joyka
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add joyka's blog to your web]
Links
 

 
Nephilim's tale ตอนที่ 3

Back to Chapter 1

Back to Chapter 2

----------------------------------
Chapter3

แสงอาทิตย์ในยามบ่ายมันช่างร้อนแรงมาก ๆ แม้แต่ในที่ร่มก็ยังมีไอแดดจนอากาศร้อนอบอ้าว
อนาคิมเอาถาดสำหรับใส่อาหารขึ้นมาโบกไปมาเพื่อสร้างลม ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เธอกำลังพัดให้เรโนอาที่นอน
ฟุ้บอยู่บนโต๊ะ

จริง ๆ เวลานี้เป็นเวลาที่อาจารย์มีอาน่าเลิกสอนแล้ว ทุกคนล้วนกลับบ้านไปจนหมด แต่เพราะความร้อน
ทำให้เรโนอาไม่อยากออกไปเผชิญแสงแดดภายนอก เดี๋ยวเธอจะได้เป็นลมซะอีกรอบ

“ร้อนจริง ๆ ไอ้ ‘วันนี้ของปี’ นี่มันร้อนอะไรเช่นนี้”
เรโนอาโอดครวญ โดยมีอนาคิมโบกถาดใส่อาหารสร้างลมให้อย่างต่อเนื่อง

‘วันนี้ของปี’ กล่าวกันว่าเป็นวันที่พระอาทิตย์เข้ามาใกล้คานานมากกว่าวันอื่น จึงทำให้อากาศในวันนี้ร้อนมากกว่าปกติ ไม่มีใครบอกได้ว่าเพราะสาเหตุใด หากแต่หลายคนจะยึดเอาวันนี้เป็นวันสิ้นสุดของรอบ 6 เดือน ความร้อนของ ‘วันนี้ของปี’ นั้นค่อนข้างร้อนมากจริง ๆ เพราะแม้แต่อาจารน์มีอาน่าผู้ซึ่งเป็นเอล์ฟเผ่าน้ำที่สามารถสร้างอากาศเย็น รอบ ๆ ตัวได้ ยังแสดงอาการอ่อนเพลียออกมากจนเธอเลิกชั้นเรียนไวกว่าปกติ

หากแต่อนาคิมกลับไม่ค่อยรู้สึกว่ามันร้อนซักเท่าไหร่ เธอรู้สึกว่าอุณหภูมิเวลาอยู่หน้าเตาหลอม หรือตอนเธอช่วยพ่อตีโลหะ มันยังร้อนซะยิ่งกว่า แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรที่ใคร ๆ จะร้อนเพราะคนอื่นนั้นไม่ได้เหมือนเธอ

“เน่~~ อนาคิม เจ้าไม่ร้อนบ้างเลยเหรอ” เรโนอาถามลากเสียงแบบคนหมดแรง

“ไม่เลย ข้ารู้สึกว่าที่โรงหลอมข้าร้อนกว่าอีกนะ” อนาคิมตอบอย่างเรียบเฉย

“ข้าล่ะอิจฉาความอึดของเจ้าจริง ๆ แบบนี้ตอนเข้าวังไปไม่ว่าจะถูกโยนไปอยู่ตำแหน่งที่อยู่ท้ายครัวขนาดใหน
เจ้าก็แทบจะไม่มีปัญหาเลยล่ะมั้งนี่” เรโนอาตะแคงหัวพูด

อนาคิมกระพริบตาปริบๆ เธอเอียงหัวไปมาช้า ๆ
“นี่เราเรียนอะไร ๆ มากมายเพื่อไปเป็นคนครัวรึ?” อนาคิมถามเรโนอา

เรโนอาทำหน้าเบ้ ใส่อนาคิมทันที
“เห เจ้านี่ วิชาที่เราร่ำเรียนกันมันก็มีเกี่ยวกับห้องครัวนะ ถ้าชำนาญเรื่องในครัวก็อยู่ในครัวล่ะ แต่ถ้าเก่งอย่างอื่น
ก็คงได้อยู่ในตำหนักอื่น ทำงานแบบอื่นนั่นล่ะ” เรโนอาตอบ ทีท่าเธอเหมือนอยากจะตวาดใส่อนาคิม
ทว่าเธอได้แต่พูดเสียงเหมือนคนหมดแรงเท่านั้น

“ยังงั้นรึ...” อนาคิมตอบรับด้วยสีหน้าที่หวั่นวิตก เธอกลัวว่าที่ ๆ เธอจะไปอยู่มันจะมีอะไรยุ่งยากมาก
เรโนอามองอนาคิมที่มีสีหน้าวิตกด้วยความห่วงใย

“ถ้าเจ้าคาดหวังว่าจะพบท่านแม่ทัพ ข้าคิดว่ามันไม่ได้ไร้ความหวังซะทีเดียวหรอกนะ” เรโนอากล่าวพร้อมรอยยิ้ม

หากแต่เนื้อความเหมือนแหย่อนาคิมนิด ๆ ซึ่งอนาคิมเองก็หน้าแดงจนเห็นได้ชัด ความจริงแล้วเธอไม่ได้คาดฝันให้เรื่องของเธอและแม่ทัพไปไกลมากนัก เธอคิดอยู่เสมอว่าการที่แม่ทัพซื้อชุดนั้นให้ เพียงเพราะต้องการชดเชยชุดเก่าที่โดนเพื่อนของเขาทำขาดก็เท่านั้น

แต่เธอก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า ลึกๆในใจของเธอนั้น คาดหวังว่าจะได้พบท่านแม่ทัพอีกซักครั้ง เรโนอายังคงมองอนาคิมที่เหม่อลอยมองไปทางปราสาทเฟรโดน่า

แม่ลิงสาวเป็นเอามากเลยแฮะ

เรโนอาคิดพลางถอนหายใจให้กับอาการของเพื่อนสาว
อนาคิมพัดให้เรโนอาจนตะวันเริ่มลดแสงลง เธอจึงได้แบกเรโนอาไปส่งที่บ้าน
--------------------------

