นิยายรักหลากหลายแนว by ไตรติมา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คืนค่ำร่ำพิศวาส ตอน 2 จากนามปากกา... อรนามฤณ (อ่านว่า ออระนามะริน) เรื่อง... คืนค่ำร่ำพิศวาส ตอน 2 ........... ลมเหนือไม่เชื่อเรื่องไม่มีเหตุผลผิดกับริวจิเพื่อนสนิทที่เชื่อในไสยศาสตร์ เครื่องรางของขลัง โทรคุยกับสาวไหนไม่รู้ เจ้านี่เจ้าชู้จะตาย สาวๆเห็นเป็นต้องกรี๊ด มันหล่อ เท่ห์ น่าหมั่นไส้ ใครแอบหลงรัก ระวังอกหักไว้ด้วย ริวจิแกล้งพูดหยอกเย้าสาวใหญ่วัยยี่สิบแปด เธอกำลังจ้องมองลมเหนืออย่างตาเป็นมัน จะไม่ให้จ้องได้อย่างไรในเมื่อรูปร่างหน้าตาหล่อเลอล้ำ หุ่นไม่ล่ำแต่กล้ามมีพองามสมส่วนรับกับซิกแพ็ค ฟิตแอนด์เฟิร์มยิ่งมองหัวใจยิ่งร่ำร้อง อยากกินเด็ก พี่มนตราอย่าไปเชื่อริวจิ มันพูดเกินจริง ผมไม่ได้จีบสาวสักหน่อยแม่ผมโทรมาบอกว่าแม่ถูกหวยล็อตเตอรี่ เลขท้ายสามตัว บอกมีคนให้หวยแม่นผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้หรอก ลมเหนือบอกพร้อมแก้มยุ้ยและเขี้ยวคู่เล็กนั้นประทับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม เขาสนใจมนตราสาวสวยเซ็กซี่รุ่นพี่คนนี้ตั้งแต่แรกเจอ และที่มารู้จักกันได้ เนื่องจากริวจิชอบผู้หญิงไทยหัดเรียนภาษาไทย รู้จักกับมนตราทางอินเตอร์เน็ต เพื่อนจึงตามเขามาเที่ยวเมืองไทยที่จริงไม่น่าเรียกว่ามาเที่ยวเพราะเขามาสักยันต์คงกะพันชาตรี ...ที่เชื่อกันว่าขลัง ทำให้หนังเหนียวยิงแทงไม่เข้า แต่เรื่องพระเครื่อง เครื่องรางของขลังรวมทั้งยันต์ ศักดิ์สิทธิ์จริงนะ ...ไม่เชื่อต้องเชื่อ ฉันให้นายลองเอามีดฟันแขนฉันแล้วนี่ไม่เห็นระคายผิว ไม่มีรอยมีดบาดเลยสักนิด นี่ล่ะของจริง นอกจากจะขลังหนังเหนียว ยังมีเมตตามหานิยม เป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้พบเห็นให้นึกหลงรักใคร่แบบใครเห็นใครรัก มนตราอธิบาย สายตามองเด็กหนุ่มรุ่นน้องหวานหยดเล่นเอาหัวใจเด็กหนุ่มลิงโลด ตื่นเต้นที่เห็นท่าทีมีใจให้กับเขา เขามักรู้ตัวเวลามีสาวสนใจความรู้สึกไวเสมอ... มันคือยันต์หนังเหนียวมหาเสน่ห์ นายลองสักยันต์ดูบ้างสิฉันว่าดีนะ ริวจิพูดชักจูงลมเหนือ แหม... แต่ที่ญี่ปุ่น ใครมีรอยสักเขาจะหาว่าเป็นพวกยากูซ่า แต่รอยสักนี่เล็กนิดเดียว สักไว้ที่กลางหลังใส่เสื้อปิดนิดเดียว ...ไม่เห็นแล้ว ต้องใช้เงินตั้งสามหมื่น แพงไปหรือเปล่า ถือว่าเอาเงินไปทำบุญบำรุงวัด ของแท้...