สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
3 กรกฏาคม 2551
 

BKK - SUPHANBURI :: Brewery Tour by Heinaken ณ พิพิธภัณฑ์เบียร์ไฮเนเก้น



เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเยี่ยมโรงงานผลิตเบียร์ไฮนาเก้นมาล่ะ ประทับใจมากๆ วันนี้ก็เลยมาเล่าประสบการณ์ดีๆ สู่กันฟัง ตามเราขึ้นรถไปชมโรงเบียร์ไฮนาเก้นกันดีกว่า พร้อมกันหรือยังค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราออกเดินทางกันเลยดีกว่า




จากจุดนัดพบหน้าอาคารไทยประกันชีวิต เวลาเที่ยงตรงเราก็เดินทางมาถึงตรงเวลาพอดิบพอดี สังเกตุเห็นมีคนรออยู่บ้างแล้ว ก็เลยเข้าไปถามปรากฏว่าจุดหมายเดียวกัน แต่คนละกลุ่มของเค้าเป็นกลุ่มของ Channel V ล่ะ ส่วนกลุ่มเรามันเป็นพวกใจรักสมัครผ่านหน้าเว็บของไฮเนเก้นมา รถของกลุ่มเรามาถึงเวลาบ่ายโมง ซึ่งเพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางทริปนี้ก็พร้อมกันแล้ว ไปกันเลยดีกว่า จุดหมายของเราวันนี้คือ Thai Asis Pacific Brewery @ Suphanburi โดยใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่สุพรรณบุรี อำเภอไทรน้อย ราวๆ เกือบชั่วโมงครึ่ง หลับได้สักหนึ่งตื่นก็มาถึงโรงเบียร์แล้วล่ะ ตามเราเข้าไปข้างในกันเลยดีกว่า



เมื่อเดินเข้ามาในพิพิธภัณฑ์เบียร์แล้ว เจ้าหน้าที่ของโรงเบียร์ก็กล่าวต้อนรับ และพาพวกเราเข้าสู่ด้านใน ว่าแต่ทำไมไฟมืดจังหว่า อ้อเค้ากำลังจะฉายสไลด์นำเสนอประวัติเบียร์นั่นเอง โดยสไลด์จะปรากฏขึ้นบนผนังด้านบนหม้อต้มเบียร์ขนาดยักษ์นี่ล่ะ



ดยนำเสนอเรื่องราวย้อนรอยเกี่ยวกับเบียร์จากอดีตสู่ปัจจุบันของไฮเนเก้นเค้าล่ะ เรามาดูประวัติการเดินทางของไฮเนเก้นกันดีกว่าว่ากว่าจะมาเป็นไฮเนเก้นเค้าผ่านอะไรมากันบ้าง





ปี 1863 กำเนิดของเบียร์ไฮเนเก้น เริ่มขึ้นเมื่อ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1863 เมื่อนาย Gerard Adriaan Heineken ได้ซื้อโรงเบียร์ Hoolberg ใน Amsterdam เพื่อผลิตเบียร์คุณภาพที่ดีที่สุดพร้อมกับค้นคว้า และวิจัยยอดเยี่ยมมาจนถึงทุกวันนี้
ปี 1883-1889 ดวงดาวการันตีเกียรติยศแห่งคุณภาพ เพราะคุณค่าที่ไม่เคยเปลี่ยนและรสชาติ ยอดเยี่ยมทำให้ไฮเนเก้นได้รับรางวัลมากมาย อาชิเช่น Diplome D’ Honneur Amsterdam ในปี ค.ศ. 1883 จากถิ่นกำเนิดของตนเองและรางวัลชนะเลิศ Grand Prix Paris ในปี ค.ศ. 1889 ที่ประเทศฝรั่งเศส




ปี 1933 ไฮเนเก้นเป็นเบียร์แห่งแรกของโลกที่ส่งเบียร์ไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาหลังจากการยกเลิกห้ามในปี ค.ศ. 1933 เพียง 3 วัน นับจากวันนั้นไฮเนเก้นจึงเป็นเบียร์นำเข้าที่มียอดขายสูงสุด และเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของไฮเนเก้นในสหรัฐอเมริกาจนถึงวันนี้
ปี 1963 ไฮเนเก้นร่วมทุนกับบริษัท Fraser&Neave ตั้งบริษัท Asia Pacific Breweries รับผิดชอบด้านการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิคให้กับไฮเนเก้น