ด้านนอกเขตพระราชฐานปราสาทเฟรโดน่า ภายในศาลาที่พักซึ่งเหล่าทหารที่ทำการฝึกซ้อมได้แยกย้ายไปพักผ่อนกันหมดแล้วนั้น

ชไนเดอร์ เลออส และเซคิน่า ยังคงปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับข้อมูลที่เซคิน่าไปสืบมาได้

ชไนเดอร์นั่งกอดอกมองแผนที่ซึ่งมีสัญลักษณ์กากบาทไว้ตามจุดต่าง ๆ แววตาของเขาดูเป็นกังวลอย่างมาก
ในขณะที่เลออสนั้นเองก็มองแผนที่ดังกล่าวไม่วางตา พลางเอามือลูบคางตัวเองอยู่เนือง ๆ ด้วยความกังวลไม่แพ้กัน

มีเพียงความเงียบ ไม่มีใครพูดสิ่งใดออกมาล้วนแต่จับจ้องที่แผนที่ดังกล่าว
เซคิน่า มองเลออสและชไนเดอร์ ก่อนที่จะเอานิ้วที่เรียวยาวของเธอ ชี้จากจุดๆ หนึ่งในแผนที่
แล้วค่อย ๆ ลากเรื่อย ๆ จนมาถึงจุดในเมือง ทั้งเลออส และชไนเดอร์จับจ้องที่ปลายนิ้วของเธอ ว่าเธอต้องการบอกสิ่งใดแน่

“จริง ๆ แล้ว....” เธอหยุดคำ พลางหลับตา แล้วเอามือทั้งสองกอดอกตัวเอง

เธอหยุดเงียบไปชั่วครู่ แล้วลืมตากล่าวขึ้น
“ข้าว่าเนื้อย่างที่ร้านคุณโอโบล่าอร่อยมาก ๆ เลยล่ะ” เชคิน่ากล่าวด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง

ทำเอาสองหนุ่มที่ใจจดใจจ่อรอฟังที่เซคิน่าจะกล่าวถึงกับเหงื่อตก
ทั้งสองจ้องเขม็งไปที่เซคิน่า สีหน้าจริงจัง ดูเครียดมาก ๆ จนเซคิน่ารู้สึกกลัว

ที่ข้าทำนี่ไม่ขำเลยรึ? เธอคิดในใจ

เลออสถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอามือจับที่หัวตัวเองแล้วส่ายหน้า จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองเซคิน่า

“อ่อนหัดนักเซคิน่า มันต้องไก่ย่างของคุณเดนิมสิถึงจะดูเข้าท่ากว่า ทั้งปริมาณ รสชาด และที่สำคัญบรรยากาศด้วย” เลออสกล่าวพร้อมฉีกยิ้ม น้ำเสียงของเขาจริงจังมาก ๆ

ชไนเดอร์คลายมือที่กอดอกออก เขาก้มหน้ามองที่แผนที่มือทั้งสองยันไว้ที่ต้นขาทั้งสองข้าง
เขาเงยหน้าขึ้นสายตาจดจ้องเลออสและเซคิน่า

“แต่ข้าว่า สเต็ก ที่ร้านคุณโยวน่าต่างหากที่ดีกว่า ที่นั่นมีเบียร์รสเลิศด้วยนะ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังไม่แพ้เลออส
ชไนเดอร์และเลออสหันมาจ้องกันตาไม่กระพริบ ทั้งคู่แทบจะประจันหน้ากันเหมือนจะมีเรื่อง

“ข้าไม่คิดว่าเราทั้งสองต้องมาแตกกันด้วยเรื่องเช่นนี้เลยนะชไนเดอร์” เลออสกล่าว

“หึ ข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะมีรสนิยมชอบกินแต่ไก่ย่างนะเลออส”ชไนเดอร์ตอบกลับ

เซคิน่าได้แต่ทำหน้างง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

“ขณะนี้มุมเหลือง และ มุมแดงกำลังจะเตรียมเข้าประหัตประหารกัน ขอท่านผู้ชมทุกท่านอย่าได้กระพริบตาเชียว”

“แล้วมันเพราะเจ้าไม่ใช่รึเจ้ามุมน้ำเงิน!!!!”
สองหนุ่มหันกลับไปตวาดใส่เซคิน่าที่ทำท่าทำทางสนุกสนานกับเหตุการณ์ตรงหน้า

ชไนเดอร์ส่ายหัวนิดหน่อย แล้วนั่งลง
“ข้าว่าถ้าเราคุยกันต่อเรื่องเจ้าสิ่งที่ปรากฏในดินแดนเรานี่ คงได้ถกเครียกกันจนถึงรุ่งสางเป็นแน่”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายต่อข้อมูลที่ได้รับรู้มาจากเซคิน่า

“ก็อย่างว่าล่ะ ฉะนั้นพวกเราไปหาอะไรกินกันเถอะ” เซคิน่าพากลับมาที่เรื่องของกิน

เลออสมองหน้าเซคิน่าด้วยสีหน้าเอือมระอา ก่อนจะกล่าวขึ้น
“เจ้านี่ไปตายอดตายอยาก จากที่ใหนมาเซคิน่า”

ทันทีที่เลออสพูดจบ เซคิน่าลุกพรวดขึ้นมาทันที เธอเดินไปยืนข้าง ๆ เลออส แล้วเอามือทั้งสองข้างจับบ่าของเลออสไว้

“หืม??” เลออสงงต่อกิริยาของเซคิน่า

เซคิน่าค่อย ๆ ก้มลงมามองเลออส ใบหน้าที่ย้อนแสงมันทำให้ดูมืดมน ตัดกับแววตาที่ส่องประกายสีน้ำเงินเข้ม

“ใช่ซี้... ข้ามันตายอดตายอยากนี่” เธอพูดพร้อม ๆ กับบีบไหล่เลออส สีหน้าของเธอเหมือนเก็บกดอะไรบางสิ่ง

“เจ้ารู้มั้ย ว่าจากชายแดนเฟรโดน่าข้าต้องเจออะไรบ้าง” เธอบีบไหล่ของเลออสแรงขึ้นไปอีก
“เจ้ารู้ม้าย~~~~~~!!!” เธอตะโกนใส่เลออสพลางเขย่าตัวเขาอย่างรุนแรงนับครั้งไม่ถ้วน

