Ploy Journey Journal.........Welcome to my world
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
6 กรกฏาคม 2559
 
All Blogs
 
Paris .. Je t'aime



ออกจากลิสบอนมาถึงปารีสใน 2.30 ชม. เดินผ่านฉลุยออกมาเร็วมาก เพราะได้สแตมป์พาสปอร์ตตอนมาทรานสิตที่นี่ก่อนไปลิสบอนเรียบร้อยแล้ว  สนามบิน Charles de Gaulle ห่างจากตัวเมืองปารีสประมาณ 25 กม. ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ออกจากสนามบินสามารถเดินทางได้ทางรถไฟ RER หรือจะใช้บัสของAir France เข้าเมืองก็สะดวกดี ราคาเที่ยวละ 17,00 ยูโร แต่ถ้าใครเดินทางมาจากสนามบิน Orly ก็สามารถนั่งบัสสาย 183 เข้าเมืองมาArea 13 จะมาสุดสายที่ Metro สถานี Porto de Choisy ทีนี้จะไปไหนต่อก็สะดวกแล้ว พลอยนัดเพื่อนมารอรับที่ปลายทางรถบัสคือ ตรงประตูชัย Arc de triomphe de l'Étoile ขนสัมภาระกลับบ้านนอนดีกว่า  ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ร้านค้าจะปิดบริการกันซะส่วนใหญ่ ฉะนั้นไปทานอาหารอร่อยๆ แล้วเตรียมแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ดีกว่า





ก่อนอื่นเรามาเริ่มต้นปรับสมองกับเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟในปารีสกันก่อน มีตั๋วแบบ Ticketใช้ครั้งเดียว, Day Pass, Weekly Pass, Paris Pass และ ตั๋วแบบผสม (ตั๋วผสมต้องไปซื้อกับพนักงานที่ตู้ขายแล้วเค๊าจะคำนวนค่าใช้จ่ายให้ค่ะ) ทั้งบัส, Tram, Metro, และ RER สามารถใช้ตั๋วแบบเดียวกันได้หมด   ถ้าใครต้องการ explore ปารีสแบบจัดหนักจริงๆ จังๆ แนะนำ Paris Pass ค่ะ มีแบบ 2,3,4,6 วัน ราคาแตกต่างกันไป ก็คุ้มนะคะ เพราะตั๋วนี้จะรวมค่ารถบัส, Metro, RER, SNCF, ค่าเข้า Museum และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องไปเข้าคิวซื้อตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยว

ให้เมื่อยตุ้ม สามารถซื้อได้ทางเวปนี้เลยค่ะ 

Paris Pass Tkt: https://www.parispass.com/how-it-works/paris-museum-pass.html


แต่ถ้าเดินทางน้อยก็ซื้อทิกเก้เป็นใบๆแบบเสียบใช้เป็นรายครั้ง ซื้อครั้งละ 1 ใบ ราคา 1,80 ยูโร แต่ถ้าซื้อเป็น Carnet คือครั้งละ 10 ใบ จะราคาประมาณ 14,10 ยูโร ทิคเก้ 1 ใบ ถ้าใช้กับบัสจะสามารถขึ้นลงกี่ครั้งก็ได้ภายใน 1.30 ชม. แต่ถ้าใช้กับรถไฟจะใช้ได้ต่อการเข้า-ออก 1 ครั้งเท่านั้น  แต่ถ้าวางแผนจะเดินทางมาก หรือ ถ้ามาปารีสในต้นสัปดาห์ก็จะคุ้มค่าที่จะซื้อ Weekly pass มากกว่า เพราะสามารถใช้ได้ทั้ง 5 เขต(คือเดินทางได้ทั่วปารีสและเขตใกล้เคียงทั้งหมดที่มีรูปอยู่ในแผนที่รถไฟปารีส) แบบ Unlimited ตั๋วจะเริ่มใช้ได้กับทุกๆประเภทของรถสาธารณะเที่ยวแรก(รถแต่ละประเภท จะมีเวลาเริ่มเที่ยวแรกที่ต่างกัน)ในวันจันทร์ ไปสิ้นสุดในวันอาทิตย์ของรถเที่ยวสุดท้ายของแต่ละประเภท ไม่ว่าจะซื้อวันไหนเช่นซื้อวันพุธก็จะใช้ได้จากวันพุธ จนถึงแค่วันอาทิตย์เท่านั้น ตอนแรกยัยพลอยก็ไม่เข้าใจ (เข้าใจว่าแบบ 7 วันซื้อวันไหนก็นับไป 7 วันสิถึงจะถูก...จริงม๊ะ?) แต่สรุปว่าไม่ได้เป็นแบบที่คิดจร้าาา แต่ถ้าเป็น Day Pass จะใช้ได้แค่ในปารีสเขต 1 และ 2 เท่านั้น  ถ้าใครมีบัตรแล้วก็เติมเงินโลด ถ้าใครไม่มีเชิญอ่านทางนี้ค่ะ