แค่นี้ถูกมาก จะเสียดายทำไม บ้านนายรวยจะตาย หลวงพ่อเป็นพระธุดงค์ มาจำวัดอยู่ที่นี่ไม่นานอาจจะออกไปธุดงค์ที่อื่นเมื่อไหร่ไม่รู้ คงไม่ได้พบเจอพระอาจารย์เก่งๆ อย่างนี้อีกท่านเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์ นับวันยิ่งหายาก มนตราพูดให้ลมเหนือนึกเสียดายถ้าไม่คิดสักยันต์ ........... ในที่สุด ลมเหนือตกลงปลงใจสักยันต์ไม่ได้อยากหนังเหนียว หากแต่อยากให้ผู้หญิงรัก อยากให้ผู้หญิงหลง เป็นที่รักใคร่...เป็นขวัญใจของสาวๆ เขายังอ่อนวัย... อ่อนไหวเชื่อคำพูดคนง่ายโดยไม่ทันนึกเฉลียว... ถ้าเขาส่องกระจกดูตัวเอง จะเห็นความคมคาย ใบหน้าหล่อเหลาดูดีจัดเป็นเด็กหนุ่มรูปงามคนหนึ่งทีเดียว มีหรือสาวเห็นจะไม่หันมองอีกทั้งคำพูดจาคารมโน้มน้าวใจ บุคลิกมีเสน่ห์ดึงดูดอยู่แล้วที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องสักยันต์หนังเหนียวมหาเสน่ห์ด้วยซ้ำ จากนั้น... ทั้งมนตราและริวจิจึงพาลมเหนือไปกราบหลวงพ่อท่านชื่อ พึ่ง อายุประมาณห้าสิบค่อนข้างพูดน้อย ผิวคล้ำ รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าและดวงตาคมดุ ดูน่าเกรงขาม การสักยันต์จะให้ขลังผู้นั้นจะต้องรักษาศีลห้าประกอบด้วย ...ดูเหมือนหนุ่มน้อยคนนี้ ไม่ใช่คนไทย ผมเป็นคนญี่ปุ่นครับ เรื่องศีลห้าแม่เคยสอนแต่ผมไม่ได้เคร่งศาสนาจึงจำไม่ค่อยได้ อย่างนั้นจดไป ศีลห้าข้อ หลวงพ่อจะบอกให้... จากนั้นรับศีลรับพร แล้วต่อด้วย ...รับการสักยันต์จากหลวงพ่อซึ่งลมเหนือต้องอดทนเจ็บที่กลางหลังพักหนึ่ง... หลังจากเสร็จพิธี ทั้งสามคนจึงพากันลากลับ ขณะลมเหนือก้มลงกราบลา หลวงพ่อพึ่งถึงกับชะงัก ...ไม่เห็นเงาหัวของเขา! ท่านรู้...อนาคตเขาชะตาถึงฆาต อาจต้องเจอเคราะห์กรรมหนักหนาสาหัส จึงพูดเพียงคำเตือน โยมลมเหนือกำลังมีเคราะห์ร้ายแรงถึงกับชีวิต ...เกือบตาย ฟังดังนั้นทุกคนพลอยตกใจแต่ลมเหนือไม่เชื่อเสียทีเดียว ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากรู้วิธีแก้ไข แล้วผมจะหลีกเลี่ยงได้ยังไง มากินนอนอยู่ที่วัด รักษาศีลแปดตลอดเดือนนี้ได้หรือไม่โยมเหนือ ลมเหนือเพิ่งมาเมืองไทยยังไม่ทันได้ท่องเที่ยวให้สมใจนึกเลย แถมมีสาวที่เขาแอบชอบด้วยยิ่งไม่อยากอยู่วัดนานร่วมเดือน จึงปฏิเสธ ไม่ได้หรอกครับหลวงพ่อผมไม่มีเวลาว่างมากขนาดนั้น พอมีวิธีอื่นอีกไหมครับ หลวงพ่อพึ่งรำลึกถึงหลักธรรม สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมยากจะฝืนเคราะห์กรรมเมื่อยามมันส่งผล ถ้าอย่างนั้นก็ต้องตั้งมั่นในศีลห้าข้อที่โยมเหนือรับไปและระวังตัวอย่าหลงผู้หญิงไม่ดี อย่าเชื่อเพื่อนเลว ใช้สติปัญญาพิจารณาดูดูให้ออก... ใครไม่ดี ใครเลว ...