Heineken PACO สุดยอดผลงาน Best Packaging Design ที่นอกจากจะทำให้ Ora-ito Morabito นักออกแบบผลิตภัณฑ์เชื้อสายญี่ปุ่นมีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว ไฮเนเก้นยังทำให้โลกได้ยอมรับถึง แนวความคิดของการดื่มด่ำอย่างมีสไตล์แบบไฮเนเก้น






เมื่อเสร็จสิ้นการนำเสนอประวัติเบียร์แล้ว พวกเราเดินต่อไปยังห้องจัดแสดงห้องที่สอง ซึ่งจัดแสดงโมเดลจำลองของพื้นที่โรงงานเบียร์ไฮนาเก้น ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อธิบายแต่ละส่วนของโรงงานอย่างคร่าวๆ นอกจากนี้ห้องนี้ยังจัดแสดงรางวัลที่ไฮเนเก้นได้รับอีกด้วยล่ะ พวกเราเดินดูกันสักพัก จากนั้นก็ย้ายเข้าสู่ห้องบรรยาย เพื่อฟังบรรยายขั้นตอนการผลิตเบียร์ไฮเนเก้นต่อไปล่ะ



ประเทศไทยเบียร์ได้เริ่มเป็นที่นิยมหลังจากเริ่มต้นศตวรรษใหม่ บริษัทเบียร์แห่งแรกของประเทศก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2477 โดยผลิตเบียร์ขายเฉพาะภายในประเทศ ส่วนเบียร์น้ำเข้าหลายหลากชนิด ดังเช่นจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศเดนมาร์ก และประเทศเยอรมนี จะมีวางขายในร้านขายเบียร์หรือ “Beer Halls” ในภัตตาคารและในโรงแรมซึ่งภายในระยะเวลาอีกไม่นานเบียร์ไฮเนเก้นก็เริ่มปรากฏสู่ตลาดประเทศไทยด้วยรสชาติที่กลมกล่อมไม่ซ้ำใคร ซึ่งไฮเนเก้นยังคงใช้ตำรับดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้กระทั้งกระบวนการหมักบ่มที่ยาวนานจึงทำให้เบียร์ไฮเนเก้นมีรสชาตินุ่ม สดชื่นจึงทำให้นักดื่มทั่วโลกมั่นใจในคุณภาพและรสชาติของเบียร์ไฮเนเก้น และกลายเป็นขวัญใจของนักดื่มเบียร์ชาวไทยในที่สุด



สำหรับเบียร์ไฮเนเก้น เค้าแบ่งระดับเบียร์ไว้สามระดับ ได้แก่ 1. ระดับ Premium เป็นเบียร์ไฮนาเก้น ใช้เวลาหมักและบ่มยาวนานถึง 28 วัน 2. ระดับ Standard เป็นเบียร์ไทเกอร์ ใช้เวลาหมักและบ่มยาวนานถึง 18 วัน 3. ระดับ Economy เป็นเบียร์เชียร์ ใช้เวลาหมักและบ่มยาวนานถึง 11 วัน และการผลิตแต่ละครั้งจะต้องส่งตัวอย่างเบียร์ไปตรวจที่ประเทศฮอลแลนด์กันเลยทีเดียว โดยใช้เวลา 3 วัน เพื่อตรวจสอบ สี กลิ่น รสชาติ ให้ได้มาตรฐานจากไฮเนเก้นแท้ๆ ล่ะ และเมื่อได้รับผลแล้วสินค้าในล็อตนั้นก็ถูกจัดจำหน่ายไปยังผู้บริโภคอย่างเราๆ นี่ล่ะ เห็นไหมล่ะของเค้าดีจริงๆ