เริ่มจากไปซื้อบัตรกับห้องขายตั๋วที่สถานีรถไฟราคาประมาณ 5 ยูโร (เงินสดเท่านั้น) จะเป็นตั๋วเปล่าๆ ให้นำตั๋วนั้นไปแปะวางไว้ที่ตู้แล้วเติมเงินจากตู้ซื้อตั๋ว vending machine (สามารถจ่ายได้ด้วยบัตรเครดิตและเงินสด) กดเลือกแบบ weekly pass แล้วเลือกเขต 1-5 (คือกดทุกเขต) ราคาอยู่ที่ 21,50 ยูโร สามารถใช้ได้ทั้งบัส, Metro, และ RER ความยุ่งยากยังไม่หมดแค่นั้น เราเคยสงสัยกันมาตลอดใช่ไหมว่า ทำไมทุกสถานีรถไฟถึงมีตู้ถ่ารูป คล้ายตู้ถ่ายรูปสติกเกอร์ที่สมัยก่อนตอนเป็นวัยรุ่นเราชอบถ่ายกัน  มันมีที่มาค่ะ  ได้บัตรมาเสร็จ เติมเงินเสร็จ กรุณานะคะกรุณา ขอย้ำ! เดินตรงเข้าไปใช้บริการเลยค่ะ ถ่ายรูปและนำมาติดบนบัตรที่ซื้อมา พร้อมเขียนชื่อ-นามสกุลด้วยค่ะ ไม่ต้องคิดต่อว่าจะให้เพื่อนยืมใช้ เพราะถ้าตรวจเจอว่าไม่ใช่บัตรของตัวเอง เค๊าก็ถือว่ายูขโมยมาหรืออะไรทำนองนั้น ก็โดนจับปรับนะคะ  ขอบอกว่าตำรวจที่นี่เอาจริงนะตัวเทอ... เพื่อนของพลอยเคยโดนมาแล้วนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า ชีไม่ทราบว่าต้องเขียนชื่อและติดรูป ได้มาแล้วก็ลั๊นลา..ใช้เลยผ่านไป 2 วันโดนตรวจจร้าา โดนจับไปเข้าห้องคุยกันเลยทีเดียว  เวลาเค๊ามาตรวจแล้วไม่มีชื่อกับรูป 120,00 ยูโรนะคะค่าปรับ คุ้มไหมลองบวกลบคูณหารกันดู และตอนซื้อบัตรเสร็จเจ้าหน้าที่เค๊าไม่แจ้งบอกอะไรเลยนะคะว่า ยูต้องเขียนชื่อ ต้องติดรูป เค๊ามีหน้าที่ขายอบ่างเดียวค่ะ เจ้าของบัตรมีหน้าที่อ่านและทำตามที่บัตรเขียนไว้ค่ะ  แล้วอย่าคิดว่าคงไม่โดนหรอก  ขอบอกว่าโดนแหงๆค่ะ เค๊าจะสุ่มๆตรวจ บางทีบนรถ บางทีตำรวจหลายคนยืนล้อมทางเดินเข้า หลังจากที่คุณแท็ปบัตรเข้ามาแล้ว หรือบางครั้งก็ตรงทางเดินกำลังจะออกแล้วขอตรวจ ไม่มีทางหนีพ้น จริงๆนะคะ อ้อ! แล้วอย่าลืมหยิบแผนที่รถไฟจากหน้าตู้พนักงานขายตั๋วมาด้วยนะคะ 