จนเลออสนั้นแทบจะลงไปนอนกองกับพื้นด้วยความมึนงง แม้กระนั้นเซคิน่าก็ยังเขย่าอยู่อย่างนั้น จากความคับแค้นใจ เป็นความสนุกสนานที่ได้แกล้งท่านรองแม่ทัพเกราะแดงผู้เก่งกาจ

ชไนเดอร์ที่เห็นภาพดังกล่าวก็อดขำไม่ได้ เขาคิดว่าบางทีเรื่องเครียดนี้ควรจะพักไว้ก่อน แล้วพาเซคิน่าไปจัดการเรื่องอาหารซะให้เรียบร้อย เผื่อการประชุมครั้งหน้าจะได้ไม่มีเรื่องมุกตลกของกินมาขั้นเช่นนี้

“เจ้าอยากทานอะไรก็บอกมาละกัน พวกข้าน่ะยังไงก็ได้” ชไนเดอร์กล่าวต่อเซคิน่า ซึ่งเมื่อเซคิน่าที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมายิ้มทันที
---------------------------------

ในช่วงเย็น อุณหภูมิเริ่มลดต่ำลง อากาศเริ่มหนาวเย็น

หากแต่ดูท่าทางอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่อาจจะทำอะไรอนาคิมได้เลย เธอใส่เสื้อแขนกุด กระโปร่งสั้น ในมือถือหอกออกซ้อมการต่อสู้อยู่บริเวณหลังบ้านของเธอเอง

ซึ่งเธอได้สร้างสิ่งที่ใช้ในการฝึกซ้อมตั้งแต่หุ่นไว้ซ้อม และท่อนไม่ฝึกการเคลื่นไหว เธอกวัดแกว่งหอกที่ทำจากโลหะ ได้รวดเร็วคล่องแคล้วราวกับว่าเจ้าหอกนี้เบาดุจปุยนุ่น นี่เป็นผลจากที่เธอฝึกซ้อมเป็นประจำทุกวัน

แม้ว่าในช่วงเกือบ 1 เดือนมานี่เธอเข้าเรียนวิชาเกี่ยวกับระเบียบมารยาทในวังมาตลอด แต่เธอก็ใช้เวลาในช่วงเย็นใกล้ค่ำในการฝึกวิชาการต่อสู้แทน

ฉึก!!!

อนาคิมใช้หอกพุ่งเสียบท่อนไม้ขนาดใหญ่อย่างแรง เธอหมุนมือข้างที่จับหอกเข้าเสียบท่อนไม้ มืออีกข้างกางฝ่ามือออกแล้วสัมผัสที่ช่วงกึ่งกลางของหอก เธอดันมือที่จับหอกไว้ ทันใดนั้นท่อนไม้ขนาดใหญ่ก็มีรอยปริแตกออก

ตูม!!!

ท่อนไม้แตกหักออกเป็นสองซีกทันที มีเศษไม้กระเด็นออกมาบ้างนิดหน่อย แต่อนาคิมก็กระโดดหลบได้หมด
เธอเดินไปดู พลางสำรวจท่อนไม้ที่แตกเป็นสองซีกพลางคิดในใจ

ความรุนแรงคงใช้ได้แล้วล่ะมั้ง

“แต่ยังไม่ไวพอที่จะพุ่งเข้าเสียบเป้าหมายที่ว่องไวได้หรอกนะ”
อนาคิมตกใจหันไปยังต้นเสียงทันที ครูทัสนั่นเอง เขาค่อย ๆ เดินมาหาอนาคิม

“ต่อให้มีพลังทำลายสูงขนาดใหน แต่ถ้าไม่โดนเป้าหมาย มันก็ไร้ประโยชน์ และยิ่งถ้าไม่สามารถใช้อาวุธที่มีป้องกันการโจมตีสวนกลับได้ มันอาจจะทำให้เจ้าต้องพบจุดจบก็ได้” ครูทัสอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

อนาคิมเงยหน้าขึ้นมองครูทัส ด้วยสีหน้าแปลกใจ

“ท่านพ่อ?” น้ำเสียงของเธอฟังดูสงสัยต่อกิริยาที่ครูทัสแสดง เพราะตลอดเวลาครูทัสไม่เคยแนะนำเธอเรื่องการต่อสู้เลย มีแต่เธอที่อาศัยครูพักลักจำวิชาของคนอื่น ๆ มาแล้วประยุกต์เป็นของตัวเอง การที่ครูทัสมาแนะนำอะไรเช่นนี้จึงเป็นเรื่องน่าแปลกประหลาดอย่างยิ่ง

“ท่านพ่อ ดื่มเหล้ามากไปรึเปล่าน่ะ” อนาคิมพูดด้วยสีหน้าสงสัย

“นี่ข้าพูดอะไรเป็นการเป็นงานได้เพราะดื่มเหล้าเรอะเจ้าลูกคนนี้” ครูทัสตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิด ๆ

อนาคิมทำตาปริบ ๆ เธอเอานิ้วชี้เขี่ยแก้มตัวเองนิดหน่อย
“ก็ท่านพ่อไม่เคยสอนข้าเลยนี่นา” เธอตอบด้วยน้ำเสียงแปลกใจอยู่ดี

“ก็ข้ากำลังแนะนำเจ้าอยู่นี่ไง” ครูทัสตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“งื่อ~~~” อนาคิมครางขึ้น ก่อนที่จะโดนครูทัสเขกหัวเข้าให้

“เอาอีกแล้วไอ้ลูกคนนี้ มา งื่อ ง่า อะไร” ครูทัสดุอนาคิมเข้าให้

เขาถอนหายใจเล็กน้อยแล้วลูบหัวของอนาคิมด้วยความอ่อนโยน
“ข้าก็แค่คิดว่า การปล่อยให้เจ้าเดินไปยังเส้นทางที่เจ้าใฝ่ฝันเพียงลำพัง มันคงไม่ดีแน่ ๆ แม้ข้าเองไม่อยากขขัดใจเคย์ซ่านัก แต่ข้าก็ว่าการสอนให้เจ้ารู้จักสิ่งต่าง ๆ ที่เจ้าชอบบ้างก็ไม่เสียหายอะไร”

