สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


 
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
31 มีนาคม 2552
 

มรดกโลกมาเก๊า ตอนที่ 2

ต่อจาก ตอนที่แล้ว เราได้รู้จักกับแหล่งมรดกโลกบางส่วนของมาเก๊ามาบ้างแล้ว สำหรับเรามาเดินทางกันต่อนะคะ

จตุรัสเซนาโด (Senado Square / Place du senat / Largo do Senado)



จตุรัสเซนาโด ถือเป็นศูนย์กลางของมาเก๊าตั้งแต่แรกเริ่ม ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมและงานฉลองต่างๆ มากมาย ตึกต่างๆ ทั้งสองข้างของจตุรัสสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 และ 20 ในปี 1993 ด้านหน้าของจตุรัส มีการปูหินสีดำและขาวเป็นลวดลายคลื่นเพื่อดึงสีสันอันสดใสของตึกที่อยู่รอบข้างให้เด่นชัดขึ้น และสร้างเสริมบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ที่นี่ถือเป็นจุดขายและจุดเริ่มต้นของการเดินเที่ยวในมาเก๊าเลยล่ะ ขอบอกว่าคนเยอะมากๆ



วัดซำไกวุยคุน หรือวัดกวนไท (Sam Kai Vui Kun - Kuan Tai Temple / Le Temple Sam Kai Vui Kun / Templo de Kuan Tai)



วัดนี้ตั้งอยู่บนบริเวณซึ่งเคยเป็นตลาดมาเก๊าโบราณ ซึ่งป้ายตลาดนั้นยังอยู่ในเห็นในปัจจุบัน แต่เดิมเคยเป็นที่ชุมนุมของพวกพ่อค้า และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชุมชนชาวจีน ก่อนการตั้งหอการค้าจีนในปี 1912 บริเวณรอบๆ วัดเคยเป็นศูนย์กลางการค้าของชาวจีนในมาเก๊า เมื่อความสำคัญของตลาดลดลง วัดจึงกลายเป็นสถานที่สำคัญที่สุดบริเวณนี้ ตั้งอยู่ที่ Rua Sul do Mercado de Sao Domingos ขอบอกว่าต้องสังเกตุเพราะเป็นวัดเล็กๆ ล่ะ เปิดให้เข้าชม 08.00 - 18.00 น.

สำนักแห่งความเมตตา (Holy House of Mercy / Sainte Maison de la Misericorde / Santa Casa da Misericordia)



บาทหลวงคนแรกของมาเก๊าตั้งสถาบันนี้ขึ้นในปี 1569 เพื่อดำเนินกิจกรรมการกุศลต่างๆ เป็นโรงพยาบาลตามแบบตะวันตกแห่งแรกในประเทศจีน มีทั้งสถานรับเลี้ยงเด็กและสถานเด็กกำพร้า อาคารหลักสร้างขึ้นตอนกลางศตวรรษที่ 18 แต่ตึกที่ออกแบบตามสไตล์นีโอคลาสสิค ซึ่งยังคงอยู่ในปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 1905 หากเข้ามาทางประตูด้านข้าง ผู้มาเยือนจะได้ชมพิพิธภัณฑ์ในตัวอาคาร ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายรวมทั้งข้าวของต่างๆ ที่มอบให้แก่คนจีน เพื่อช่วยเหลืองานของมิชชันนารี และเป็นเครื่องแสดงให้เห็นอย่างดีว่า ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเข้ามาฝังรากลึกได้อย่างไรในมาเก๊า ตั้งอยู่ Senado Square เปิดให้เข้าชม 10.00 - 13.00 และ 14.00 - 17.30 ปิดวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ

มหาวิหาร (Cathedrall / La Cathedrale / Igreja da Se)



โบสถ์คาธอลิกแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1622 เพื่ออุทิศให้แด่พระแม่มาเรีย และเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สำคัญที่สุดในมาเก๊า ส่วนหน้าของตึกออกแบบเรียบง่าย มีเพียงหน้าต่างกระจกสีเท่านั้น ภายใต้แท่นบูชาในโบสถ์มกระดูกของบิชอปหลายคนจากศตวรรษที่ 16 และ 17 ฝั่งอยู่ ในสมัยก่อนการคืนมาเก๊ากลับไปให้ประเทศจีนปกครอง มีธรรมเนียมว่าผู้ว่าราชการของมาเก๊าคนใหม่ทุกคนจะต้องมาที่มหาวิหารเพื่อวางคฑาข้างๆ รูปของพระแม่มาเรีย

