space
space
space
 
สิงหาคม 2559
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
15 สิงหาคม 2559
space
space
space

กิน เล่า เมา ค้าง 26 วัน สามประเทศ Day 3-4


Day3 วันนี้มันวันอะไร

ฉันเริ่มนอนได้ในเวลาปกติของที่นี่แล้วเช้านี้จึงตื่นได้แบบมีพลังอาการไข้หายไปหมดแล้ว โชคไม่ดีที่วันนี้ฝนตก แต่จะว่าไปก็นับว่าสวยไปอีกแบบฉันทำอาหารเช้าให้คริสกินตามปกติ พอสายๆคริสก็ชวนปั่นจักรยานไปหายายซึ่งเท่าที่จำได้นั้นทางไปบ้านยายไกลอยู่ไม่ใช่เล่น แต่พอคิดดูว่าใช่จะมีคนไทยที่ไหนได้มาปั่นจักรยานเล่นที่นี่บ่อยๆก็เลยตอบตกลง เราจัดแจงใส่เสื้อกันฝนและเตรียมตัวให้พร้อมเผื่อว่าฝนจะตกหนักระหว่างทางฉันขอคริสหยุดถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยนับครั้งไม่ถ้วน คริสจำเป็นต้องยอมเพราะเป็นเจ้าบ้าน ทางไปบ้านยายสวยมากๆมีทั้งทะเลสาบ ป่าสนทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้ป่าขึ้นเต็มไปหมด ฉะนยังไม่หมดความตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นทุ่งดอกไม้แม้ว่าฝนจะตกแต่ฉันก็ไม่ยอมแพ้ยังคงชื่นชมสองข้างทางผ่านขนตาที่ชุ่มน้ำเราปั่นมาได้ครึ่งทางคริสเริ่มทิ้งระยะห่างออกจากฉันเรื่อยๆฉันจึงต้องตะโกนออกไปดังๆว่า อีคริส รอหน่อย กูพึงหายป่วย ปั่นตามไม่ทัน บางครั้งก็อยากให้ภาษาอังกฤษสื่ออารมณ์ได้หลากหลายเหมือนภาษาไทยบ้างแม้ว่าสองข้างทางจะสวยจนลืมเหนื่อยแต่การปั่นจักรยานกว่าห้ากิโลท่ามกลางสายฝนและปั่นขึ้นเนินเป็นระยะนี่ก็เล่นเอาหืดจับกว่าจะมาถึงบ้านยาย 

เราทักทายกันพูดคุยและกินขนมที่ยายทำดื่มกาแฟไปหลายแก้วจนเวลาล่วงเลย ไปหลายชั่วโมง ฉันจึงขอตัวออกไปเดินเล่นสำรวจบริเวณรอบบ้านให้คริสกับยายได้มีเวลาส่วนตัวฉันเก็บดอกไม้ป่าไปเรื่อยๆ จนมาถึงริมป่าบ้านข้างๆบ้านยายที่มีดอกลิลลี่สีส้มสวยสะดุดตาขึ้นอยู่ฉันจำได้ว่าบ้านหลังนั้นยายปล่อยให้เช่า นับตั้งแต่ทวดสิ้นไปเมื่อหลายปีก่อน จึงนับว่ายังเป็นบริเวณบ้านของยายฉันเลยถือวิสาสะเข้าไปเด็ดดอกลิลลี่แบบเจ้าบ้านแต่ยังไม่ทันที่จะได้ลิลลี่มาอยู่ในมือก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกด่าออกมาจากด้านในแล้วไม่ถึงหนึ่งนาที่ก็มีผู้ชายอารมณ์บูดบึ้งตะโกนถามว่าเช้ามาในสวนบ้านชั้นได้ยังไงฉันได้แต่ขอโทษ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ส่วนลุงข้างบ้านคนนั้นก็ด่าต่อไปเรื่อยๆเป็นภาษาอังกฤษที่ฉันฟังเข้าใจว่ามาจากไหน เดินเข้ามาได้ยังไง แล้วบอกให้ฉันออกไปเดี๋ยวนี้ฉันจึงเดินกลับเข้าบ้านยาย อีลุงพอเห็นก็ตะโกนด่าไล่หลังมาว่า ไม่ใช่ทางนั้นให้เดินออกไปที่ถนนนู้นฉันจึงบอกออกไปบ้างว่า ฉันมาเยี่ยมยายของแฟนที่บ้านหลังนี้ แล้วก็เดินเข้าบ้านแบบไม่สนใจพอเข้าบ้านฉันเล่าให้คริสฟัง พอยายรู้ยายจึงโทรไปหาอีลุงแล้วบอกว่า ฉันเป็นแฟนของคริสหลานชั้นไม่ใช่แกงส์เตอร์ที่ไหน ฉันได้ยินเสียงหัวเราะลั่นออกมาจากปลายสาย 