เขาพูดพร้อมกับนั่งลงที่ตอไม้ใหญ่ ใกล้ ๆ ที่อนาคิมซ้อมอยู่
“แต่กระนั้น แม้ข้าจะมาให้คำแนะนำเจ้า แต่ข้าไม่คิดว่าเคย์ซ่าจะหันมาเห็นด้วยกับข้าหรอกนะ” ครูทัสกล่าวโดยมองอนาคิมด้วยสายตาที่อ่อนโยน

อนาคิมปักหอกลงที่พื้น เธอดูเหมือนมีเรื่องทุกข์ใจที่เธอไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่
“ก็ท่านแม่อยากให้ข้าเป็นกุลสตรี สมเป็นผู้หญิงมาก ๆ เลยนี่นา บางทีข้าก็ไม่เข้าใจว่าการที่ข้าชอบเรื่องต่อสู้อะไรแบบนี้ มันไม่ดียังไง” อนาคิมพ้อผู้เป็นมารดา

“เจ้าผิดแล้วล่ะ อนาคิม” ครูทัสตอบอนาคิมด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากขึ้น

อนาคิมไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ครูทัสเอ่ยขึ้น เธอผิด ผิดอย่างไรงั้นรึ???

สีหน้าของครูทัสดูแล้วเศร้าลงเล็กน้อย เขามองที่อนาคิมอย่างไม่วางตา
“เคย์ซ่า ไม่เคยสนใจว่าเจ้าจะเป็นกุลสตรีที่งดงามหรือไม่ นางไม่เคยสนใจว่าเจ้าจะกระโดกกระเดก
แล้วเอาแต่ล่าสัตว์ นางไม่เคยเรียกร้องให้เจ้าต้องไปทำงานในวัง ไม่ได้คาดหวังแม้แต่ว่าเจ้าจะมีชายที่มีศักดิ์มีตระกูลมาหลงไหล นางกลับพอใจที่เจ้า ยังคงเป็นเจ้า หากแต่นางไม่พอใจที่เจ้ากำลังไปในเส้นทางซึ่งอาจจะต้องพลัดพรากจากนางต่าง หาก”

ครูทัสอธิบายความรู้สึกของเคย์ซ่าราวกับว่าเขาเก็บงำมันไว้อย่างยาวนาน
“หนทางที่เจ้าชอบนั้น มันไม่ต่างจากฐานะนักรบเลย มันเต็มไปด้วยอันตรายและพร้อมที่จะชิงชีวิตเจ้าไปเสมอ
นั้นล่ะสิ่งที่นางทำใจไม่ได้ เลยกกลายเป็นว่านางพยายามเข้มงวดให้เจ้าเป็นกุลสตรีให้มากที่สุด เพื่อที่เจ้าจะได้ไม่ต้องเลือกเดินในเส้นทางของนักรบ”

อนาคิมได้แต่ฟังนิ่งเงียบ ด้วยตัวเธอไม่เคยคิดในเรื่องที่ครูทัสเล่าเลยซักนิด เธอคิดเพียงแค่เธอชอบ และเธอไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเท่านั้นเอง

ครูทัสถอนหายใจออกมา สีหน้าของเขาเหมือนจะต้องพูดอะไรบางอย่างที่เขาเองก็ไม่ค่อยอยากพูดนัก

“อนาคิม เจ้าก็รู้ ว่าเจ้าน่ะไม่เหมือนพวกข้า” อนาคิมก้มหน้ายืนฟังเงียบ ๆ

“เจ้ามีหลาย ๆ สิ่งที่แตกต่างจากพวกข้า เจ้ารู้ดี บ่อยครั้งเจ้าจึงเลือกที่จะปลีกตัวไปจากคนอื่น ๆ และอยู่เพียงลำพัง แต่กระนั้นไม่ว่าจะยังไงทั้งข้าและเคย์ซ่า ก็ไม่เคยนึกรังเกียจเจ้า พวกข้ายังคงรักเจ้าและมองเจ้าเฉกเช่นวันที่พวกข้าพบเจ้าครั้งแรก” ครูทัสกล่าวด้วยสีหน้าที่ดูเศร้าสร้อย

“ข้า...” อนาคิมค้างคำไว้ เธอพูดอะไรไม่ออก เธอไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อไปดี


ครูทัสลุกขึ้นเดินไปหาอนาคิมที่ยืนตัวสั่นเทิ้ม ท่าทางของอนาคิมพร้อมที่จะร้องไห้ออกมา
“ข้าคงไม่ฉุดรั้งเจ้าไว้ หากสิ่งที่เจ้าเลือก เป็นสิ่งที่เจ้าคิดว่าดีแล้ว ข้าเพียงแค่อยากให้เจ้าเข้าใจในตัวเคย์ซ่าให้มากขึ้นก็เท่านั้น”
ครูทัสสวมกอดลูกสาวไว้แน่น พลางลูบหัวไปด้วย
“ท่านพ่อ...” อนาคิมไม่สามารถกล่าวสิ่งใดได้ น้ำตาอาบไหลอาบแก้มทั้ง 2 ของเธอ

ในเงามืดใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่ไกลจากคนทั้งสองนัก เคย์ซ่ายืนฟังอยู่เงียบ ๆ
บนใบหน้ามีน้ำตาไหลออกมา หากแต่เธอไม่ได้ร้องจนมีเสียงให้ผู้ใดได้ยิน เธอเองก็รู้ดีว่าอนาคิมนั้นชอบสิ่งใด แต่อย่างที่ครูทัสกล่าว เธอกลัวที่จะต้องเสียลูกสาวคนนี้ไป เธอได้แต่เช็ดน้ำตา และยิ้มออกไป

เธอเดินออกจากใต้ต้นไม้ แล้วเดินไปหาทั้งสองคนพร้อมตะโกนออกไป
“เอ้า สองพ่อลูกทำอะไรกันอยู่ อาหารจะเย็นหมดแล้วนะ”