จตุรัสมหาวิหาร (Cathedral Square / Place de la Cathedrale / Largo da Se)



ในแง่ศาสนาหรือประวัติศาสตร์ อาคารมหาวิหาร และอาคารอื่นๆ ซึ่งอยู่รอบๆ จตุรัสล้วนเป็นอนุสรณ์สถานอันล้ำค่าทั้งสิ้น

คฤหาสน์หลู่เกา (Lou Kau Mansion / Maison Lou Kau / Casa de Lou Kau)



คฤหาสน์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1889 ให้เป็นที่พักอาศัยของครอบครัวหลู่ เกา เป็นพ่อค้าชาวจีนผู้มีชื่อเสียง ตัวคฤหาสน์เป็นตึกสองชั้นก่อด้วยอิฐสีเทาออกเขียวตามแบบจีนและเป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมสไตล์ ซีกวน จากยุคราชวงศ์ชิงตอนปลาย ภายในคฤหาสน์ตกแต่งแบบผสมผสานสไตล์ตะวันออกและตะวันตก และออกแบบเพื่อให้สอดคล้องกับฮวงจุ้ย เช่น ตั้งฉากกั้นที่ประตูบ้าน เพราะเชื่อว่าจะสร้างบรรยากาศแห่งความสอดคล้องกันให้เกิดขึ้นในบ้าน การแกะสลักอิฐหน้าต่างตามแบบแมนจูเรีย มีม่านบังตาสไตล์โปรตุเกส เป็นต้น ตั้งอยู่ที่ Travessa da Se เปิดให้เข้าชม 09.00 - 18.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ

จตุรัสเซนต์โดมินิค (St. Dominic's Square)



จตุรัสนี้อยู่หน้าโบสถ์ เซนต์ โดมินิค ไม่เพียงแต่เป็นที่นั่งพักขาให้หายเหนื่อยเท่านั้น แต่รอบจตุรัสยังมีร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าและเครื่องสำอางค์และสิ่งของอื่นๆ อีกมากมาย

โบสถ์เซนต์โดมินิก (St. Dominic's Church / Place St-Dominique / Largo de S. Domingos)



นักบวชโดมินิกันสร้างโบสถ์นี้ขึ้นในปี 1587 เป็นโบสถ์แห่งแรกที่สร้างขึ้นในประเทศจีน แรกเริ่มใช้เพียงแผ่นไม้กระดานในการก่อสร้าง การออกแบบโบสถ์ค่อนข้างหรูหราและแท่นบูชาอยู่ในสไตล์บารอกที่สวยงามอลังการ พิพิธภัณฑ์เล็กๆ ด้านข้างโบสถ์มีงานศิลปะกรรมของชาวคาทอลิคมาเก๊าเก็บสะสมไว้มากกว่า 300 ชิ้น เปิดให้เข้าชม 10.00 - 18.00

ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul's / Place St-Dominique / Largo de S. Domingos)




ซากโบสถ์ เซนต์ ปอล คือด้านหน้าส่วนที่เหลือของโบสถ์มาแตร์เดอิ โบสถ์แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาลัยเซนต์ ปอล ก่อตั้งในปี 1594 และปิดในปี 1762 เป็นมหาวิทยาลัยตามแบบตะวันตกแห่งแรกของเอเชียตะวันออก โบสถ์เซนต์ปอล สร้างขึ้นในปี 1580 แต่ถูกทำลายสองครั้งในปี 1595 และ 1601 กระทั้งเกิดเพลิงไหม้ในปี 1835 ทั้งวิทยาลัยและโบสถ์ถูกทำลายจนเหลือแต่ด้านหน้าของตึก ฐานโบสถ์ส่วนใหญ่และบันไดหน้า ด้านหน้าของตึกแสดงให้เห็นถึงสไตล์ผสมระหว่างตะวันออกและตะวันตก และมีอยู่ที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้นในโลก