สักพักเราก็ต้องขอตัวกลับเพราะต้องไปซื้อของมาทำเค้กกินกันสำหรับมื้อเย็น คริสเลือกทำเค้กกล้วยส่วนฉันทำบาน๊อฟฟี่พายทุกคนดูตื่นเต้นกับพายกล้วยที่ตกแต่งด้วยเบอร์รี่

มากจนฉันอดยิ้มไม่ได้

พอเย็นๆซึ่งฝนยังคงตกอยู่แต่น้อยกว่าเมื่อเช้าอาของคริสก็มารับเราไปบ้านยายกันอีกที เรากินอาหารฝีมือยายกันจนพุงกางดื่มไวน์จนหมดกล่อง พูดคุยกันเรื่อยเปื่อยจนหน้าเริ่มแดงเพราะแอลกอฮอลล์ พอสักสองทุ่มแดดเริ่มออกเราจึงออกมานั่งเล่นกันที่สนามหญ้าหน้าบ้านอีตาลุงข้างบ้านออกมาพอดีคราวนี้ฉันยิ้มให้อย่าง

ผู้ชนะ ส่วนอีลุงไม่แม้แต่จะกล้าสบตาฉัน 555แกแพ้ 

พอแดดเริ่มจัดเฟดเดอร์ริกอาของคริสก็ขับรถพาเราขับรถไปที่แม่น้ำ จริงๆแล้วอาอยาก

ออกไปล่าโปเกม่อน จึงอาสาขับรถไปให้ ที่ริมน้ำฉันหัดตกปลาเป็นครั้งแรกแต่โชคไม่ดีที่ไม่ได้

ปลาสักตัว ติดเบ็ด

ตกดึกเราออกไปบาร์กลางแจ้งที่เปิดแค่ช่วงหน้าร้อนเฉพาะช่วงที่มีตลาดนัดการ์ดที่คอยคุมไม่ยอมให้ฉันเข้า ตอนแรกฉันคิดว่าอาจจะเป็นเพราะฉันคงดูอายุไม่ถึง จึงเอาบัตรประชาชนให้ดูแต่จริงๆแล้วเป็นเพราะตาดำๆของฉันต่างหากที่ก่อปัญหาการ์ดบอกว่าตาของฉันดูเบิกโพรงกว่าปกติเหมือนเสพย์ยามา คริสจึงต้องบอกการ์ดไปว่า การ์ดจ๋าอีนี่มันเป็นคนไทยตามันสีเข้มรูม่านตาของมันปกติดีไม่ได้เสพย์อะไรมาการ์ดอีกคนจึงเข้ามา

ดูใกล้ๆ พาหายโง่แล้วจึงยอมให้เข้าไป ในบาร์ที่คลุมด้วยเต้นท์ขนาดใหญ่มีคนจากเกือบจะทั้งหมู่บ้านและมีฉันเป็นเอเซียตัวดำแค่คนเดียว สายตาจึงจับจ้องมาที่ฉันมากเป็นพิเศษ ถ้ามองแบบชื่นชมว่าสวยคงไม่ว่าอะไรแต่เท่าที่ดูคิดว่าไม่ใช่ จริงๆน่าจะทำเสื้อมาจากกรุงเทพฯสกรีนว่าฉันไม่ได้มาเก็บเบอร์รี่เราดื่มเบียร์กันแค่ขวดเดียวก็เดินกลับบ้าน คืนนี้เป็นอีกคืนที่ไม่มีปัญหาเรื่องการนอน

Day4 วันของ พระอาทิตย์

ฉันตื่นแต่เช้ายังคงแฮ้งอยู่แต่อากาศข้างนอกดีมากแม้ว่าทุกคนจะยังหลับอยู่แต่ฉันก็เลือกที่จะแต่งตัวออกไปเดิน เล่นข้างนอก ฉันยังคงชอบทางเดินริมน้ำที่ขี่จักรยานไปดูพระอาทิตย์เที่ยงคืนของคืนแรกจึงมุ่งหน้าไปทางนั้นโดยไม่ลังเล ถนนในหมู่บ้านเช้าวันอาทิตย์เงียบมากแดดอุ่นๆกับบ้านสีสด บวกกับดอกไม้ที่แข่งกันบานเต็มสองข้างทาง ทำให้เช้านี้ไม่เหงาเท่าไหร่แม้ทั้งหมู่บ้านจะมีแค่ฉันที่บ้าออกมาเดินเล่นคนเดียว ฉันเดินเล่นอยู่เกือบชั่วโมงได้ดอกไม้มาเต็มกำมือ จึงกลับมาบ้านเพราะหิวน้ำและท้องเริ่มร้อง 

