เมษายน 2559

 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
22
24
25
26
27
28
29
30
 
All Blog
9 Days 3 Countries in EU 23-31 Oct 2015 : Ch 6 Budapest, Hungary (จบทริป)








  กรี๊ดดดดดดดดดดดดด จบทริปแล้ววววววววววววววว มหากาพย์ดองรีวิวข้ามปี จะได้เริ่มต้นใหม่สักที :D

ขอย้ำอีกที...

ใครที่ต้องการนำรูปออกไปใช้ กรุณามาขออนุญาตก่อนนะ บางรูปส่งขายไปแล้วหากต้องการนำไปใช้เพื่อการพาณิชย์/ทำการค้า รบกวนเสียเงินซื้อตามเว็บเอเจนซี่แทนนะคะ


==============================================

29 October 2015 (cont...)

เราจะขึ้น Buda Castle ที่อยู่บนเขาโดยพาหนะในวันนี้คือ...เคเบิ้ลคาร์!!!

ตามจริงแล้ว บนเขานี้มีทางขึ้นลงหลายทางค่ะ จะเดินขึ้น(ถ้ามั่นว่าถึก) รถบัส หรือจะเคเบิ้ลคาร์ก็ได้ โดยเฉพาะเคเบิ้ลคาร์ มีตั๋วแบบขึ้น-ลงในใบเดียว ดังนั้นห้ามทำหายนะ เก็บไว้ดีๆ



จุดขึ้นกระเช้า ก่อนเข้าก็ซื้อตั๋วก่อนนะ









มี park ให้เดินเล่นด้วย คนที่นี่โชคดีจริงๆ



Buda Castle ตั้งอยู่บนยอด Castle Hill ทางตอนใต้ ส่วนตอนเหนือเรียกว่า Castle district เป็นเมืองใหญ่ที่เหลือแต่ซากปรักหักพัง เหลือเพียงบางส่วนให้เราได้เที่ยวชมเท่านั้น มีบ้านเรือน โบสถ์ อาคารสไตล์ Baroque ยุคกลางและบ้านเรือนในศตวรรษที่ 19 ด้วย 

แน่นอนว่าปราสาทแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งได้รับการบันทึกเป็น World Heritage Site ของเมือง Budapest ในปี 1987 อีกด้วย

คนแรกที่สร้างปราสาทได้เข้ามาพำนักอาศัยบน Castle hill แห่งนี้คือ King Bela IV แห่งฮังการีในช่วงปี 1247-1265 ส่วนที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังเหลือรอดมาถึงปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดย Stephen ท่าน Duke of Slavonia ซึ่งเป็นน้องชายของ King Louis I แห่งฮังการี เป็นส่วนของ Castle keep หรือบ้านเราน่าจะเรียกว่าป้อมปราสาท (ถ้าแปลผิดขออภัย) ป้อมนั้นจะเรียกว่า Stephen's tower (แต่เป็นตรงไหนไม่ทราบนะคะ เพิ่งมาอ่านตอนนี้เอง)



Monument of Prince Eugene of Savoy








บนนี้ต้องมีร้านขายของที่ระลึกแน่นอนค่ะ แถมมีที่ทำการไปรษณีย์ด้วยนะ 

สำหรับใครที่อยากซื้อโปสการ์ดส่งกลับบ้าน แนะนำให้ซื้อแสตมป์กับร้านค้าค่ะ ขายถูกกว่าซื้อกับไปรษณีย์ซะอย่างงั้น แต่ส่งถึงมือเหมือนกันไม่โดนค่าปรับอะไร

เห็นตู้แดงๆ นี่ก็ส่งได้เลยนะ ไม่ใช่ของปลอมแต่อย่างใด ถึงบ้านแน่นอน...






Matthias Church โบสถ์อายุกว่า 700 ปี เป็นโบสถ์ที่มีบทบาทอย่างมากในสมัยก่อน รวมไปถึงพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่ง Habsburg ในปี 1916 อีกด้วย ส่วนชื่อของโบสถ์นั้นตั้งตามชื่อของกษัตริย์ Matthias ชาวฮังกาเรียนผู้ยิ่งใหญ่และเป็นผู้ที่จัดงานอภิเษกสมรสที่โบสถ์แห่งนี้ถึงสองครั้งเลยทีเดียว








พอเดินเที่ยวไปสักพัก ฝนตกค่ะ กรุ๊ปเรากระจัดกระจายกันไปหมด เรากับพี่ดาวเลยวิ่งไปหาร่มระหว่างรอเวลานัดและฝนหยุดตก เราเลยไปนั่งหาอะไรร้อนๆ กินกัน แฮ่...



