บล๊อกของลุง กับป้า ที่ชอบการท่องเที่ยว
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 ตุลาคม 2558
 
All Blogs
 
ตอน 7 - ย่านเก่าแก่ของกรุงธากา (Old Dhaka)




เรารู้ทั้งประวัติของประเทศ ของเมืองหลวงของประเทศ มองเห็นความสับสนอลหม่านบนท้องถนน และเสน่ห์ของเมืองหลวงในแบบที่ไม่เหมือนใครจริง ๆ  ..... คราวนี้ ก็ไปเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงธากาได้แล้ว แต่ดูเหมือนส่วนใหญ่ จะอยู่แถวที่เรียกว่า Old Dhaka  บริเวณเก่าแก่ที่สุดของเมือง เลียบไปทางเหนือของริมฝั่งแม่น้ำ  Buriganga และถนน Fulbaria  

บริเวณนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในสมัยโมกุล จนเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ  โดยเฉพาะบริเวณท่าเรือหลักที่มีความสำคัญของการคมนาคมทางน้ำของเมือง 2 ท่า คือ Sadarghat และ Badam Tole  แม่น้ำ Buriganga มีความกว้างประมาณ 500 เมตร  


Sadarghat และ Badam Tole 





ที่นี่เราจะเห็นกิจวัตรประจำวัน ของผู้คนริมแม่น้ำ  เรือมากมายทั้งเรือพายข้ามฝาก เรือขายอาหาร เรือลาก เรือเร็ว เรือขนส่งสินค้า เรือโดยสาร ฯลฯ  








Badam Tole เป็นท่าจอดเรือโดยสาร ของบริษัทขนส่งทางน้ำภายในประเทศของบังคลาเทศ (BIWTC - Bangladesh Inland Waterway Transport Corporation ซึ่งรับผิดชอบเส้นทางหลัก  แต่ก็มีบริษัทเอกชนอื่น ๆ ที่มีสัมปทานเส้นทางที่สั้นกว่า ... เรือของบริษัทเอกชนถูกกว่า  ช้ากว่า  สะดวกสบายน้อยกว่า และประสบอุบัติเหตุมากกว่า 




แม่น้ำเป็นเส้นทางคมนาคมหลักของการเดินทางในประเทศ เพราะบังคลาเทศมีแม่น้ำที่สามารถเดินเรือได้ ถึง 8,000 กม.  แม้จะมีปัญหาการล่าช้า  ทั้งในฤดูฝนจากน้ำหลาก ฤดูร้อนจากน้ำแห้ง  ฤดูหนาวจากหมอกที่หนาทึบ รวมทั้งจากเครื่องจักรกลที่ขัดข้อง เนื่องจากไม่ค่อยได้รับการดูแล 



มีเรือทั้งหมดประมาณ 60 ประเภท ที่ล่องอยู่ในแม่น้ำสายต่าง ๆ ของบังคลาเทศ




เรือกลไฟที่ใช้ไอน้ำ (Paddle-wheel steamers)  แต่ตอนนี้ใช้น้ำมันแล้ว ที่บังคลาเทศจะเรียกว่า "Rockets"  เป็นเรือโดยสารประเภทหนึ่ง มีประวัติยาวนานเป็นร้อยปี  เพราะต่อขึ้นตั้งแต่ต้นศต. ที่ 20 .. แม้จะไม่ใช่การเดินทางที่รวดเร็วในปัจจุบัน  แต่ก็มีความโรแมนติคเพิ่มมากขึ้น ในแต่ละปีที่เวลาผ่านไป  .... ยังไม่ได้ลองค่ะ 






Rockets สีส้มนี้เป็นของ BIWTC  ที่เหลือเพียง 4 ลำเท่านั้น ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน  


ชั้น (Classes) ของเรือโดยสาร  มี 4 ระดับ ชั้น 1 และ 2 ต้องจองตั๋วล่วงหน้าถึง 2 - 3 อาทิตย์ มีห้องส่วนตัว   ชั้นระหว่างกลาง (intermediate)  จะแบ่งเป็นห้องเหมือนกัน แต่มีเพียงเตียงไม้ระแนง 2 ชั้น  ห้องละ 10 -16 เตียง  ซื้อตั๋วบนเรือได้  ชั้นนี้จึงแน่นขนัด