วันนี้พ่อกับแม่คริสวางโปรแกรมไว้แน่นยิ่งกว่านางงามมิตรภาพเดินสายขอบคุณสื่อ เริ่มด้วยจะพาไปที่คาเฟต์บนเขาที่มีจุดชมวิวให้เห็นเมืองได้360องศาและยังมีทางเดินธรรมชาติให้สำรวจโดยรอบได้ด้วย จากนั้นก็จะพาไปตลาดนัด ของอีกเมือง หนึ่งที่ปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ คริสบอกว่าตลาดนัดแถวนี้นี่ถือเป็นสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียวแทบจะเรียกได้ว่าเป็นวันรวมญาติ วันเลี้ยงรุ่นโรงเรียนประถมของชาวเมืองเลยหลายๆคนที่จากหมู่บ้านไปก็มักจะกลับมาบ้านช่วงนี้ เดี๋ยวจะคอยดูว่าจะหมู่หรือจ่าเพราะตลาดนัดที่โอเวอร์โทเนียร์นี่ง่อยมากยกเว้นบาร์เมื่อคืนที่ค่อยเรียกว่าคึกคักหน่อย

ระหว่างขับรถไปคาเฟ่ต์เราแวะที่บ้านปู่กับย่าก่อนเพื่อรวมพลกับครอบครัวของอาที่ก็กลับมาเยี่ยมบ้านด้วยเหมือนกัน จากนั้นขับรถไปอีกไม่ไกลก็ถึงคาเฟ่ต์ ถนนขึ้นเขาเป็นเส้นทางเดียวกับที่เมื่อคราวก่อนเราติดหล่มหิมะกันฉันจึงจำทุกโค้งได้เป็นอย่างดีแม้คราวที่แล้วเราจะไปไม่ถึงบนยอดเขาแต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีเพราะพระอาทิตย์วันนั้น

สวยมากแสงสีส้มอ่อนสะท้อนไปมาระหว่างหิมะกับฟ้าไม่สิ้นสุด ที่คาเฟ่ต์วิวสวยจริงตามคำอวดอ้างแถมอาหารก็อร่อยซึ่งก็สมควรอร่อยเพราะราคาตั้งเกือบหกร้อยบาท เดี๋ยวจะจำไปทำกินเองบ้าง หลังจากอิ่มทั้งอาหารตาอาหารปากและ

ฝนหยุดตกแล้ว ก็ได้เวลาไปเดินย่อยสำรวจธรรมชาติที่นี่เอง ที่คนโลกที่สามอย่างฉันได้มาเก็บเบอร์รี่ป่าจริงๆ ตื่นเต้นไม่แพ้ฝรั่งเก็บมะเขือพวงที่เมืองไทยสองข้างทางเต็มไปด้วยหินก้อนใหญ่ยักษ์วางซ้อนๆกันเหมือนจะหล่นแหล่ไม่หล่นแหล่แต่ก็เดินได้มั่นคง ขึ้นชื่อว่าคนสวีเดน ถ้าไม่ปลอดภัย ไม่มีทางเหยียบเท้าเข้าไป ตามพื้นระหว่างทางมีดอกไม้ป่าสวยๆที่ไม่มีให้เห็นข้างล่างแถมยังมีโคนสนแปลกๆ ให้ได้เก็บกลับบ้านด้วย ถามพ่อก่อนแล้วนะว่าเอากลับไปได้ไหม และบนพื้นแห้งๆก่อนถึงยอดเขานี่แหละที่ฉันได้เห็นต้นบลูเบอร์รี่เป็นครั้งแรกมันน่าตื่นเต้นมากที่ได้เห็นต้นบลูเบอร์รี่ของจริงตอนแรกกะว่าจะเก็บมากินสดๆตรงนั้นเลยแต่คริสห้ามไว้และให้ไปเก็บที่อื่นแถวนี้ลับตาคนมีใครมาฉี่รดไว้บ้างก็ไม่รู้ มิน่าออกลูกดกเชียว ฉันมัวแต่ตื่นเต้นกับเบอร์รี่ป่าจนเดินรั้งท้ายบวกกับรองเท้าหนังที่ใส่มาแบบไม่ดูที่ทางจึงไม่แปลกที่จะเป็นที่โหล่โดยไม่มีใครรอ ตื่นเต้นอะไรกับเบอร์รี่นักหนา ญาติของคริสคงสงสัยฉันกวาดตามองหาเบอร์รี่ไปทั่ว จนเห็นต้นที่ถูกใจก็เด็ดมากินหนึ่งเม็ดแต่รสชาติมันเปรี้ยวๆไม่เห็นหวานเหมือนบลูเบอร์รี่ที่เคยซื้อกิน จึงเอาไปให้คริสดูคริสบอกว่านั่นไม่ไช่บลูเบอร์รี่ เป็นลูกอะไรก็ไม่รู้ฉันไม่ได้ถามว่ากินแล้วตายไหม เพราะกินไปแล้ว ถ้าเป็นอะไรอย่างน้อยแม่คริสก็เป็นพยาบาลและฉันซื้อประกันมาแล้วจากเมืองไทย วงเงินครอบคลุม1,500,000บาท