มันดีมากจริงๆๆๆๆๆๆ มายุโรปแถบนี้แล้วพลาด hot chocolate คือพลาดมากนะคะ 5555

ของเค้าเข้มข้น เหนียวหนืดแต่ไม่หวานเลย กำลังดี ไม่กะเลี่ยนด้วย ดีงามพระรามสี่




มีขนมให้เลือกซื้อเยอะแยะ ราคาพอได้ 



เราเลยสั่งไอ้นี่มาแบ่งกันกิน ฮอทด็อกแบบ Hungary แต่ไส้กรอกเหนียวหน่อยกินกับผักดอง

ราคาน่าจะประมาณ 1000 กว่าโฟริน พอถูไถแก้หิวไปได้บ้าง :3

กินเสร็จก็กลับกันจ้า 



พี่แป๋วบอกว่าเดินกลับเคเบิ้ลคาร์มันไกล ลงรถบัสดีกว่าแป๊บเดียวเอง แล้วเราจะได้ไปต่อเมโทรเพื่อไปตลาดกันต่อ...



Metro ของ Budapest มีอยู่ 4 สายหลักค่ะ สาย 1 จะเก่าที่สุด รถเน่าที่สุด เยินที่สุด แต่อยู่ในสภาพดีใช้งานได้



ดูความเยินของขบวน



ข้างในก็ตามสภาพ แพ้เมโทรของ NYC นิดนึง

เปลี่ยนสายไปสาย 4 ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน ดูความแตกต่างสิเธอ...







ถึงแล้ว Great Market Hall หรือ Central Market Hall ขึ้นจากเมโทรก็เจอเลย มาง่ายมาก

ตลาดที่นี่เหมือนตลาดสดบ้านเรา มีขายทุกอย่าง ราคาถูกใช้ได้ โดยเฉพาะพวกของที่ระลึกทั้งหลาย ซื้อที่นี่รับรองราคาไม่ผิดหวังค่ะ (เพราะนี่ก็หลังหักมาแล้ว คิดว่าแพง ไปเจอข้างนอกแพงกว่า)

ผักสด ผลไม้สด มีแม้แต่ซุปเปอร์ฯ อยู่ใต้ดิน มีร้านอาหารให้นั่ง สารพัดสิ่งของให้เลือกซื้อ








ผักดองแหล่ะค่ะ ร้านนี้ทำน่ารักมากเลย

ตอนแรกนึกว่าเค้าทำรับ Halloween นึกขึ้นได้ว่าเค้าไม่เล่นกัน แหะ...

ในส่วนของร้านดังของตลาดแห่งนี้น่าจะเป็นร้านขายน้ำผึ้งร้านนี้ค่ะ มีรายการทีวีบ้านเราไปถ่ายมาด้วย



เจ๊คนนี้แกเป็นแชมป์ทำน้ำผึ้งของที่นี่ปี 2014 น้ำผึ้งของแกคุณภาพดีมาก ทำจากดอกไม้หลากชนิด เลือกชิมได้ว่าถูกใจน้ำผึ้งจากดอกอะไร ที่ดังมากๆ คือน้ำผึ้งจากดอก Acacia (ถ้าฟังไม่ผิดนะ) รสชาติดีกว่าดอกไม้อื่นๆ ที่เอามาทำน้ำผึ้ง มี propelis ที่ไว้พ่นแก้เจ็บคอด้วย สนใจก็ไปอุดหนุนแกได้นะคะ





แล้วเราก็ไปกันต่อค่ะ จะไปที่ New York Cafe โรงแรม Boscolo 

ได้ข่าวว่าเป็น The most beautiful cafe in the world แหล่ะค่ะ :D พลาดไม่ได้

งวดนี้ได้แค่ afternoon tea นะคะ ความหรูหราที่นี่ไม่ธรรมดาเลย







สำหรับเค้กและน้ำชานั้น มีหลากหลายราคาค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะสั่งเค้กช็อกโกแลตมา เป็นของขึ้นชื่อเลย



อันนี้เป็น size จริงค่ะ ใครอยากชิมนิดหน่อย สั่งไซส์เล็กที่รวมเซตให้มาก็ได้ค่ะ



ชุดน้ำชาสำหรับ 1 คน ตอนแรกมาแบบนี้งงค่ะ มีน้ำผึ้ง น้ำตาล มะนาวให้เลือกเอง กาน้ำร้อน ถุงชา ขนม 2 ชิ้น เก๋ๆ




อันนี้ของพี่อีกคนค่ะ เป็นชิ้นเล็ก 3 ชิ้น ทั่วถึง



น้ำส้มมะนาวของที่นี่...

