สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 ธันวาคม 2553
 

BKK - AYUTTHAYA :: มาดูกันว่ามีอะไรในหมู่บ้านญี่ปุ่น


หลังจากที่พวกเราขับรถออกจาก ตลาดน้ำอโยธยา จุดหมายต่อไปนั่นคือหมู่บ้านญี่ปุ่น ซึ่งตอนแรกจะไปตลาดน้ำคลองสระบัวก่อน แต่เห็นหมู่บ้านญี่ปุ่นถึงก่อนเลยมาแวะที่นี่ดีกว่า หากจะว่าไปแล้ว จขบ. ผ่านไปผ่านมาหมู่บ้านญี่ปุ่นนี่ก็หลายครั้งหลายครั้ง ได้แต่สงสัยว่ามีอะไรข้างในนี้นะ ทริปนี้เลยไม่พลาดที่จะแวะเข้าไปชมให้หายข้อข้องใจเสียที


ค่าเข้าชมก็คนละ ๕๐ บาทล่ะ ตอนแรกก็เดินเข้าไปแบบงง ทำไมมันเงียบอย่างนี้ล่ะ ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนว่าเรามิได้คาดหวังกับการมาเที่ยวที่นี่แต่อย่างใด แค่เพียงจะมาแวะให้หายข้อข้องใจเท่านั้นเอง แต่ที่นี่มีอะไรมากกว่าที่คิด ตาม จขบ. เข้ามาดูในอาคารจัดแสดงกันเลยดีกว่า


ก่อนอื่นเรามารู้จักความเป็นมาของที่นี่กันก่อน ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา เกิดจากความร่วมมือของนักวิชาการไทยและญี่ปุ่น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นให้เงินสนับสนุนจำนวน ๙๙๙ ล้านเย็น ก็ตกราวๆ ๑๗๐ ล้านบาท เนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี ความสัมพันธ์การฑูตไทย-ญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐

Annex Building เป็นอาคารผนวก เป็นอาคารหนึ่งในสองของอาคารศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา ตั้งอยู่บริเวณที่เคยเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่นในสมัยอยุธยา ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกใต้วัดพนัญเชิง และในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ในโอกาสครบรอบ ๑๒๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย-ญี่ปุ่น สมาคมไทย-ญี่ปุ่นจึงได้ปรับปรุงอาคารผนวกและปรับนิทรรศการภายในใหม่หมดซึ่งแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐





พวกเราเดินเข้ามาในอาคาร Annex Building โดยมีเจ้าหน้าที่ให้บริการแนะนำเป็นอย่างดี พาพวกเราเข้าไปยังห้องวีดิทัศน์ แหมเดินเที่ยวร้อนๆ ที่ตลาดอโยธยามาเข้าห้องนี้แล้วรู้สึกดีจัง ภายในห้องวิดีทัศน์ได้นำเสนอภาพรวมของพระนครศรีอยุธยา โดยอ้างอิงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และเสนอความคิดเห็นของนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ทั้งไทยและญี่ปุ่น

เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ยว่าทองหยอดกับฝอยทองไม่ใช่ขนมไทย แต่มีรากเหง้ามาจากโปรตุเกส ไอ้เราก็นึกว่าเป็นขนมไทยเสียอีก เท่าที่ดูวิดีโอเหมือนในสมัยนั้นไม่นิยมชมชอบชาวคริสต์เสียเท่าไหร่ เค้าจึงมารวมตัวกันอยู่ในหมู่บ้านญี่ปุ่นแห่งนี้ล่ะ



พอดูวิดีทัศน์จบ เจ้าหน้าที่ก็พาพวกเราออกจากห้องเพื่อมาสู่ห้องแสดงถัดไปเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่ต้องบอกว่า ไม่เข้ามาไม่รู้นะเนี่ยว่ามีห้องจัดแสดงแบบนี้ ยังกะพิพิธภัณฑ์สยามเลยล่ะ โดยจุดต่อมาที่เราเดินมาชมก็คือ แผนที่เดินเรือมายังกรุงศรีอยุธยา โดยนำเสนอเส้นทางเดินเรือสันนิษฐานจากทางซีกโลกตะวันออกและซีกโลกตะวันตก รวมทั้งทางใต้แถบมลายูที่มีหลักฐานการติดต่อกันในสมัยอยุธยา ขอบอกว่าเห็นเส้นทางเดินเรือแล้วคงเดินทางกันเป็นเดือนอ่ะ ไกลชะมัดเลยอ่ะ