ขอให้โชคดี หลังจากวันนั้น...ไม่มีใครรู้ว่าหลวงพ่อพึ่งคอยแผ่เมตตาให้ลมเหนือเสมอและหวังว่าเขาจะรักษาศีลห้าได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเพราะนั่นจะช่วยคุ้มครองตัวเขาพ้นทุกข์ภัย ........... ภายในรถยนต์ส่วนตัวก่อนมนตราจะขับรถมาส่งเด็กหนุ่มทั้งสอง สุดยอด พี่มนตรานี่ได้อย่างใจผมจริงๆ มีครบทุกสิ่งที่ผมต้องการขอนะ ริวจิซุบซิบกับมนตรา ทำให้ลมเหนือที่นั่งอยู่เบาะหลังสนใจ ชะโงกหน้ามามองทั้งสองคน อะไรน่ะ ยาที่ทำให้ผู้หญิงยอม... เฮอะๆ ... ริวจิตอบพร้อมหัวเราะอย่างมีเลศนัย ลมเหนือทำหน้ายังไม่หายสงสัย ยาเลิฟไงล่ะฮคคุ มนตราตอบ ลมเหนือรู้ทันทีว่ามันจัดเป็นยาเสพติด ผิดกฎหมาย ...นึกห่วงกังวลสาวที่เขาสนใจ พี่มนตราขายของพวกนี้ ไม่กลัวโดนตำรวจจับเหรอผมเป็นห่วง ไม่น่าทำอาชีพอย่างนี้ พี่มีสายคอยส่งข่าว รู้เท่าทันตำรวจ หนีได้ ไม่เคยโดนจับสักทีโถ... อุตส่าห์เป็นห่วง ฮคคุนี่น่ารักจัง มนตราไม่พูดเปล่าพลางมือวางทับ จับกุมมือของเด็กหนุ่มที่เกาะอยู่ข้างเบาะ ส่งผลให้จิตใจที่อ่อนไหวของเด็กหนุ่มรุ่มร้อน... น่ารัก... งั้นรักเลยสิพี่มนตรา ฮคคุยังไม่มีแฟนมีแต่สาวๆ รุมกรี๊ด เพราะมันเป็นนักร้องนำ ในวงดนตรีสมัครเล่น สาวในสเป็คฮคคุชอบผู้หญิงอายุมากกว่า เซ็กซี่ประมาณพี่มนตรานี่ล่ะ ริวจิพูดแทนให้ ลมเหนือได้แต่หัวเราะเขิน พูดไม่ออกไปเลย... มนตราจึงให้มานั่งเบาะหน้าคู่คนขับ ส่วนริวจิไปนั่งเบาะหลังแล้วจึงขับรถไปส่งเด็กหนุ่มทั้งสอง บ๊าย บายริวจิ ไว้เจอกันคราวหน้า มนตราโบกมือลา ริวจิลงจากรถไปก่อน แล้วยืนโบกมือให้ เหลือแต่ลมเหนือนั่งเบาะหน้า ท่าทางไม่อยากจากลา เดี๋ยวนะจ๊ะฮคคุ พี่จะปลดเข็มขัดนิรภัยให้เองจ้า สาวเซ็กซี่บอกเอื้อมมือไปแกะสายรัดที่พาดผ่านหน้าอกเขา ส่งสายตาเย้ายวน... และใบหน้ายื่นเข้าใกล้ใบหน้าเด็กหนุ่มจนจมูกเขาได้กลิ่นน้ำหอม ส่งผลให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันใด แล้ว... โทรคุยกับพี่บ้างล่ะ พี่อยู่คนเดียว เหงา...ไม่มีเพื่อนคุย เธอใช้น้ำเสียงออดอ้อนเอ่ยอำลา ครับ แล้วผมจะโทรหา ...เดี๋ยวก่อน อย่าลืมโทรนะ มนตราพูดประโยคนั้น พร้อมกับยื่นหน้าเข้าใกล้ในขณะลมเหนือไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ ได้รับสัมผัสอุ่นนุ่ม จากเรียวปากของสาวสวยรุ่นพี่ที่บรรจงจูบข้างแก้มอิ่มของเขาเคลิ้ม... นิ่งงงงัน ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว เหมือนร่างกายถูกหยุดสั่งงาน จ้องมองกันอยู่อย่างนั้น ........... นั่งคิดนอนฝันทั้งวันทั้งคืนภาพใบหน้าคนที่ตนหลงรัก ...