อิ่มแล้ว ไปเดินถ่ายรูปย่อยอาหารกันดีกว่า





สวยงามตามท้องเรื่อง...

หลังจากนี้คือช่วง free time ละค่ะ เริ่มมีการแยกย้ายกันไปเที่ยว แต่เราเลือกที่จะตามพวกพี่ๆ ไปเดินเที่ยวกันต่อ เอาให้คุ้มนะ ไหนๆ ก็วันสุดท้ายละ...



Heroes Square จตุรัสที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในฮังการี บนยอดเสาคือ Archangel Gabriel มือขวาถือมงกุฎของ St.Stephen ปฐมกษัตริย์ของฮังการี มือซ้ายถือไม้กางเขน(Double cross) สัญลักษณ์แห่งรางวัลที่ St. Stephen ได้รับจาก Pope จากการที่เปลี่ยนฮังการีให้กลายเป็นประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ 

ด้านหลังแบ่งเป็นฝั่งซ้ายคือเหล่ากษัตริย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านต่างๆ ฝั่งขวาจะเป็นสามัญชนที่สร้างความดีความชอบหรือเป็นคนดังของประเทศในอดีตค่ะ



กลุ่มเจ็ดคนที่นี่คือ Magyar Chieftains หรือหัวหน้าเผ่าต่างๆ ทั้ง 7 ก่อนจะมารวมกลุ่มกัน โดยมีหัวหน้า (ตรงกลาง) ชื่อ Arpad เป็นผู้ก่อตั้งประเทศฮังการี (ถ้าแปลผิดขออภัย)


ฝั่งขวา 



ฝั่งซ้าย



หลังจากถ่ายรูปจนหนำใจ เราตกลงกันว่าจะไปช้อปปิ้งของที่ระลึกกันค่ะ 

ปรากฏว่า หลงทางไปแถวไหนไม่ทราบ แต่เดินแล้วไม่มีอะไรเลย เน็ตก็ไม่มีใช้ กลายเป็นว่าถนนช้อปปิ้งจริงๆ อยู่ฝั่งตรงกันข้าม มีร้าน brand name เต็มไปหมด ปิดร้านสามทุ่มโดยเฉลี่ย เสื้อผ้าหาซื้อได้ที่นี่ แต่ของที่ระลึกราคาแพงมาก ไม่ควรซื้อค่ะ

สำหรับคืนนี้เราเดินกลับโรงแรมกัน พยายามทำกระเป๋าให้เหลือที่มากที่สุด ของกินก็รีบกินให้หมด 5555 มาม่าหรืออะไรเหลือก็กินๆ กันซะ ไม่อยากแบกกลับให้หนักเปล่าๆ เลยกลายเป็นช่วงระเบิดของกินไป (นี่ก็มีไส้กรอกอบแห้งจากออสเตรียเหลือ มีผักที่ซื้อจากซุปเปอร์ฯ มา มีวุ้นเส้นกระป๋องที่หิ้วมาเอง เอามาประกอบร่างเป็นยำวุ้นเส้นไส้กรอกเวียนนาไป 555)

นอกจากนี้ก็มีวุ้นเส้นอีก เอามาทำสุกี้ได้อีกด้วยค่ะ (เอาน้ำจิ้มสุกี้ไป)

==========================================

30 October 2015 

ถึงเวลากลับบ้านแล้ว พวกเรามีไฟลทบินตอนบ่าย แต่ก็ต้องตื่นเช้ามาเก็บของแพ็คกระเป๋ากันอยู่ดี

ด้วยความที่มาเร็วไปหน่อย Aeroflot ยังไม่ประกาศ counter check-in พนักงานแถวนั้นก็ไม่ค่อยยินดีตอบคำถามเท่าไหร่ เราจึงต้องคอยมองป้ายประกาศตลอดเวลา ระหว่างนั้นก็ไปจัดการเรื่อง tax refund 

counter tax refund ของ Budapest นั้นเล็กมาก มีพนักงานคนเดียว ใครที่ซื้อของแบรนด์เนมจาก Budapest ไปต้องสำแดงสินค้าให้พนักงานดูด้วยนะ ในตอนนั้นมีแต่แก๊งคนจีนมากมายน่าปวดหัวมาก ทุกคนกระเป๋าใบใหญ่ทั้งนั้น ยืนรอครึ่งชม.ได้ ทั้งๆ ที่เราแค่ต้องการแสตมป์จากพนักงานแค่นั้นเอง ไร้สาระได้อีก

