CHIANGRAI :: แอ่วเหนือเมื่อหนาว :: ตอนที่ 4 พระธาตุดอยเวา VS คอนเสิรต์ ณ สิงห์ปารค์
จากตอนที่แล้ว .. พวกเราไปเที่ยว "วัดถ้ำเสาหินพญานาคและวัดพุทธสถานถ้ำปลา" กันมาแล้ว ตอนนี้เดินทางกันต่อค่ะ เอาจริงๆ ทริปนี้ว่าจะไม่เข้าวัดแล้วเชียว เพราะเหล่าบรรดา สว. บอกว่าเข้าวัดแล้วพี่ๆ ร้อนเลยจะข้ามโปรแกรมวัดไป สุดท้ายก็เข้ากันซะงั้นเพราะสถานที่ท่องเที่ยวติดๆ กัน แวะชิลๆ กันไปเรื่อยๆ พิกัดต่อไปพวกเราเดินทางไปยังแม่สายค่ะ ตอนนี้ก็เริ่มจะบ่ายแล้วเริ่มหิวแล้วล่ะ ไกด์โลคอลบอกว่าไปแวะกินข้าวซอยอิสลามกันอยู่ก่อนถึงแม่สาย
ข้าวซอยที่นี่ไม่เหมือนที่อื่นสังเกตุจากเส้นมาคนละแนวกับที่เชียงใหม่เลย แต่รสชาติใช้ได้เลยนะ ส่วนตัว จขบ.ชอบรสจัดๆ เค้าเสริฟ์พร้อม ผักดองกับมะนาว จขบ.ชอบรสเปรี้ยวอยู่แล้วเลยถูกปาก กะทิไม่ข้นเลยทำให้ไม่เลี่ยนทานเพลินๆ ได้ ของเพื่อนสั่งอาหารตามสั่งก็อร่อยดีนะ สนนราคาธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 บาท ปริมาณกับราคาไม่สวนทางกันก็ลองทานได้จ้า จากนั้นพวกเราก็ขึ้นไปยังพระธาตุดอยเวาไหนๆ มาแล้วก็แวะซะหน่อย ส่วนตัว จขบ. เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกล่ะ ปกติก็ตรงไปแม่สายเลยโฟกัสซื้อของเป็นหลัก
แมงป่อง .. ตัวใหญ่มาก ไม่รู้ใครเป็นเหมือน จขบ.หรือเปล่า ??
ปกติเค้าก็จะหาข้อมูลการเดินทางกันมาเรียกว่ามีตำรากันเลยทีเดียว แต่หลังๆ จขบ. เริ่มไม่อยากเที่ยวแบบตามแพลนแล้ว มันน่าเบื่อที่ตรงต้องมาฟิกเวลา จขบ.ก็เลยไม่อ่านและไม่หาข้อมูลใดๆ แค่หาว่ามีที่เที่ยวที่ไหนเป็นพอ ง่ายๆ คือขี้เกียจนั่นเอง ดังนั้นแมงป่องมันเกี่ยวอะไรกับพระธาตุดอยเวาฟ่ะ คือเดาไปต่างๆ นาๆ แมงป่องช่วยรบเหรอตัวใหญ่ป่านนี้ หรือโดนแมงป่องกัดตายฟ่ะ คิดไปคิดมามั่วไปใหญ่แล้วอิชั้น
ไปอ่านประวัติสถานที่แห่งนี้กันดีกว่าค่ะ "พระธาตุดอยเวา" เรียกตามพระนามของขุนควักเวาหรือพระองค์เวา กษัตริย์องค์ที่ 10 ราชวงศ์สิิงหนวัติ แห่งนครนาคพันธุ์ (เมืองเชียงแสนโบราณ) เหตุที่สร้างแมงป่องช้างนั้น เนื่องจากคำว่า "เวา" แปลว่าแมงป่องช้าง จึงได้สร้างแมงป่องช้างไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ และอนุสรณ์แห่งพระธาตุดอยเวา โดยได้สร้างเมื่อวันที่ 5 ม.ค 2540 - 25 ม.ค 2544