ครูทัสและอนาคิมหันไปมองเคย์ซ่าที่ยืนทำหน้าไม่ค่อยพอใจที่ทั้งสองไม่มาทานข้าวซักทีอยู่
ครูทัสยิ้มที่มุมปากเอามือกดหัวอนาคิม
“ไปกินข้าวกันได้แล้วไอ้ลูกลิงเอ้ย ก่อนที่เจ้าจะโดนเคย์ซ่ากินเอา”

“งื่อ~~~” อนาคิมครางออกมา เธอเช็ดน้ำตาที่แก้มทั้งสอง

“ถ้าเจ้าไม่เลิกครางแบบนี้ ข้าจะหาอะไรมาปิดปากเจ้าไว้” ครูทัสบ่นพลางช่วยเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของอนาคิม

“ท่านพ่ออ่า” อนาคิมค้อนนิดหน่อย น้ำตาบนใบหน้าเธอแห้งแล้ว เหลือไว้เพียงขอบตาที่ยังแดงอยู่ แต่เธอคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะเธอมีข้อแก้ตัวร้อยแปดที่จะอธิบายว่าทำไมดวงตาของเธอถึงได้แดง
ทั้งสองเดินไปหาเคย์ซ่าและพอกันเข้าบ้านไป
-------------------------------------------------

ในเมืองเฟรโดน่า ร้านอาหารยามค่ำคืนมีหลายร้านที่สนุกสนานเฮฮา เพราะเฟรโดน่าเป็นเมืองการค้าที่ผู้คนคับคั่งอยู่แล้วร้านเนื้อย่างแห่งนี้ ก็เช่นกัน ผู้มากมายหลายเผ่าก็มาแวะลิ้มลองเนื้อสัตว์แบบต่าง ๆ

กรุบ กรุบ
งั่ม...
กรุบ…

เสียงกินและเคี้ยวอาหารของเลออส ที่กำลังเอร็ดอร่อยกับหมูย่างอย่างออกรสออกชาด แต่ด้วยกิริยาเช่นนั้นทำให้ความอยากอาหารของเซคิน่าลดลงไป จนเธอแทบจะทานอะไรไม่ลง
“เจ้านี่นะ กินซะยังกับไปตายอดตายอยากมาจากที่ใหนงั้นล่ะ” เซคิน่าคืนคำที่เลออสว่าเธอเมื่ออยู่ที่ค่ายทหาร

“งึม ก็เวลาอยู่ในวังข้ากินไม่หน่ำใจนี่นา” เลออสพูดไปกินไป

“ฮ่าฮ่าฮ่า มันก็น่าอยู่หรอก วิถีการกินมันต่างกันนี่นา” ชไนเดอร์กล่าวพร้อมหัวเราะออกมา เพราะแม้แต่ในค่ายทหารการกินแบบได้อารมณ์เช่นนี้ก็ดูเป็นการที่ไม่มีมารยาท มันคงทำให้เลออสอึดอัดพอสมควรทีเดียว

“จะว่าไปแล้ว ข้าก็ไม่คิดว่าท่านจะมากินด้วยกันนะ” เซคิน่าปรายตามองที่ชไนเดอร์ซึ่งติดตามคนทั้งสองมาด้วย

ชไนเดอร์ยกถ้วยไม้ที่ใส่เบียร์ยกขึ้นดื่ม
“ฮ้า~ นาน ๆ ออกมาข้างนอกบ้าง ข้าว่าก็ดีเหมือนกันล่ะ” ชไนเดอร์กล่าวตอบเซคิน่า และกล่าวต่อไป
“บรรยากาศในเมืองยามที่มันสงบสุขนี่ดีจริง ๆ นะ ข้าชอบให้มันเป็นแบบนี้จริง ๆ”

“อืม อ้าเอ็นอ้วยอ้ะ” เลออสพูดทั้ง ๆ ที่ของกินเต็มปาก

เซคิน่ามองกิริยาของเลออสด้วยหางตา
“เจ้านี่นะ ซกมกกว่าที่ข้าคิดจริง ๆ” เซคิน่ากล่าวสีหน้าเอือมระอาต่อมารยาทของเลออสในยามนี้จริง ๆ

เลออสกลืนหมูย่างที่เคี้ยวอยู่ลงไปจนหมด
“ถึงซกมก แต่ก็ทำให้เจ้ามาหลงชอบได้ก็แล้วกัน”
เลออสยกนิ้วโป้งให้เชคิน่าพลางยิ้มจนเห็นเศษอาหารที่ติดตามฟัน

“นั่นมันเป็นความผิดพลาดอันยิ่งใหญ่ในชีวิตข้าต่างหาก ใครจะคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นได้ถึงเพียงนี้”
เซคิน่าแหย่เลออสกลับไป เล่นเอาเลออสอ้าปากค้างไปเลยทีเดียว แต่ในใจก็ยอมรับว่าสำหรับเธอแล้วชายผู้นี้ ผู้ซึ่งมีฝีมือเก่งฉกาจ อารมณ์ดี และค่อนข้างสนุกสนานเช่นเลออสนั้นเป็นที่พอใจของเธอมากทีเดียว

“ว่าแต่ท่านเถอะ ชไนเดอร์ยังไม่ต้องใจสาวใดบ้างรึ” เธอพูดพร้อมขยิบตาใส่เพื่อหยอกชไนเดอร์

“ข้าน่ะรึ?” ชไนเดอร์แสดงสีหน้าเป็นเชิงสงสัยในคำถาม

“เจ้านี่น่ะชอบลิงอยู่ตัวล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า” เลออสชิงตัดหน้าตอบพร้อมทั้งระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

ชไนเดอร์ดูหน้าแดงเล็กน้อย มันเป็นกิริยาที่แปลกตาสำหรับเซคิน่า เพราะอัศวินผู้ห้าวหาญ และเก่งกาจผู้นี้ไม่เคยแสดงอาการเคอะเขินให้เธอเห็นเลย จนเธอติดใจในคำของเลออส มันต้องมีความหมายอะไรลึกซึ้งกว่านั้นเป็นแน่