ที่ยอดเขาเราจะเห็นวิวได้360องศาเลยมองข้ามแม่น้ำไปก็จะเป็นประเทศฟินแลนด์และจุดนี้ก็เคยเป็นจุดยุทธศาสตร์เอาไว้ยิงระเบิดเวลามีสงคราม จึงมีทั้งธงทั้งป้อมตลอดจนหลุมหลบภัย กระจายอยู่โดยรอบ จะว่าไปก็เหมือนมาเขาค้อนะ อากาศเย็นสบายได้กลิ่นทหาร รายล้อมด้วยต้นสนและเขาหัวโล้น นั่งเครื่องมาทำไมตั้งไกลขาเดินลงเราแวะดูถ้ำซานตาครอสที่ก็เป็นเหมือนแผ่นหินใหญ่ๆวางซ้อนหินก้อนเล็กกว่าจนเกิด

เป็นเพิงริมผาที่น่าหวาดเสียว ฉันว่าเหมือนหอนางอุษาที่อุบลและทุกคนต้องทำท่าแบกหิน ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกนอกจากนี้ก็มีกิจกรรมปั่นจักรานดาวน์ฮิลล์ที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างเพราะ

จากซากที่เห็นดูเหมือนจะมีใครทำจักรยานตกจากที่สูงมากกว่า 

เสร็จจากเดินป่าเราก็ขับรถไปอีกเกือบๆชั่วโมงเพื่อไปตลาดนัดที่ทุกคนตื่นเต้นกันจนออกนอกหน้า ถ้าไม่นับว่าอากาศดีมากๆและมีแดด ตลาดนี้ไม่ควรถูกจัดอยู่ในลิสต์ที่ควรไปของที่เอามาขายถ้าไม่ใช่แยมโฮมเมดและของพื้นบ้าน ก็จะเป็นเสื้อผ้าคุณยายที่จ้างร้อยนึงให้ใส่ก็จะให้อีกพันให้เอาไปเผาส่วนท้ายตลาดที่เป็นเครื่องเล่นหลอกเด็ก ที่ว่างานวัดบ้านเราน่าเกลียดแล้วยังต้องยอมแพ้ที่นี่ทำไมประเทศนี้มีของแบบนี้ และที่ไม่น่าเชื่อกว่าคือ การที่ไม่เจอใครหน้าตาดีเลยเป็นไปได้ยังไง ผู้คนเกรอะกรังและแต่งตัวแย่มากจนแทบจะแยกไม่ออกว่าคนไหนขอทานแล้วที่ฉันแต่งตัวไปแบบจัดเต็ม นี่คนจะไม่มองกันเนอะ อ่อ ตลาดนี้ตลาดเดียว มีบู้ทขายอาหารไทยอยู่ตั้งสามร้านแต่อย่าหวังจะได้เงินฉันเลย เพราะเย็นฉันที่จะทำอาหารไทยรสดั้งเดิมให้ครอบครัวกินกันเองที่บ้านอร่อยกว่าแน่นอนและวัตถุดิบเราสดใหม่ไม่ใช่ของแช่แข็ง

อาหารเย็นมัดใจครอบครัวแฟนวันนี้ คือ พะแนงไก่ ต้มข่าไก่ ผัดกะเพราหมู และกะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอยจริงๆจะมีข้าวเหนียวมะม่วงด้วย แต่อากาศไม่ร้อนเลยผ่านไปห้าวันมะม่วงที่หอบมาแทบจะไม่สุก เอาไว้พรุ่งนี้ว่ากัน 

จะมีแฟนฝรั่งสิ่งสำคัญต้องทำอาหารให้เป็นเพราะครอบครัวเค้าจะรักเรามาก แต่วันนี้คิดว่า บ้านข้างๆคงด่าไปอีกหลายวันเพราะกลิ่นเครื่องเทศจากแพนงไก่ และพริกที่ผัดกะเพราะฉุนมาก ตลบอบอวลไปสามบ้านแปดบ้าน




Create Date : 15 สิงหาคม 2559
Last Update : 15 สิงหาคม 2559 23:15:46 น. 0 comments
Counter : 315 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 3356839
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3356839's blog to your web]
space
space
space
space
space