NAN :: หลงเสน่ห์น่าน ตอนสัญญาลักษณ์แห่งน่าน ณ วัดภูมินทร์
จากตอนที่แล้ว จขบ.พาไปชม "วัดภูเก็ต" แห่งเมืองปัวกันมาแล้ว มาถึงตอนนี้ก็เวลาเดินทางกลับเข้าเมืองน่านกันแล้วโดยจุดหมายสุดท้ายสำหรับทริปนี้อยู่ที่วัดภูมินทร์ที่มีไฮไลท์ของเมืองน่านคือรูปปู่ม่าน - ย่าม่าน ที่ใครๆ มาก็ต้องมาชมภาพจิตรกรรมฝาผนังรูปนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งน่าน "น่านกระซิบรัก" นั่งเอง
การเดินทางมาวัดภูมินทร์ไม่ยากอยู่ตรงข้ามกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหรือจุดจอดรถรางชมเมืองน่านนั่นเอง โดยท่านที่จะมาสามารถจอดรถไว้ตรงนี้ได้แล้วเดินข้ามถนนไปจะพบกับวัดภูมินทร์ค่ะ
วัดภูมินทร์ ตามพงศาวดาร์เมืองน่านนั้นกล่าวไว้ว่า เดิมทีวัดแห่งนี้มีชื่อว่าวัดพรหมมินทร์ต่อมาได้เพี้ยนเป็นวัดภูมินทร์ตราบจนปัจจุบัน วัดแห่งนี้สร้างโดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์เจ้าผู้ครองนครน่านได้สร้างวัดแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2139 หลังจากได้ครองเมืองน่านได้ 6 ปี
เมื่อเดินเข้ามาหน้าวัดท่านใดกระหายน้ำก็แวะดื่มน้ำจุดบริการได้ค่ะ จขบ.เดินเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นกระบวยยังเป็นรูปปู่ม่าน - ย่าม่านด้วยเลย จากนั้นก็เดินไปหยอดตู้แล้วรับดอกไม้ธูปเทียนดอกไม้ที่นี่สวยจังดูแปลกตาไม่เหมือนใคร
เดินเข้ามาด้านในโบสถ์เพื่อไหว้พระ พระประทานด้านในทำให้ จขบ.นึกถึงวัดในพม่าส่วนใหญ่จะมีสี่ด้าน ที่นี่นอกจากมีความโดดเด่นที่รูปจิตรกรรมฝาผนังแล้ว การตกแต่งที่นี่ก็สวยงามอลังการงานสร้างมากๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ้าเสาทุกอย่างสวยงามลงตัว
จนได้เดินมาถึงรูปจิตรกรรมฝาผนังที่โดดเด่นเป็นที่กล่าวขวัญหากคิดถึงน่านเชื่อว่าส่วนใหญ่จะนึกถึงภาพนี้ เป็นภาพชายหนุ่มและหญิงสาวในชุดแต่งกายชาวพม่าหรือแบบไทยใหญ่อยู่ในอิริยาบถยืนเคียงกัน โดยฝ่ายชายนั้นจับบ่าฝ่ายหญิงแล้วใช้มือป้องปากเหมือนกำลังจะกระซิบกระซาบถ้อยคำบางอย่าง หากสังเกตุจากแววตาของคนทั้งคู่นั้นแฝงความนัยบางอย่าง ชวนให้คิดไปทางโรแมนติกจนอาจารย์สมเจตน์ วิมลเกษม ปราญช์แห่งเมืองน่านได้แต่งคำกลอนอันแสนโรแมนติกเป็นภาษาเหนือเพื่อบรรยายถ้อยคำกระซิบของปู่ม่าน - ย่าม่านความว่า
"คำฮักน้องกูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว จักเอาไว้พื้นอากาศกลางกาวก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาขะลุ้ม จักเอาไปใส่ในวังในข่วงคุ้มก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป ก็เลยเอาไว้ในอกในใจ๋ตัวชายปี้นี้ จักหื่อมันไห้อะฮิอะฮี้ ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเวลา"
แปลว่า
"ความรักของน้องนั้นพี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาวก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย หากเอาไว้ในวังในคุ้มเจ้าเมืองมาเจอก็จะเอาความรักของพี่ไป เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น"
ใครนึกภาพคำเหนือไม่ออกลองฟังในยูทูปดูค่ะ จขบ.บันทึกภาพน้องๆ ที่มาท่องคำกลอนนี้ให้ฟัง พอฟังเป็นภาษาคำเมืองแลดูน่าฮักจินตนาการต่อได้นะ