พี่คนนึงในกรุ๊ปทนไม่ไหวเลยเดินไปถามที่เค้าเตอร์ ปรากฏว่าพนักงานแสตมป์ให้ทันที ไม่ต้องตรวจอะไร เราเลยจบเรื่องเร็ว - -" เอาเอกสารใส่ซองแล้วหยอดที่ตู้แดงในสนามบิน



นี่เดินหากันนานมาก อาคารนี้แบ่งเป็น terminal A-B ซึ่งเราต้อง check-in ที่ Terminal B แต่เค้าเตอร์อยู่ A เดินไม่ไกลแต่รำคาญคนเยอะ 
ตู้แดงนี่อยู่ใน Terminal A ค่ะ ส่วน B อยู่บนชั้นสอง ขึ้นบันไดเลื่อนก็เจอเลย

Aeroflot สามารถใช้ตู้ Kiosk check-in ตั๋วของเราได้เลยค่ะ แต่ต้องกรอก confirmation no. ลงไป แล้วก็เลือกที่นั่งได้ด้วยนะ มันดีตรงที่ว่าเราไม่ต้องรอต่อคิวเพื่อเลือกที่นั่งกับพนักงานให้เสียเวลา เช็คเพื่อโหลดกระเป๋าอย่างเดียว จบ ง่ายจิตายยยยยย

ในส่วนของ Duty free นั้นนนนนนนน Budapest ของราคาใช้ได้เลยค่ะ ของหลอกล่อเยอะมาก ช็อกโกแลตเพียบบบบบบบ Longchamp ราคาเท่าเวียนนา (ในราคาไม่หัก tax refund) มันดีมากค่ะ ปลื้มปริ่มเหลือเกิน

เนื่องจาก Aeroflot ต้องพักเปลี่ยนเครื่องที่มอสโค ให้ดูรีวิวไปนะ




ของกินสำหรับไฟลทบิน 2 ชม.กว่า แซนวิชพริก (ที่บูดาเปสต์ดังเรื่องพริกยักษ์ดองค่ะ) กับน้ำแอปเปิ้ล Rich ของรัสเซีย อร่อยกว่าที่ขายในซุปเปอร์ฯ ประเทศอื่นไม่รู้กี่เท่า



ใกล้ถึงมอสโค เราเห็นเมฆดำติดเป็นแพสุดลูกหูลูกตา พวกพี่ๆ จะอยู่เที่ยวมอสโคกันต่ออีก 3 วัน ส่วนเราแยกบินกลับไทย

แน่นอนว่า มันคือคำขู่จากรัสเซีย "พี่หนาวมากกกกกกกกกกนะ" ตอนนั้นน่าจะประมาณ 1-0 องศาได้

เราแยกกับพี่ๆ แล้วเข้าช่อง Transit เพื่อรอไฟลทกลับกรุงเทพ

อย่างที่บอกไป สนามบินมอสโค เป็นสนามบินเปรตๆ ที่ไฟลทบินชอบเปลี่ยน Gate ไปมาโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า Ternimal แคบและยาวทำให้บอร์ดประกาศได้ไม่ทั่วถึง Gate ติดกันไม่ได้แปลว่าจะดีนะ แต่เป็นแค่ทางลงไปเช็คอินเค้าเตอร์ด้านล่างแล้วนั่งรถต่อไปขึ้นเครื่องบินอีกที

ที่สำคัญ อยู่ใน terminal ไม่ได้แปลว่าจะอุ่นสบายไร้ลมหนาวนะคะ ที่นี่แม่งเหมือนเปิดประตูเกทตลอดเวลา นั่งหน้าเกทนี่เป็นหวัดได้เลย หนาวมาก เราจามจนนึกว่าจะไข้ขึ้นละ 



ส่วน duty free อย่าไปหวังอะไรมากนะ เป็นร้านแบบเกาะเล็กๆ เหมือนจะดูดีหรูหรา แต่ไม่ได้เศษเสี้ยวสนามบินสุวรรณภูมิบ้านเรา - -" ไม่รู้คนจีนตื่นเต้นอะไรกัน

อันนี้เป็นไฟลทบินกลับกรุงเทพค่ะ สองคนนี้มาทั้งชุดแต่งงานเลย สงสัยจะไปฮันนีมูนที่ประเทศไทยแน่ๆ :)

คือเราจองไฟลทผิดน่ะค่ะ ตอนกดซื้อไม่ทันมอง กลายเป็นว่าต้องนั่งแกร่วอยู่คนเดียว 4 ชม.ที่มอสโค ในขณะที่พวกพี่ๆ ที่เหลือบินกลับไฟลทนี้พร้อมเจ้าบ่าวเจ้าสาวหมาดๆ นี่แหล่ะ

ไฟลทนี้ gate ไม่เปลี่ยน แต่ของเรานี่สิ....



