ปั่นชมวิวทิวสนที่มากิโนะ (METASEQUOIA NAMIKI)
ชมวิวทิวสน Metasequoia ที่มากิโนะ (Makino City)
ยังอยู่ในเส้นทางที่ใช้ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass ได้
เล่าข้ามหลังจากลงเขา Tateyama แวะไปค้างหมู่บ้านชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go) โดยรถบัสตามสิทธิของ JR Pass แบบนี้ แวะเมืองคานะซาวะ (Kanazawa) นิดหน่อย แล้วจับรถกลับเกียวโต แต่ระหว่างทางแวะไปชมทิวสนแสนสวยก่อนดีกว่า ... วิวที่พึค ๆ ของทิวสนที่ Metasequoia Namiki ที่เมืองมากิโนะ นั้น อยู่ที่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่แนวสนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองถึงสีแดงแบบได้ใจสุด ๆ และยังมีวิวตอนฤดูหิมะปกคลุม
แต่ทริปของเรามีไฮไลท์คือชมใบไม้เปลี่ยนสีบนเขา Tateyama Kurobe-Alpine route .. ซึ่งบนพื้นราบต้นไม้ทั้งหลายยังไม่เปลี่ยนสี แต่ไม่เป็นไร ดูจบแล้วค่อยบอกว่าฤดูนี้สวยหรือไม่
จาก Kanazawa รับจับรถไฟ Ltd.Exp.Thunderbird ไปลงที่เมือง Tsuruga (ใช้เวลา 80 นาที) แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟ JR Special Rapid Service for HIMEJI นั่งรถไปอีก 30 นาทีไปลงที่สถานีเล็ก ๆ นามว่า Makino station
สถานีเล็ก ๆ ที่มีแค่ 2 ชานชาลา ขาไปและขากลับ เดินทางข้ามไปหากันด้วยการลอดใต้ทางรถไฟ แล้วขึ้นบันได 2 ชั้น ไปโผล่ที่ชานชาลาฝั่งตรงข้าม
เห็นโต๊ะวางตราประทับประจำสถานีด้านซ้ายมือ เดินเลยไปอีกจะพบ Information service เราสามารถติดต่อเช่าจักรยานได้จากที่นี่
เมื่อเรายืนหันหลังให้สถานี ลานจอดรถจักรยานอยู่ในอาคารติดกัน ฝั่งซ้ายมือ
โซนรถจักรยานเช่าอยู่มุมนี้.. จักรยานแม่บ้านนะคะ .. หาพวกเสือหมอบ จักรยานมืออาชีพของนักปั่นทั้งหลายไม่ได้ ..
เรายังไม่เช่าจักรยานหรอกค่ะ มาถึงก็จวนค่ำแล้ว แถมฝนก็ตก .. ออกจากสถานี ฝั่งขวามือเป็นป้ายรถเมล์และแท็กซี่
หน้าตารถเมล์ที่นี่ ก็แบบนี้ค่ะ คันนี้วิ่งไปถึง Makino-Pick Land สวนผลไม้ชื่อดังของมากิโนะ มีบริการให้นักท่องเที่ยวเก็บผลไม้ตามฤดูกาล แล้วแล่นผ่านทิวสนเลื่องชื่อ แต่รอบเวลาค่อนข้างห่าง ถ้าอยากไปโดยรถบัสจริง ๆ คงต้องเช็คเวลากันดี ๆ
ขอเข้าที่พักก่อนนะคะ พักที่ Grand Park Hotel Okubiwako Makino จองผ่าน Booking.com เป็นโรงแรมริมทะเลสาบบิวะ ... ติดชายหาดเลยค่ะ แต่ว่า... ฝนตก อากาศอึมครึมมาก
พอฝนหยุดตกก็ออกเดินสำรวจเมือง จากโรงแรมสามารถเดินไปถึงสถานีรถไฟได้ค่ะ ไม่ไกลอะไรมากมาย แต่ตอนขามาเราใช้บริการแท็กซี่เพราะไม่อยากลากกระเป๋าตากฝน