อีกชั้น คือ ชั้นดาดฟ้า (deck class)  ไม่มีอะไรเลย จะยืน จะนั่ง จะนอน ตรงไหนก็ได้ตามที่หาได้  เอาเครื่องนอนมาเอง อาหารด้วย เพราะจะลงไปแถวชั้น 1 หรือ 2 ไม่ได้ ... ชั้นดาดฟ้านี้จะเป็นชั้นที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่จับจอง เพราะราคาถูก  .... จึงแออัดยัดเยียดมาก ๆๆๆ





ข้อมูลจาก Lonelyplanet บอกว่า ถ้าต้องเดินทางโดยชั้นนี้ ...เพราะเห็นทัศนียภาพดี  ให้จ้างคนแถวนั้นไปจองที่ไว้ก่อนแต่เนิ่น ๆ ไม่งั้นหาที่ลำบากแย่เลย




ที่แออัดแน่นขนาดนี้ คิดว่าเป็นเรือของเอกชนค่ะ 


Azan Manzil 

หลังจากสำรวจท่าเรือแล้ว ก็ต่อไปที่ Azan Manzil หรือ Pink Palace ที่อยู่เลยไปประมาณ 600 เมตร  เป็นหนึ่งในอาคารที่น่าสนใจที่สุดของกรุงธากา  เป็นเพียงไม่กี่อาคารที่ตกแต่งแบบยุคสมัยที่ก่อสร้างขึ้นมา  คือ ปี 1872   ... สร้างขึ้นบนพื้นที่ของโรงงานเก่าของฝรั่งเศส  โดย Nawab Abdul Ghahi  - เศรษฐีที่มีที่ดินมากที่สุดของเมือง 





 หลังจากสร้างมาได้ 16 ปี ก็เกิดความเสียหายจากพายุทอร์นาโด  แต่เมื่อซ่อมแซม มีการเปลี่ยนรูปแบบภายนอกพระราชวัง  ทำให้ยิ่งดูอลังการกว่าเดิม  




หลังการสิ้นชีวิตของ Nawab และบุตรชาย  ทรัพย์สมบัติและโชคลาภของครอบครัวได้สูญสลายไป  จนไม่สามารถดูแลพระราชวังนี้ได้  แต่ในช่วงทศวรรษที่ 1980 ก็ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่  ... (มีคนมาทักทายลุง  ดูเราเป็นที่สนใจพอควร)




พระราชวังเป็นอาคารสีชมพู  ด้านหน้ามีบันไดที่นำไปชั้น 2  ซึ่งมีหลังคาเป็นรูปโดม  มีห้องทั้งหมด 23 ห้อง แต่ละห้องประดับด้วยภาพของช่วงปี 1902 ซึ่งแสดงถึงจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ของพระราชวังแห่งนี้




ภายในมีพิพิธภัณฑ์ ที่แสดงถึงชนชั้นปกครองของเบงกอลสมัย Raj  ประวัติของอาคาร  การก่อสร้าง  ศิลปะวัตถุต่าง ๆ  รวมทั้งภาพวาดหลากหลายของชนชั้นสูงเบงกาลี  (ค่าเข้าชม Tk. 75 .... ในอาคารทั้งหมดห้ามถ่ายรูปค่ะ)


Shankharia Bazar

จาก Ahsan Manzil ก็ต่อไปที่  Shankharia Bazar  หรือ "Hindu Street"  เป็นถนนที่น่าสนใจ และน่าชมที่สุดในกรุงธากา เป็นย่านที่หนาแน่นที่สุด  มีบ้านเก่า และร้านที่ขายหัตถกรรมของช่างชาวฮินดู (Shankharis)  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกำไลทำจากเปลือกหอยสังข์ 




ร้านขายเครื่องสักการะเทพฮินดู




กลุ่ม Shankharis หรือ ช่างชาวฮินดูได้เข้ามาอยู่บริเวณนี้ กว่า 300 ปี มาแล้วค่ะ   แต่ปัจจุบันงานศิลปะของเขาเริ่มสูญหายไป เพราะมีการใช้เครื่องจักรมาตัดเปลือกหอยเป็นวงแหวน หรือกำไล เลียนแบบวิธีการดั้งเดิม  ... 

