เรามาเริ่มเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวกันดีกว่า
1. หอไอเฟล
สัญญลักษณ์ของปารีส สร้างโดยวิศวกรชื่อ Gustav Eiffel เพื่อเป็นอนุสรณ์การครบรอบ 100 ปีของการปฏิวัติฝรั่งเศส เดินทางถึงได้รถไฟ RER สายเหลือง ลงป้าย Champ de Mars tour Eiffel หรือ Metro สีเขียวอ่อน ลงป้าย Bir-Hakeim สมัยก่อนที่จะมีตึก Empire State ไอเฟลจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกนะคะ แต่ตอนนี้ทุกสิ่งก็ต้องพ่ายให้กับตึก Burj Khalifa ที่ดูใบ ซึ่งเป็นส่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก 830 เมตร (2016) ต่อไปในอนาคตถ้า Kingdom Tower ในซาอุดิอาราเบียสร้างเสร็จก็จะกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทน ที่ 1,007 เมตร
Eiffel Tower, The symbol of Paris
Cr. กล้องพี่เจี๊ยบ
ช่วงสายๆมา picnic ที่สวนด้านหน้าของไอเฟลก็ดีไม่น้อย นั่งสบายๆในสวน ทั้งอากาศและบรรยากาศดี๊ดี
ด้านหน้าไอเฟล สามารถขึ้นเรือชมแม่น้ำแซนด์ ไปลงป้ายมิวเซี่ยม ดอเซย์ ตรงสะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3
Eiffel at Night อารมณ์ตอนกลางคืน
Cr. กล้องพี่เจ๊ยบ
ช่วงคริสต์มาส ปีใหม่ จะมีการเปิดไฟกระพริบ 5 นาที ทุกต้นชั่วโมง
2. Musee d-Orsay
เป็นพิพิธภัณท์รวมๆสารพัดสิ่งของฝรั่งเศส เช่น การทอผ้า และอื่นๆ มากมาย สามารถเดินมาจากไอเฟลได้ ไม่ไกล เดินไปทางซ้ายๆ มาเจอแม่น้ำแซนด์แล้วเดินมาอีกนิดก็ถึงระ หรือจะนั่ง Metro ก็ไม่ว่ากัน โผล่ขึ้นมาด้านหลังตึก Air France นั่นแหละ
3. The Seine and Alexandre 3 Bridge
เป็นที่ที่ยัยพลอยชอบนักหนา ชอบเดินเล่น นั่งเล่น Picnic หรือ มาออกกำลังกายวิ่งจ๊อกกิ้ง ริมแม่น้ำแซนด์ ณ จุดแถวนี้ แถวฝั่งแม่นำ้ด้านดอร์เซย์มีร้าน Cafe เก่าๆ ขนมอร่อยๆให้นั่งกินแบบสบายใจ อย่างเช่นร้านของเฮีย Pierre เป็นต้น ไม่เหมือนฝั่ง ถนน Champ Ellise ที่ต้องกินไปเกร็งไป Cafe ละแวกนี้ ตกแต่งร้านน่ารักๆ หลายร้านเลย ดูดีมีสไตล์มาก
ท่าเรือ สามารถลงท่านี้ถ้านั่งจากไอเฟล
4. Musee de Louvre
เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เคยเป็นวังหลวงมาก่อน เราสามารถเดินทางมาได้ไม่ยาก ถ้าใกล้สุดจาก Metro ก็สายเหลือง ลงป้าย Louvre เลย แต่จะอยู่ด้านหลัง เดินทะลุตึกออกมา จะเจอพีรามิดใสเจิดจรัสอยู่ด้านหน้า ซื้อตั๋วตรงซุ้มใกล้ๆนี้ จะรออะไร ไปกันเรยย
ข้างในอารมณ์ประมาณนี้
Venus
Monalisa เค๊าว่าชีเป็นหญิงที่สวยที่สุด
ชมภาพพอหอมปากหอมคอ ไปต่อกันดีกว่า