จากหน้าสถานีรถไฟมากิโนะ จะเป็นถนนสายน่าเดิน มีต้นไม้ร่วมรื่นขนาบ 2 ข้างทาง ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็สวยไม่แพ้วิวทิวสนเลยล่ะ
ระยะการเดินแค่ 2 ช่วงถนน ไม่ไกลเกินกำลัง
สุดถนนก็ตกทะเล เอ๊ย ริมทะเลสาบค่ะ .. ตรงกันข้ามนั่นคือ Makino Campground บริเวณตั้งแคมป์ชิมบรรยากาศริมทะเล (สาบ) ถ้าไม่ย้ำว่าทะเลสาบ ก็จะคิดว่านี่เป็นริมทะเลจริง ๆ .. มีชายหาด (แต่ทรายหยาบมาก) เหมือนชายทะเลเลย มีคลื่นนิด ๆ .. น่าจะจากเรือที่ออกไปหาปลา
ถนนหนทางก็มีปลูกต้นไม้ไว้ริมสองฝั่ง ที่เห็นเป็นเมเปิ้ลค่ะ ยังไม่เปลี่ยนสี เดินไป เดินมา เจอร้านขายต้นไม้ดอกไม้ แวะเลยค่ะ .. เพื่อนฝากซื้อเมล็ดดอกไม้
อยากอยู่นาน ๆ แต่คุยกับพนักงานไม่ค่อยรู้เรื่อง ห้างใหญ่ประมาณ Home Pro บ้านเรามีอุปกรณ์การเกษตรเยอะไปหมด หน้าร้านขายต้นไม้กระถาง
หาชนิดที่พอจะเกิดได้ในบ้านเราไปให้คุณเพื่อน .. ตอนนี้ยังไม่ได้ตามข่าว ว่าปลูกหรือยัง
หาของกินต่อไปค่ะ .. มีร้านอาหารไม่กี่ร้านที่พนักงานโรงแรมและ Family Mart แนะนำ ประมาณภัตตาคาร คาเฟ่อะไรประมาณนั้น... แต่เราเจอร้านนี้ ร้านปิ่นโตของคนญี่ปุ่น ดูที่นี่จะเป็นที่ฝากท้องของคนทั้งเมืองที่นี่ มีทั้งโทรมาสั่ง เดินเข้ามาซื้อ บริการส่งบ้าน มารับเอง ...
ราคาอยู่ในช่วง 400 - 800 เยน ..
สั่งแล้วก็จัดการนั่งรับประทานในร้านเลย มีโต๊ะเล็ก ๆ เข้ามุมให้นั่งจัดการได้
ก็อิ่มอร่อย อุ่นท้องในราคาประหยัด (ไม้ตายยังมี Family Mart ที่ดักตรงทางเดินกลับโรงแรม)
หน้าโรงแรมยามค่ำ .. ไม่ออกไปชายหาดละกันนะคะ ... หาดไม่สวย
รุ่งขึ้นออกไปปั่นจักรยานตามตั้งใจค่ะ .. เช่าจักรยานที่โรงแรมเลย สนนราคา 300 เยนต่อ 2 ชั่วโมง ..
คันข้างหน้า .. ยังไม่ใช่นะคะ อันนั้นของแขกที่มาพัก .. ของเรา นู่น.. แถวหลัง
เตรียมพร้อม .. แผนที่พร้อม .. (จริง ๆ ก็ปั่นตามสันชาตญาณ) แดดไม่ออกค่ะ .. แต่ก็ต้องไปแล้ว ภาคบังคับ
ปั่นไปตามถนน .. ไม่มีเลนจักรยานชัดเจน ระวังเอาค่ะ ผ่านช่วงถนนแล่นเร็วบางช่วง ผ่านสะพาน .. (ขึ้นไม่ไหว หุ่นไม่ให้ แต่ใจเกินร้อยทำไง .. จูงสิคะ ท่าน)
วิวดี .. มีผ่านวัดด้วย .. วัดเล็ก ๆ ในหมู่บ้าน
ปั่น ๆ ไปจะเจอทางแยก 3 แยก ไม่ต้องเลี้ยวขวานะคะ ตรงขึ้นไป .. ผ่านป้ายรถเมล์ป้ายนี้ .. อยู่แถว ๆ หน้าโรงเรียน
ดูรอบระยะเวลารถเมล์จอดป้ายนี่ .. นาน ๆ มาที
จากจุดนี้ไปก็เป็นทางปั่นขึ้นเนินเขาล่ะค่ะ .. เล่นเอาหอบ
พอถึงจุดนี้แล้วกรี๊ดเลย .. เลยสวนเกาลัดไป ใช่เลย ขวามือค่ะ ..
