สำหรับการจอดรถ ก็จอดรถที่ลานจอดรถของโครงการเลยนะคะ ต้องเอาใบจอดรถไปประทับตราที่ร้านด้วยค่ะ (จอดไ้ด้ฟรี 1 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าเกินจ่ายชั่วโมงละ 40 บาท) ที่จอดรถมีเยอะพอควร แต่ก็เต็มซะเยอะค่ะ ตอนเราไปเหลือตรงที่เราจอดแค่ที่เดียวพอดี (โชคดีมาก)
พิกัดร้าน หันหน้าเข้าโครงการ หันหลังให้ถนน เดินไปทางซ้ายมือก็จะเจอร้านนี้ค่ะ เป็นอาคารพาณิชย์ห้องเดียวตามภาพเลยนะคะ
หน้าร้านค่ะ มีโต๊ะให้นั่งด้วยแหละ แต่ด้วยสภาพอากาศ ณ วันนั้น นั่งข้างนอกไม่ไหวจริงๆ ค่ะ ขอห้องแอร์ดีกว่า
ภายในร้านค่ะ ตกแต่งได้น่ารักดีนะคะ เราชอบแหละ
เมนูก็มีทั้งแบบกระดาษและจากไอแพดนะคะ ราคาก็..สูงตามปกติของทำเลแถวนี้หละนะคะ
เมนูจะมีภาษาอังกฤษและภาษาไทยแบบคาราโอเกะอย่างที่หลายๆ รีวิวบอกค่ะ ถามเจ้าของร้านที่เป็นผู้หญิงก็แจ้งว่า เนื่องจากแขกส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และบางคนก็รู้จักชื่ออาหารไทยที่ออกเสียงแบบไทยๆ จึงเขียนกำกับเป็นภาษาคาราโอเกะไว้เพื่อให้ชาวต่างชาติดูประกอบได้ และไม่ได้ใส่ภาษาไทยด้วยเนื่องจากจะดูเยอะและรกรุงรังเกินไปค่ะ
ที่รองจานและอุปกรณ์ที่มีให้บนโต๊ะค่ะ
บนโต๊ะมีบอกรายละเอียดเรื่องการผูกปิ่นโต และโปรฯ ค็อกเทลค่ะ
ราคาผูกปิ่นโตก็ 1350 บาท สั่งอาหารได้ภายใน 2 เดือนจำนวน 10 ครั้งตามภาพนะคะ
ตัวแรกค่ะ ชานมเย็นค่ะ ชาเข้มข้นดี แต่โดยรวมทั้งหมด มันไม่กลมกล่อมค่ะ หอม เข้มข้น แต่รสไม่พอดีนะคะ
เมนูนี้เป็นชาน้ำผึ้งลำไยค่ะ ของเราเอง อืมม์..มันสร้างสรรค์ดีนะคะ แต่รสไม่พอดีอีกเช่นกัน ด้วยความที่ชามันเข้มข้น แต่ทั้งกลิ่นและรสมันกลบตัวอื่นจนทำให้ไม่กลมกล่อมพอดีง่ะค่ะ ซึ่งควรคนให้เข้ากันก่อนนะคะ แต่ชาหอมดี มะนาวที่ใส่ก็เปรี้ยวกำลังดี ซึ่งน่าจะใส่ทั้งมะนาวไทยและเลมอนค่ะ
ไข่ตุ๋นนี่เป็นคอมพลิเมนทารีของทางร้าน ซึ่งจะให้ลูกค้าทุกคนที่มาทาน ได้ทานฟรีคนละหนึ่งถ้วยนะคะ
สำหรับรสชาติ จะออกแนวไม่นุ่มนวลมากนะคะ เครื่องเยอะ ส่วนตัวเราไม่ชอบไข่ตุ๋นโรยหน้าหอมเจียวเยอะขนาดนี้ค่ะ เลยไม่ค่อยโปรดเท่าไหร่อะค่ะ
ก่อนหน้านี้อ่านรีวิวมีคนบ่นว่าอยากให้นิ่มกว่านี้ ซึ่งเราว่าแบบนี้ก็ไทยดีนะคะ ออกแนวเนื้อแน่นๆ แบบที่เราเคยกินตอนเด็กๆ น่ะค่ะ
เมนูแรกค่ะ ลาบเห็ดหอม รสจัดจ้านดีมากเลยค่ะ รสจัดอร่อยเลย ชอบๆ
เมนูต่อไปกับหลนปลาเค็มค่ะ รสชาติหลนไม่พอดีค่ะ มันไม่สุดน่ะ เราเคยกินหลนที่รสพอดิบพอดีและเข้มข้นกลมกล่อมกว่านี้ เลยไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ค่ะ แต่กินได้นะคะ
มัสมั่นไก่ค่ะ หอมเครื่องแกงดี แต่ยังไม่สุดเช่นกัน (เราเป็นคนเรื่องมากเรื่องอาหารไทยอยู่แล้วนะคะ ต้องขอออกตัวก่อน เพราะมีแม่ พ่อ น้าที่ทำอาหารไทยอร่อยด้วยง่ะนะ)
ข้าวค่ะ มีให้เลือกทั้งข้าวสวย ข้าวกล้องหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ค่ะ เราเลยเลือกข้าวไรซ์เบอรี่ ส่วนของเพื่อนเป็นข้าวกล้องหอมมะลิค่ะ ชอบภาชนะที่เค้าใส่มาก ดูดี สวยงามค่ะ
ภาพรวมอาหารคาวที่สั่งมาทั้งหมดวันนั้นค่ะ
อ้อๆ ที่นี่มีไวไฟฟรีนะคะ ขอพาสเวิร์ดจากทางร้านได้เลยค่ะ
มาที่ของหวานกันบ้างนะคะ เมนูแรก กรานิต้าชาไทย ค่ะ เราว่าพรีเซนต์เตชั่นของอาหารที่นี่โอเคหมดเลยค่ะ ดูดี สวยงามนะคะ มันคือการเอาชาไทยมาทำไอศกรีมเกล็ดหิมะ แล้วก็โปะด้วยข้าวเหนียว ลูกชิดค่ะ อร่อยดีนะคะ ชาก็เข้มข้นเหมือนเดิมค่ะ
ต่อไปเป็นสังขยากะทกรกค่ะ อืมม์..ครีเอทดีค่ะ แต่รสชาติยังไม่ใช่ง่ะค่ะ มันก็อร่อยแบบแปลกๆ ดีนะคะ คือเป็นสังขยาที่มีรสเปรี้ยวนิดๆ และกลิ่นกะทกรกค่ะ แต่มันเป็นรสแบบที่เราไม่ชอบง่ะนะ ขอผ่านค่ะสำหรับเมนูนี้
วันนั้นหมดไปที่พันสี่ร้อยกว่าบาทค่ะ เวาเชอร์หนึ่งพันก็จ่ายเพิ่มอีกนิดหน่อยค่ะ (มีเซอร์วิสชาร์จ 10% ด้วยนะคะ)
โดยรวม ร้านน่ารัก อาหารครีเอทและพยายามคงความเป็นไทยค่ะ แต่อาจจะไม่ถูกปากเราเองน่ะนะคะ เพราะอย่างที่บอกว่าบ้านเรากินอาหารไทยแบบ..ไทยพื้นบ้าน (ฮา) ซึ่งต้องเข้มข้นและเป๊ะในรสชาติค่ะ แต่สำหรับคนอื่นๆ อาจจะชอบก็ได้นะคะ
อ้อ ที่ชอบคือเซอร์วิสและความเอาใจใส่ต่อลูกค้าค่ะ น้องผู้หญิงที่น่าจะเป็นเจ้าของร้านเข้ามาถามไถ่ เราก็บอกไปตรงๆ เค้าก็รับฟังดีนะคะ ซึ่งโอเคมากค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1,469,696+2907740=4377436/11938/1028
ไปไม่สุด --- อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ทางร้านต้องปรับรสชาติต่อไปเรื่อยๆ
ผมว่าอาหารเป็นศาสตร์ที่เรียนรู้กันไม่สิ้นสุดจริงๆครับ
แค่หา "รสกลาง" ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบก็ยากแล้วล่ะครับ 555
ร้านไหนเจ๋ง ก็หา "รสเด็ด" เพิ่มได้อีกอย่าง สบายเลยครับ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตด้วยนะครับ