วาดฝันวนเวียนในห้วงหัวใจ แม่ครับ ผู้หญิงไทยนี่น่ารักจังนะครับแม่ เพื่อนผมชอบผู้หญิงไทยมากเลย ลมเหนือชอบคุยกับแม่ของเขาเพราะแม่เป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่งที่พูดคุยด้วยได้เกือบทุกเรื่อง เหนือเองชอบผู้หญิงไทยด้วย ใช่ไหมล่ะ คุณมิลินย้อนถามลูกชายบ้าง ได้รับการพยักหน้า และยิ้มเขินเล็กน้อย แม่ครับ สมมุติว่า... มีเพื่อนผู้หญิงที่เราอยากอยู่ด้วยตลอดเวลาอยากอยู่กันตลอดไป เราควรทำอย่างไรดีครับ เจอผู้หญิงถูกใจเข้าแล้วล่ะสิ ถ้าชอบเขา ให้ลองคบดูใจกันไปแต่อย่าเพิ่งคิดจริงจังถึงขั้นแต่งงาน ลูกอายุยังน้อยประสบการณ์ชีวิตยังไม่เพียงพอถึงขั้นนั้น เพื่อนรุ่นพี่ที่เรียนจบไปแล้ว เขาอยู่กับแฟน ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบไฮสคูลตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว พวกเขาเช่าหออยู่ด้วยกัน ถ้าเป็นผมบ้าง แม่จะว่ายังไง ถ้ารักกันจริง ต้องคิดจริงจังหวังแต่งงานแบบนั้นไม่ดีงามหรอก นั่นไม่ใช่รักจริงจังอะไร ไม่มีความแน่นอน ถ้าหมดรักกันวันใด คงขนเสื้อผ้าข้าวของออกจากบ้านแยกทางต่างคนต่างไป แม่ว่าน่าจะเรียนต่อให้จบปริญญา แล้วค่อยคิดแต่งงานเหนือถามแม่แบบนี้ ลูกมีแฟนแล้วหรือ ยังครับ ถึงตอบปฏิเสธแต่รอยยิ้มละมัยระบายใบหน้าแบบนั้น แทนคำตอบอยู่แล้วว่า... ในใจมีความรัก ........... ณห้องแถวคนจนข้างกำแพงวัด ยายเพียร... อยู่ไหมครับ แกร๊ก! ... เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับได้เห็นหน้าตาของเจ้าของห้อง... หา! ... ก๊าก... ฮ่า ฮ่า ฮ่า... ลมเหนือไม่เคยทำใจมาล่วงหน้าว่าจะต้องมาเจอกับ...อะไรที่จี้เส้นเช่นนี้มาก่อน ถึงกับระเบิดหัวเราะ ชนิดยั้งไม่อยู่เลยทีเดียว จนคนต้นเหตุถึงกับตาลุกตะลีตะลานหันเหลียวหลังไปมองเงาตัวเองในกระจกหน้าตู้เสื้อผ้า ฮะ ฮะ ฮะ... หัวเราะเพราะขำตัวเองเช่นกันดูไม่ต่างจากยายเพิ้งมาเอง ทั้งชุดนอนแขนยาวมิดชิดรุ่มร่าม ทั้งทรงผมตั้งหลอมแหลม ใช่... ก่อนนอนกลางวันใส่เจลทำผมหน้าม้าชี้ขึ้นตั้งไว้ เพื่อให้ผมฟู ไม่ลีบแบนติดหนังศีรษะกะว่าจะล้างออกหลังตื่นนอน แต่ยังไม่ทันตื่นนอนดี ต้องมาเจอกับ... ใคร? ขนมของแม่... ให้ เมื่อเขาก้าวเข้ามาใกล้โค้งศีรษะลงเล็กน้อย สองมือถือถุงยื่นให้ กาฬวารจึงต้องรีบรับมา แล้วแหงนหน้ามองเพราะเขาตัวสูงกว่า ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทาลายสก็อต กางเกงยีนเก่าขาดลุ่ยแบบมีสไตล์สวมถุงมือหนังสีดำแบบนักบิด สิงห์มอเตอร์ไซค์ ขอบคุณมากนะคะ น้อง? ... กล่าวขอบคุณทั้งสายตามีคำถาม ...