ระยะทาง 2.4 กิโลเมตร .. ปั่นไปเรื่อย ๆ เลยค่ะ เช้านี้ไม่มีแดด แสงไม่สวย แต่ก็ฟิน..
ช่วงต้น ๆ ถนน ที่ขนาบ 2 ข้างทางถัดจากทิวสนไป จะเป็นสวนผลไม้ค่ะ มีนานาชนิด ทั้งเกาลัด องุ่น ฯลฯ
ในเดือน ก.ย. จะมีดอก spider lily หรือดอก higanbana บานไปทั่วญี่ปุ่น โดยเฉพาะแถบนอกเมือง ... วิวนี้ก็สวยดี
ปั่นไปเรื่อย ๆ ค่ะ .. ระวังรถนิดนึง ตรงนี้เป็นทางสัญจรปกติ รถราวิ่งขวั่กไขว่ ช่วงเช้ามาไม่ค่อยมี แต่พอเข้า Rush Hour รถเริ่มเยอะ วิ่งเร็วด้วย ต้องระวังให้ดี
พอผ่านไปสัก 1 ช่วงถนนจะพบกับ Makino Pick Land เป็นสวนผลไม้ขึ้นชื่อ .. แต่เค้ายังไม่เปิดทำการ .. ผ่านเลยไปต่อค่ะ
ตรงไปเรื่อย ๆ ยังเป็นสวนผลไม้อยู่ แต่คนละเจ้ากับ Makino Pick Land .. มีหลายสวนเพียงแค่ว่าเค้าจะเปิดให้เข้าชิม เข้าเก็บหรือเปล่า .. บางสวนแค่เอาไปขายรวมที่ร้านค้าใน Makino Pick Land
ไม่ต้องคิดแวะสวนไหนเลยค่ะ เพราะฤดูที่เราไปเป็นฤดูของเกาลัด .. ไม่มีอะไรให้เข้าไปเก็บ
ผ่านหลายสี่แยกค่ะ แยกสุดท้ายเป็นวิวทุ่งนา ..
วิวดี ชอบมากค่ะ
มีป้ายรถเมล์อีก 2 ป้ายในโซนนี้ ป้ายแรกอยู่ใน Makino Pick Land ส่วนอีกป้ายอยู่ที่วัดก่อนถึงทางแยกทุ่งนาค่ะ ..
พอสุดช่วงถนนต้นสน .. ก็เริ่มเข้าเขตชุมชน เจอโรงเรียนเป็นที่แรก .. กลับหลังหันได้เลยค่ะ
ไปต่ออีกก็ได้ค่ะ แต่อีกไกลเลยจะไปถึงลานสกี Makino Plateau แต่เวลาเราจำกัดไม่ได้ไปหรอกค่ะ
กลับกันค่ะ ..
คืนรถจักรยานได้ตรงเวลา .. ทำเวลาพอดี (เกินไป ) สำหรับ 2 ชั่วโมง
แวะหาอาหารเช้าที่ Family Mart ก่อนกลับเข้าโรงแรม จัดการอาหารเช้า แล้วเช็คเอ้าท์
ขากลับไม่เรียกแท็กซี่ เผื่อเวลานิดนึง เดินลากกระเป๋าผ่านถนนสายสวย ..
