Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
3 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
รีวิว ขับรถเที่ยวอิตาลีตอนใต้ - 11 วัน 15 เมือง ตอน 7 Capri

เช้านี้ เรามีแพลนไปลงเรือเที่ยวคาปรีกัน   ฟ้าไม่ใส ฝนพรำๆ


เดินไปท่าเรือค่ะ ชมเมืองไปเรื่อยๆ


ถึงตรงนี้ เดินลงค่ะ



ทั่วไปเราจะซื้อทัวร์เที่ยว ซึ่งตกประมาณคนละเกือบร้อยเหรียญ แต่ต้องไปแจมคนอื่นยุ่งยาก เราเลยตกลงใจจองเรือส่วนตัวไปเที่ยวกันเอง  

หามาหลายเจ้า ทั้งถูกทั้งแพง  ติดต่อไปหลายเวบ มีเวบติดต่อเรากลับมาแค่สองเวบ เวบหนึ่งราคาวันละประมาณ 2000 ยูโร  เรือสุดหรู แต่อีกเวบ เรือ 500 ยูโร  ของนาย Gianni  

ถามอะไรไปนายคนนี้ก็ตอบกลับมาอย่างดี  เราก็เลยตกลงใจใช้บริการของนายคนนี้ดู  

เดินต่อค่ะ

ก่อนมาถึงเราก็นัดแนะกับนาย Gianni ทางโทรศัพท์ เรื่องสถานที่รับส่ง  นาย Gianni บอกว่าให้มาเจอกันที่ท่าเรือ Sorrento แล้ว I จะมา Pick You UP ที่นี่เลยนายจ๋า


นัดกัน 9 โมงเช้า  ไปที่ท่าเรือ ปรากฏว่า เรือหาปลาพังจ้า  นาย Gianni คนที่เราจองเรือด้วยเลยติดต่อเพื่อนเขาชื่อนายเซบาสเตียนให้เอาเรือยอร์ชมารับค้า.....


หุหุหุทุกคนยิ้มจนแก้มฉีก  เรือหรูหรา เหมาะกับนักท่องเที่ยวไฮโซอย่างเราเสียเหลือเกิน หึหึหึหึ 

ยามนี้  ยามเมื่อชาวเราได้นั่งเรือยอร์ชส่วนตัว  ล่องเรือไปคาปรี  โบกมือทักทาย นักท่องเที่ยวที่นั่งเรือเฟอรี่...แหม่....หนาวแค่ไหน ฝนตกแค่ไหน  ก็ต้องพากันออกไปยืนหน้าเรือมั่งล่ะ  นั่งหัวเรือมั่งล่ะ 

ถ้ายังใช้กล้องฟิล์มอยู่  ป่านนี้คงหมดฟิล์มไป 10 ม้วน  5555


เรือพาวนเที่ยวโน่นนี่ ประสาคนมีเรือส่วนตัว โฮะๆๆๆๆๆ




 จนพวกเราเรียกร้องอยากไปเที่ยว Blue Grotto  จุดนี้ นายเซบาสเตียนบอกไม่ค่อยอยากพาไป เขาบอกว่าที่นี่มันก็งั้นๆ แถมยังขูดรีดนักท่องเที่ยว แต่พวกเราคิดว่าไหนๆมาแล้ว ยังไงก็ต้องยอมจ่าย พี่ชายก็เลยตามใจ 

ออกเรือพาไปจอดถึงหน้าถ้ำ....  พบว่าเรือนักท่องเที่ยวจอดรอกันยุ่บยั่บ  จากเรือใหญ่มากันเป็นร้อย ต้องต่อคิวกันลงเรือบดสัก 20 คน  จากเรือบดมารอขึ้นเรือเล็กเข้าถ้ำ ลำละ 4 คน  ต่อคิวนานเหมือนกัน 

แหม.....เรือยอร์ชมาจอดปุ๊ป...อิตาเลี่ยนก็จัดให้สมพรปากนายเซบาสเตียน  ค่าลงอุทยาน 9 ยูโร ค่าลงเรือ 4 ยูโร เรือลำละ 4 คน

จับเรานอนลงไปแล้วคนเรือก็จับเชือกโหนเข้าถ้ำ

ขณะที่เรากำลังจะเข้าไปในถ้ำนั้นเอง คลื่นมาจากไหนไม่รู้ ตูมใหญ่...ใจหายมาก  คิดอยู่ว่า พวกในถ้ำไม่ตายไปแล้วรึ

แต่ก็เพียงแค่นาทีเดียว เหตุการณ์ก็กลับเป็นปกติ  พวกอยู่ข้างในก็ลอดกันออกมาได้ สภาพทุกลักทุเลหน่อยๆ  

ฝ่ายพวกเราก็มุดเข้าไปข้างใน มีเรือเข้าไปได้ทีละไม่เกิน3 ลำ

ด้านในเป็นโพรงถ้ำดำมืด  แต่ได้แสงจากด้านนอกส่องเข้ามาในถ้ำ ส่องกระทบกับน้ำทะเล เป็นสีน้ำเงินทั้งถ้ำ  

ข้างในก็ไม่ใหญ่มากคนเรือพากเราวน 1 รอบ ก่อนจะหันมาบอกว่า เอานะ You เดี๋ญว I จะให้พิเศษวนให้อีก 1 รอบน้า... แล้วไอก็ร้องเพลงที่ฟังไม่รู้เรื่อง 