“ลิง...เรอะ” เธอทำหน้าเบ้ใส่เลออส แน่ล่ะ ใครจะคิดว่าแม่ทัพแห่งเฟรโดน่าจะพิศมัยใน ‘ลิง’
“อืม ลิง” เลออสตอบด้วยสีหน้าปกติเหมือนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

“เจ้าก็ไปเรียกนางว่าลิง นางชื่อ อนาคิม ต่างหาก”
ชไนเดอร์พูดค้อนเลออส จนเลออสทำหน้ายียวนแล้วกล่าวออกมา

“โอ้ ๆ เดี๋ยวนี้เจ้าออกรับแทนแม่ลิงนั่นแล้วรึ”

“เอ้า ๆ เล่าให้ข้าฟังบ้างสิ” เซคิน่าเร่งเร้าเลออส ด้วยความสงสัยในรายละเอียดอย่างยิ่ง

“เจ้ามันนักสอดแนมหาข่าวอันดับหนึ่งไม่ใช่เรอะ เรื่องแบบนี้ไม่รู้เสียชื่อเสียงแย่เลย” เลออสได้ทีก็กวนเซคิน่าบ้าง

แต่เซคิน่าดูจะไม่อยากเล่นด้วย เธอเอาถ้วยไม้ตีเข้าที่หัวของเลออส
“โอ้ย!! เจ้าทำอะไร ข้าเจ็บนะ” เลออสบ่น ส่วนชไนเดอร์ก็หัวเราะออกมาเบา ๆ

“ก็เล่ามาสิ” เชคิน่าพูดเสียงแข็งสายตาดุดัน เลออสวางหมูย่างลงคว้าถ้วยเบียร์มาซด

“เมื่อประมาณซักต้นเดือนที่ผ่านมา ข้าประมือกับสตรีผู้หนึ่ง นางเป็นผู้ที่เข้าช่วยพ่อค้าจากพวกทหารนอกรีตที่ไปอ้างชื่อกองทัพรีดไถชาว บ้านน่ะ ข้าสนใจในฝีมือของนางก็เลยประมือกันนิดหน่อย ตอนที่นางกำลังพลาดท่าให้กับข้า
พ่อพระเอกสุดหล่อของเรานี่ล่ะที่โผล่มาช่วยนางไว้” เลออสร่ายเหตุการณ์ในตอนที่เขาสู้กับอนาคิม

“โฮ้~~ มีเรื่องน่าสนใจเช่นนี้ด้วย” เซคิน่ามองที่ชไนเดอร์ที่ซดเบียร์อยู่ ใบหน้าของเขาดูแดง ๆ หาใช่เพราะฤทธิ์เบียร์ไม่ แต่คงเพราะเขาเขินซะมากกว่า

“แล้วทำไมไปเรียกผู้หญิงว่า ‘ลิง’ ล่ะ” เซคิน่าหันมาถามเลออสต่อ

“ก็นางผู้นั้นน่ะ ไวมาก ๆ การจู่โจมของข้าเรียกว่าไม่ได้สะกิดแม้แต่เส้นผมของนางเลย” เลออสอธิบาย

“ฮู้ววว ฝีมือดีมาก ๆ เลยนี่นา” เซคิน่าถึงกับเอ่ยปากชม เพราะรู้กันดีว่าเลออสเองก็เป็นนักรบที่มีฝีมือสูงมาก
การที่เขาไม่สามารถสร้างบาดแผลให้คู่ต่อสู้ได้เลย ย่อมแสดงว่าคู่มือมีฝีมือที่ไม่ธรรมดา

“ที่น่าสนใจคือ เจ้าพระเอกของเรามันซื้อชุดส่งไปให้นางด้วยล่ะ” เลออสพูดพลางยิ้มกว้างจนเห็นฟัน

จนชไนเดอร์สำลักเบียร์ออกมา เซคิน่าค่อย ๆ เหลียวไปมองชไนเดอร์ สายตาช่างเต็มไปด้วยความรู้สึกสนใจต่อเรื่องดังกล่าวอย่างยิ่ง แน่ล่ะสำหรับชไนเดอร์ที่มุทำแต่งานไม่เคยมองหญิงใดเลย กลับทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเช่นนี้ แสดงว่าชไนเดอร์ให้ความสำคัญต่อสตรีผู้นั้นอย่างมากเป็นแน่

“ข้าก็แค่ซื้อชุดชดใช้ให้นาง ที่เจ้าทำชุดนางขาดก็เท่านั้นเอง” ชไนเดอร์แก้ตัวออกมา แต่มันดูไร้ผล

“แต่ถึงขนาดไปสั่งทำด้วยผ้าชั้นดี แถมลงไปสั่งการด้วยตัวเอง ข้าว่าไม่ธรรมดาแล้วล่ะ”
เลออสแหย่ชไนเดอร์อย่างเมามันส์

“ข้าอยากเจอนางซะแล้วสิ” เซคิน่ากล่าวขึ้น

“อีกไม่นาน คงได้เจอ” เลออสกล่าวพร้อมกับวางถ้วยเบียร์ลง

“เจ้าหมายความว่ายังไงเลออส?” ชไนเดอร์สงสัยในสิ่งที่เลออสกล่าวทันที

“ก็เพื่อนรักของข้าหลงรักสาวทั้งทีจะให้ข้านอนกลิ้งไปมาในค่ายทหารไปวัน ๆ ทำไมล่ะ”

“ข้าน่ะให้คนไปสืบมาบ้างแล้วนะ อนาคิมน่ะเป็นลูกสาวของช่างตีอาวุธโครทัส ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเอเวี่ยม
ใกล้ ๆ เมืองนี่เอง คนที่ข้าส่งไป บอกว่า นางจะมาเข้ามาถวายตัวเป็นสาวใช้ในวังเร็ว ๆ นี้ล่ะ” เลออสอธิบาย

ชไนเดอร์ตาโต ไม่คิดว่าเพื่อนของเขาจะหาข้อมูลได้ถึงเพียงนี้

เลออสใช้มือลูบคางเบา ๆ
“ข้าเก่งด้านนี้เหมือนกันใช่มั้ยล่ะ” เลออสชมตัวเอง

“ใช้ได้นี่นา” เซคิน่ากล่าวชมอย่างจริงใจ เพราะเธอเองก็ไม่เคยเห็นเลออสสนใจที่จะสืบข่าวอะไรเลยซักครั้ง เห็นแต่เลออสเป็นกองหน้าบุกทะลวงข้าศึกตามคำสั่งเสียเป็นส่วนใหญ่

“ยังงั้นรึ นางจะมาอยู่ในปราสาทงั้นรึ” ชไนเดอร์ยิ้มพลางดื่มเบียร์ลงไป

ระหว่างที่คนทั้งสามกำลังพูดคุยเรื่องต่าง ๆ กันอยู่นั้น

เพล้ง!!!

