กันยายน 2560

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
9
10
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
8 กันยายน 2560
All Blog
180 Seconds Jessica Park เขียน





(รูปจาก Goodreads)


180 Seconds 
by Jessica Park
Publisher: Skyscape (April 25, 2017)
Print Length: 302 pages
Print List Price: $9.99
Kindle Price: $4.99 (now)


Some people live their entire lives without changing their perspective. For Allison Dennis, all it takes is 180 seconds…

After a life spent bouncing from one foster home to the next, Allison is determined to keep others at arm’s length. Adopted at sixteen, she knows better than to believe in the permanence of anything. But as she begins her third year in college, she finds it increasingly difficult to disappear into the white noise pouring from her earbuds.

One unsuspecting afternoon, Allison is roped into a social experiment just off campus. Suddenly, she finds herself in front of a crowd, forced to interact with a complete stranger for 180 seconds. Neither she, nor Esben Baylor, the dreamy social media star seated opposite her, is prepared for the outcome.

When time is called, the intensity of the experience overwhelms Allison and Esben in a way that unnerves and electrifies them both. With a push from her oldest friend, Allison embarks on a journey to find out if what she and Esben shared is the real thing—and if she can finally trust in herself, in others, and in love.

(ข้อมูลและราคายึดตาม Amazon)


คุยกันหลังอ่าน

มีหลายความรู้สึกรวมอยู่ในเล่ม ทุกข์ทน เจ็บปวด สุขใจ สมหวัง อุ่นใจ ผิดหวัง รวมกัน

ตัวอลิสัน นางเอก เป็นคนเก็บตัว เข้าสังคมไม่เก่ง ปิดกั้นตัวเองจากคนรอบข้าง คิดว่าตนเองแปลกแยกจากคนอื่น ไร้ค่า พังทลาย

สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่อลิสันมาจากบ้านเด็กกำพร้า เธอได้รับการขอรับอุปการะหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็มีเหตุให้ทางครอบครัวเปลี่ยนใจส่งเธอคืนบ้านเด็กกำพร้าทุกครั้ง ความดีใจแล้วกลับกลายเป็นผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้เธอสร้างกำแพงขวางกั้นคนอื่น เพื่อรักษาเศษเสี้ยวของตัวเธอไว้ เลิกหวังเพื่อไม่ให้ตัวเองผิดหวังซ้ำอีก

จนกระทั่งวันหนึ่งในปีที่สิบหก อลิสันก็พบไซมอน เขารับอุปการะเธอ ให้บ้านและอ้อมกอดที่อบอุ่น อลิสันเองก็ดีใจที่มีเขา แต่ความกลัวก็ไม่เคยจางหายไป อลิสันยังคงอยู่ในกระดองที่มั่นคงแข็งแรง

ไซมอนทุ่มเทให้อลิสันเต็มที่ เขาอดทนต่อเด็กสาวไม่เอาไหนที่เอาแต่ทุกข์ตรม ให้เวลาเธอค่อยๆ ปรับตัวและยอมรับเขาเป็นพ่อ

ไซมอนเป็นเกย์ (ที่แม้จะอายุสี่สิบต้นๆ แต่ยังหล่อและรวยมาก) การที่เขาอยากอุปการะเด็กโตอย่างเธอแทนที่จะอุปการะเด็กเล็กทำให้ทะเลาะกับแฟนจนต้องเลิกรากัน เพราะไซมอนเลือกอลิสัน

อลิสันมีเพื่อนเพียงคนเดียวคือสเตฟฟี (สเตฟานี) ทั้งสองมาจากบ้านเด็กกำพร้าเหมือนกัน ต่างกันตรงที่สเตฟฟีแข็งแกร่งมากกว่าอลิสัน สเตฟฟีเอาความผิดหวังมาเป็นแรงผลักดันจนได้ทุน

สเตฟฟีสวย เก่ง ฉลาด มั่นใจ เป็นทั้งเพื่อน พี่สาว และแม่ แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่สเตฟฟีก็สอนหลายอย่างให้แก่อลิสัน และคำที่พูดมากที่สุดคือ ให้กล้าหาญ
จนอลิสันอยู่มหาวิทยาลัยปีสาม ตั้งใจจะใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองวางแผน อยู่ในคอมฟอร์ตโซนเดิมๆ แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปเมื่อพบเอสเบน

วันนั้นอลิสันโดนดึงเข้าไปเป็นเป็นหนึ่งในผู้ร่วมทำแบบสำรวจ ที่ต้องการรู้ว่า เมื่อสบตากับคนแปลกหน้าครบ 180 วินาที จะเกิดอะไรขึ้น

ห้ามแตะตัว ห้ามสัมผัส ห้ามพูดคุย ห้ามละสายตา จนกว่าจะครบ 180 วินาที
180 วินาทีที่ต้องสบตาเอสเบน เป็น 180 วินาทีที่มีผลต่อกระทบต่อชีวิตของอลิสันเปลี่ยนไปตลอดกาล