จขบ.เดินไปเดินมาก็มาเจอภาพนี้แลดูชัดเจนมากไม่ต้องมีคำบรรยายเลยทีเดียว คริคริ รู้นะท่านผู้อ่านคิดอะไรกันอยู่
ด้วยความที่เวลาน้อยเลยไม่มีเวลาเสพงานศิลป์ได้นานนัก มีหลายคนบอกว่าหากอยากขออะไรให้เดินวนรอบโบสถ์ รอบแรกเค้าว่าคำอธิษฐานจะเป็นจริง รอบสองเค้าว่าอะไรแล้วหว่าลืม 555 แต่รอบสามนี่สิเค้าว่าจะได้กลับมาน่านอีกครั้ง
ขอเตือนเพื่อนๆ ว่าหากไปเดินรอบโบสถ์ตอนกลางวันให้เตรียมถุงเท้าไปด้วยนะคะ เชื่อไหมว่า จขบ.ต้องไปยืมถุงเท้าเพื่อนใส่ใจไม่กล้าพอที่จะเดินเท้าเปล่า ขนาดใส่ถุงเท้ายังรับรู้ถึงความร้อนจากพื้นเลยว่า "ร้อนมาก"
จากนั้นพวกเราก็แวะไปถ่ายรูปสถานที่ยอดฮิตของการมาน่าน นั่นคือพิพิธภัณฑ์น่านเค้าจะมีซุ้มลีลาวดีตอนที่ จขบ.ไปพิพิธภัณฑ์ปิดซ่อมแซมเลยอดเข้าไปดูข้างในเลย
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วจังเผลอแป๊บเดียวต้องเดินทางกลับกันแล้ว ไหนๆ มาน่านแล้วขอลองน้ำเงี้ยวให้หายสงสัยเสียหน่อยเลยแวะร้านข้าวซอยแม่สุณีซึ่งอยู่ทางผ่านไปยังสนามบินพอดี
หากเป็นข้าวซอย จขบ.ยกให้ป้าวันดาอร่อยเด็ดดวงพวงมาลัยมากกว่าร้านนี้แม่สุนีย์
ส่วนน้ำเงี้ยวรสชาติคล้ายๆ กัน รสชาติจะไม่เหมือนทางเชียงใหม่จะเข้มข้นรสชาติดีกว่า น้ำเงี้ยวเมืองน่านเค้าจะออกรสชาติไปทางจืดๆ มากกว่าเพราะเป็นเหมือนกันทั้งสองร้าน ถามน้องชายที่เคยมากินอีกร้านหนึ่ง ก็บอกว่าเป็นแบบนี้แหละจะรสชาติเหมือนกันหมด ส่วนข้าวกั้นจิ้น จขบ.ว่าแข็งไปหน่อย
แต่จานนี้อร่อยข้าวผัดแหนมอันนี้ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของแม่สุณีย์เลย เค้าดังเรื่องแหนมซึ่งต้องบอกว่าแหนมเค้านี้อร่อยมาก พูดเลยว่ามาน่านห้ามพลาดแหนมเด็ดขาด แหนมเค้าจะมีสองแบบ คือแบบแรกทานได้เลยไม่ต้องรอเวลา กับแบบที่สองต้องไว้สักสองคืนให้แหนมเปรี้ยวได้ที่ ดังนั้นใครที่ซื้อแบบหลังมาอย่าใส่ตู้เย็นนะคะ เอาไว้ข้างนอกก่อนสักคืนสองคืนก็จะเปรี้ยวกำลังดีจ๊ะ พูดถึงแล้วอยากกินเลยเนี่ยสงสัยเราคงได้เจอกันอีกรอบแน่ๆ น่าน
สำหรับน่านในความรู้สึก จขบ.เป็นเมืองที่ตะตอนยอนดีนะเหมือนเวลาเดินช้าลงที่นี่ มีสถานทีท่องเที่ยวกระจายตัวอยู่หลายตำบลด้วย หากใครชอบแนวสโลว์ไลฟ์กับธรรมชาติไม่ควรพลาด บรรจุน่านเป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวของท่าน แล้วจะหลงเสน่ห์น่านเหมือนหลายๆ คนที่ได้มาสัมผัสจังหวัดแห่งนี้
ทริปนี้ก็ขอขอบคุณเพื่อนร่วมทริปที่น่ารักทุกท่านจองล่วงหน้ากันมาเป็นปีแล้วก็ได้มาสักทีนะ "น่าน" จำนวนคนในทริป 6 คน หารกันตกคนละ 4,500 บาทรวมค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ - น่าน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเช่ารถ และค่าน้ำมันรถ เป็นข้อมูลสำหรับคนจะไปเที่ยวน่านจ้า แล้วพบกันใหม่ในทริปต่อไปค๊า
| Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2559 |
| Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2559 11:09:18 น. |
|
4 comments
|
| Counter : 5287 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [
