ลองนึกภาพจิบกาแฟมองท้องทุ่งนาเขียวขจีหรือนอนเอนหลังลมเย็นๆ ฟินอ่ะเจ้าของเค้าก็ไม่ว่าอะไรด้วย
อยากนั่งอยากนอนตามสบายใจไทยแลนด์เลยจ้า
สำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปก็ถ่ายไปเลยสวยทุกมุม ไม่แปลกใจที่ทุกคนจะจัดพร็อบเต็มมาถ่ายรูปกันที่นี่
ผ้าพื้นเมืองตัดสีเขียวมันแจ่มจริงๆ นะยิ่งบ่ายๆ แล้วล่ะก็สวยงามค่ะ
ที่นี่เค้าจะตากผ้าทอไว้ตลอดทางมาช่วงแดดเนี่ยได้ถ่ายรูปกับผ้าทอด้วยล่ะไอเดียเค้าดีนะ
อย่างน้อยๆ ที่นี่ก็ทำให้คนรุ่นใหม่มาใส่ผ้าทอเดินสวยๆ ถ่ายรูปกัน
ปกติเวลาเราเห็นคนใส่ผ้าไทยจะดูแปลกๆ เนอะ แต่สำหรับที่นี่ไม่แปลกตาเลยเพราะใส่กันเยอะมาก ใครจะคิดว่าโอท็อปที่นี่จะช็อปปิ้งกันหลักพันนะคะเพราะผ้าเค้าไม่แพงแบบก็น่ารักด้วย เอาล่ะถ่ายรูปพักผ่อนสบายใจไทยแลนด์แล้วก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ เพลานี็ก็บ่ายแก่ๆ จัดแล้วจัดว่าหิวข้าวแล้วล่ะ เอาไงกันดีหัวหน้าทีมก็ค้นหาข้อมูลให้ใหญ่เลยว่าแถวนี้กินอะไรกันดี จนมาเจอร้านครัวรสแซ่บมีหลายคนบอกว่าใช้ได้ตามไปเลยจ้า
ร้านนี้เป็นร้านธรรมดาเลยค่ะอยู่ตรงข้ามตลาดชั่วคราวปัวหาไม่ยากมีใน Google Map ขายอาหารอีสานเป็นหลัก
แต่ข้าวตามสั่งก็มีนะมาแล้วก็จัดเลยอยากกินส้มตำแซ่บๆ สั่งกันกระจุยเลยเพลานี้
นี่เป็นบางส่วนที่สั่งมาคือรสชาติใช้ได้เลยนะ ถ้าคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดีตรงแถวนี้ลองร้านนี้ค่ะ โดยเฉพาะหมูทอดแดดเดียวเนี่ยแจ่มมากราคาก็ไม่แพงด้วยพวกเราสั่งบางเมนูเบิ้ลเลยจ้า ความหิวมันไม่เคยปราณีใครจริงๆ นะ มิน่าเค้าถึงบอกว่าอย่าสั่งอาหารเวลาหิว มีใส่ถุงเอาไปกินที่พักข้างหน้าด้วยนะไม่ค่อยหิวเลยแต่ละคน ประมาณ 11 อย่างรวมข้าวและเครื่องดื่ม สำหรับ 6 คนจ่ายไป 710 บาท รอดแล้วมื้อนี้ถ้าให้เลือกไปตายเอาดาบหน้าในต่างจังหวัด จขบ.ขอตายดาบนี้ก่อนคือถ้าเห็นร้านอาหารตามต่างจังหวัดเนี่ยจัดเลย อย่ารอเพราะไม่รู้ว่าอีกไกลเท่าไหร่จะเจอร้านอาหาร
จขบ.เคยเดินทางกับพ่อจากเชียงรายกลับมาราชบุรีว่าจะทานข้าวกันตั้งแต่ตากเพราะเย็นมากแล้ว เจอร้านอาหารก็ไม่แวะเดี๋ยวๆ เผื่อเจอร้านดีกว่าเป็นไงล่ะยันเข้ากรุงเทพฯ กว่าจะได้กินข้าว สมัยนั้นเซเว่นก็ไม่มีมืดก็มืดแวะก็ไม่ได้อีกเลยจำเลย เจอที่ไหนกินรองท้องมาก่อนจะได้ไม่หิวมากแล้วฟาดเรียบดังพายุล่ะ พอท้องอิ่มก็เริ่มง่วงกันแระคนขับก็ขับไปหลังรถนี่เงียบกริบ มาตื่นเอาตอนจะหลงเนี่ยแหละหาทางไปโฮมสเตย์ตานงค์ไม่เจอ ไว้มาเล่าต่อตอนหน้านะคะกับโฮมสเตย์ตานงค์แห่งปัว
ต้องไปอีกสักรอบแล้ว ทุ่งนาสวยสดชื่นมาก