ถัดจากแผนที่เดินเรือก็จะพบกับการจัดแสดงจำลองสินค้านำเข้าและส่งออกในสมัยอยุธยามีหลากหลายผลิตภัณฑ์เลยล่ะ










นอกจากนี้ยังมีข้าวของเครื่องใช้ของชาวญี่ปุ่นในสมัยกรุงศรีอยุธยาจัดแสดงอีกด้วย และจุดต่อมาที่ จขบ. ยอมรับเลยว่าไม่เคยเห็น นั่นก็คือแผนที่ Iudea (ยูเดีย)


เป็นแผนที่กรุงศรีอยุธยาที่เก่าแก่และงดงามที่สุดแผ่นหนึ่ง แผนที่ชิ้นนี้วาดขึ้นในช่วงซึ่งสถานที่สำคัญต่างๆ ยังอยู่ครบสมบูรณ์ แสดงสภาพเกาะเมืองล้อมรอบด้วยกำแพงอิฐ เทือกเขา แม่น้ำ ลักษณะอาคารบ้านเรือน วัดวาอาราม ความวิจิตรโอฬารของพระบรมมหาราชวังตลอดจนถนนหนทางที่ปูด้วยอิฐ และคูคลองที่เชื่อมโยงต่อกันเป็นตาข่าย จนถูกขนานนามว่า "เวนิสแห่งตะวันออก"


แผนที่นี้เป็นภาพวาดสีน้ำมัน วาดโดย ดาวิดและโยฮันเนส วิงโบนส์ ชาวฮอลันดา เมื่อปี พ.ศ. ๒๒๐๖ ตรงกับสมัยพระนารายณ์ มีขนาด 97 x 140 เซนติเมตร สันนิษฐานว่าเคยแขวนประดับอยู่ที่ห้องประชุม Heren XVII ภายในอาคารอินเดียตะวันออก ของบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดา ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติไรคส์มิวเซียม กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งต้องบอกว่าแผนที่ใบนี้มีความละเอียดและงดงามมากๆ เลยล่ะ


ต่อมาก็เป็นแผนที่จากหนังสือของ เดอ ลาลูแบร์ เป็นภาพกรุงศรีอยุธยาและชุมชนต่างๆ ในสมัยพระนารายณ์ และภาพถ่ายทางอากาศเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน


และในโซนกลางก็มีการจัดแสดงประวัติชุมชนชาวต่างชาติในกรุงศรีอยุธยา โดยมีการเล่าถึงประวัติความเป็นมาของชนแต่ละชาติไว้โดยละเอียดไม่ว่าจะเป็น ลาว มอญ เขมร ขอม เวียตนาม พม่า แขก จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศล อังกฤษ โปรตุเกส และฮอลันดา และนอกจากนี้ยังมีโซน animation นำเสนอเรื่องราวการเข้ามาของญี่ปุ่นในอยุธยา ชุมชนญี่ปุ่น วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ อาชีพ ศาสนา รวมทั้งการลดจำนวนชาวญี่ปุ่นเป็นการ์ตูนเอนิเมชั่น น่าสนใจทีเดียวล่ะ


และโซนสุดท้ายที่ จขบ. ชื่นชอบมากๆ นั่นก็คือการลำดับเหตุการณ์ความสัมพันธ์ไทยญี่ปุ่น โดยแสดงด้วยตารางลำดับเหตุการณ์เปรียบเทียบเหตุการณ์โลก ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๘๙๓ ตั้งแต่สมัยอยุธยาจนปัจจุบัน






แหม ถ้าสมัยเรียนประวัติศาสตร์มีชารต์แบบนี้บ้าง รับรองว่าท็อปแน่ๆ คือไม่ต้องมานั่งท่องตำราเป็นเล่มๆ ไงดูแล้วจำเอาง่ายดีแบบนี้ชอบ อิอิ





จากอาคาร Annex Building เดินมาทางซ้ายก็จะพบกับเรือโบราณจำลอง โดยได้จัดแสดงแบบจำลองเรือโบราณที่มีหลักฐานว่าเข้ามาติดต่อกับพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ เรือสำเภาจีน เรือสำเภาญี่ปุ่น เรือกำปั่นฮอลันดา เรือกำปั่นโปรตุเกส เรือกำปั่นมากัสซา และเรือสำเภาไทย














มาเที่ยวที่นี่เหมือนมาเติมความรู้เลยอ่ะ จขบ. ล่ะชอบสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้มากๆ พวกเราเดินต่อมายังริมน้ำเจ้าพระยา ช่วงนี้เป็นฤดูน้ำหลากน้ำเต็มตลิ่งเชียวล่ะ




