Group Blog All Blog
|
โปรดฟังให้จบ Broadcast มินะโตะ คะนะเอะ เขียน
มินะโตะ คะนะเอะ เขียน หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว แปล สำนักพิมพ์แพรว ในเครืออมรินทร์ 255 บาท 285 หน้า
#แปลญี่ปุ่น #นิยายแปล #โปรดฟังให้จบ #Broadcast #มินะโตะคะนะเอะ #แพรว #รีวิวนิยาย #รีวิวหนังสือ #ออโอ หลังปก
มาจิดะ เคสุเกะ เคยเป็นสมาชิกชมรมกรีฑาของโรงเรียนมัธยมต้น แต่ทีมของเขากลับพลาดการแข่งเอคิเด็งระดับประเทศไปอย่างน่าเสียดาย เขาวาดหวังว่าจะพยายามต่อในชั้นมัธยมปลาย จึงมุ่งมั่นที่จะเข้าเรียนโรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านกรีฑา แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เขาบาดเจ็บจนไม่สามารถเล่นกีฬาใด ๆ ได้ ในขณะที่กำลังเคว้งคว้าง เขาก็ได้พบกับมาซายะ ผู้มุ่งมั่นจะเข้าร่วมชมรมกระจายเสียง เพราะฝันอยากเป็นนักเขียนบทละครวิทยุ มาซายะชักชวนเคสุเกะและซากุระ เพื่อนใหม่ที่ถูกกลั่นแกล้งรังแกจากเพื่อนร่วมห้อง ให้เข้าชมรมกระจายเสียงด้วยกัน เคสุเกะที่ฝันสลายจนต้องถอนตัวจากการวิ่งที่เป็นชีวิตจิตใจ จับพลัดจับผลูต้องมาร่วมฝ่าฟันไปพร้อมกับเพื่อนใหม่ในชมรมที่ใครต่างก็มองว่า “ประหลาด” เขาจะกล้าฝันในเส้นทางที่เปรียบเสมือนไม้ผลัดสำคัญแห่งชีวิตได้หรือไม่
คุยกันหลังอ่าน
เป็นเรื่องที่สองที่โออ่านงานเขียนของผู้เขียนค่ะ (เรื่องแรกคือ ‘คำสารภาพ’) สำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่แนวสืบสวนนะคะ เป็นแนวที่แสดงการเติบโตของตัวละคร โดยมีตัวละครหลักเป็นวัยรุ่น ที่ทั้งเปราะบาง ทั้งเปี่ยมพลัง มีความฝัน ความหวัง และความกล้า ยังคงมีลักษณะของผู้เขียนที่โดดเด่นอยู่ในงาน คือมีชั้นเชิงการเล่า มีข้อมูลอ้างอิงที่เป็นประโยชน์ มีการแทรกมุมมอง และทิ้งประเด็นไว้ให้คิด
ตัวเอกของเรื่องชื่อมาจิดะ เคสุเกะ เป็นนักวิ่งชมรมกรีฑาของโรงเรียนมัธยมต้น ในการแข่งเอคิเด็ง (วิ่งผลัดระยะไกล) ระดับจังหวัดเพื่อหาทีมตัวแทนไปแข่งระดับประเทศ ทีมเขาแพ้ไปสิบแปดวินาที ซึ่งก็หมายถึงว่าถ้าพวกเขาหกคนทำเวลาได้เร็วกว่าเดิมเพียงคนละสามวินาที ก็จะไม่แพ้ เคสุเกะก็ทั้งเสียใจ เสียดาย ยิ่งเมื่อนึกถึงเรียวตะ ที่เป็นทั้งเพื่อนชมรมและไอดอลการวิ่งของเขา ก็ยิ่งเจ็บใจแทน เรียวตะเป็นนักวิ่งที่โดดเด่น ถ้าเขาได้ลงแข่ง พวกเขาต้องชนะแน่ เคสุเกะคิดอย่างนี้ น่าเสียดายที่เรียวตะไม่มีโอกาสลงแข่งขันเพราะอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า สุดท้ายเรียวตะชวนเคสุเกะให้ไปพยายามด้วยกันใหม่ที่โรงเรียนมัธยมปลาย เคสุเกะตั้งใจอ่านหนังสือ สุดท้ายก็สอบติด แต่วันที่ไปดูผลนั่นเอง เขาประสบอุบัติเหตุถูกรถชน ต้องผ่าตัดที่ขา สุดท้ายความฝันที่จะเข้าชมรมกรีฑาก็ต้องพับไป . เคสุเกะได้แต่มองเรียวตะที่สวมเสื้อชมรมกรีฑากลับมาวิ่งอีกครั้ง ด้วยสีหน้าที่พยายามให้ดูปกติที่สุด เวลาผ่านไปไม่นาน แต่ทุกอย่างกลับกันโดยสิ้นเชิง ตอนนั้นเขาเสียใจแทนเรียวตะที่ไม่ได้วิ่ง ตอนนี้เขากลับเป็นฝ่ายที่ต้องเสียใจที่ไม่มีโอกาสวิ่งเสียเอง
