“ผมใช้นักสืบไซเบอร์ที่รู้ภาษาเวียดนาม สืบจากเว็บไซด์และฐานข้อมูลจากแหล่งอื่นของยอร์นได้ข้อมูลพอยืนยันได้แล้วว่าบริษัทเงินกู้ของยอร์นต้องการขยายฐานไปยังประเทศสหรัฐอเมริกามันอยากโอนสัญชาติเป็นอเมริกันโดยการแต่งงาน แล้วเปิดบริษัทปล่อยเงินกู้แห่งใหม่ค่าเงินดอลล่าร์แพงจะทำให้มันได้เม็ดเงินกำไรจากดอกเบี้ยเงินกู้มหาศาลและมันวางแผนมานานแล้ว เป็นไปได้ว่าสาเหตุที่มันยังไม่ยอมวางมือจากคุณคิวลีนเพราะต้องการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์และพ่อแม่ของคิวลีนเป็นทนายความคู่บุญบารมีให้ยอร์นจึงเร่งรัดให้คุณคิวลีนต้องกลับไปแต่งงานที่อเมริกา”

“โถ่เอ๋ย... ฉันนึกว่ายอร์นรักเธอหัวปักหัวปำแบบนี้แสดงว่ามันไม่เคยจริงใจกับเธอเลยนะสิคิวลีน” เจเรมี่ออกความเห็นเหมือนจะเห็นใจหญิงสาวผู้เปรียบเสมือนเพื่อนอีกคน

“แต่คิวลีนวางเฉยไม่ยอมกลับ แสดงว่าอีกไม่นานมันจะส่งคนมาเอาตัวคิวลีน”โคมฉายประเมินสถานการณ์ ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูด“ยอร์นมีแฟ้มประวัติอาชญากรรมหรือแบล็กลิสต์เรื่องฟอกเงินบ้างไหมคุณทรงกลด”

“เคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยจ้างวานฆ่าลูกหนี้ที่หนีหนี้ไม่ยอมจ่ายแต่หลุดคดีไปได้เพราะขาดหลักฐานสำคัญ”

“ผมอยากเล่นงานมันถึงขั้นติดคุก ให้มันไปพักผ่อนยาวในคุกจะได้ปิดบัญชีเลิกตามตัวคิวลีนคุณทรงกลดช่วยหาทางเล่นงานมันทุกคดีเท่าที่จะสามารถทำได้นะครับ”โคมฉายถือเป็นการขอร้องทนายความประจำตระกูลเขาจำเป็นต้องช่วยคิวลีนผู้หญิงที่เหมือนติดอยู่ในบ่วงมาร ช่วยให้เธอได้ไปสู่อิสรภาพที่แท้จริงเสียที

...........โคมฉายคาดไม่ถึงว่าเวลาเรื่องจะเกิดมันเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน หลังเลิกงานระหว่างเดินทางกลับคอนโดที่พักของเขารถเบนซ์สีขาวซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งมีคนขับให้นั่งนั้นถูกปืนยิงยางรถระเบิด

“เปรี้ยง” “ตูม” เสียงดังสนั่นต่อเนื่องกันท่ามกลางการจราจรคับคั่งยามเย็นที่เต็มไปด้วยรถติดอยู่แล้วเต็มไปด้วยผู้คนเดินกวักไขว่ริมฟุตบาตรเมื่อเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายรถยิ่งติดหนักยิ่งขึ้นไปอีกใครจะไปคาดคิดว่าท่ามกลางชุมชนคนร้ายจะกล้ากระทำการแต่แท้จริงพวกคนร้ายใช้เป็นสถานการณ์ได้เปรียบทำให้ติดตามตัวไม่ทันเพราะความแน่นแออัดของผู้คน

รถต้องจอดและคนขับรถถูกปืนจี้โดยชายฉกรรจ์ในชุดยีนส์สีน้ำเงินเข้มโคมฉายและเจเรมี่เคยเห็นตั้งแต่เมื่อครั้งนั้นที่พวกมันมาเอาตัวคิวลีนไปเวลาผ่านมานับเป็นปี ๆ แล้ว พวกมันยังใส่ชุดแบบเดิมอยู่อีก ประตูรถเบาะหลังถูกคนร้ายคนหนึ่งเปิดออกทันใดนั้นร่างของคิวลีนถูกกระชากออกจากรถ ลากไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ซึ่งจอดรออยู่ มีชายอีกคนนั่งประกบซ้อนหลังคิวลีนคอยถือปืนจี้ตัวเธอแล้วมอเตอร์ไซค์คันนั้นแล่นหนีเข้าซอยทางเดินเท้าที่มีผู้คนเดินกวักไกว่ขับหลีกหักหลบผู้คนไปได้อย่างมืออาชีพ ส่วนคนร้ายคนอื่นซ้อนมอเตอร์ไซค์ที่จอดรอแล้วขับหนีหายไปอย่างว่องไวรถที่พวกมันใช้ขับมาก่อนหน้านี้ถูกจอดทิ้งไม่ใยดี

