู้ดูเท่านั้น
อายุ ๖๒ ปีแล้วครับ
ก่อนตายสมหวังก็ยังอาจจะได้เห็นอีกครับ
แต่..............................
ผู้เขียนคงไม่ได้เห็นหรอกครับ อาจารย์ครับ.
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 6 ธ.ค. 50 09:55:55 ]
ความคิดเห็นที่ 9
ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ
ได้แต่คาดเดา คาดหวัง ว่าอาจจะเป็น อาจจะมี
หรืออาจจะไม่เหลืออะไรเลยก็ได้
จากคุณ : ใบเตยหอม - [ 6 ธ.ค. 50 12:53:37 ]
ความคิดเห็นที่ 10
สะท้อนใจค่ะ
จากคุณ : The SoVo - [ 6 ธ.ค. 50 14:54:45 ]
Create Date : 08 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2559 13:29:26 น.
4 comments
Counter : 1240 Pageviews.
Share
Tweet
มาเยี่ยมชม ใมาทักทายครับ
อ่านแล้วรู้สึกเป็นห่วงสมหวังมากกว่าฝูงชนครับ เพราะไม่อยากให้สมหวังต้องเป็นอะไรไปอีก ส่วนเรื่องของฝูงชนนั้นผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากการจัดตั้งของผู้ที่กำลังกล่าวปราศรัยอยู่ครับ
แอบนึกตามเรื่องว่าในสมัยก่อนตรงพระแม่ธรณีบีบมวยผมนั้น เราสามารถเดินเข้าไปกวักน้ำมาล้างหน้าได้เหรอ? ในปัจจุบันนี้ไม่น่าจะทำแบบนี้ได้แล้ว เพราะว่าคงเอื้อมไม่ถึงแน่ครับ
โหวตงานประพันธ์ให้ครับ
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เจียวต้าย Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
อิอิ
โดย:
อาคุงกล่อง
วันที่: 8 พฤศจิกายน 2559 เวลา:22:17:49 น.
เดี๋ยวนี้ผมก็ไม่ได้สีงเกตนะครับ เรื่องแม่พระธรณีบีบผมมวย
แต่ผมว่าสมัยก่อนประปายังไม่เจริญ ก็เหมือนก๊อกน้ำสาธารณะครับ.
โดย:
เจียวต้าย
วันที่: 9 พฤศจิกายน 2559 เวลา:8:37:47 น.
อ่านแล้วนึกถึงบรรยากาศสนามหลวงสมัยก่อนด้วย
คิดถึงเมืองไทยจัง ปีนี้คงจะได้ไปเดินแถวสนามหลวงแน่ๆ
เพราะจะไปกราบพ่อหลวงด้วย
เป้นห่วงสมหวังแต่ก็ลุ่นว่าจะถูกล็อตเตอรี่เสี้ยวสุดท้ายเสียอีก...
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เจียวต้าย Literature Blog ดู Blog
โดย:
newyorknurse
วันที่: 15 พฤศจิกายน 2559 เวลา:5:47:02 น.
เรื่องนี้ท่อนแรกกับท่อนหลัง เขีบยห่างกันเป๋น ๒๐-๓๐ ปี
ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าจะเหมือนกันได้ แต่หวังว่าต่อไปคงไม่มีอีกครับ.
โดย:
เจียวต้าย
วันที่: 15 พฤศจิกายน 2559 เวลา:11:50:11 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เจียวต้าย
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [
?
]
เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
เจียวต้าย
เจียวต้าย
GTW
silverqueen
oreocream
หมอ-ยา-ผู้-น่า-รัก
sugarhut
สีน้ำฟ้า
เปียร์รุส
กริชครับผม
เอ่อ่อ่ะนะคะ
~ เจ๊ล่ะเบื่อ!!!! ~
กลิ่นกาแฟครับ
พิธันดร
จริง
O-HO
i_tua_yung
Handmade
โสมรัศมี
ข้าวโพดแมวติสต์แตก
อาคุงกล่อง
pink-worm
Webmaster - BlogGang
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
มาเยี่ยมชม ใมาทักทายครับ
อ่านแล้วรู้สึกเป็นห่วงสมหวังมากกว่าฝูงชนครับ เพราะไม่อยากให้สมหวังต้องเป็นอะไรไปอีก ส่วนเรื่องของฝูงชนนั้นผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากการจัดตั้งของผู้ที่กำลังกล่าวปราศรัยอยู่ครับ
แอบนึกตามเรื่องว่าในสมัยก่อนตรงพระแม่ธรณีบีบมวยผมนั้น เราสามารถเดินเข้าไปกวักน้ำมาล้างหน้าได้เหรอ? ในปัจจุบันนี้ไม่น่าจะทำแบบนี้ได้แล้ว เพราะว่าคงเอื้อมไม่ถึงแน่ครับ
โหวตงานประพันธ์ให้ครับ
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เจียวต้าย Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
อิอิ