ที่นี้บางอ้อเลยจ้า เวาแปลว่าแมงป่องช้าง นี่ถ้าไม่อ่านประวัติเนี่ยอิชั้นคิดว่าแมงป่องตัวนี้ต้องไปร่วมรบอะไรสักอย่างแน่นอน เนี่ยแหละจึงเป็นที่มาให้ จขบ.เนี่ยชอบอ่านประวัติของสถานที่นั้น เอาไว้เล่าต่อๆ กันเนอะ เหมือนการสือสารถ้าเราสื่อสารได้ถูกต้องคุณภาพของสารก็จะดีตามมาด้วย
หากไม่เที่ยวพระธาตุดอยเวาก็ไม่พลาดที่จะขึ้นมาบนชั้นสองที่เป็นดาดฟ้า มองเห็นวิวสวยทีดียว เอาล่ะได้เวลาช็อปปิ้งกันแล้ว มาแม่สายมันต้องช็อปกันหน่อย พอหาที่จอดรถได้ก็กินกันเลยจ้า ข้าวจิ้น สะกดถูกเปล่าหว่า อาหารทางเหนือเค้า มีร้านที่คนซื้อเยอะๆ ตรงที่จอดรถเลยดูเค้าทำสะอาดด้วยชิมซะหน่อย
ตอนแรกก็ตั้งใจจะชิมนิดหน่อย ชิมไปชิมมาอร่อยอ่ะเริ่มกินกันเป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียว พี่คนขายก็ใจดีให้ผักซีมากำใหญ่เชียว กินกันฟินไปเลยหน้าร้านเค้าเนี่ย แหมค่อยมีแรงช็อปปิ้งกันหน่อย เวลาช็อปเนี่ยไม่มีนะจ๊ะรูปเนี่ย อิชั้นโฟกัสการช็อปอย่างเดียว ก็เป็นที่รุ้กันดีว่าแม่สายของหลากหลายมาก ถูกชนิดที่ว่าซื้อมาก่อนเหอะ ยิ่งลึกยิ่งถูกคนต่อราคาเก่งๆ เนี่ยสบายเลย จขบ.เนี่ยยอมเรื่องต่อราคา เห็นอาชีพเป็นเซลเนี่ย น่าจะต่อราคาเก่งแต่เปล่าเลยค๊า ด้วยความที่ชั้นเป็นคนขายอิชั้นก็สงสารคนขายด้วยกันอ่ะ
ตามแพลนพวกเราจะเข้าสิงห์ปารค์ประมาณสักบ่ายสองโมง แต่เอาเข้าจริงๆ สี่โมงเย็นยังช็อปกันอยู่แม่สายเลย ก็ต้องย้อนกลับเข้าเมืองเชียงรายกันอีกรอบไปเช็คอินที่พักก่อน จขบ.ขอข้ามที่พักไปนะคะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ คิดดูว่ากุญแจห้องหนึ่งไขอีกห้องหนึ่งได้อ่ะ อย่างฮาแต่มันไม่ฮานะเอาจริงๆ มันอันตราย จขบ.ก็ด้วยความที่อึนๆ เป็นนิสัยดูเลขที่ห้องก็เดินเลยจ้า ไขกุญแจเข้าไปอกอีแป้นจะแตก ผู้ชายใส่ผ้าขาวม้าจับประตูยืนอยู่ในห้อง ถึงกับเฮ้ยกันเลยทีเดียว อิชั้นก็งงห้องตรูไมมีคนวะ คนในห้องก็งงห้องตรูไมอีนี่ไขประตูเข้ามาได้ฟ่ะ พอดูเลขที่เท่านั้นล่ะถึงกะช็อค เอ่อ .. อิชั้นไขห้องผิดค่ะขอประทานอภัย แต่มันไขเข้าได้ไงฟ่ะ พอเข้ามาที่ห้องก็มีแต่ลูกบิดอันเดียว ช่างไร้ความปลอดภัยในชีวิตเสียจริงๆ ดีนะที่กลับจากสิงห์ปารค์แล้วเข้าห้องเลย ไม่ได้ทิ้งของไว้ไม่งั้นงานเข้าแน่ๆ
เอาล่ะได้เวลาไปสนุกกันนะสิงห์ปารค์แล้วจ้า พวกเราเลือกมาเที่ยวตรงกับงานสิงห์ปาร์คพอดี แบบว่าบ้านอิชั้นไม่มีบอลลูนให้ดูนิคะ ก็ต้องมาไกลกันหน่อย รถติดได้ถ้วยเลยขอบอก แต่พอเข้างานมีที่จอดรถเพียบ อิชั้นก็มาพร็อปเต็มเลยจ้า เสื้อขนเป็ดเลยค๊า ลงรถมาถอดออกแทบไม่ทัน เอ้ย .. มันไม่หนาวอ่ะ