Ticket แบบใช้ครั้งเดียว ซื้อแบบ Carnet 1,41 ยูโร / ตั๋ววันแบบผสมสามารถใช้ Zone 1-5 และ Airport ได้ 23,50 ยูโร โหดมาก แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยไปถึงสนามบินวันเสาร์ เลยต้องจ่ายตั๋ววัน พนง.ไม่ยอมขายบัตร weekly pass ให้ที่สนามบิน เค๊าบอกใช้ได้พรุ่งนี้อีกวันเดียวจะซื้อไปทำอะไร ไม่คุ้ม ไอเราก็ไม่รู้ว่าตั๋ววัน (oneway to Hotel) มันราคาโหดนัก รู้งี๊ซื้อตั๋ว Week มาทิ้งเล่นยังคุ้มซะกว่า เลยเก็บตั๋วไว้ดูต่างหน้า..ชิ เสียค่าโง่ไป  :(



หรือมีอีกทางหนึ่ง เราสามารถ explore Paris ได้โดยวิธีขี่จักรยาน เพียงแค่เราใส่บัตรเครดิตเข้าไปในตู้ที่เราเห็นมีจอดจักรยานสาธารณะ เช่าแล้วคืนที่จุดใดก็ได้ ครึ่งชม.แรกฟรี ค่าจักรยานคิดเป็นรายชั่วโมง มีแบบทิคเก้รายวันและ สำหรับ 7 วัน


เรามาเริ่มเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวกันดีกว่า


1. หอไอเฟล


สัญญลักษณ์ของปารีส สร้างโดยวิศวกรชื่อ Gustav Eiffel เพื่อเป็นอนุสรณ์การครบรอบ 100 ปีของการปฏิวัติฝรั่งเศส เดินทางถึงได้รถไฟ RER สายเหลือง ลงป้าย Champ de Mars tour Eiffel หรือ Metro สีเขียวอ่อน ลงป้าย Bir-Hakeim  สมัยก่อนที่จะมีตึก Empire State ไอเฟลจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกนะคะ แต่ตอนนี้ทุกสิ่งก็ต้องพ่ายให้กับตึก Burj Khalifa ที่ดูใบ ซึ่งเป็นส่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก 830 เมตร (2016) ต่อไปในอนาคตถ้า Kingdom Tower ในซาอุดิอาราเบียสร้างเสร็จก็จะกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทน ที่ 1,007 เมตร


Eiffel Tower, The symbol of Paris

Cr. กล้องพี่เจี๊ยบ


ช่วงสายๆมา picnic ที่สวนด้านหน้าของไอเฟลก็ดีไม่น้อย นั่งสบายๆในสวน ทั้งอากาศและบรรยากาศดี๊ดี



Eifferl Tower, Paris




























































ด้านหน้าไอเฟล สามารถขึ้นเรือชมแม่น้ำแซนด์ ไปลงป้ายมิวเซี่ยม ดอเซย์ ตรงสะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3



