BlogGang.com : : patthanid : SATUN :: ดำน้ำเกาะนอกของหลีเป๊ะ

เช้าวันที่ 2 ของการเดินทางทริปนี้ พวกเราจะไปดำน้ำเกาะในและเกาะนอกกันโดยรวมทั้งหมด 8 เกาะเลยทีเดียว และในการไปดำน้ำเกาะต่างๆ นั้นสามารถซื้อแพคเกจทัวร์ดำน้ำบนเกาะได้ แต่ด้วยความที่พวกเราจะเหมาลำไป เพื่อนโอ๋หัวหน้าทริปผู้เลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเพื่อนๆ ในคณะเลือกบังรอน เบอร์ติดต่อ 082-4303675 เป็นผู้ดูแลพวกเราตลอดการดำน้ำวันนี้ ซึ่งก่อนจะเดินทางนั้นพวกเราต้องทานข้าวเช้ากันก่อนค่ะ ร้านนุชโรตีอยู่ไม่ไกลจากหลีเป๊ะอินน์เค้าเปิดบริการเช้าด้วย

ราคาอาหารเช้ามีแบบเป็นเซลและตามสั่งราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ บนเกาะรสชาติอร่อย

พวกเราฝากท้องที่นี่หลายมื้อมาก พอทานเสร็จก็ได้เวลาออกเดินทางพวกเรานัดบังรอนไว้หน้าหาดเวลา 9 โมงเช้า

วันนี้พวกเราทุกคนเตรียมพร้อมมาชุดดำน้ำมาเต็มเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็น ปลอกแขน ครีมกันแดดตัว ครีมกันแดดหน้า หมวกแก๊บ แว่นตา กรุณาเตรียมให้พร้อม

การเดินทางจากฝั่งหลีเป๊ะไปยังเกาะนอกใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง

ระหว่างนี้ก็นั่งเม้าส์มอยและตรวจสอบอุปกรณ์ดำน้ำและเสื้อชูชีพให้เรียบร้อย

พี่จีบอกพวกเราว่าต้องมี Baby Wash ไปด้วยเพื่อไว้ใช้ล้างสน็อคเกิ้ลให้ใส

โดยวิธีการก็หยด Baby Wash ลงใปในแว่นทาไว้ให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ เวลาไปดำน้ำก็เอาล้างหน้าแล้วก็นำมาใส่จะทำให้แว่นใสล่ะ

สำหรับวันนี้พวกเราเริ่มที่โซนเกาะนอกกันก่อน

ซึ่งจะประกอบด้วย เกาะรอกลอย เกาะไผ่ เกาะหินซ้อน อ่าวแอปเปิ้ลและเกาะดง

เกาะแรกที่เดินทางมาถึงคือ เกาะรอกลอย อ่านว่า รอ - กลอย นะคะ โปรดสังเกตุว่าน้ำใสมากๆ

พี่บังรอนเทียบเรือก็ให้พวกเราลองไปเทสการใช้สน็อคเกิ้ลแล้วก็พาไปยังจุดชมวิวด้านบน

บริเวณจุดชมวิวน้ำลึกจะเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งอยู่ทางซ้ายบนจุดชมวิว

ชาวบ้านเรียกว่า ดาโม๊ะบุโละ (ไม่แม่นว่าจะออกเสียงถูกเปล่านะแต่ประมาณนี้แหละ)

มีชื่อไทยคือต้นไม้กลืนตะปู ลักษณะพิเศษของไม้นี้คือตอกตะปูเข้าไปทิ้งไว้ไม่นานตะปูจะหายไป

จึงเป็นที่มาของชื่อ "ต้นไม้กลืนตะปู" เค้านิยมนำมาทำเรือค่ะ

จากนั้นพี่บังรอนพาพวกเราไปยังจุดชมวิวอีกจุดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเกาะ

ทางเดินก็เลาะตามหินเดินไปตามทางเรื่อยๆ จะเจอต้นไม้แขวนชิงช้าอยู่จุดนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่สวยเช่นกัน

แต่ข้อสำคัญต้องเดินอย่างระมัดระวังนะคะเพราะถ้าพลาดมาอาจหมดสนุกได้ค่ะ

พอถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อยพวกเราก็มาถ่ายรูปหมู่ด้านล่าง ณ มุมยอดฮิต

ให้พี่บังรอนถ่ายให้ฝีมือดีนะเนี่ย

จากนั้นพี่บังรอนก็ให้พวกเราลงน้ำเพื่อเช็คอุปกรณ์สน็อคเกิ้ลว่าโอเคไหม

ทริปนี้ จขบ.จัดกล้อง Action Cam น้องเสี่ยวมี่มาด้วยเลยได้โอกาสเทสกล้องดำน้ำพร้อมอุปกรณ์เลย