ไฮไลท์งานนี้ก็เห็นจะเป็นบอลลูนยักษ์เนี่ยแหละ ตอนแรกคนก็ไม่เยอะยิ่งดึกคนก็เริ่มมาจนเก้าอี้เริ่มไม่ว่าง แต่เป็นงาน Fest ที่คนไม่เยอะดีนะ คือด้วยพื้นที่กว้างมากแม้คนจะแน่นก็ดูไม่หนาแน่นเหมือนงานอื่นๆ พวกเราเลยนั่งกันฟินๆ ยิ่งดึกยิ่งเย็นเสื้อขนเป็ดของอิชั้นได้ใช้ประโยชน์แระ ระหว่างนั้นคนก็เริ่มเยอะเค้ามุงอะไรกันหว่า เจ้าของไร่บุญรอดเค้ามาเยี่ยมชมงานด้วย บอดี้การ์ดเนี่ยยังกะนายกเลยทีเดียว
ภายในงานอาหารราคาไม่แพงดีนะ แต่รสชาติไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่สำหรับ จขบ.นะ ที่เข้าตากรรมการเห็นจะเป็นบาบีคิวเนี่ยแหละ อร่อยสุดแระ มางานสิงห์ไม่ทานเบียร์สิงห์เดี่ยวมาไม่ถึงงาน จัดไปเป็นพิธีนานๆ เริ่มได้ที่ไม่อยากจะกลับเลย วงดนตรีเล่นดีด้วย
แต่ก็เริ่มง่วงแระเหมือนกัน กลับไปนอนเอาแรงดีกว่าแหมรู้งี้แพลนไว้วันสุดท้ายก็ดีอ่ะ จัดมาซะต้นทริปเลย แต่ก่อนกลับเข้าที่พักพวกเราไปแวะร้านจ่าฮี ร้านอร่อยอีกร้านในเชียงรายกันก่อนค่ะ
ปลาไร้ก้าง เมนูไฮไลท์ของที่นี่ เค้าบอกว่ามาต้องกินเมนูนี้ไม่งั้นเดี๋ยวมาไม่ถึง ไร้ก้างจริงๆ เลยทานง่ายมาก
เมนูยำๆ ที่นี่ก็ทำได้แซ่บมากเช่นกัน
ต้มซุปเปอร์ก็แซ่บสะใจ เปื่อยเลยเหอะ
ผัดฉ่าปลาก็อร่อยเช่นกัน โดยรวมแล้วเป็นร้านแนะนำรอบดึกที่ราคาไม่แพง อร่อยใช้ได้จ้า เอาล่ะได้เวลาเข้าที่พักกันแล้ว เอารูปที่พักมาฝาก ถามว่ามันดีไหม ถ้าไม่เจอเรื่องกุญแจไขได้ก็พอไหว ราคาไม่แพงเท่าไหร่ แต่จะว่าไปหาโรงแรมนอนเชียงรายไม่ยากเลย สามารถมา Walk in ได้สบายๆ หากไม่ใช่ช่วงเทศกาล
สภาพห้องก็ประมาณนี้นอนไปฟังเสียงน้ำไหลไปเพลินเลยจ้า .. เวลาไปเที่ยวหลังๆ มาพอเริ่มมีอายุที่มากขึ้น สิ่งสำคัญเลยที่พักขอเตียงนอนสบายๆ หน่อย ไม่ลำบากเกินไปนัก เรียกว่า Request ตามวัย เอาล่ะต้องรีบนอนแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปตะลุยกันต่อ ติดตามต่อตอนหน้านะจ๊ะ
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2558 |
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2558 0:55:26 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1915 Pageviews. |
|
|
|
น่าสนใจครับ