Eiffel at Night  อารมณ์ตอนกลางคืน




































































Cr. กล้องพี่เจ๊ยบ


ช่วงคริสต์มาส ปีใหม่ จะมีการเปิดไฟกระพริบ 5 นาที ทุกต้นชั่วโมง





2. Musee d-Orsay


เป็นพิพิธภัณท์รวมๆสารพัดสิ่งของฝรั่งเศส เช่น การทอผ้า และอื่นๆ มากมาย สามารถเดินมาจากไอเฟลได้ ไม่ไกล เดินไปทางซ้ายๆ มาเจอแม่น้ำแซนด์แล้วเดินมาอีกนิดก็ถึงระ หรือจะนั่ง Metro ก็ไม่ว่ากัน โผล่ขึ้นมาด้านหลังตึก Air France นั่นแหละ






3. The Seine and Alexandre 3 Bridge


เป็นที่ที่ยัยพลอยชอบนักหนา ชอบเดินเล่น นั่งเล่น Picnic หรือ มาออกกำลังกายวิ่งจ๊อกกิ้ง ริมแม่น้ำแซนด์ ณ จุดแถวนี้  แถวฝั่งแม่นำ้ด้านดอร์เซย์มีร้าน Cafe เก่าๆ ขนมอร่อยๆให้นั่งกินแบบสบายใจ อย่างเช่นร้านของเฮีย Pierre เป็นต้น ไม่เหมือนฝั่ง ถนน Champ Ellise ที่ต้องกินไปเกร็งไป Cafe ละแวกนี้ ตกแต่งร้านน่ารักๆ หลายร้านเลย ดูดีมีสไตล์มาก


ท่าเรือ สามารถลงท่านี้ถ้านั่งจากไอเฟล





4. Musee de Louvre


เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เคยเป็นวังหลวงมาก่อน เราสามารถเดินทางมาได้ไม่ยาก ถ้าใกล้สุดจาก Metro ก็สายเหลือง ลงป้าย Louvre เลย แต่จะอยู่ด้านหลัง เดินทะลุตึกออกมา จะเจอพีรามิดใสเจิดจรัสอยู่ด้านหน้า  ซื้อตั๋วตรงซุ้มใกล้ๆนี้ จะรออะไร ไปกันเรยย






































ข้างในอารมณ์ประมาณนี้































Venus



Monalisa เค๊าว่าชีเป็นหญิงที่สวยที่สุด



ชมภาพพอหอมปากหอมคอ ไปต่อกันดีกว่า


ด้านนอก ใกล้กันมี อนุเสาวรีย์พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งโดน กิโยตินที่  สแควร์แห่งนี้






5. ประตูชัยเก่า


เดินข้ามถนนมาจากพิพธภัณท์ลูฟ ก็จะพบประตูชัย


ด้านหน้าประตูชัย





ด้านหลังประตูชัย




สระน้ำที่ Park เมื่อเดินตรงไปจากประตูชัย  นั่งเล่นปล่อยใจ ปล่อยอารมณ์ รีรีสออกไปให้หมดก็ดีเหมือนกัน




ที่ Park: ต้นไม่ในฤดูหนาวก็โกร๋นอย่างที่เห็น แต่ก็เกร๋ไปอีกแบบ







6. Obelisque de Louxor เป็นโอเบลิคส์ศิลปะอียิปต์โบราณตั้งอยู่ที่ Place de la Concorde




นั่งเล่น เดินเล่น กินไม่เล่น จนพอใจแล้วไปต่อ


เดินมาทะลุ Champs-Elyse'es

กินๆ ช๊อปๆ เพลินๆ แถวนี้ ก็แหมร้านรวงแถวนี้อะนะ มันเรียกหาซะนี่กระไร window shopping มันไม่พอ เรียกเข้าร้าน จัดไปเป็นร้านๆ

พอดีช่วงนี้ใกล้ปีใหม่ ควันหลงคริสต์มาสยังไม่จบ เลยมีตลาดนัดตลอดถนน ยัยพลอยก็เลยเดินทานตั้งแต่ต้นถนนจนปลายถนนนั่นแหละ กินตลอดทาง ชิมไปเรื่อย แบบไม่มีท้องเหลือให้ใส่ชากับขนมสุดโปรดสีเขียว บนถนนเส้นนี้กันเลยทีเดียว ไม่เป็นไรอยู่อีกนาน กินสาขาอื่น หรือวันอื่นมาใหม่ก็ได้