+++

เป็นแนวอบอุ่น เจ็บปวดแต่อบอุ่น

เอสเบน พระเอก เป็นเหมือนเน็ตไอดอลของสังคม เพียงแต่เขาไม่ใช่ดารา เขาเป็นเพียงเด็กมหาวิทยาลัย (ที่หล่อมาก) ธรรมดาๆ ที่อยากให้เปลี่ยนแปลงสังคมด้วยการเริ่มต้นง่ายๆ อย่างการที่ให้ทุกคนมีความสุข ตระหนักถึงคุณค่าของตัวเองและสิ่งที่ตัวเองมี โดยการทำโครงการสั้นๆ เป็นคลิปสัมภาษณ์ หรือแบบสอบถามต่างๆ อย่างเช่นให้คนที่ติดตามเขาเขียนสิ่งที่ตัวเองภูมิใจที่สุดที่ได้ทำ เพื่อนที่สนิทที่สุด หรือแม้กระทั่งการแชร์ข้อมูลตามหาแมว ทางช่องทางติดตามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์ สังคมออนไลน์ของเอสเบนเลยกลายเป็นศูนย์รวมของเรื่องราวความสุข สร้างแรงบันดาลใจ และแบ่งปันความช่วยเหลือ

หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจกำลังคิดว่านี่เป็นเรื่องโลกสวย

ใช่ค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องโลกสวย สิ่งที่เอสเบนทำเป็นเรื่องโลกสวย และสิ่งที่ผู้เขียนบอกก็เป็นเรื่องโลกสวย

แต่ผู้เขียนก็กำลังบอกเราผ่านเอสเบนและวิธีการของเขาเช่นกันว่า ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรามอง วิธีมองมีผลต่อทัศนคติเลยไปถึงการดำเนินชีวิต และส่งผลสืบเนื่องถึงคนรอบข้างและสังคม

มีคำพูดโดนๆ คำพูดแทงใจในเรื่องเยอะมาก ยิ่งตัวโอมีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายอลิสัน เลยจะอินกับวิธีคิด มุมมอง และการปฏิบัติตัวของเธอต่อเรื่องต่างๆ มาก มีบางทีเหมือนกันที่โอคิดรำคาญเธอ แต่เหตุผลและวิธีการในเรื่องก็ไม่เกินความเข้าใจ

โอมองว่าอลิสันเป็นคนฉลาด รู้จักตัวเอง อ่อนโยนและติดจะตลกด้วยถ้าสนิทจริงๆ เพียงแต่เธอขี้กลัวมากๆ กลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวการแหกกฎที่เคยทำจะทำให้ทุกอย่างเลวร้าย กลัวสิ่งผิดพลาดแต่ไม่รู้จะเริ่มสิ่งที่ถูกต้องอย่างไร กลัวความผิดหวังเลยไม่กล้าเผชิญหน้า ทำให้เธอมาอยู่ในจุดนี้

ขณะเดียวกันโอก็ไม่ได้มองว่าเอสเบนสมบูรณ์พร้อม ผู้เขียนสร้างเอสเบนที่แสนดีแต่สร้างเขามาพร้อมกับตำหนิที่ไม่มีวันลบเลือน

ทุกคนไม่ได้สมบูรณ์พร้อม ไม่มีใครที่เกิดมาไร้ข้อผิดพลาด

เรื่องนี้มีครบแทบจะทุกอย่าง บางขณะที่เราอ่านแล้วเกิดคำถาม ผู้เขียนก็เหมือนมานั่งในใจ ค่อยๆ ใส่ปมและปล่อยชนวนความคิดออกมา

ประโยคแทงใจเยอะมากจริงๆ เป็นเรื่องที่ทันสมัย และเป็นจริงเสมอ ประเด็นเรื่องความตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง เรื่องการยอมรับ เรื่องครอบครัว เรื่องเพศ เรื่องการใช้ความรุนแรงทางเพศ เรื่องการโจมตีทางอินเตอร์เน็ต (Cyber-bulling) เรื่องการรับอุปการะ เรื่องความเป็นมนุษย์ และมุมมองเหรียญสองด้าน

มีประโยคหนึ่งที่เอสเบนพูดกับอลิสันว่าเขาจะรอจนกว่าอลิสันจะพร้อม เขาบอกว่าผู้ชายไม่ใช่เครื่องจักรที่เมื่อกดปุ่มเปิดการทำงานแล้วจะหยุดไม่ได้ คนที่หยุดไม่ได้คือคนที่ไม่คิดจะหยุด

เป็นเรื่องที่ดีมากเรื่องหนึ่งเลยค่ะ

โอคิดระหว่าง 4 กับ 4.5 มีบางช่วงดีมากๆ แต่ก็มีช่วงที่ค่อนข้างธรรมดาเหมือนกัน หักคะแนนจากการจัดวางที่ไม่ค่อยเนียนไปกับตัวเรื่อง ทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาตินิดหน่อย แต่เข้าใจได้นะ ผู้เขียนวางแผนว่าต้องมีเรื่องนี้ ถึงจะเกิดเหตุการณ์นี้ต่อ เพื่อให้เรื่องราวเดินไปถึงจุดหมายที่ตัวเองวาง เรื่องเนียนไม่เนียนนี่บางทีมันเป็นเรื่องจังหวะและเซนส์เหมือนกัน

