เดิมพื้นที่ที่นี่เป็นของพวกอังกฤษ  กษัตริย์ได้มอบดินดนแห่งนี้เป็นของขวัญให้กับตระกูล Phil  ตระกูลนี้เป็นเศรษฐี ร่ำรวยมากมาก ทำการค้าที่นี่  เค๊าจึงตั้งชื่อว่าเมือง Philadephia แปลว่า เมืองของPhil

Independent Hall

ก่อนเข้าไปซื้อตั๋วแล้วต้องผ่านสารพัด security check เลยไม่เข้า ขอบาย ขี้เกียจถอดเสื้อ

มีอนุเสาวรีย์อยู่

ฝั่งตรงข้ามมี Park ไม่ใหญ่โตอะไร แต่เมื่อไปเดินเล่นก็ชิลดี

เดินขึ้นไปเรื่อยๆจะเป็นอาคารที่เก็บLiberty Bell

ด้านในบอกความเป็นมา

Liberty Bell

สถานที่พิมพ์ธนบัตรอเมริกา  55 หารูปไม่เจอ 

จริงๆอยากไป Philadelphia Museum of Art มากๆ แต่เย็นย่ำแล้วเราคงต้องกลับ New Haven สวรรค์ของเรา ยังต้องไปอีกหลายชั่วโมงทีเดียวกว่าจะถึงบ้าน  

มาถึง New York แวะไปดูต้นคริสต์มาสที่ตรงตึก Rockyfeller ซึ่งอยู่ใกล้ถนน 5th Ave.  ซะหน่อย  ปรากฏต้นยังสร้างไม่เสร็จเลยไปดูคนเล่นice skate แทน บรรยากาศมันช่าง joy to the world แบบ Christmas มากๆ 

Rockefeller เป็นมูลนิธิ 

อาคารนี่เป็นที่ตั้งของบ.การประมูล Christy ด้วย จึงมีภาพเลียนแบบของจิตรกรดังโชว์อยู่รอบๆตึกสวยงามดี

แต่อีกอารมณ์ของเมืองมันก็ดูเหงาๆนะบนถนน ดูเหมือนอารมณ์ในหนังที่ Carrie Bradchraw ยืนโบกรถแท็กซี่ในวันคริสต์มาส ที่ Mr. Big ไม่ได้อยู่ร่วมฉลองด้วยกัน 555 

ข้างตึกทางไป 5th Ave. มีร้านค้าแจ่มๆตามสไตล์คนชอบช๊อปปิ้ง แต่งอย่างไรก็ดี อิฉันแพ้ทางให้อินเน่อร์วัยเด็กที่ชอบเล่นLego

ของที่โชว์หน้าร้านมันน่ารักซะจริง สรุปนี่เราอยู่ดลกเสมือนจริง หรืออยู่ในสถานที่จริงกันแน่

นี่มันคือจุดที่เรายืนอยู่ชัดๆ

ไป M&M World ที่ Time Square แต่จริงๆอยากไปซื้อช๊อคโกแลตที่ร้าน hershey แต่ขอแวะร้านโปรดนี้ด้วย

จัดช๊อปปิ้งอีกแล้ว

สัญลักษณ์ขลังๆหน้าร้าน Hershey

ที่ Hershey Shop

Kit Kat ยักษ์

เครื่องทำช๊อคโกแลต วิลลี วองก้า (555 ล้อเล่นนะ Hershey แหละ)

กลับบ้าน New Haven ดึกดื่นแบบสวัสดิภาพ

Ploy Journey Journal