7. Arc de triomphe De l'Etoile กับ Avenue des Champs-Elyse'es


ออกแบบโดย ฌอง ชาร์ลแกร็ง ซึ่ได้แนวคิดมาจาดประตูชัยไททัส ในอิตาลีทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นร้านนั่งทานกาแฟเกร๋ๆ แทรกไปด้วยร้านแฟชั่นแบรนด์เนมเบาๆจนถึงหนักๆแล้วแต่เลือกสรร







8. Cathedral Notre Damn de Paris


เป็นมหาวิหารแบบกอธิค ตั้งอยู่ทางตะวันออกของปารีส คำว่า Notre Damn แปลว่า "Our Lady" ซึ่งหมายถึงพระแม่มารี ปัจจุบันใช้เป็นวิหารของโรมันคาทอลิคและเป็นที่ทำการของอาณบิชอปแห่งปารีส ที่นี่มีหน้าต่างสเตนน์กลาสที่สวยมากๆแห่งหนึ่ง





ภาพตอนพลบค่ำ



ด้านใน





มีให้จุดเทียนสักการะ




ประตูด้านหน้า



ที่ด้านหน้าโบสถ์ จะมี Paris Zero อยู่ เป็นจุดเริ่มนับระยะทางของฝรั่งเศส เหมือนกับจุดนับของไทยที่อยู่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมินั่นแหละ





ใกล้ๆ Notre Damn มีรูปปั้นน้ำพุของท่าน Archan Michalle





 9. Montarte and Basilica of Sacre-Coeur



มงมาร์ตอยู่บนเนินเขาสูง 130 เมตร ทางเหนือของปารีส เป็นจุดสูงสุดของเมือง จุดสูงสุดเป็นโบสถ์โดมสีขาว ซาร์เครเกอร์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่อุทิศให้กับชาวฝรั่งเศส ที่เสียชีวิตกับสงครามรัสเซียใช้เวลาในการสร้าง 40 ปี เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ไปเซนไทน์  ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โบสถ์โดนระเบิด 13 ลูก แต่ก็ยังรอดมาได้






cr:พี่เจี๊ยบ







วิวที่นี่สวยเลยนะคะ เห็นไอเฟลด้วยหล่ะ







รอบๆMont Marte





10. Moulin Rouge  ไม่ไกลจากMont Marte






11. Opera



จากจุดนี้เดินไปไม่ไกลก็เป็น Galleries Lafayette และ Printemps


12. Galleries Lafayette  shopping Arcade


มีสารพัดแบรนด์เนมให้เลือกสรร แต่ไม่มี Hermes นะจ๊ะ  ใครไม่ช๊อปไปถ่ายรูปเล่นแถวนี้ก็สวยงามดีนะ



galerie-lafayette



13. Printemps shopping ต่อ อยู่ใกล้ๆกัน ถ่ายรูปดีงามนะคะ





แต่ละที่สนุกสนาน อลังการดาวล้านดวงมาก ระวังบัตรเครดิตของคุณให้ดี เพราะมันจะรูดได้มันส์มาก