เมื่อทุกอย่างโอเคก็ขึ้นเรือเพื่อไปต่อยัง เกาะหินซ้อน เป็นเกาะที่สองของทริปนี้

ตรงเกาะนี้หินซ้อนกันสวยงามมากกว่าจะได้รูปพี่เค้าหมุนเรือให้ตั้งหลายรอบร้อนก็ร้อนแต่ถามว่าแต่ละคนยอมไหม

จัดไปไหนๆ มาแล้วมุมหัวเรือเนี่ยสวยสุดแล้ว สำหรับเกาะนี้พวกเราไม่ได้ลงดำน้ำแค่ถ่ายรูปเฉยๆ ค่ะ

เราจะไปดำน้ำกันที่เกาะที่สามมีชื่อว่า "เกาะไผ่"

ใครที่ว่ายน้ำได้ก็ว่ายกันไปก่อนเลย ใครที่ว่ายไม่แข็งก็เกาะห่วงยางกันไปพี่บังรอนเป็นคนลากห่วงยาง

ดังนั้นผู้เกาะก็ต้องตีขาช่วยเพื่อให้ไม่หนักเอาล่ะไปดูโลกใต้น้ำของเกาะไผ่กันค่ะ

จากเกาะไผ่พวกเราไปดำน้ำต่อยัง อ่าวแอปเปิ้ล

ด้วยความที่อ่าวนี้มีลักษณะเหมือนลูกแอปเปิ้ลจึงเป็นที่มาของชื่ออ่าวนี้ค่ะ

ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักแต่ที่นี่เราได้เห็นโลกใต้น้ำสวยมาก มีทั้งประการัง ปลาดาว ปลาปักเป้าด้วย

พี่บังแกดำน้ำลงไปแล้วก็ยื่นปลิงทะเลมาให้ จขบ.หยิบแล้วยื่นให้เพื่อนเท่านั้นล่ะ

กรี๊ดกันวงแตกเลย จขบ.เคยจับปลิงทะเลครั้งแรกที่เกาะแตนมีปลิงทะเลเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยด้วยความที่มันมีเยอะมาก

เรียกว่าหาดทั้งหาดเต็มไปด้วยปลิงทะเลเลยรู้ว่าปลิงทะเลมันจับได้ ไม่งั้นคงไม่มีคนล่ามันหรอก

จขบ.ได้เห็นปลานี้ใกล้ๆ ด้วยอ้วนตุบเลยไม่รู้ชื่อปลาอะไรลืมแล้วอ่ะ

ยังได้เห็นปลาดาวสีชมพูและสีม่วงด้วย ความที่เพิ่งหัดใช้กล้อง Action Cam ครั้งแรกก็ถ่ายติดมั้งไม่ติดมั้ง

มาหลีเป๊ะถ้าไม่ได้มาดำน้ำเนี่ยเหมือนมาไม่ถึงหลีเป๊ะจริงๆ เป็นสถานที่ดำน้ำสนุกมาก

ต่อไปพวกเรายังไปยัง เกาะดง หรืออ่าวกำนัน

ที่นี่มีประการังไฟเยอะมากตอนเห็นครั้งแรกนี่ตื่นเต้นมากแถวตะวันออกไม่ค่อยมีนะ

ดำไปดำมาก็มาโผล่ที่หาดเนี่ยแหละพักเหนื่อยแต่ร้อนมากเรียกว่าอยู่ในน้ำจะดีกว่านะ

นี่ก็ดำมาหลายเกาะแล้วความเหนื่อยยังไม่เหนื่อยนะ แต่ความหิวนี่ดิมาแล้วนี่มันจะบ่ายครึ่งแล้ว ยังมิได้กินข้าวกันเลย

พอขึ้นเรือมาพี่บังรอนหั่นแตงโมรอแล้วอ่ะ โอ้ย.. สวรรค์ของช้านเลย ร้อนๆ กินแตงโมเพลานี้มันเย็นชื่นใจมาก พอบรรเทาความหิวไปได้ชั่วขณะแต่เวลาหิวๆ กินของหวานแล้วเนี่ย

จะยิ่งทำให้ จขบ.หิวข้าวมากขึ้นอีกเป็นสองเท่า ดังนั้นเกาะต่อไปพวกเราจะไปกินข้าวกันที่หาดทรายขาวเกาะราวีค๊า ติดตามต่อตอนหน้ากับดำน้ำเกาะในจ้า

Photo and Story By

Patthanid C.