โหวกเหวก  3 ลำร้องพร้อมกันคนละเพลง  ก็แทนที่จะเพราะก็กลายเป็นรำคาญหูแทน

วนครบ 2 รอบแล้วก็ต่อคิวกันออกมา สนนเวลา 2 นาทีไม่เกินนี้

เรือออกมาข้างนอกได้  พ่อเรือเล็กก็พามาส่งที่เรือ  บังคับจะเอาทิป แถมทวงบุญคุณว่า ฉันวนในถ้ำให้เธอตั้ง 2 รอบนะตัวเธอ

ให้ไป 5 ยูโร  ตานี่โมโห จะเอา 10 ยูโร...เรารำคาญก็เลยให้ๆไปให้จบๆ

นี่ละน้า  เป็นเหตุให้นายเซบาสเตียนไม่อยากพามาเจอเขาก็คงอายอ่ะนะ

มุดเข้าไปสองนาที หมดเงินคนละเกือบพันบาทมันน่านัก กลับไปจะไปเที่ยวถ้ำจ.ตรังให้เข็ด

ออกจากบลูกร็อตโต้กันอย่างงงๆ  ว่าเอ๊ะ.....จุดนี้เราได้ชมธรรมชาติอะไรหรือก็เปล่า  เพียงแค่นอนเรือมุดเข้าไป 1 นาทีเอง.....เอ๊ะ

ช่างมันเถอะ...มาเห่อเรือยอร์ชกันต่อดีฝ่า


นายเซบาสเตียนออกเรือพาเราไปชมชายฝั่งเพลินใจไปเรื่อยๆ เสียดายฟ้าไม่เปิดนัก แดดไม่จัด ไม่อย่างนั้นคงสวยมากๆ

จุดมุ่งหมายถัดมาคือเกาะคาปรี เกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยว เมืองตากอากาศสุดหรู ที่เกาะคาปรี


หน้าเกาะจะมีเรือส่วนตัวมาจอดกันเต็มหาดไปหมด พอเรามาถึงก็เจอตา Gianni มารอยิ้มแป้นอยู่ที่หน้าหาด แนะนำตัวแถมมาขอถ่ายรูปด้วยบอกว่า โอ้....พวกยูหน้าตาดี  ขอถ่ายรูปหน่อยนะ  5555


นาย Gianni แนะนำร้านอาหารนิดหน่อย แล้วก็แนะนำให้เราไปซื้อตั๋วเคเบิลคาร์ขึ้นไปบนเขา1.2*2 = 2.4 euro เพราะทั้งที่เที่ยวที่กินส่วนใหญ่อยู่บนนั้น


เราไปเที่ยวสวนของเกาะ ราคาค่าเข้า 1 euro ตรงสวนนี้จะมีจุดชมวิวทะเลและจุดมองเห็นโปสการ์ดของคาปรี

บนเกาะคาปรีก็จะคล้ายๆเมืองที่เราผ่านๆมามีร้านไฮโซเป็นช็อปแบรนด์เนมให้ช้อปเต็มไปหมด 


วิวจากร้านอาหารบนคาปรี



แวะทานอาหารที่ร้านที่เจ้า Gianni แนะนำอาหารรสชาติอร่อยปกติ ไม่ได้หวือหวา ทานเสร็จแล้วไม่ได้โอ้เอ้กันมากเราก็ลงมาที่เรือเพื่อเดินทางกลับ


ขึ้นจากเรือเราก็ไปเดินเล่นที่เมือง Sorrentoกันต่อ 

เมืองนี้มีของฝากขึ้นชื่อคือ Limonchelloเหล้ามะนาวหวานเจี๊ยบ เรามาเจอร้านนี้ที่ดูเหมือนจะมีการเล่าสตอรี่ว่าร้านนี้มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมดึกดำบรรพ์มาเป็นร้อยๆปี


ถ่ายของที่ชอบอีกแล้ว เลม่อนยักษ์


บรรดาของฝาก









Create Date : 03 ธันวาคม 2557
Last Update : 29 พฤษภาคม 2558 16:24:07 น. 0 comments
Counter : 1128 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Oliver Villa
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ชื่อล็อกอิน Oliver Villa ค่ะ เป็นบล็อกปกิณกะ ความงาม ไลฟ์สไตล์ เกิดขึ้นจากความชื่นชอบส่วนตัวล้วนๆ เรื่องราวในนี้ทั้งหมดก็เกิดจากประสบการณ์การทำงานในแวดวงความงามและพีอาร์ของเจ้าของบล็อกเองค่ะ

หวังว่าพื้นที่ใน บล็อกนี้จะเป็นพื้นที่ที่ทำให้ทุกคนได้เข้ามาอ่าน ชม และแชท กันได้ (อย่างมีวัฒนธรรม) นะคะ

เนื้อหาในบล็อกขอสงวนลิขสิทธิ์ แต่ถ้าจะเอาส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ก็อีเมลล์มาบอกกล่าวกันนะคะ ติดต่อได้ที่ annwila@gmail.com

อีกหนึ่งช่องทางติดต่อที่แฟนเฟจ



และเพจอาหาร


New Comments
Friends' blogs
[Add Oliver Villa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.