ด้านนอก ใกล้กันมี อนุเสาวรีย์พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งโดน กิโยตินที่ สแควร์แห่งนี้
5. ประตูชัยเก่า
เดินข้ามถนนมาจากพิพธภัณท์ลูฟ ก็จะพบประตูชัย
ด้านหน้าประตูชัย
ด้านหลังประตูชัย
สระน้ำที่ Park เมื่อเดินตรงไปจากประตูชัย นั่งเล่นปล่อยใจ ปล่อยอารมณ์ รีรีสออกไปให้หมดก็ดีเหมือนกัน
ที่ Park: ต้นไม่ในฤดูหนาวก็โกร๋นอย่างที่เห็น แต่ก็เกร๋ไปอีกแบบ
6. Obelisque de Louxor เป็นโอเบลิคส์ศิลปะอียิปต์โบราณตั้งอยู่ที่ Place de la Concorde
นั่งเล่น เดินเล่น กินไม่เล่น จนพอใจแล้วไปต่อ
เดินมาทะลุ Champs-Elyse'es
กินๆ ช๊อปๆ เพลินๆ แถวนี้ ก็แหมร้านรวงแถวนี้อะนะ มันเรียกหาซะนี่กระไร window shopping มันไม่พอ เรียกเข้าร้าน จัดไปเป็นร้านๆ
พอดีช่วงนี้ใกล้ปีใหม่ ควันหลงคริสต์มาสยังไม่จบ เลยมีตลาดนัดตลอดถนน ยัยพลอยก็เลยเดินทานตั้งแต่ต้นถนนจนปลายถนนนั่นแหละ กินตลอดทาง ชิมไปเรื่อย แบบไม่มีท้องเหลือให้ใส่ชากับขนมสุดโปรดสีเขียว บนถนนเส้นนี้กันเลยทีเดียว ไม่เป็นไรอยู่อีกนาน กินสาขาอื่น หรือวันอื่นมาใหม่ก็ได้
7. Arc de triomphe De l'Etoile กับ Avenue des Champs-Elyse'es
ออกแบบโดย ฌอง ชาร์ลแกร็ง ซึ่ได้แนวคิดมาจาดประตูชัยไททัส ในอิตาลีทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นร้านนั่งทานกาแฟเกร๋ๆ แทรกไปด้วยร้านแฟชั่นแบรนด์เนมเบาๆจนถึงหนักๆแล้วแต่เลือกสรร
8. Cathedral Notre Damn de Paris
เป็นมหาวิหารแบบกอธิค ตั้งอยู่ทางตะวันออกของปารีส คำว่า Notre Damn แปลว่า "Our Lady" ซึ่งหมายถึงพระแม่มารี ปัจจุบันใช้เป็นวิหารของโรมันคาทอลิคและเป็นที่ทำการของอาณบิชอปแห่งปารีส ที่นี่มีหน้าต่างสเตนน์กลาสที่สวยมากๆแห่งหนึ่ง
ภาพตอนพลบค่ำ
ด้านใน
มีให้จุดเทียนสักการะ
ประตูด้านหน้า
ที่ด้านหน้าโบสถ์ จะมี Paris Zero อยู่ เป็นจุดเริ่มนับระยะทางของฝรั่งเศส เหมือนกับจุดนับของไทยที่อยู่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมินั่นแหละ
ใกล้ๆ Notre Damn มีรูปปั้นน้ำพุของท่าน Archan Michalle
9. Montarte and Basilica of Sacre-Coeur
มงมาร์ตอยู่บนเนินเขาสูง 130 เมตร ทางเหนือของปารีส เป็นจุดสูงสุดของเมือง จุดสูงสุดเป็นโบสถ์โดมสีขาว ซาร์เครเกอร์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่อุทิศให้กับชาวฝรั่งเศส ที่เสียชีวิตกับสงครามรัสเซียใช้เวลาในการสร้าง 40 ปี เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ไปเซนไทน์ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โบสถ์โดนระเบิด 13 ลูก แต่ก็ยังรอดมาได้