พี่ๆ ที่ไฮเนเก้นเค้ายังบอกอีกว่า ที่โรงเบียร์แห่งนี้มีนักชิมเบียร์ด้วยล่ะ ซึ่งกว่าจะเป็นนักชิมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะต้องผ่านการทดสอบตามกระบวนการด้วย ว่ากันว่า ส่วนใหญ่คอเบียร์มักสอบไม่ค่อยผ่านหรอก คนที่ผ่านส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนทานเหล้าน้อยนั่นแหละที่ผ่าน งานนี้คอทองแดงไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆ


สำหรับส่วนประกอบในการทำเบียร์ไฮนาเก้นนั้นประกอบด้วย
1. ข้าวมอลท์บาร์เล่ย์ 100%
2. ดอกฮ็อปบริสุทธิ์
3. เอ-ยีสต์สูตรเฉพาะ
4. น้ำบาดาล

อันสุดท้ายนี่แหละที่แปลก เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าก่อนจะมาตั้งโรงงานที่นี่ก็มีการสำรวจแหล่งน้ำบาดาล ซึ่งปรากฏว่าที่นี่เป็นแหล่งน้ำบาดาลที่ดีที่สุด จากนั้นก็เป็นการบรรยายถึงขั้นตอนการทำเบียร์ไฮเนเก้น โดยเริ่มจากต้มข้าวไปจนถึงกรองจนใสเลยล่ะ ซึ่งแต่ละขั้นตอนก็มีมาให้พวกเราได้ชิมกันด้วยล่ะ ว่ารสชาติแต่ละขั้นตอนเป็นอย่างไร

สำหรับเราคอเบียร์อยู่แล้วมีหรือจะพลาด ชิมมันตั้งแต่ข้าวบาร์เล่ย์เป็นเม็ดๆ เลยล่ะ โดยข้าวบาร์เล่ย์จะมีลักษณะคล้ายเมล็ดทานตะวันแต่พอทานแล้วรู้สึกชาๆ ที่ปลายลิ้นแหละ และก็มีตัวอย่างดอกฮ็อปที่ผ่านกรรมวิธีแล้วมาให้ดูด้วยล่ะ แต่กลิ่นของยีสต์นี่ยี้มากๆ เลยอ่ะ จากนั้นก็เริ่มชิมแต่ละขั้นตอน
ว่าแต่เบียร์ก่อนกรองด้วยสารส้มนั้นมีก็รสชาติเข้มกว่ากรองแล้วเสียอีก ลองชิมไปชิมมาชักเริ่มได้ที่แล้วล่ะ มีฝรั่งคนหนึ่งที่ไปด้วยบอกว่า "ให้ลองน้อยไปหน่อยนะ" ซะงั้น

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พาไปชมกระบวนการผลิตเบียร์ไฮเนเก้นล่ะ โดยเข้าไปในโรงงานซึ่งเค้าไม่อนุญาติให้บันทึกภาพ 

เกร็ดความรู้จากโรงเบียร์ !!
ไฮเนเก้นผลิตจากฮ็อปส์ ยีสต์ มอลต์ .. และเวทมนตร์. ในอดีตคนจะนำดาวแดงไปแขวนหนือหม้อต้มเบียร์ เพื่อเป็นเวทมนตร์ป้องกันวิญญาณร้ายที่จะมาทำให้รสชาติเสีย ตั้งแต่ปี 1873 ไฮเนเก้นได้บรรจุสัญลักษณ์ดาวแดงบนไฮเนเก้น เพราะยังคงเชื่อประเพณีดั้งเดิมที่มีค่าควรแก่การเก็บรักษา ..



พวกเราออกจากห้องพิพิธภัณฑ์เบียร์ไฮเนเก้น ตรงไปยังโรงผลิตเบียร์ ซึ่งก็จะเดินผ่านถังบรรจุเบียร์ขนาดใหญ่ พี่ๆ เจ้าหน้าที่บอกกับเราว่า 1 ถังที่เราเห็นนั้นผลิตได้ 300,000 ลิตรเลยทีเดียว ภายในโรงงานไฮเนเก้นถูกจัดระเบียงวางผังได้อย่างดีทีเดียวล่ะ เราเข้าไปห้องแรกก็พบกันหม้อขนาดใหญ่ยักษ์วางเรียงกันสามใบ เจ้าหน้าที่อธิบายว่า ใช้เวลาต้มในแต่ละขั้นตอนประมาณชั่วโมงครึ่งล่ะ แต่เนื่องจากโรงงานหยุดเสาร์อาทิตย์ วันนี้เลยอดเห็นตอนต้มเลย



