ถึงโรงพยาบาลศิริราช เที่ยงตรง ลงที่หน่วยฉุกเฉิน ตอนนี้กระเป๋าใหญ่ที่เก็บสำภาระมาคลอดยังไม่เอาลงมาค่ะ เพราะกลัวว่าจะต้องกลับไปรอบ้าน จะได้ไม่ต้องแบกไปมา เตรียมไว้แค่ใบฝากครรภ์ค่ะ เจ้าหน้าที่ถามว่า มาคลอดหรือว่ามาตรวจครรภ์ กลั้นใจตอบว่ามาคลอดค่ะ (นั่นไง) ยื่นใบฝากครรภ์ และแจ้งความประสงค์ คลอดพิเศษที่เคาน์เตอร์ และวเค้าก็จะให้เรานั่งรถเข็นไป ชั้น 8 ตึกพระศรี 100 ปี
ระหว่างทางตื่นเต้นมากๆ จนความปวดหายไปแล้วค่ะ (อ่าว แล้วจะบอกหมอว่าไงดี) พอถึงห้องคลอดพิเศษ เดินตัวปลิวลงจากรถเข็นเฉยเลย แต่คุณพยาบาลเค้าก็ถามอาการและเวลาที่เริ่มปวดท้อง เราก็รายงานไปตามตรงค่ะ ให้คะแนนความปวดตัวเอง เลเวล 5 โชคดีที่รับไว้ตรวจ บอกญาติว่ารอตรวจประมาณ 2 ชั่วโมงนะคะ
ขั้นตอนแรกตรวจฉี่ เปลี่ยนชุด ใส่สายคาดท้องวัดการบีบตัวของมดลูก
ได้ห้องคลอดเบอร์ 5ค่ะ ห้องกว้าง ใหม่สะอาด ไฟสีนวล บรรยากาศเหมือนโรงแรม ไม่น่ากลัว ไม่กดดัน ขั้นตอนแรกตรวจฉี่ เปลี่ยนชุด ใส่สายคาดท้องวัดการบีบตัวของมดลูก 1 ชั่วโมงค่ะ ไม่ค่อยรู้สึกว่ามดลูกบีบถี่ๆเหมือนตอนเช้า แต่จำได้ว่าลูกดิ้นแรงมาก และสะอึกด้วย ครบ 1 ชั่วโมงคุณหมอมาดูผล พร้อมกับตรวจปากมดลูก มูกเลือดจะมาก็ตอนคุณหมอล้วงนี่แหละค่ะ 55
เปิด 3.5 เซนแล้วนะคะ-- (ในใจคิดว่ามันเปิดเองหรือเพราะคุณหมอคว้านให้คะเนี่ย เจ็บมากๆ)
รอคลอดได้เลยนะคะ เดี๋ยวจะแจ้งญาติให้กลับก่อน แล้วมาใหม่ตอนคลอดเสร็จแล้วนะคะ--
บ่ายโมงครึ่ง สวนอึเสร็จ ก็ให้ยาเร่งคลอดทางสายน้ำเกลือ
สายคาดท้องยังต้องคาดไว้ แล้วปล่อยให้เรานอนดูทีวีเล่นชิลๆคนเดียวไป 2 ชั่วโมง ระหว่างนั้นมีพี่พยาบาลมาชวนคุยแก้เบื่อ (คือเค้าซักประวัติน่ะค่ะ)
บ่าย 3 ครึ่ง ความปวดเพิ่มเป็นเลเวล 6 คุณหมอมาตรวจปากมดลูกเปิด 5 เซน ประเมินว่าคลอดเองได้ จึงเจาะถุงน้ำคร่ำ แล้วนอนดูทีวีแบบเกร็งๆต่ออีก 2 ชั่วโมง เพราะความปวดเพิ่มเป็นเลเวล 7 แล้วค่ะ
5 โมงครึ่ง คุณหมอมาให้ยาแก้ปวด
แล้วบอกว่ามันจะมึนๆง่วงๆนะ ให้หลับไปเลย อย่าฝึนลืมตาไม่งั้นจะเมา มีเตรียมถุงไว้ให้อวกด้วย เราก็ดีใจ นึกว่าจะได้หลับไปเลยแบบไม่รู้สึกอะไร แต่มันไม่หลับค่ะ แค่หูดับแต่รู้สึกตัวตลอด แรกๆจะเคลิ้มๆฟินๆ แต่ก็ยังปวดอยู่ดี ความปวดเพิ่มเป็นเลเวล 8 แล้วด้วย นอนจิกหมอนทุกๆ 10 นาที
ทุ่มครึ่ง ตรวจปาดมดลูก เปิด 9 เซน