14. La Vallee Village


ไหนๆก็พูดถึงเรื่องShopping แล้วถ้าใครชอบไป Outlet  ก็สามารถไป La Vallee Villageได้ นั่ง RER A สายแดง ลงป้าย ก่อนสุดท้าย ชื่อสถานี Val d'Europe จากปารีสใช้เวลาเดินทางราว 45 นาที  ก่อนขึ้นรถต้องเช็คตารางเดินรถให้ดีนะคะเพราะจะมีทางแยกไป 2 สายระหว่างทาง และ ขึ้นถูกสายแล้วจะต้องเช็คด้วยว่าคันที่ขึ้นจะไปสุดสายที่ไหน บางคันไปไม่ถึงนะคะ เมื่อลงรถไฟก็เดินออกมาทางขวา ทะลุ Mall ยาวๆไปประมาณ 10 นาที เดินทะลุออกมาอีกฟากก็เจอแล๊ว OUTLET แล้วจะรออะไร จัดเลยจร้าา  จะให้ดีเดินไปที่ info. ก่อน อยู่สุดทางอีกฟาก ขยันเดินนิดนึง บางทีจะมีคูปองลดอีก 5-10% ให้ ก็คุ้มค่าการเดินอยู่นะ ไปเอามาเสร็จก็เริ่มช๊อปตั้งแต่ร้านแรก ไปยันร้านสุดท้าย ไปจบที่ info. office อีกที เราสามารถนำใบเสร็จไปสะสมไมล์ของสายการบินได้นะคะ สายไหนต้องลองเช็คกับเจ้าหน้าที่ค่ะ มีเยอะอยู่ Air France ได้นะคะ แต่ถ้าเป็น Flying Blue ของสายอื่นจะหาเมมเบอร์ไม่เจอค่ะ ต้องตรงสายการบินที่เค๊าระบุเท่านั้น





15. Chateau de Versailles


หรือที่เราเรียกกันว่าพระราชวังแวร์ซายด์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 กับพระนางมารี อังตัวเนท เริ่งสร้างปี 1661ใช้เวลาสร้าง 30 ปี ใช้งบประมาณการสร้าง 500,000,000 ฟรังก์ ทำด้วยหินอ่อนสีขาว


นั่ง RER B สุดสาย เดินต่ออีกอึดใจก็ไปถึงได้ไม่ยาก  ถ้าใครอยาชมสวนสวยๆก็ต้องไปในฤดูร้อนนะจ๊ะ












ทั้งหมดทั้งปวงสามารถไปได้โดยตั๋ว Weekly Pass นะจ๊ะ ในเมืองจะมีตลาดนัดตอนเช้าเกือบทุกวัน แถวที่พัก แต่ต่างที่กันไป ส่วนใหญ่จะขายพวกพืชผัก ผลไม้ และ อาหาร แต่บางก็มีตลาดพวกของใช้ รองเท้าหรือของจุกจิกด้วย ต่างตลาดกันไป ลองสอบถามเจ้าหน้าที่โรงแรมที่พักก็ได้ค่ะ มีทุกวันนั่นแล


Cr. กล้องพี่เจี๊ยบและเจ็กอู๊ดด้วยนะคะ


พลอย





Create Date : 06 กรกฎาคม 2559
Last Update : 8 กรกฎาคม 2559 11:08:40 น. 0 comments
Counter : 1970 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3271775
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Hi guys, I'm "Ploy" who always have full of bucket list. It is because the world is gigantic, so step out 'n explore its. I write, i-dive, i-trek, i-run, i-yoga, i-blog, and I love good food. Let's follow the dream. สวัสดีค่ะ ชื่อ"พลอย"ค่ะ เป็นพวกชีวิตมีแต่บวก ไม่มีลบ Bucket list เต็มตลอดเวย์ อะไรๆก็เป็นลิสต์ที่ต้องทำก่อนตายสำหรับยัยพลอยทั้งนั้น (ก็โลกนี้มันกว้างใหญ่จะตายไป!) ไหนๆก็ได้เกิดมาบนโลกสวยงามใบนี้แล้วหนิ คิดแล้วจะรออะไร...เก็บกระเป๋า ก้าวเท้าออกมา โลกรอเราอยู่ (หรือความอยากรอเราอยู่) พลอยชอบขีดๆเขียนๆ, วิ่ง, โยคะ, ดำน้ำ, เทรค, และทุกทริปจะขาดไม่ได้เลยคือ อาหารอร่อย. มาออกเดินทางตามความฝันกับ "พลอย เจอนี่ เจอนั่น" ด้วยกันนะคะ... : )
New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3271775's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.