ระหว่างที่เคสุเกะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเข้าชมรมอะไรในโรงเรียนมัธยมปลาย มาซายะ เพื่อนใหม่ ก็ชวนเขาเข้าชมรมกระจายเสียง ความมุ่งมั่นของมาซายะดึงดูดเขาจนได้แต่ยอมเออออตาม สุดท้ายก็เข้ามาอยู่ชมรมกระจายเสียงโดยไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว
ชมรมกระจายเสียงรับผิดชอบสร้างสรรค์ผลงานประเภทละครโทรทัศน์ ละครวิทยุ สารคดีโทรทัศน์ และสารคดีวิทยุ ซึ่งจะส่งเข้าแข่งขันในระดับจังหวัดและระดับประเทศ (และยังมีการแข่งประเภทผู้ประกาศและอ่านออกเสียงด้วย)
เด็กใหม่ของชมรมนอกจากเคสุเกะ มาซายะ ยังมีซากุระ พวกเขาเป็นเด็กม.4 ที่เข้ามาในช่วงที่รุ่นพี่ม.6 กำลังปั่นป่วน โดนมอบหมายหน้าที่ที่ไม่เคยทำ ต้องเรียนรู้เรื่องใหม่และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพื่อเป้าหมายที่สำคัญสำหรับจิตใจ
+++
เปิดมาเหมือนแนว ๆ การ์ตูนอนิเมะกีฬา ต่อด้วยแนวชมรมกิจกรรม เด็ก ๆ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่อะไรประมาณนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่ผู้เขียนสร้างเรื่องได้น่าติดตาม โดยมีการสอดแทรกสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด หรือมุมมองที่มีต่อกัน มีคำพูดโดน ๆ โผล่มาให้เก็บเยอะมาก
เด็กม.4 รับผิดชอบทำละครวิทยุ เราจะเห็นตั้งแต่บทดั้งเดิมที่มาซายะเขียน ถกกันเพื่อปรับบท ควรปรับตัวละครมั้ย เวลาล่ะ จะสร้างเนื้อหาที่พอดีกับเวลาที่กำหนดอย่างไรได้บ้าง บทควรพูดเร็วแค่ไหนจึงจะทำให้คนฟังละครวิทยุเข้าใจ แทรกความเห็นของสมาชิก เราจะเห็นขั้นตอนที่ค่อย ๆ ปรับไปเรื่อย ๆ จนเข้ารูปเข้ารอย นอกจากนี้ในช่วงแข่งขัน เด็ก ๆ ยังร่วมวิเคราะห์และแสดงความเห็นต่องานของผู้เข้าแข่งขันอื่น ซึ่งหลาย ๆ ครั้งก็ไม่มีใครผิดใครถูก เพราะมันขึ้นอยู่กับมุมมองและความสนใจด้วย แต่ในการแข่งขันย่อมต้องมีตัวชี้วัดและมีเกณฑ์ที่อาจมองไม่เห็นอยู่ บางเรื่องในมุมมองเด็กเห็นว่ามันไม่ได้สำคัญ แต่ในแง่ของกรรมการเขาไม่สามารถมองข้ามได้ อะไรอย่างนี้ ซึ่งถ้าใครสนใจงานประเภทสื่อ สิ่งพิมพ์ ชอบการวิเคราะห์แสดงความเห็น อยากเรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ น่าจะชอบเรื่องนี้ เขาไม่ได้ใส่มาแบบเป็นวิชาการจ๋าเลยนะ มันเป็นทริกหรืออะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ที่เก็บไปใช้ได้จริงมากกว่า แล้วที่สำคัญคืออ่านสนุกด้วย
และถึงจะบอกว่าตัวเอกรับผิดชอบละครวิทยุ แต่พวกเขาก็มีส่วนร่วมในงานชนิดอื่น อาจเป็นในทางความเห็น หรือประสบการณ์ผ่านตา ซึ่งไม่บ่อยนักหรอกค่ะที่จะมีใครมาตีแผ่อะไรอย่างนี้ให้เราอ่านตรง ๆ ง่าย ๆ กำไรคนอ่านล้วน ๆ เลยละ
ชอบค่ะ อ่านสนุก ได้ประโยชน์ด้วย ให้ 4 ดาว
. . . ใบปลิวชวนเข้าชมรม
“ชมรมกระจายเสียงเหรอ”
ผมถามเหมือนทวนให้แน่ใจ เขาตั้งท่าหยิบออกมาดิบดี ว่าแต่ไม่ได้หยิบผิดใบแน่นะ
“ใช่ ชมรมกระจายเสียง”
มิยาโมโตะพยักหน้าหงึกใหญ่