แต่เกรงใจจึงได้แต่เงียบ มองเขาเดินกลับไป ใคร... เอาอะไรมาให้เหรอกาฬ เด็กผู้ชายตัวใหญ่ ดูแปลกยังกะไม่ใช่คนไทย ให้ขนมโมจิจ้าย่าบอกขนมของแม่ ลูกใครหว่า... หน้าไม่คุ้น เวลาผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมง ...ล่วงเข้าหกโมงเย็นกาฬวารได้เจอกับเขาอีก ยายให้เอาขนมมาให้ อ๋อ น้อง?... นั่นเอง ขอบคุณมาก ขอให้เจริญๆ นะคะเรียนหนังสือเก่งๆ มาคราวนี้กาฬวารอวยพรตามคำสั่งสอนอันดีงามจากยายเพียร ฝ่ายนั้นยิ้มอย่างกว้าง เห็นฟันเรียงกันเป็นระเบียบสวยงามแทบครบทุกซี่กับอีกสองเขี้ยว ดูเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักไม่น้อย ฉันชื่อ... เรียกฮคคุก็ได้ เขาเพิ่งเอ่ยแนะนำตัว แต่พูดเสียงค่อยไปหน่อย กาฬวารได้ยินไม่ถนัดและนึกว่าชื่อของเขานั้นเรียกยาก ฮก... ฮกอะไรนะ เรียกชื่อเหมือน... ฮกลกซิ่วใช่ไหม เอ... ฉันไม่รู้จักชื่อนั้น ไปก่อนนะ เขาบอกลา เดินจากไปรวดเร็วมาก เลี้ยวเข้าซอย...เยื้องหน้าบ้านกาฬวาร อ้าว... อีกละ ไม่ทันถาม... เป็นลูกใครหลานใคร?...แม่และยายชื่ออะไร ........... กาฬวารเพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัยเพราะมีธุระเร่งรีบ ตรงไปบ้านโองาว่า กดกริ่งหน้าประตูรั้ว รอครู่หนึ่ง... จึงมีคนมาเปิดประตู เอ๋! น้อง?...อยู่บ้านนี้เองเหรอ นี่บ้านยายฉัน แล้วเธอมาทำไม กาฬวารหายสงสัยที่แท้เด็กหนุ่มที่เอาของไปให้ที่บ้านเธอเขาเป็นหลานชายคุณนายจินตนานี่เอง จึงตอบไป... ฉันเอาเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน เข้ามาในบ้านก่อนสิ แม่ฉันสั่งไว้ อยากเจอเธอล่ะ กาฬวารเดินเข้าห้องรับแขก เจอเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งซึ่งดูจากใบหน้า... แน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนไทย รอเดี๋ยวนะกาฬ ฉันจะไปตามแม่มา อ้อ...นายช่วยดูแลกาฬแทนฉันหน่อย เดี๋ยวฉันมา ประโยคหลังเขาสั่งเพื่อนแล้วถึงเดินออกจากห้องไป เหลือเธอและเด็กหนุ่มที่ไม่รู้จักเธอไม่กล้าทักทายเขาก่อน จึงลงนั่งพับเพียบกับพื้น นั่งนี่ เด็กหนุ่มคนดังกล่าวส่งเสียงเรียกและทำมือตบลงบนโซฟาข้างกาย เป็นทำนองชวนเธอไปนั่งเคียงข้าง ขอบคุณค่ะ ...