เงียบไปหน่อยในฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว .. แต่ก็สวยงาม
เก็บดอกไม้รอ .. ขบวนรถไฟ
สิ่งเดียวที่ไม่มีใครบอกไว้ในรีวิวฉบับไหน ๆ คือ... การที่เราต้องลอดใต้รางรถไฟแล้วไปโผล่ขึ้นชานชาลา ขึ้นบันได 2 ชั้น ..
กับการแบกกระเป๋าหนักเกือบ 20 กิโลกรัมของเรา .. ไม่มีบันไดเลื่อน ไม่มีลิฟต์ .. พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ถ้ารู้มาก่อนจะไม่แบกกระเป๋าหนักมาเมืองนี้เลย .. พักที่ Tsuruga แล้วมาแบบเช้าไปเย็นกลับก็ได้ค่ะ เช็คเวลารถไฟให้ดี ๆ หรือนั่งรถไฟมาจากเกียวโตใข้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงค่ะ
แต่การมีชานชาลาอยู่ระดับสูงก็ดีค่ะ ชมเมืองได้สวย ๆ เลย
อำลาเมืองเล็ก ๆ น่ารักที่ชื่อมากิโนะ ..
รถไฟขบวน Thunderbird แล่นผ่านค่ะ .. ผ่านไปอย่างรวดเร็ว .. ไม่จอด
แต่ขบวนนี้จอด .. น่ารักมาก .. ไม่มีคนเลย
รถไฟแล่นเลียบทะเลสาบบิวะ ... วิวดีทั้งเส้น (ขามามองไม่ค่อยเห็นอะไร เพราะฝนตก มีแต่หมอก) ..
ช่วงที่ผ่านเมืองทาคาชิมะ (Takashima) มองเห็นสะพานไม้ข้ามทะเลสาบเล็ก ๆ ที่ชื่อ Otemegaike ด้วยค่ะ น่ารักดี
วิวดีตลอดทาง
รถไฟแล่นเรื่อยจนสุดทะเลสาบบิวะที่เมือง Otsu แล้วมุ่งหน้าเข้าเกียวโต ตอนนี้คนในรถไฟก็เริ่มเยอะจนเต็มโบกี้.. เราแวะเที่ยวเกียวโตต่อได้อีกช่วงบ่าย ก่อนจับรถไฟขบวน LTD.exp. Haruka จากสถานีเกียวโตตรงดิ่งเข้าสนามบินคันไซ กลับไทยอย่างสบายใจสิ้นสุดการใช้ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass
เดี๋ยวค่อยย้อนกลับมาเล่า ตอนช่วงใช้ Pass นี้เดินทางไปหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวะโกะนะคะ ..
แถมท้าย .. ฝาท่อเมืองมากิโนะ เป็นรูปทะเลสาบบิวะ นก ใบเมเปิ้ล
พอเข้าเขตชุมชนทางไปวิวต้นสน ฝาท่อเปลี่่ยนลายเป็นทะเลสาบบิวะ ลานสกี ซากุระและลูกเกาลัด
หน้าตาเจ้าสน Metasequoia ... ไม่เหมือนสนบ้านเรา .. เค้าเปลี่่ยนสีก่อนทิ้งใบในฤดูหนาวค่า...
ความเดิมตอนที่แล้ว : Tateyama - Toyama - Himi ... เส้นทางชิล ๆ ... เดินทางเพลิน ๆ
Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2560 |
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2560 20:21:06 น. |
|
1 comments
|
Counter : 3198 Pageviews. |
|
|
อาหารการกิน หลัก ๆ เราเอาแค่อิ่มเนาะ
คอลเลคชั่นฝาท่อ พี่ว่าจะสะสมจะได้กี่ฝาไม่รู้
*** วิวจากภูชี้ดาว ทริปปีใหม่ ที่เชียงราย พี่ยังไม่ได้ทำรูปเลย เลือกรูปนี้มาแปะก่อน พี่ก็รู้สึกแบบนั้น ได้พลัง ได้แรงดี
แวะเข้ามาตัดริบบิ้นให้พี่ด้วย ... ขอบคุณจ้ะ