สวนฉี่ แล้วนอนดมออกซิเจนรอต่ออีก 1 ชั่วโมง คุณหมอบอกว่า ห้ามเบ่ง เพราะถ้าปากมดลูกยังเปิดไม่หมดแล้วเบ่งจะทำให้ปากมดลูกฉีกขาด ทรมานที่สุดก็ตอนนี้แหละค่ะ คือปวดอยากเบ่ง แต่ต้องกลั้นใจไม่เบ่ง มันจะมาทุกๆ 5 นาที เอาจริงๆ ทนไม่เบ่งได้แค่ 2 ครั้งนอกนั้นแอบเบ่งเบาๆ (ในใจคิด อีกแค่เซนเดียว ขอเบ่งหน่อยน่า จะได้ช่วยเปิดให้หมดไปเลย)
2 ทุ่มทนไม่ไหว บอกคุณหมอ หมอคะ หนูอยากเบ่งแล้วค่ะ
คุณหมอมาล้วงตรวจ แล้วบอก อ้าว หัวอยู่นี่แล้วเนี่ย-- รีบเรียกทีมงานประจำที่ ติดตั้งขาหยั่ง เตียมอุปกรณ์ คุณหมอบอกว่า ลมเบ่งครั้งต่อไปมาให้ใช้ 2มือ กำราวเตียงแน่นๆ แล้วกดคางลงออกแรงเบ่งยาวๆ หมดแรงแต่ลมเบ่งยังอยู่ให้เงยหน้า หายใจเข้าลึกๆ แล้วเบ่งต่อ
ออยไม่เคยอบรมฝึกเบ่งก่อนคลอดอะไรกับเค้าเลยนะคะ ฟังแค่คำแนะนำจากคุณหมอทำคลอดเอาตอนจะคลอด แล้วก็เบ่งมั่วๆเอาเองตามสัญชาติญาณค่ะ โชคดีคลอดเองได้ ไม่มีปัญหาอะไร เบ่งแค่ 3 ยก ก็แยกร่างสำเร็จค่ะ
ยกแรก ลมเบ่งจะมาประมาณ 3 นาที แล้วหายไปประมาณ 5 นาที
วินาที เบ่งคลอดลูกครั้งแรก ในชีวิต ตื่นเต้นด้วยที่มีพี่พยาบาลมาช่วยเชียร์เบ่ง ก็เลยออกแรงเบ่งเต็มที่เกินไป (คือนึกว่ามันจะออกเลย) จนขาเป็นตะคริว ตอนพักยก พี่พยาบาลนวดขาให้ด้วยน่ารักมากๆ
ยกที่ 2 พอจะรู้แล้ว ก็เลยเบ่งแบบค่อยเป็นค่อยไป เป็นจังหวะๆ
ยิ่งคุณหมอบอกว่า ดีมากค่ะ เก่งค่ะ อย่างนั้นแหละค่ะ ยิ่งมีกำลังใจ
ยกสุดท้าย เบ่งจนหัวออก แล้วตัวก็ลื่นออกมา บันทึกเวลา 2 ทุ่ม 26 นาที
จริงๆเรามองไม่เห็นภาพอะไรเลย จินตนาการเอาเอง ว่าหัวออกแล้วนะ มันจะตุงๆจิมิ หนักๆก้น ตอนลูกออกไม่เจ็บ (มันรู้สึกโล่งๆเหมือนขี้สุดมากกว่าค่ะ 55) พอคุณหมอยกตัวน้องมาวางบนพุงเท่านั้นแหละอีแม่ตกใจ (เหมือนหมีแพนด้าตกใจลูกตัวเองอ่ะค่ะ) คุณหมอบอกจับได้นะ อีแม่ไม่กล้าจับ ก็เลยเอามาให้หอมแก้ม แล้วแยกลูกออกไป
จากนั้น ก็รอคลอดรก เย็บแผล พยาบาลเช็ดตัวให้ 5 ทุ่มได้ย้ายไปห้องพักพร้อมกับลูก (เลือกห้องเดี่ยวแต่ได้ห้องคู่ แต่ไม่ซีเรียส ประหยัดได้อีก) โดยพยาบาลจะดูแลลูกให้เราก่อนคืนนึง วันรุ่งขึ้นแน่ใจว่าฤทธิ์ยาหมด แม่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไร ก็จะเอาลูกมาให้เราเลี้ยง โดยถูกกำชับว่า เอาลูกเข้าเต้าบ่อยๆกระตุ้นน้ำนมด้วยนะคะ (ศิริราช สนับสนุนนมแม่)