ช่างศิลปะบนถนนนี้ยังมีช่างทำกลอง ช่างแกะสลักหินประดับหลุมศพ  ช่างทำหมวกแต่งงาน  และช่างทำว่าว 








วันที่ไปนั้น ถนนแคบ ๆ เต็มไปด้วยผู้คนและรถสามล้อ  ร้านที่เห็นเด่นชัด คือร้านขายผ้า เพราะมีสีสันแสบมาก











จากนั้นก็เดินผ่านตรอกซอกซอย เพื่อจะไปดู Bara Katra และ Choto Katra .. 2 อาคารที่เก่าแก่ที่สุดในธากา ซึ่งมีโครงสร้างสมัยโมกุล แต่หาไม่เจอค่ะ    ก็เลยต่อไปที่ Lalbagh Fort


Lalbagh Fort

Lalbagh Fort เป็นป้อมที่สร้างไม่เสร็จ  เริ่มสร้างปี 1677 ภายใต้การอุปถัมภ์ของเจ้าชาย Mohammed Azam (บุตรชายคนที่ 3 ของ Aurangzeb)  ผู้ซึ่งต่อมาได้มอบให้ Shaista Khan ดำเนินงานต่อ  ... แต่เนื่องจากการเสียชีวิตของบุตรสาว (ชื่อ Pari Bibi) ของ Khan  ทำให้เขาเสียใจมาก และคิดว่าเป็นลางร้าย  จึงไม่ได้สร้างป้อมนี้ให้แล้วเสร็จ 

อย่างไรก็ตาม มีอนุสรณ์สถาน 3 แห่งที่มีสถาปัตยกรรมแบบโมกุล ที่แล้วเสร็จใน ปี 1684  และยังคงอยู่ในสภาพดี  คือ  Diwan Hall (Hall of Audience - อาคารแสดง) .... สุสานของ Pari Bibi  และ สุเหร่า Quilla (Quilla Mosque)

เมื่อเข้าไปภายในป้อม จะเห็นที่พำนักของผู้ว่าการรัฐทางซ้าย  ซึ่งมี Hall of Audience อยู่ด้วย  ... 


อาคารนี้เป็นอาคารใหญ่ 2 ชั้น ที่มีโครงสร้างด้านหน้าเหมือนกันทั้ง 2 ด้าน และมีห้องโถงกลาง (Diwan Hall หรือ Hall of Audience) ภายในจะมีพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ที่มีภาพเขียนย่อส่วนของสมัยโมกุล  ตัวอย่างของการประดิษฐ์อักษรที่สวยงาม แล้วก็ยังมีพวกดาบ และอาวุธอีกด้วย


 ทางด้านตะวันตกเป็นสุเหร่า Quilla 



ตรงกลางของอาณาบริเวณป้อม เป็นสุสานของ Pari Bibi ซึ่งมีโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ และไม่เหมือนใคร   เป็นอาคารเดียวในบังคลาเทศ ที่ใช้หินบะซอลต์สีดำ หินอ่อนสีขาว และกระเบื้องหลากสี มาตกแต่งภายใน  แต่ละมุมของอาคารมีป้อมปราการที่สง่างาม  





ภายในเป็นที่ Pari Bibi ถูกฝังไว้ ณ ห้องโถงกลาง ที่เป็นหินอ่อนสีขาวทั้งหมด





สุสานของ Pari Bibi จากมุมไกล




นอกนั้นเป็นอาคารอื่น ๆ ที่ยังสร้างไม่เสร็จ วันนี้เราก็จบกันที่ Lalbagh Fort ค่ะ 

ขอบคุณภาพหลาย ๆ ภาพจาก internet และ

https://www.pinterest.com/pin/181973641165477259/

https://ghiadelacruz.wordpress.com/category/uncategorized/



Create Date : 27 ตุลาคม 2558
Last Update : 20 เมษายน 2559 10:55:33 น. 3 comments
Counter : 2347 Pageviews.

 
เรือโดยสารน่ากลัวมาก
ยิ่งชั้นดาดฟ้า ยิ่งน่ากลัว
คนแออัดขนาดนี้ ถึงได้มีข่าวเรือล่มกันบ่อยๆ
น่าสงสารเนอะ


โดย: พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ วันที่: 1 พฤศจิกายน 2558 เวลา:19:58:30 น.  

 
มีเวลาเข้ามาอ่านด้วยเหรอ thank you จ้า


โดย: payaichow (สมาชิกหมายเลข 1920579 ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2558 เวลา:11:25:06 น.  

 
เห็นสภาพเรือโดยสารแล้ว คิดว่าคงไม่ขึ้นแน่ๆ ค่ะ กลัวเรือจมน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็นค่ะ


โดย: Maeboon วันที่: 22 มีนาคม 2559 เวลา:23:33:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1920579
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1920579's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.