จตุรัสคอมปะนี ออฟ จีซัส (Company of Jesus Square / Place de la compagnie de jesus / Largo da Companhia de Jesus)



ตึกต่างๆ ที่อยู่รอบจตุรัสนี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1920 ถึง 1930 ยกเว้นเพียงสองหลังซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ตามสไตล์นีโอคลาสสิค รูปปั้นทองสัมฤทธิ์สำคัญสองชิ้นที่จตุรัสแห่งนี้ รูปหนึ่งคือเด็กหญิงและสุนัข และอีกรูปคือสัญญาลักษณ์แห่งมิตรภาพระหว่างประเทศจีนและประเทศโปรตุเกส



ส่วนของกำแพงเมืองโบราณ (Section of the Old City Walls / Section de la muraille de la vieille ville / Seccao das Antigas Muralhas de Defesa)



ชาวโปรตุเกสสร้างกำแพงเมืองรอบมาเก๊าตั้งแต่ปี 1569 แผนที่ต่างๆ จากสมัยนั้นแสดงให้เห็นว่า ยกเว้นท่าเรือในทางตะวันตกแล้ว ล้วนมีกำแพงล้อมรอบเมืองมาเก๊าทั้งสิ้นและยังมีการสร้างป้อมต่างๆ ทำให้มาเก๊ามีปราการที่เข้มแข็ง แต่ปัจจุบันที่่ยังเหลืออยู่มีเพียงบางส่วนของกำแพงดั้งเดิมเท่านั้น

วัดนาชา (Na Tcha Temple)



วัดนี้สร้างขึ้นในปี 1888 เพื่ออุทิศให้แก่ นาชา โดยความหวังว่าจะช่วยยับยั้งกาฬโรคที่ระบาดอยู่อย่างรุนแรงในตอนนั้นได้ เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งก่อสร้างอื่นๆ โดยรอบอย่าง ซากโบสถ์เซนต์ปอล วัดนาชาเป็นเพียงอาคารเล็กๆ ที่สร้างด้วยวัสดุธรรมดาง่ายๆ แต่การออกแบบที่ผสมผสานความเป็นจริงกับภาพลวงตา ทำให้เกิดความรู้สึกถึงความละเอียดอ่อนประณีตและงดงาม เปิดให้ชม 08.00 - 17.00 น.

ป้อมปราการเมาท์ฟอร์เทรส (Mount Fortress / Forteresse de la colline / Fortaleza do Monte)



ป้อมปราการนี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1617 ถึง 1626 บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร รูปสีเหลี่ยมคางหมู เป็นศูนย์กลางแห่งเครือข่ายการป้องกันตนเองของชาวมาเก๊า แต่เดิมเนินเขานี้ใช้เป็นที่บวงสรวงบูชามากกว่า 30 ปี แต่ชาวโปรตุเกสได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นป้อมปราการ ต่อมาป้อมปราการได้ใช้เป็นที่พักอาศัยของผู้ว่าราชการมาเก๊า เป็นค่ายทหาร เรือนจำ และเป็นหอดูดาว กระทั้งปัจจุบันกลายเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์มาเก๊า จากที่นี่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามมากมายของซากประตูโบสถ์ เซนต์ ปอล และทั้งเมืองมาเก๊า



จตุรัสคามอส (Camoes Square / Place Camoes / Largo de Camoes)



จตุรัสคามอสอยู่ใกล้สวนคามอส และโบสถ์เซนต์แอนโทนี และสุสานโปรเตสแตนต์ ในบริเวณสวนมีต้นไม้เขียวชะอุ่มและม้านั่งมากมาย ให้คนมาเก๊ามาพักผ่อนหย่อนใจและได้สูดอากาศบริสุทธิ์

สวนคาซา (Casa Garden)



สวนนี้สร้างขึ้นในปี 1770 เป็นที่พักอาศัยของชนชั้นสูงชาวโปรตุเกส นักการเมือง และพ่อค้าผู้ร่ำรวยชื่อ มานูเอล เปไรร่า กล่าวได้ว่าเป็นบ้านพักตากอากาศที่งดงามที่สุดในมาเก๊า บริษัทอีสต์อินเดีย ได้เช่าไปและปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในทศวรรษ 1960 และมูลนิธิโอเรียนตัส คือเจ้าของสวนนี้ในปัจจุบัน เปิดให้เข้าชม 09.30 - 18.00 น. ปิดวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดราชการ

สุสานโปรเตสแตนต์ (Protestant / Cimetiere Protestant / Cemiterio Protestante)



เดิมมีชื่อว่า สุสานของบริษัทอีสต์อินเดีย เป็นสุสานชาวโปรเตสแตนต์แห่งแรกในมาเก๊า ในบริเวณเดียวกันมีโบสถ์ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1821 ศพจำนวนหลายร้อยฝังอยู่ที่นี่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากอังกฤษ สหรัฐอเมริกา เยอรมัน และเนเธอร์แลนด์ บุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดฝังอยู่ที่นี่คือ จอร์จ ชินเนรี นักเขียนชาวอังกฤษ สุสานได้รับการบูรณะในปี 1922

โบสถ์เซนต์ แอนโทนี (St. Anthony's Church / Eglise St-Antoine / Igreja de Santo Antonio)



โบสถ์นี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1558 ถึง 1560 โบสถ์นี้เป็นหนึ่งในสามโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า ตัวอาคารที่เห็นอยู่ในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในช่วงทศวรรษปี 1930 จากซากของโบสถ์เดิมซึ่งถูกไฟไหม้ในวันที่ 22 กันยายน ปี 1874 และทุกปีในวันที่ดังกล่าว ประชาชนชาวมาเก๊าจะมาร่วมรำลึกเหตุการณ์นั้นโดยแห่รูปปั้นของเซนต์ แอนโทนี ไปตามถนน ในอดีตชาวโปรตุเกสจะมาจัดพิธีสมรสที่โบสถ์นี้ เป็นที่มาของการตั้งชื่อภาษาจีนว่า ฟา วอง ทง หรือโบสถ์แห่งดอกไม้

ป้อมปราการเกีย (Guia Fortress, Fortaleza da Guia)



ป้อมปราการเกียสร้างขึ้นในปี 1622 เป็นจุดที่สูงที่สุดของมาเก๊า มองเห็นวิวทิวทันศ์แหลมมาเก๊าทั้งหมดได้จากที่นี่ ในบริเวณป้อมปราการยังมีประภาคารและโบสถ์ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1622 เช่นกัน ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส โดยใช้เทคนิคผสมจีนและตะวันตก ซึ่งไม่เหมือนกับโบสถ์อื่นๆ ในมาเก๊า เปิดให้ชมเวลา 09.00 - 17.30

ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาข้างต้นก็ถือว่าเป็นมรดลโลกของมาเก๊า ที่นักท่องเที่ยวอย่างเราผู้มาเยือนไม่ควรพลาด แต่ดูจากรายละเอียดทั้งหมดแล้ว เราว่าต้องใช้เวลาสัก 3 วันมั้งเนี่ย หากต้องการดูรายละเอียดกันอย่างลึกซึ้ง เมื่อข้อมูลพร้อม วีซ่าและตั๋วเครื่องบินพร้อม การเดินทางตะลุยมาเก๊าก็เริ่มขึ้น .. โปรดติดตามตอนต่อไปว่า นักท่องเที่ยว Backpack อย่างเราจะเจออะไรกันบ้างในมาเก๊า ดินแดนแห่งยุโรปกลางเอเซีย .. ขอบคุณข้อมูลจากการท่องเที่ยวมาเก๊าค่ะ


Create Date : 31 มีนาคม 2552
Last Update : 31 มีนาคม 2552 0:06:12 น. 4 comments
Counter : 3587 Pageviews.  
 
 
 
 
รูปสวยมากคะ อยากไปบ้าง
 
 

โดย: lilylove วันที่: 31 มีนาคม 2552 เวลา:10:51:09 น.  

 
 
 
น่าไปเที่ยวจังค่ะ
 
 

โดย: The Best of Me วันที่: 31 มีนาคม 2552 เวลา:15:17:08 น.  

 
 
 
Weeeee, what a quick and easy slotuion.
 
 

โดย: Carajean IP: 94.23.238.222 วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:56:09 น.  

 
 
 
You've hit the ball out the park! Inrcedblie!
 
 

โดย: Sajan IP: 123.124.238.130 วันที่: 17 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:31:58 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com