ไม่เป็นไร ฉันนั่งนี่ได้ค่ะ ใส่ชุดนักศึกษา... เธอเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ชั้นปีไหน เรียนอยู่ปีสอง ยังไม่ปิดเทอมเหรอ ยังค่ะ แต่ใกล้สอบปลายภาคปิดเทอมแรก กาฬวารคุยกับเด็กหนุ่มโดยยังไม่รู้จัก ให้นึกแปลกใจ...ที่ไม่มีการไถ่ถามชื่อหรือแนะนำตัวต่อกัน กาฬวาร เพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัยเหรอ สาววัยกลางคนเอ่ยทักเธอรูปร่างสูงใหญ่ผิวขาวเหลือง ค่อนข้างหน้าตาดี ค่ะ กาฬวารตอบสั้นเพราะไม่ได้รู้จักด้วย แม้ผู้พูดมีท่าทีเหมือนรู้จักเธอดี ฉันเป็นลูกสาวแม่จินตนา ชื่อมิลินจ้า เพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยไม่กี่วันนี่เองนั่นลูกชายชื่อเหนือ ส่วนคนนี้เพื่อนของลูกชายชื่อริวจิ แม่กับพ่อฉันชอบเล่าเรื่องเธอให้พวกเราฟัง อ๋อ... ค่ะ กาฬวารเออออตามได้แต่นึกในใจ... นั่นเอง พวกเขาถึงรู้จักเรา แต่เราไม่รู้จักพวกเขาตอนคุณมิลินไปอยู่ญี่ปุ่น เรายังไม่เกิด ช่วยสอนภาษาไทยให้ลูกชายฉันทีเถิด เขาแย่มากไม่ไหวเลย แค่พูดรู้เรื่อง แต่เขียนภาษาไทยไม่เป็น คุณมิลินพูดพร้อมส่ายหน้า มีโรงเรียนสอนภาษาไทยได้มาตรฐานเรียนจบจะได้ใบประกาศนียบัตรรับรอง ไปเรียนที่นั้นดีกว่านะคะ ไม่จำเป็นต้องใช้ใบประกาศนียบัตรเลยเพราะลูกชายฉันจะอยู่เมืองไทย แค่ปิดเทอมนี้เดือนเดียวต้องกลับญี่ปุ่นไปเรียนให้จบไฮสคูล ฉันอยากให้เธอสอนเขียนภาษาไทยให้เขาทุกวันวันละชั่วโมงหรือสองชั่วโมง ฉันจ้างเธอชั่วโมงละร้อยบาท เธอพอจะช่วยได้ไหม ฉันมีเรียนที่มหาวิทยาลัยช่วงเช้า กลับบ้านประมาณบ่ายสองบ่ายสามพอมีเวลาช่วงเย็น ถ้าอย่างนั้นบ่ายสี่โมงถึงห้าโมงหกโมงเย็นเป็นเวลาสอนภาษาไทย หลังจากนั้นฉันแถม... เลี้ยงข้าวเย็นอีกหนึ่งมื้อ ตกลงไหมจ๊ะ โอ้โฮ... เลี้ยงข้าวเย็นด้วย? ตกลงค่ะ กาฬวารรีบรับปากทันควัน เธอตาโตกับเรื่องของกิน...ไม่ใช่เห็นแก่กิน แต่เพราะทุกๆ วันที่ผ่านไป ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันหิวแสนหิวกินอาหารไม่เต็มกระเพาะ เนื่องจากฐานะยากจน ใช้เงินจ่ายค่ารถไปมหาวิทยาลัยซื้ออุปกรณ์การเรียน แต่ไม่ค่อยมีเงินซื้ออาหารกิน กาฬ... เธอชอบกินอะไร ลมเหนือถาม นึกอยากเอาใจด้วยของกินที่เธอชอบ ช็อคโกแล็ต นม โกโก้หวาน ...อะไรทำนองนี้ฉันกินง่ายไม่เลือกมากค่ะ หลังจากกาฬวารกลับไปแล้ว... ว้าว... สาวสวยเป็นธรรมชาติ ไม่แต่งหน้า ใสๆ สะอาดดีอย่างนี้ล่ะโดนใจ ริวจิพูดคุยกับลมเหนือ ทำท่าทางอย่างเพ้อฝัน อืม... แต่งเนื้อแต่งตัวเรียบร้อยกว่าตอนเจอครั้งแรกแต่ยังดูเรียบง่ายเกินไป อ้อ... ไม่ใช่สเป็คนายนี่นะ ดีล่ะ...