มันเปลี่ยน Gate ค่ะ!!!! ดวก... แล้วเปลี่ยนแบบไม่ประกาศด้วย ต้องเดินหาเองตอนเวลา boarding  นึกว่าจะตกเครื่องซะแล้ว ดีที่เปลี่ยน gate แล้วทำงานช้าด้วย มีคนไทยบินกลับพอสมควรเลย

และที่สำคัญ ข้างนอกหนาวมาก เราเดินลงมาข้างล่างเพื่อเช็คอินตั๋ว เผชิญกับลมหนาว 0 องศา พนักงานก็ทำงานช้าเหลือเกิน ยืนหน้าชา ปากสั่นกันทุกคน คือข้างบนเราก็ถอดไปชั้นนึงแล้ว นี่แม่ง....ให้ยืนหนาวอีกเพราะพวกหล่อนทำงานช้า จะบ้าตาย..

กว่าจะได้ขึ้นเครื่อง แทบแย่ - -

ในส่วนของ Aeroflot ที่เป็นเครื่อง A787 นั้น มันเลิศค่ะ เครื่องใหม่มาก เหมือนขามานั่นแหล่ะ มีแจกอุปกรณ์ดำรงชีพชั่วคราวจำพวก slippers ผ้าปิดตา 

ส่วนของ IFE หนังใหม่มาก หนังออสการ์ก็มา ดีงามสุด



เมนูอาหาร มีไปอย่างงั้นแหล่ะ เลือกไม่ได้






มื้อค่ำที่มีไว้กินกันตาย (ขนมปังเหนียวและแข็งมาก อย่ากิน)



ไม่ค่อยปลื้มของกินเท่าไหร่ เฉยมาก พอกันตายเท่านั้น...

เอาล่ะค่ะ รีวิวทริปนี้จบลงแล้วนะคะ อะไรดีก็ว่าดี อะไรไม่ดีก็บอกตรงๆ 5555 

ขอบคุณที่ติดตามรีวิวดองเค็มบล็อกนี้ สัญญาว่าจะมีทริปถัดไปแน่นอน ส่วนจะดองเค็มอีกหรือไม่...น่าจะดองอีกแหล่ะ 55555 แต่จะไม่เค็มขนาดนี้ โอเค?

สวัสดีค่ะ :D



Create Date : 21 เมษายน 2559
Last Update : 23 เมษายน 2559 12:49:24 น.
Counter : 2086 Pageviews.

3 comments
  
ว้าว... อยากกินพริกดองขึ้นมาทันทีเลยครับ... ^_^
โดย: SquidMan.ExE IP: 192.99.14.36 วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:19:19:26 น.
  
55555 นู๋เป้บรรยายได้เห็นภาพมากเลย
โดย: สาวดาว IP: 182.53.177.4 วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:14:02:40 น.
  
ไว้หาทริปไปด้วยกันอีกนะพี่ดาว
โดย: อัลปาก้าจัง วันที่: 23 เมษายน 2559 เวลา:11:53:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัลปาก้าจัง
Location :
ราชบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของ Piyoko-chan !!


เจ้าของบล็อกชื่อ เป้ ค่ะ

แต่งหน้าก็พอไหว แต่งตัวไม่ได้เรื่อง(ในบางที)

ตอนนี้มีหมวดท่องเที่ยวแล้ว ความฝันอีกอย่างคือได้เที่ยวทั่วโลกค่ะ จะพยายามรีวิวให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงทริคและเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างประเทศให้ได้ชมกันค่ะ


เอาเป็นว่า นั่งอ่านขำๆ ไปแล้วกันนะคะ ^^

ถูกใจบล็อก donate สมทบทุนค่าเดินทางในทริปต่อๆ ไปได้ที่นี่เลย..
https://www.paypal.me/yanisapae

ขอบคุณล่วงหน้าค่า