จากนั้นพวกเราก็เดินต่อไปยังห้องถัดไป ซึ่งเป็นกระบวนการบรรจุขวดแล้วล่ะ ซึ่งเริ่มตั้งแต่การล้างขวด คัดเลือกขวดโดยสแกนด้วยอินฟาเรด จากนั้นก็บรรจุ แล้วกลับมาติดฉลาก ตื่นตาตื่นใจกันเลยทีเดียว ที่นี่มีเครื่องจักรที่เป็นเมนหลักของการผลิตด้วยล่ะ แถมยังมีชื่อเก๋ไก๋ว่า "คุณลำใย" อีกต่างหาก ที่สำคัญหยุดวันเสาร์อาทิตย์ด้วยล่ะ สำหรับการเยี่ยมชมการผลิตนี้ก็ใช้เวลาเกือบๆ ชั่วโมงเห็นจะได้ล่ะ ซึ่งเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินย้อนกลับทางเก่า เพื่อเข้าสู่พิพิธภัณฑ์เบียร์ ว่าแต่น้องเราท่าจะแย่ แก่แล้วก็งี้แหละน้อง ก็เลยมานั่งหมดสภาพอย่างที่เห็น



กำหนดการต่อไปเป็นกำหนดการที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือได้ชิมเบียร์สดๆ จากโรงงานไฮเนเก้น เรามาดูบรรยากาศกันเลยดีกว่า








บรรยากาศภายในห้องนี้จำลองร้านอาหารมาเลยล่ะ ดนตรีสไตล์คันทรี จิบเบียร์เย็นๆ มีเลย์แถมเป็นกับแกล้มอีกต่างหาก โห ได้ใจไปเลยอ่ะ



วันนี้มีกลุ่ม Channel V มาด้วย ที่เห็นในรูปเป็นดีเจจาก Channel V อยากลองเสริฟ์เบียร์ดูบ้าง พอดีว่าเป็นช่วงที่เราไปขอเบียร์พอดีก็เลยเก็บรูปมาฝาก ด้วยส่วนตัวอ่ะไม่รู้จักอ่ะ เพิ่งมารู้ตอนหลังจากเพื่อนๆ นี่ล่ะ









ช่วงนี้ก็เป็นช่วง Enjoy Eating สำหรับพวกเราแล้วล่ะ นั่งกินอยู่ก็มีดีเจคนเดิมนั่นแหละมาสัมภาษณ์ไปออกรายการด้วย สักพักก็มีฝรั่งมานั่งแจมด้วย ต้องบอกว่า Loyalty Heineken สุดๆ อ่ะ เพราะเห็นดื่มเบียร์ไฮเนเก้นตั้งแต่ก่อนขึ้นรถแล้วล่ะ ถามไปถามมาเค้าเป็นนักบินแต่ตอนนี้เป็นเทนเนอร์แล้วล่ะ อยู่เมืองไทยมา 26 ปีแนะ มิน่าล่ะพูดไทยชัดป๋อเลย



ช่วงนี้ก็กลายเป็นช่วงดื่มด่ำกับไฮเนเก้น ใครใคร่ดื่มก็ดื่มกันไป ใครใคร่ช็อปก็ช็อปกันได้ที่ห้องขายของที่ระลึกสำหรับไฮเนเก้น เรียกว่ามีทุกอย่างที่เป็นของพรีเมี่ยมไฮเนเก้นให้เลือกช็อปกันตามสบาย สนนราคาก็มีตั้งแต่หลักสิบยันหลักพันเลยล่ะ ตัวอย่างเล่น หมวกสานราคา 100 บาท แก้วเหล็กราคา 1,500 เลย หลอดใส่เบียร์ราคา 2,500 บาท เป็นต้น ซึ่งสามารถเดินเลือกไปจิบเบียร์ไปตามสบาย ไม่ว่ากัน