โต๊ะอาหารที่ไม่ห่างจากเขานั้นมีเรื่องขึ้น บริกรสาวที่เข้าไปเสิร์ฟเหล้าถูกชายที่โต๊ะนั้นพยายามลวนลาม
“ไม่นะ อย่านะเจ้าคะ” หญิงสาวพยายามปัดป้องตัวเอง

“โอ๋ ๆ อย่าอายไปเลยนา แค่นิด ๆ หน่อย ๆ เอง” ชายที่พยายามลวนลามกล่าว ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนที่นั่งที่โต๊ะนั้น

“ไม่นะ!!!” หญิงสาวร้องสุดเสียง

ทันใดนั้นหญิงสาวที่กำลังถูกลวนลามพลันหลุดไปจากมือของชายที่ลวนลามไปอยู่ในอ้อมกอดของเซคิน่าทันที

“เอ้า เจ้าไปหลบก่อนไป๊” เซคิน่าบอกกับบริกรสาว

“โอ้ว ๆ เจ้าจะมาแทนนางรึ ดาร์คเอล์ฟสาวสุดสวย” ชายผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงหมายจะลวนลามเซคิน่า

“ต๊าย~ ท่านทำได้ คืนนี้ข้าให้ท่านทั้งคืนเลย” เซคิน่ายั่ว จนเลออสสำลักเบียร์ นางปรายตาไปยังชไนเดอร์เล็กน้อย

ชไนเดอร์ที่มองเหตุการณ์อยู่ ยกถ้วยเบียร์ขึ้นเป็นเชิงว่า จัดการตามสบาย

ชายที่ลวนลามบริกรสาวพุ่งเข้ากอดเซคิน่า นางมิได้หลบแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว

ปึก!!!

นางใช้ฝ่ามือกระแทกเข้าที่หน้าของชายผู้นั้นจนเขาล้มลงไปทันที

กลุ่มผู้ชายที่นั่งที่โต๊ะนั้น เมื่อเห็นเพื่อนโดนทำร้ายก็ลุกขึ้นมาทันที

“หึย นังผู้หญิงคนนี้!!!” ชายคนหนึ่งตะโกนออกมาออกมา

“มาว่ากุลสตรีแบบนี้ได้ ยังไง!!” เซคิน่าพูดพร้อม ๆ กับกระโดดเตะชายที่พูดทันที

เหล่าผู้ชายที่เหลือตรงเข้ารุมเซคิน่าทันที
หากแต่เธอว่องไวมาก เธอหลบการจู่โจมของชายแต่ละคนได้อย่างสบาย ๆ

“เฮ้ ๆ พวกเจ้านี่ใช้ไม่ได้เลยนะ คืนนี้ไม่มีใครได้ไปกับข้าแน่ ๆ เลย” เซคิน่ายังคงพูดแหย่ต่อไป

ชายคนหนึ่งตรงเข้ากอดเซคิน่าจากข้างหลัง
“เสร็จล่ะ แม่สาวสวย” ชายผู้นั้นกล่าวขึ้น แต่ไม่ทันไร เซคิน่าเอาหัวโขกชายคนนั้นเต็มแรง จนมือของเขาคลายออก เซคิน่าอ้อมไปด้านหลังแล้วกอดเขาพร้อมกับจับเข้าที่เอวและสะพานโค้งจนหัวของ เขากระแทกลงที่พื้น

เธอผละออกจากชายคนนั้นทันที กลุ่มชายที่เหลืออีก 4 คนตรงเข้าไปพร้อม ๆ กัน
เซคิน่าเธอกระโดดใช้ขาหนีบคอชายอีกคนในกลุ่ม พลางหมุนบิดคอชายผู้นั้นอย่างรวดเร็ว

กร๊อบ!!

เสียงกระดูกของชายที่โดนเซคิน่าหนีบคอไว้ดังขึ้น เขาสลบล้มลงไปทันที

“แก!!” ชายที่เหลืออีก 3 คน คนหนึ่งยกถังขว้างใส่เซคิน่า หากแต่เธอหลบได้อย่างง่ายดาย

“โอ้ะโอ อย่าเล่นเครื่องทุ่นแรงกันสิ” เซคิน่าเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม เธอสไลด์ตัวเข้าไปหาชายหนึ่งในสามคนนั้น
แล้วยันตัวจากพื้นเตะเสยขึ้นไป ก่อนที่จะใช้มือทั้งสองจับขมับและคาง บิดอย่างรวดเร็ว

กร๊อบ!!!

เสียงกระดูกของชายผู้นั้นดังขึ้น มันทำให้เขาสลบลงไปทันที ชายอีกคนพยายามเข้าไปคว้าเธอไว้
แต่เซคิน่าใช้ชายคนที่เธอบิดกระโหลกไปเป็นโล่ห์กำบัง แล้วไปล็อคคอล็อคคอชายที่พุ่งเข้าหา เธอเลื่อนแขนที่ล็อคคอไว้อย่างรวดเร็ว

กร๊อบ!!!

เสียงกระดูกดังขึ้นอีกครั้ง ชายคนดังกล่าวลงไปนอนฟุ่บกับพื้น
“จ...เจ้าเป็นใครกันแน่!?!” ชายที่เหลืออยู่ถาม

“หัวหน้าสอดแนมและลอบสังหารแห่งเฟรโดน่า เซคิน่า ไอส์สเวล ยินดีที่ได้รู้จักจ้า~”
เธอแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้ม หากแต่สายตานั้นแฝงไว้ด้วยความดุดันอย่างยิ่ง
..................