cr:พี่เจี๊ยบ
วิวที่นี่สวยเลยนะคะ เห็นไอเฟลด้วยหล่ะ
รอบๆMont Marte
10. Moulin Rouge ไม่ไกลจากMont Marte
11. Opera
จากจุดนี้เดินไปไม่ไกลก็เป็น Galleries Lafayette และ Printemps
12. Galleries Lafayette shopping Arcade
มีสารพัดแบรนด์เนมให้เลือกสรร แต่ไม่มี Hermes นะจ๊ะ ใครไม่ช๊อปไปถ่ายรูปเล่นแถวนี้ก็สวยงามดีนะ
13. Printemps shopping ต่อ อยู่ใกล้ๆกัน ถ่ายรูปดีงามนะคะ
แต่ละที่สนุกสนาน อลังการดาวล้านดวงมาก ระวังบัตรเครดิตของคุณให้ดี เพราะมันจะรูดได้มันส์มาก
14. La Vallee Village
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องShopping แล้วถ้าใครชอบไป Outlet ก็สามารถไป La Vallee Villageได้ นั่ง RER A สายแดง ลงป้าย ก่อนสุดท้าย ชื่อสถานี Val d'Europe จากปารีสใช้เวลาเดินทางราว 45 นาที ก่อนขึ้นรถต้องเช็คตารางเดินรถให้ดีนะคะเพราะจะมีทางแยกไป 2 สายระหว่างทาง และ ขึ้นถูกสายแล้วจะต้องเช็คด้วยว่าคันที่ขึ้นจะไปสุดสายที่ไหน บางคันไปไม่ถึงนะคะ เมื่อลงรถไฟก็เดินออกมาทางขวา ทะลุ Mall ยาวๆไปประมาณ 10 นาที เดินทะลุออกมาอีกฟากก็เจอแล๊ว OUTLET แล้วจะรออะไร จัดเลยจร้าา จะให้ดีเดินไปที่ info. ก่อน อยู่สุดทางอีกฟาก ขยันเดินนิดนึง บางทีจะมีคูปองลดอีก 5-10% ให้ ก็คุ้มค่าการเดินอยู่นะ ไปเอามาเสร็จก็เริ่มช๊อปตั้งแต่ร้านแรก ไปยันร้านสุดท้าย ไปจบที่ info. office อีกที เราสามารถนำใบเสร็จไปสะสมไมล์ของสายการบินได้นะคะ สายไหนต้องลองเช็คกับเจ้าหน้าที่ค่ะ มีเยอะอยู่ Air France ได้นะคะ แต่ถ้าเป็น Flying Blue ของสายอื่นจะหาเมมเบอร์ไม่เจอค่ะ ต้องตรงสายการบินที่เค๊าระบุเท่านั้น
15. Chateau de Versailles
หรือที่เราเรียกกันว่าพระราชวังแวร์ซายด์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 กับพระนางมารี อังตัวเนท เริ่งสร้างปี 1661ใช้เวลาสร้าง 30 ปี ใช้งบประมาณการสร้าง 500,000,000 ฟรังก์ ทำด้วยหินอ่อนสีขาว
นั่ง RER B สุดสาย เดินต่ออีกอึดใจก็ไปถึงได้ไม่ยาก ถ้าใครอยาชมสวนสวยๆก็ต้องไปในฤดูร้อนนะจ๊ะ
ทั้งหมดทั้งปวงสามารถไปได้โดยตั๋ว Weekly Pass นะจ๊ะ ในเมืองจะมีตลาดนัดตอนเช้าเกือบทุกวัน แถวที่พัก แต่ต่างที่กันไป ส่วนใหญ่จะขายพวกพืชผัก ผลไม้ และ อาหาร แต่บางก็มีตลาดพวกของใช้ รองเท้าหรือของจุกจิกด้วย ต่างตลาดกันไป ลองสอบถามเจ้าหน้าที่โรงแรมที่พักก็ได้ค่ะ มีทุกวันนั่นแล
Cr. กล้องพี่เจี๊ยบและเจ็กอู๊ดด้วยนะคะ
พลอย