จากนั้นก็ได้เวลาที่ต้องเดินทางกลับกันแล้วล่ะ แต่ดูถ้าแต่ละคนยังไม่อยากกลับเลย เพราะกำลังจิบเบียร์เพลินๆ เลย อ่ะแต่งานเลียงก็ต้องมีวันเลิกลาตามระเบียบ แต่ก่อนจะกลับเจ้าหน้าที่เค้าก็ให้ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกล่ะ





สรุปว่างานนี้นอกจากจะได้ความประทับใจที่ได้รับจากไฮเนเก้นกลับบ้านแล้ว ก็ยังมีของที่ระลึกจากไฮเนเก้นกลับบ้านไปคนละถุงสองถุงตามระเบียบ



ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณไฮเนเก้นที่เปิดบ้านพาพวกเราชมโรงงานในครั้งนี้่ค่ะ .. สำหรับทริปนี้มีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับการดื่มเบียร์มาฝากด้วยล่ะ!! เวลาดื่มเบียร์ให้ดูฉลากวันผลิตด้วยยิ่งใหม่ยิ่งดี โดยปกติเบียร์เก็บได้นาน 6 เดือนล่ะ หากดื่มไม่หมดให้เอาพลาสติกครอบปากขวดแล้วมัดยางให้แน่น จะเป็นการเก็บเบียร์ที่ดีกว่าการเอาฝาเบียร์มาปิดล่ะ ..



Create Date : 03 กรกฎาคม 2551
Last Update : 17 สิงหาคม 2556 18:45:29 น. 12 comments
Counter : 5103 Pageviews.  
 
 
 
 
ความรู้ใหม่เลยคะ ขอบคุณที่บอกเล่าคะ
 
 

โดย: marzo วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:2:22:32 น.  

 
 
 
รายละเอียดครบถ้วนดีจริงๆ ค่ะ
ขอบคุณนะคะ
 
 

โดย: ColaGirl วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:22:37 น.  

 
 
 
แล้วประเทศอะไรละเนี้ยะ
 
 

โดย: แอ๊ปเอง IP: 124.157.244.1 วันที่: 7 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:43:54 น.  

 
 
 
มาวแล้ว อิอิ อิจฉาจังอยากินมั่งๆ
 
 

โดย: พี่ชิต IP: 125.25.128.123 วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:46:38 น.  

 
 
 
ไปไม่ชวน น๊ะ
พี่ปุ้ม
 
 

โดย: ป้ม IP: 203.144.235.195 วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:50:45 น.  

 
 
 
แก นี่ก็เที่ยวบ่อยเหมือนกันแฮะเพื่อน
 
 

โดย: nok IP: 203.153.178.123 วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:54:01 น.  

 
 
 
1. Cheers Beer (เชียร์ เบียร์)

2. Tiger Beer (เบียร์ ไทเกอร์)

3. Heineken (ไฮเนเก้น)
 
 

โดย: Mr. Sakkarin Chaluchai (Pop) IP: 222.123.8.76 วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:17:47:04 น.  

 
 
 
YingUdon

1. Cheers Beer (เชียร์ เบียร์)

3 ขาด 135 บาท

2. Tiger Beer (เบียร์ ไทเกอร์)

3 ขาด 165 บาท
 
 

โดย: Mr. Sakkarin Chaluchai (Pop) IP: 222.123.8.76 วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:17:50:10 น.  

 
 
 
ถามว่า ลักษณะสินค้าและบริการเป็นอย่างไร
 
 

โดย: นัน อุดร IP: 192.168.50.100, 117.47.133.114 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:21:58:21 น.  

 
 
 
อยากรู้ขั้นตอนการทำเบียร์ไวๆจัง อยากทำกินเอง
 
 

โดย: Dave IP: 124.120.185.123 วันที่: 31 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:34:22 น.  

 
 
 
อยากเป๊นพนักงานผลิตเบียร์จังเลย
 
 

โดย: เบียร์ IP: 115.67.67.184 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:18:44:40 น.  

 
 
 
สุดยอดเลยคับ อยากไปบ้างจัง
 
 

โดย: เจ้าเสือน้อย IP: 172.16.2.237, 203.114.124.103 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:19:17 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com