กดที่ 4 ดาวไป แต่ชอบนะ อยากให้มีแปลด้วยเพราะมีประเด็นดีๆ ในเรื่อง และมันก็สัมผัสได้

โอแอบไปอ่านท็อปคอมเมนต์จาก amazon มีคนพูดว่า เขาเข้าใจอารมณ์คนที่ไปสักประโยคโดนๆ ไว้ที่ตัวแล้ว เรื่องนี้มีคำพูดมากมายที่เขาอยากสักเก็บมันไว้ โอติดใจเลยอ่านตาม และเห็นตรงกับความเห็นเขาเลย



Create Date : 08 กันยายน 2560
Last Update : 8 กันยายน 2560 13:58:52 น.
Counter : 1135 Pageviews.

9 comments
  
โอยอยากอ่านนนนนนนนนนนน

จะมีใครแปลไหมมมม อ่านแบบไม่แปลกลัวไม่อินอ้ะ 555

วันนี้โหวตให้โอไปแล้วง่าา โหวตอีกไม่ได้
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 กันยายน 2560 เวลา:14:55:29 น.
  
เห็นชื่อคนเขียนต้องรีบเข้ามาเสนอหน้า กบชอบ Flat-Out Love ของคนเขียนคนนี้มากเลยค่ะ ออกแนวน่ารัก ไม่หนักเท่าเล่มนี้
โดย: Froggie วันที่: 10 กันยายน 2560 เวลา:10:53:23 น.
  
พี่สาวไกด์ฯ เท่าที่รู้ยังไม่มีนะคะ หนังสือเพิ่งออกได้ไม่นานด้วย อยากให้มีแปลเหมือนกันค่า เรื่องโหวตไม่เป็นไรค่า ขอบคุณนะคะ

คุณกบ โอซื้อ Flat-Out Love มาตอนลดราคาเดือนที่แล้วค่ะ แต่เห็นในชุดมี Flat-Out Matt กับ Flat-Out Celeste มันต้องอ่านทั้งสามเล่มเลยมั้ยคะ
โดย: ออโอ วันที่: 11 กันยายน 2560 เวลา:13:17:45 น.
  
อ่านเล่มแรกเล่มเดียวก็พอค่ะ กบไม่ชอบ Flat-Out Matt เท่าไหร่ รู้สึกมัน cheesy ไม่มีอะไรก้าวหน้าด้วย ส่วน Flat-Out Celeste เป็นภาคต่อของตัวละครอีกคน กบดูแนวเรื่องแล้วยังเฉยๆอยู่ ถ้าหนุกมาบอกกันมั่งนะคะ
โดย: Froggie วันที่: 12 กันยายน 2560 เวลา:8:18:48 น.
  
คุณกบ ถ้าได้อ่านนะคะ โอก็ยังไม่ได้ซื้อสองเล่มหลังค่ะ นี่เป็นโรค ถ้าไม่ลดก็ยังจะไม่ซื้อ ขอบคุณมากค่า
โดย: ออโอ วันที่: 12 กันยายน 2560 เวลา:16:30:38 น.
  
ปกดึงดูดมาก พล็อตก็น่าสนใจค่ะ แต่....เค้าอ่านไม่ออก
โดย: kunaom วันที่: 12 กันยายน 2560 เวลา:18:06:54 น.
  
คุณอ้อม โอก็ไม่ได้อ่านเก่งค่ะ หาเล่มที่ชอบแล้วอ่าน อ่านแล้วชอบแถมยังอ่านได้ก็รู้สึกมีกำลังใจค่ะ ปกสวยนะคะ โอก็ชอบ
โดย: ออโอ วันที่: 15 กันยายน 2560 เวลา:14:54:12 น.
  
ช่วงนี้กระแสหนังสือบ้านเราอยู่แต่ฝั่งแผ่นดินใหญ่
นิยายแปลฝั่งตะวันตกเลยหาอ่านย๊ากยาก ที่มีมาก็เป็นแนวสืบสวนฆาตกรรมเสียมากกว่า

เราเองก็ไม่ได้ตามงานฝั่งนี้เหมือนกันค่ะ ยกเว้นนักเขียนที่ตัวเองชอบอยู่แล้ว
โดย: Serverlus วันที่: 25 กันยายน 2560 เวลา:10:01:32 น.
  
คุณเอ้ ตอนนี้เหมือนแนวสืบสวนฆาตกรรมเป็นกระแสกำลังมาแรงของฝั่งนั้นด้วยค่ะ ติดท็อปตลอด โอก็อ่านไปเรื่อยค่ะ
โดย: ออโอ วันที่: 25 กันยายน 2560 เวลา:20:06:34 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ออโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]



โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
New Comments