จากนั้นก็เดินมาทางขวาก็จะพบกับสวนและศาลาญี่ปุ่น ที่จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๘๐ พรรษา และเป็นที่ระลึกในวาระครบรอบ ๑๒๐ ปี ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ลักษณะเป็นสวนที่สวยงามร่มรื่นเป็นที่ผ่อนคลายสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม








จากนั้นก็เดินไปยังตึกจำหน่ายของที่ระลึก แหมเดินเข้าไปนึกว่าร้านโอท็อปบ้านเรา เราเหรอก็นึกว่าจะเป็นสินค้าญี่ปุ่นที่ไหนได้งานฝีมือไทยล้วนๆ เลยล่ะ


แต่ที่ฮาไปกว่านั้นคือเจ้าหน้าที่ที่ดูแล พูดไทยได้ด้วยนะเป็นคนญี่ปุ่น จขบ. กำลังยืนถ่ายรูปป้ายอยู่เค้าก็บอกว่า "ถ่ายทำไมอ่านออกเหรอ มาถ่ายตรงนี้ดีกว่า" แล้วก็พาพวกเราเดินไปตรงหน้าทางเข้าแล้วก็ชี้ขึ้นไปข้างบน "นั่นไงน่าดูกว่าอีก" โอ้แม่เจ้าแทบกรี๊ดตุ๊กแกตัวใหญ่ๆ ทำรังออกไข่กันบานทุ่งเลยเหนือทางเข้า อย่าหวังว่า จขบ. จะมีรูปมันมาฝากนะเพราะแค่เห็นก็กลัวแล้วอ่ะ




ลืมบอกไปว่าด้านในมีจัดแสดงรูปปั้นของออกญา เสนาภิมุขด้วยล่ะ น่าจะมีเกี่ยวพันอะไรสักอย่างกับญี่ปุ่นอ่ะ พอเดินดูเสร็จพวกเราก็เดินออกเพื่อเดินวนกลับไปยังจุดเดิม




ที่นี้ก็เป็นทีของ จขบ. ล่ะขอถ่ายรูปบ้างนะ ดีนะที่ทริปนี้มีตากล้องหัดถ่ายไปด้วย ไม่งั้นทริปนี้มีแต่รูปวิวแน่ๆ เลยอ่ะ




สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจอยากไปเที่ยวหมู่บ้านญี่ปุ่นก็สามารถไปได้ทุกวัน โดยเปิดตั้งแต่ ๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. หมู่บ้านญี่ปุ่นอยู่ตรงทางไปวัดพนัญเชิงวรวิหารล่ะ มีป้ายเห็นชัดเจนเลยล่ะ ลองไปดูนะอย่าคิดว่าไม่มีอะไร เพราะข้างในถือเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ได้ดีทีเดียว แล้วพบกันใหม่ตอนหน้านะคะ จะพาไปตลาดน้ำคลองสระบัวกันนะ ...


Photo and Story By
Patthanid C.
www.patthanid.bloggang.com





Create Date : 09 ธันวาคม 2553
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2556 0:16:15 น. 6 comments
Counter : 6071 Pageviews.  
 
 
 
 
เหมือนไปเที่ยวมาเองเลยค่ะ

เล่าละเอียดดีมาก รูปก็เยอะ ชอบ ชอบ

แล้วจะกลับมาเก็บตก ข้อมูลอื่นอีก

น่ารักจ้า...
 
 

โดย: แนวเนี๊ยะ วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:11:48:59 น.  

 
 
 
ดีจ้าา ยามบ่ายง่วงนอน
 
 

โดย: Junenaka1 วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:14:32:20 น.  

 
 
 
ตามมาเที่ยว อยุธยา ครับ
 
 

โดย: Kavanich96 วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:14:48:02 น.  

 
 
 

ถ่ายรูปสวย และเล่าเรื่องราวละเอียดมาก
ได้ความรู้ด้วย ชอบค่ะ
 
 

โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:16:51:32 น.  

 
 
 
ว้าวววววว น่าไปมากเลยฮะ อยากไปจังเลย
อีกอย่างได้ความรู้ด้วย จะไปให้ได้ฮะ!

Arigatou!
 
 

โดย: kook IP: 223.206.14.238 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:12:09:05 น.  

 
 
 
ว้าวววววว น่าไปมากเลยฮะ อยากไปจังเลย
อีกอย่างได้ความรู้ด้วย จะไปให้ได้ฮะ!

Arigatou!
 
 

โดย: boy IP: 223.206.14.238 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:12:10:46 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com