...........แน่นอนว่าโคมฉายต้องแจ้งความ เพื่อให้ตำรวจลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานรถเบนซ์สีขาวประจำตำแหน่งถูกส่งเข้าศูนย์ เพื่อซ่อมล้อรถยนต์ที่โดนยิงต้องนำรถสำรองมาใช้ขับแทนเป็นการชั่วคราว

ทนายความทรงกลดสืบได้ไม่ยากจึงรู้ว่าขณะนี้ชาวเวียดนามที่ชื่อยอร์นเพิ่งเดินทางมาเมืองไทยเข้าพักในโรงแรมหรูหราระดับห้าดาวในกรุงเทพฯ ไม่ไกลคอนโดที่พักของโคมฉายนั่นเองจึงพากันไปพบยอร์น

ในโซนรับแขกชั้นล่างของโรงแรมระดับห้าดาว ยอร์นเป็นชายร่างกายกำยำล่ำสันส่วนสูง172 เซนติเมตร โครงหน้าแบบเดียวกับคนจีนมีตาตี่ แม้ไม่หล่อแต่พอดูได้กล่าวทักทายทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มร่าติดจะกวน ๆ ดูไม่สะทกสะท้านกลัวเกรงแม้เห็นมีตำรวจตามมาด้วย

“ไง... ผัวเบอร์สามของคิวลีนได้ข่าวเป็นคู่เกย์กับผัวเบอร์สอง พวกนายมั่วกันจริงเลยคงหมดสภาพทางเพศกับผู้หญิง เมียเลยหนีไปหาผัวใหม่”

แค่คำทักทายจากปากยอร์นเท่านั้นยังกวนโมโหโคมฉายชวนให้อดีตแชมป์คาราเต้อยากกระโดดเตะปาก

นายตำรวจไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของผู้แจ้งความใครจะคู่เกย์หรือใครจะเสื่อมสมถภาพทางเพศไม่ใช่กิจของตำรวจ เขามองโคมฉายเพราะเห็นท่าทางโกรธจัดถลึงตาใส่คู่อรินายตำรวจนั้นเตรียมพร้อมห้ามศึกหากจะเกิดคดีชกต่อยกัน

“นายเป็นผู้ต้องสงสัยคดีลักพาตัวคิวลีน” โคมฉายบอกอย่างข่มใจให้เย็นที่สุดแล้วแต่ยังคงหน้าตาตึงเครียดเอาเรื่อง

“ตลก... มีหลักฐานอะไรมากล่าวหา”

“ทางตำรวจมีคลิปจากกล้องวงจรปิดของถนนย่านชุมชนหลายแยกมีคนร้ายฉุดคุณคิวลีนขึ้นมอเตอร์ไซค์พาหลบหนีพวกคนร้ายเป็นชาวเวียดนามลูกน้องของคุณยอร์น” ตำรวจชี้แจง

“แล้วจับคนร้ายได้หรือเปล่า รู้ได้ไงว่าคนร้ายเป็นชาวเวียดนามมันติดธงชาติที่แก้มแบบเชียร์บอลงั้นเหรอ ผมมาเมืองไทยกับทนายรวมทั้งเลขาและคนขับรถเท่านั้นไม่ได้รู้จักพวกคนร้ายที่พวกคุณกล่าวหาเสียหน่อย”

ตำรวจนิ่งเป็นใบ้ไปชั่วครู่ จริงอย่างที่ยอร์นพูดยังจับคนร้ายไม่ได้สักคน ทั้งรถมอเตอร์ไซค์หลายคันนั้นถูกขโมยมารถยนต์ที่คนร้ายจอดทิ้งข้างทางเป็นรถเช่า ชื่อคนเช่าเป็นชาวต่างชาติอื่นไม่เกี่ยวกับยอร์นไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่าเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีแต่คำให้การจากพยานบุคคลอันมีโคมฉาย เจเรมี่และคนขับรถเท่านั้น

“คิวลีนเป็นเมียผม เธอมาหาผมเอง โน่นไงเธอมาพบพ่อแม่ของเธอพ่อเธอเป็นทนายความของผม” ยอร์นบอก พลางพยักหน้าให้หันไปมอง

คิวลีนเดินมาพร้อมบิดาและมารดาของเธอ ทั้งสองเป็นคู่สามีภรรยาวัยกลางคนรูปร่างสันทัดไม่อ้วนไม่ผอม ผิวเหลืองค่อนไปทางผิวสีแทนทั้งสามคนพ่อแม่ลูกเดินเข้ามาลงนั่งบนโซฟายาว

“คิวลีน... เธอปลอดภัยดีเหรอ”น้ำเสียงของโคมฉายอ่อนโยนลงเมื่อพูดกับคิวลีน ซึ่งเห็นว่าเธอทำหน้าแบบอึดอัดใจ

“ฉันปลอดภัย”

“อย่างนั้นคุณไม่ได้ถูกลักพาตัวใช่ไหม” นายตำรวจถาม เห็นเธอส่ายหน้า

“ไม่ได้ถูกลักพาค่ะ” คำตอบของคิวลีนแปลว่าไม่มีคดีความใดเลย

“อย่างนั้นกลับบ้านกับฉัน ฉันมารับเธอ” โคมฉายจับมือคิวลีน

“คิวลีนต้องอยู่กับฉัน เราจะกลับไปแต่งงานกันที่อเมริกา”ยอร์นคัดค้านไม่ยอมปล่อยตัวเธอไป จับข้อมืออีกข้างของเธอไว้

แล้วอยู่ ๆ โคมฉายทำให้ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่อึ้ง...

“สวมสร้อยนี่ซะ ฉันขอหมั้นเธอ แต่งงานกับฉันนะคิวลีน” โคมฉายพูดดื้อ ๆถอดสร้อยคอทองคำน้ำหนักห้าบาทจากคอของตนเอง แล้วสวมใส่คอของคิวลีนฉวยโอกาสขณะทุกคนกำลังตกตะลึง ดึงแขนคิวลีนให้ลุกขึ้นตามแรงดึงของเขาเพื่อให้ออกห่างจากวงสนทนา แล้วแสร้งทำเป็นหอมแก้ม แต่ที่จริงเขากระซิบบอกเธอว่า...

“ฉันมีแผนช่วยเธอ”

“ฉันตกลงแต่งงานกับโคม” คิวลีนเข้าใจความหมายในทันทีแล้วยอมเล่นตามแผนของโคมฉาย เพื่อสักวันจะไปสู่อิสรภาพให้จงได้

แต่ยอร์นลุกขึ้นมาดึงแขนอีกข้างของคิวลีน

“ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ”

โคมฉายใช้สันมือสับลงอย่างแรงบนท่อนแขนของยอร์นจนหลุดจากการจับตัวคิวลีน...ในที่สุดจึงได้พาตัวเธอกลับยังคอนโดด้วยกัน

...........อยู่ในห้องรับแขกด้วยกันสามคน โคมฉายจึงได้เล่าแผนการที่เขาคิดไว้ให้เจเรมี่และคิวลีนฟัง

สาเหตุที่เขาขอแต่งงานกับคิวลีนนั้นเป็นแผนการล่อยอร์นให้คิดวางแผนฆาตกรรมเชื่อว่ายอร์นจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัวคิวลีนกลับไปแต่งงานด้วยที่อเมริกา

“เข้าใจไหมเจมี่ ไอยอมเสี่ยงใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อยอร์นต้องคิดหาทางฆ่าไอแหง ๆ คนชั่วย่อมคิดกำจัดคนขัดผลประโยชน์กล้าคิดที่จะฆ่าคนตายเพื่อให้พ้นทาง” เป็นบทสรุปจากปากโคมฉาย

“ยูเป็นโรคจิตอะไร ทำไมถึงต้องเสี่ยงชีวิตอยู่เรื่อยไม่รักตัวกลัวตายบ้างหรือไง” เจเรมี่เป็นกังวลกลัวคนรักจะเป็นอันตราย จึงไม่พอใจในแผนการนี้เลย

ในขณะเดียวกันนั้นทนายทรงกลดกำลังหาทางช่วยคิวลีนตามความประสงค์ของโคมฉายโดยติดต่อกับตำรวจในหน่วยสืบราชการลับคอยสะกดรอยสอดส่องจับตาดูความเคลื่อนไหวต่างๆ อย่างไม่ปล่อยให้คลาดสายตาเนื่องจากได้เงินดีจากการที่โคมฉายยอมทุ่มเงินค่าจ้างจำนวนมากกระจายไปยังต่างประเทศด้วยพร้อมกันนั้นนักสืบไซเบอร์ที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศเวียดนามเป็นองค์กรใหญ่พวกเขากำลังช่วยรื้อฟื้นคดีเก่าที่ยอร์นเคยจ้างวานฆ่าลูกหนี้ตอนนี้ได้หลักฐานมากพอรวมถึงได้พยานบุคคลอีกทั้งเจ้าทุกข์ที่เป็นครอบครัวของผู้ถูกฆาตกรรม ทุกอย่างจะเริ่มผูกมัดเชื่อมโยงเข้ามาบรรจบกันตามความต้องการของโคมฉายซึ่งหวังจะให้ยอร์นได้รับโทษต้องติดคุกยาวนานตลอดชีวิตยิ่งดี!