“ข้าว่าเซคิน่านี่โหดใช่ย่อยเลยล่ะ” เลออสเปรยขึ้น

“ข้าว่าไม่ ไม่เห็นมีคนตาย หรือบาดเจ็บหนัก ๆ ซักคน” ชไนเดอร์แย้งขึ้น

“แต่ถ้านางหักกระดูกแรง ๆ นี่ก็ตายเอาง่าย ๆ เลยนา” เลออสพยายามอธิบายความคิดของเขา

“เจ้าจะลองมั้ยล่ะ” เซคิน่าเอาหน้าอกของตัวเองมาวางบนหัวเลออส ด้วยสีหน้ามีความสุข

“จัดการหมดแล้วรึ?” เลออสเอ่ยถามเซคิน่า

“แย่จัง เจ้านี่ไม่ได้ดูเลยรึว่าข้าทำอะไรบ้าง” เซคิน่าพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

“แค่ไอ้เสียงกร๊อบ ๆ นั้นข้าก็เข็ดฟันจะแย่แล้ว ขืนข้าไปนั่งดูข้าคงนอนไม่หลับแน่ ๆ”
เลออสตอบเซคิน่าที่เดินมานั่งข้าง ๆทิ้งใช้ชายฉกรรจ์ทั้ง 5 คน นอนหมดสภาพเรี่ยราดบนพื้น
-----------------------------------------

รุ่งเช้าวันใหม่มาถึงแล้ว
รถม้าขนาดใหญ่ของคนในหมู่บ้านจอดอยู่ ณ ใจกลางของหมู่บ้าน
วันนี้เป็นวันที่จะมีการทดสอบเพื่อทำงานภายในวัง ผู้หญิงที่จะไปเข้ารับการทดสอบล้วนแต่งตัวเรียบร้อยและดูสวยงาม และมาพร้อมกันเพื่ออกเดินทางซึ่งรวมทั้งเรโนอาด้วย

“เอ๊ อนาคิมนี่ชักช้าจริง ๆ ไม่ใช่ว่าล้มเลิกเอาซะกลางคันแบบนี้นะ” เธอบ่นด้วยเพราะเลยเวลาที่เธอนัดอนาคิมไว้พอควรแล้ว แต่บัดนี้อนาคิมก็ไม่มายังที่นัดหมายสักที

“พี่เรโนอา!!” โคริมเรียกเธอมาแต่ไกล

“อ้าว โคริม เจ้าคงไม่ได้มาทำหน้าที่ส่งข่าวว่าแม่ลิงสาวจะไม่ได้เขาวังนะ” เธอหรี่ตามองโคริมด้วยสายตาแปลก ๆ

“ไม่ใช่ซักหน่อย ข้าแค่จะมาส่งพี่ กับพี่อาน่าเท่านั้นเอง”

“นี่พี่อาน่ายังไม่มาอีกเหรอ” โคริมกล่าวพลางหันซ้ายหันขวามองหาอนาคิม

“ถ้าอยู่เจ้าก็เห็นแล้วล่ะ นี่ข้าขอร้องให้รถม้ารอนางนะเนี่ย” เรโนอาตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดนิด ๆ

“เรโนอา” เสียงใส ๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงของอนาคิมนั่นเอง
เรโนอาที่ได้ยินเสียงหันหัวไป พลางบ่นไป

“เจ้านี่นะมาสายซะ....จน....” เรโนอาพูดไม่จบประโยคด้วยตะลึงในสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า

อนาคิมแต่งตัวด้วยเสื้อลูกไม้สีฟ้าที่ชไนเดอร์ส่งมาให้ เธอแต่งหน้าเรียบ ๆ พอเป็นพิธี ผมเผ้าหวีเข้ารูปดูเรียบร้อย
ภาพที่เห็นนี้ราวกับไม่ใช่อนาคิมที่ทุกคนรู้จัก งดงามมาก จนคนในหมู่บ้านหลาย ๆ คนต่างงุนงงต่อภาพที่เห็น

“ผู้หญิงคนนั้นใครน่ะ”
“ก็ลูกสาวคุณครูทัสไง”
“หา แม่ลิงสาวนั่นน่ะรึ”
“ไม่น่าเชื่อ เป็นไปได้ยังไง”

เสียงผู้คนเซ็งแซ่ เพราะไม่เคยเห็นเลยซักครั้งที่อนาคิมจะแต่งตัวเป็นกุลสตรีและงดงามเช่นนี้
เรโนอาอ้าปากค้าง จนอนาคิมต้องเดินเข้าไปเขย่าตัว

“เรโนอา!! เรโนอา!!” เรโนอาสะดุ้งพลางจับมืออนาคิมสีหน้าเธอเหมือนตื้นตันต่อสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า

“ในที่สุดเจ้าก็ดูสมหญิงซักที ข้าตื้นตันจนจะร้องไห้ได้เลยนะ” เธอพูดกระเซ้าอนาคิม
อนาคิมอายหน้าแดง เธอห้มหน้าก้มตาพูด

“จะไปกันรึยังล่ะ”

“เอ้า ไปสิ” เรโนอากับอนาคิมต่างพากันขึ้นรถม้าไป เมื่อทุรคนขึ้นไปหมดแล้ว รถม้าจึงค่อย ๆ ออกตัวช้า ๆ

“โคริม ฝากดูแลทางนี้ด้วยนะ” อนาคิมชะโงกหน้าออกมาจากรถม้ามากล่าวต่อโคริม ที่ยืนตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก

“เจ้าโคริม สติมันคงลอยไปไกลแล้วมั้ง” เรโนอาแหย่อนาคิม

เส้นทางสู้การเข้าวังได้มาถึงแล้ว..........

------------------------------------------------------Next to Chapter 4

แถม ดาร์คเอล์ฟ เซคิน่า (-*w*-)v





Create Date : 20 มกราคม 2553
Last Update : 20 มกราคม 2553 9:46:24 น. 1 comments
Counter : 818 Pageviews.

 
whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!


โดย: da IP: 203.144.144.165 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:58:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.