สมัยอยู่ชั้นมัธยมต้นก็มีคณะกรรมการดูแลด้านกระจายเสียงที่จะเป็นคนเปิดเสียงเพลงตามสายที่เราชอบให้ฟังตอนพักเที่ยง ผมก็เคยขอเพลงหลายครั้ง ที่มิยาโมโตะว่าจะเป็นแบบเดียวกันไหมนะ
ผมลองอ่านเนื้อหากิจกรรมบนใบปลิวแผ่นนั้น
*ดำเนินรายการในงานโรงเรียน ถ่ายรูป *ดำเนินรายการในงานของท้องถิ่น ถ่ายรูป *สร้างสรรค์ผลงาน *ผู้ประกาศ อ่านออกเสียง
ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับเพลงเขียนไว้เลย คงไม่ใช่ชมรมอย่างที่ผมคิด นึกไม่ออกเลยว่าอะไรทำให้หมอนี่แววตาเป็นประกาย
ถ้าต้องจิ้มเลือกสักอัน ผมคงเป็นผู้ประกาศ
มิยาโมโตะอยากเป็นผู้ประกาศเหรอ อาจฟังดูเสียมารยาท แต่น้ำเสียงเขาไม่เหมาะเท่าไหร่เลยแฮะ
แต่ผมเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ และรู้ซึ้งถึงก้นบึ้งด้วยว่า คนเราจะเหมาะหรือไม่เหมาะ มีพรสวรรค์หรือไม่มี เจ้าตัวก็ไม่รู้แน่ชัดหรอก
รวมถึงเรื่องที่ว่าเราไม่ควรทำลายความฝันของคนอื่นด้วย
หน้า 31-32 บทที่ 1 ออนแอร์ . . . “...ถ้าอยากสร้างผลงานให้น่าสนใจ ต้องไปอยู่ในจุดที่พร้อมยอมรับความโกรธหรือคำตำหนิให้ได้เสียก่อน ถ้าเรามัวห่วงว่าคนอื่นจะมองยังไงแล้วไม่กล้าทำอะไร ก็คงอยู่ในจุดนั้นจริง ๆ ไม่ได้” หน้า 143 บทที่ 3 ซาวนด์เอฟเฟ็กต์
. . . ยุคนี้ คนเราส่งถ้อยคำผ่านคลื่นสัญญาณถึงคนอื่นมากมาย พอเราส่งออกไปได้โดยง่าย คุณค่าของถ้อยคำเลยถูกลดทอนลงด้วย ก่อนจะสายเกินแก้ เราหันมาทบทวนถ้อยคำกันอีกครั้งดีไหม ในแบบที่ไม่มีคลื่นสัญญาณเข้ามาเกี่ยวด้วย นี่คือแนวความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ หน้า 160-161 บทที่ 3 ซาวนด์เอฟเฟ็กต์ . . .
ได้อ่านที่เล่ามาแล้วรู้สึกเลยว่าเรื่องนี้น่าจะสนุก
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันนะครับ โดย: fevestival (สมาชิกหมายเลข 6023213 ) วันที่: 14 ตุลาคม 2563 เวลา:2:40:42 น.
น่าสนุกมากๆค่ะ เนี่ย ญี่ปุ่นก็ยังเป็นญี่ปุ่นอยู่วันยังค่ำ ความพยายามเป็นเลิศ นักเขียนไทยน่าจะหันมาเขียนแนวนี้บ้าง กระตุ้นให้เด็กรุ่นใหม่เริ่มต้นการทำอะไรใหม่ๆ รู้ซึ้งถึงคุณค่าแห่งความพยายาม และไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ
เก็บไว้ในลิสต์ที่ต้องหามาอ่าน ขอบคุณมากค่ะ โดย: settembre วันที่: 14 ตุลาคม 2563 เวลา:20:07:54 น.
คุณเริงฤดีนะ น่ารักดีค่ะเรื่องนี้ มีหลายอย่างในเรื่องที่โอชอบมากเลย
คุณfevestival ขอบคุณที่แวะมาทักทายเช่นกันค่ะ คุณsettembre ใช่ ๆ แนวที่รวมพลังทำอะไรแบบจริง ๆ จัง ๆ นี่ไม่ค่อยเห็นจริง ๆ ค่ะ ดีใจที่ชอบนะคะ ขอบคุณที่โหวตให้ด้วยค่ะ ขอบคุณคุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณkatoy ที่โหวตบล็อกให้โอด้วยนะคะ โดย: ออโอ วันที่: 16 ตุลาคม 2563 เวลา:11:48:58 น.
น่าสนใจค่ะ ไว้ต้องหาอ่านบ้างแล้ว
โดย: marie79 IP: 223.207.247.152 วันที่: 17 ตุลาคม 2563 เวลา:10:45:01 น.
|
โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
| |||
เห็นด้วยค่ะ
เหมือนอะนิเมชั่นการ์ตูนญี่ปุ่นยังไง..ยังงั้นค่ะ