จะได้ไม่ต้องแย่งกันจีบ หา! นี่นายกะจะจีบกาฬเหรอ ลมเหนือถาม ด้วยนึกไม่ถึง จึงเจอลูกอ้อนของเพื่อน ใช่... นายต้องช่วยเพื่อนนะ เพื่อนรัก... ........... หน้าห้องแถวให้เช่าข้างกำแพงวัด นี่... นี่... เพื่อนฉันสนใจเธอรู้ไหม เธอมีแฟนหรือยัง ลมเหนือถามกาฬวารอย่างกระตือรือร้นเพราะตัวเขาเองอยากรู้ด้วย เหมือนกับเพื่อนของเขา ยัง... แต่ฉันไม่อยากมีแฟนหรอกฉันคิดว่าตัวเองยังเด็กอยู่ กาฬวารตอบ หน้าตาใสซื่อ ไม่เห็นเด็กตรงไหน เธอแก่กว่าฉัน อายุย่างยี่สิบดูเป็นผู้ใหญ่แล้ว และเธอตัวสูงกว่าผู้หญิงแถวบ้านนี่ด้วย ฉันอายุสิบเก้าเท่านั้นที่ว่ายังเด็ก ฉันหมายถึงข้างในนี้ กาฬวารชี้ที่อกซ้ายของเธอ แต่เขาดันแปลความหมายผิดไป มองลงมาที่หน้าอกเธอ แล้วหัวเราะคิกคักโดยเอามือปิดปาก เธอพอเดารู้... เขาคิดอะไรทะลึ่งอยู่ หึ หึ... อ๋อ... หน้าอกเล็กเหมือนเด็กเหรอ ไม่ใช่อย่างนั้น หมายถึง... จิตใจข้างในของฉันมันยังเป็นเด็กอยู่ ยังอยากรู้อยากเห็น อยากเรียน อยากเล่นอีกมากมายยังไม่นึกอยากชอบใคร กาฬวารว่า ชักสีหน้ายุ่งขึ้นมาทันที ว้า...อย่างนี้จีบยาก ต้องไปบอกเพื่อน เขาคงต้องใช้ความพยายามมากหน่อยถ้าอยากได้เธอเป็นแฟน คุณเหนือล่ะ มีแฟนหรือยัง เธอถามไปเพราะอยากรู้ มากกว่าจะคิดเป็นอื่นแต่เขากลับอมยิ้ม ชำเลืองมองมาทางเธอ ยังไม่มีเหมือนกัน เธอ... สนใจฉันเหรอ กาฬวารไม่ตอบคำถามเขา สีหน้าเรียบ พูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ ยังไม่มีแฟนนะดีแล้ว ถ้ามีแฟนเร็ว จะเร่งให้โตเร็วและแก่เร็วเกินไป เสียดายวันเวลาวัยรุ่น น่าจะได้สนุกสนาน เที่ยวเตร่เฮฮากับเพื่อนฝูงฉันคิดว่าถ้ามีสถานที่ที่เราชอบไป เราไปที่นั้นกี่ครั้งกี่หนยังได้แต่เวลาไม่เหมือนเดิม ย้อนเวลากลับไปไม่ได้ หากช่วงวัยรุ่นนี้ผ่านพ้นไปจะเหลือแต่ความทรงจำ จะดีหรือร้ายสุดแต่ใจใครจะเลือกทางเดิน อืม... ฉันพอจะเข้าใจละ จริงอย่างเธอพูดลมเหนือเห็นจริงดังว่า จึงเปลี่ยนท่าทางเป็นเคร่งขรึมลง------------------------------------ |
สมาชิกหมายเลข 2795671
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] นามปากกา... ไตรติมา เขียนนิยายหลากหลายแนว รักหญิงชาย วาย Yaoi LGBTQ ผี แฟนตาซี Sci-fi ดราม่า คอมเมดี้ ฯลฯ
Group Blog All Blog
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |